ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 93 ตบหน้าครั้งที่สอง (1)ตอนที่ 94 ตบหน้าครั้งที่สอง (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 93 ตบหน้าครั้งที่สอง (1)ตอนที่ 94 ตบหน้าครั้งที่สอง (2)
ตอนที่ 93 ตบหน้าครั้งที่สอง (1)
“เวลานี้หมอหลวงน่าจะตรวจพิสูจน์ยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคงจะนำมันขึ้นถวายแด่ฮ่องเต้แล้วเป็นแน่” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่ใบหน้าขาวซีดและแข็งทื่อของไป๋อวิ๋นเซียน
ริมฝีปากของไป๋อวิ๋นเซียนสั่นระริก ร่างกายโอนเอนแทบจะเป็นลมล้มตึงไปอยู่รอมร่อ
ใบหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเองก็ดำคล้ำไม่ต่างกัน เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจวินอู๋เสียจะยังซ่อนไพ่เด็ดเช่นนี้เอาไว้อยู่ด้วย!
ในวันแรกๆ ที่ไป๋อวิ๋นเซียนมาถึงเมืองหลวงรัฐชี เม็ดยาน้ำค้างหยกจำนวนหลายขวดก็ถูกนำขึ้นถวายแด่องค์ฮ่องเต้เพื่อเป็นของกำนัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากโดยปกติทั่วไปยาทุกชนิดที่ฮ่องเต้ใช้นั้นจะต้องผ่านมือหมอหลวงก่อน หลังจากได้รับการยืนยันแน่ชัดแล้วว่าปลอดภัย ถึงจะสามารถนำขึ้นถวายได้
หมอหลวงอาจไม่สามารถปรุงยาที่เคยผ่านมือพวกเขาไปได้ก็จริง แต่การแยกและพิสูจน์คุณสมบัติของตัวยานั้น สำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยากอันใดเลย
ในตอนแรก มั่วเซวี่ยนเฝ่ยให้ตายอย่างไรก็ต้องให้ไป๋อวิ๋นเซียนกัดฟันยืนกรานว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกเหล่านั้นเป็นของปลอมให้ได้ เมื่อจวินอู๋เสียหมดข้อที่จะโต้แย้งแล้ว จะได้อาศัยโอกาสนี้ทำลายชื่อเสียงของจวินอู๋เสียและมั่วเฉี่ยนยวนไปพร้อมๆ กันเลย อย่างไรเสียนั่นก็เป็นคำพูดของศิษย์สำนักชิงอวิ๋นเชียวนะ น่าเชื่อถือกว่าคำพูดของนางโจรจวินอู๋เสียไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจวินอู๋เสียจะเตรียมดักทาง ป้องกันการใส่ร้ายของพวกเขาก่อนที่จะนำเม็ดยามาตรวจพิสูจน์เสียอีก!
หากว่าของสิ่งนี้ถูกส่งไปให้กับฮ่องเต้ มันจะต้องถูกส่งผ่านมือของหมอหลวงก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย และในเมื่อหมอหลวงพวกนั้นเคยตรวจสอบเม็ดยาน้ำค้างหยกที่ไป๋อวิ๋นเซียนเคยถวายเป็นของกำนัลมาแล้ว พวกเขาจะตรวจคุณสมบัติและส่วนประกอบของยาชุดใหม่ที่ส่งไปให้นี้ไม่ได้เชียวหรือ เผลอๆ อาจจะคล่องแคล่วและรวดเร็วกว่าครั้งก่อนด้วยซ้ำ เพราะอย่างไรการตรวจสอบเม็ดยาชนิดเดียวกันอีกครั้งหนึ่งย่อมไม่ใช่เรื่องยาก!
ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของไป๋อวิ๋นเซียนเมื่อสักครู่นี้ มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็พอจะเดาได้แล้วว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกในขวดกระเบื้องเคลือบที่จวินอู๋เสียนำมาให้นั้นเป็นของจริง!
จวินอู๋เสียกลายเป็นคนเก่งกาจเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
มั่วเฉี่ยนยวนที่นั่งอยู่ข้างสนามคอยสังเกตสถานการณ์มาโดยตลอด ในที่สุดก็ผ่อนลมหายใจออกด้วยความโล่งอก เขาลอบมองดูจวินอู๋เสียอีกครั้งหนึ่งอย่างตั้งใจ ก่อนจะผุดรอยยิ้มขึ้นที่ตรงมุมปากของเขา
เด็กสาวที่ดูเย็นชา เงียบขรึม และแทบไม่แยแสต่อสิ่งใดผู้นี้ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพอลงมือแล้วจะรวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยมอำมหิตได้ถึงขนาดนี้!
ในความเป็นจริงจวินอู๋เสียสามารถบอกกับไป๋อวิ๋นเซียนตั้งแต่ตอนแรกที่นางเดินเข้ามาว่านางได้ส่งยาอีกชุดไปให้หมอหลวงตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นางกลับปิดอุบเอาไว้ นิ่งเงียบไม่ยอมพูดจา จนกระทั่งไป๋อวิ๋นเซียนประกาศยืนยันว่าเม็ดยาเหล่านี้เป็นของปลอม นางถึงได้ยอมเปิดปากสารภาพในสิ่งที่นางได้ทำลงไป
หมอหลวงของรัฐชีสามารถตรวจสอบเม็ดยาน้ำค้างหยกได้ แต่ไป๋อวิ๋นเซียนศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเองกลับไม่สามารถแยกแยะเม็ดยาของจริงและของปลอมได้ หากไม่ถูกคนโยนข้อหาทักษะความรู้ย่ำแย่ ขาดความละเอียดอ่อนไร้สามารถใส่หัว ก็คงต้องถูกคนรุมประณามว่าจิตใจต่ำช้า มีเจตนาให้ร้ายผู้อื่นถึงได้จงใจประกาศผลผิดๆ ออกไป!
ทันทีที่คำพูดนั้นถูกพูดออกไป ไพ่ลับนี้ของจวินอู๋เสียนี้เปรียบได้กับการตบหน้าไป๋อวิ๋นเซียนฉาดใหญ่เลยทีเดียว
แถมยังตบได้สนั่นอลังการมาก!
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของจวินอู๋เสียไม่เพียงแต่ทำให้ไป๋อวิ๋นเซียนตกตะลึงเท่านั้น แม้แต่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็แทบล้มทั้งยืน
เขามองไปที่จวินอู๋เสียอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับว่านางเป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
นี่ใช่เด็กสาวที่เอาแต่ตามก้นเขาต้อยๆ สะบัดหางร้องขอความรักจากเขาแน่หรือ นางยังใช่สตรีโง่เง่า กักขฬะ หยาบคาย ไร้สมองคนนั้นอยู่อีกหรือไม่!
เหตุใดจวินอู๋เสียที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ถึงได้ให้ความรู้สึกแปลกหน้าและดูห่างไกลยิ่งนัก
แรกเริ่มเดิมทีเขายังเข้าใจว่าการที่จวินอู๋เสียแสดงสีหน้าท่าทางเย็นชาเช่นนั้นต่อหน้าเขา เป็นเพราะว่านางถูกเขาทอดทิ้งไปหาไป๋อวิ๋นเซียน จึงได้คิดหาวิธีที่จะดึงดูดเขาใหม่โดยการเลียนแบบนิสัยของไป๋อวิ๋นเซียน ด้วยเข้าใจว่าเขาคงชอบไป๋อวิ๋นเซียนที่ตรงนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ จะแตกต่างไปจากที่เขาคิดไว้อย่างสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพียงความคิดเข้าข้างตัวเองของเขาข้างเดียว!
จวินอู๋เสียในอดีต ไม่มีทางรู้จักวิธีการหลอมโอสถแน่ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าโอสถชนิดนั้นคือเม็ดยาน้ำค้างหยกเลย นี่คิดได้อย่างเดียวว่าจะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังคอยบงการเรื่องทั้งหมดนี้ น้ำหน้าอย่างจวินอู๋เสียไม่มีทางคิดแผนซับซ้อนอย่างการแอบถวายยาให้แก่ฮ่องเต้ล่วงหน้าเช่นนี้ออกมาได้เป็นอันขาด!
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ในปัจจุบันการตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ มิอาจไม่กล่าวว่าแทบทำให้ความภาคภูมิใจและทะนงตนที่เคยมีตลอดทั้งชีวิตของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแทบแหลกสลายเป็นผุยผง
ไม่ได้!
เขาจะยอมปล่อยให้เรื่องแบบนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้เด็ดขาด!
“จวินอู๋เสีย เจ้าจะเหลวไหลเกินไปแล้ว ของเช่นนั้นเจ้ากล้าส่งไปให้เสด็จพ่อได้อย่างไร เจ้าคงไม่คิดจะวางยาพิษเสด็จพ่อหรอกนะ! อวิ๋นเซียน มากับข้า รีบไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อกัน จะปล่อยให้เกิดปัญหาขึ้นกับพระองค์ไม่ได้เป็นอันขาด” หัวสมองของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยหมุนอย่างเร็วรี่ เขารีบฉุดมือไป๋อวิ๋นเซียนแล้วมุ่งตรงไปยังทางออกของตำหนักทันที
……………
ตอนที่ 94 ตบหน้าครั้งที่สอง (2)
เขาไม่อาจยอมให้จวินอู๋เสียมีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาได้ ตราบเท่าที่เขาไปถึงตัวเสด็จพ่อก่อน แล้วทูลขอให้เสด็จพ่อมีรับสั่งให้หมอหลวงพวกนั้นประกาศว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกพวกนั้นเป็นของปลอม จวินอู๋เสียก็จะไม่เหลือโชคดีอีกต่อไป!
ทางด้านไป๋อวิ๋นเซียนที่ถูกมั่วเซวี่ยนเฝ่ยลากตัวออกมาด้วยกันนั้น ก็ไม่สนใจการวางตัวของตัวเองในเวลานี้ด้วยเช่นกัน นางสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าหากพวกหมอหลวงพวกนั้นตรวจสอบแล้วพบว่าสิ่งที่อยู่ในขวดกระเบื้องเคลือบนั่นคือเม็ดยาน้ำค้างหยกของจริง นางก็จะเสียหน้าและต้องถูกนำชื่อไปนินทาเป็นแน่
จวินอู๋เสียนั่งมองดูการฉากงิ้วของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยด้วยสายตาที่เย็นชา ไม่มีเจตนาหยุดยั้งหรือห้ามปรามเขาสักนิด
แต่การที่นางไม่หยุดพวกเขา ไม่ได้หมายความว่ามั่วเฉี่ยนยวนจะยอมนั่งมองเฉยๆ เสียเมื่อไหร่
“น้องรองกระวนกระวายใจถึงเพียงนี้เพื่อเหตุใด หากเม็ดยามีปัญหาจริง หมอหลวงพวกนั้นคงไม่ยอมปล่อยให้เม็ดยาซึ่งมีที่มาที่ไปไม่แน่ชัดหลุดมือไปถึงเสด็จพ่อได้หรอก” มั่วเฉี่ยนยวนมองดูท่าทีลุกลี้ลุกลนของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแล้วก็ส่งยิ้มเย้ยหยันไปให้ ความโกรธและความอึดอัดใจจากการถูกอีกฝ่ายกดดันทำเรื่องเสียมารยาทใส่ ในที่สุดก็ได้ระบายออกมาเสียที
ถึงแม้ว่าเขาจะลงมือกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่ได้ แต่ยามนี้พอได้เห็นมั่วเซวี่ยนเฝ่ยถูกจวินอู๋เสียตบหน้า ไม่รู้ทำไมหัวใจถึงได้ปลอดโปร่งโล่งสบายมากถึงขนาดนี้ นี่มันรู้สึกดีมากจริงๆ!
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่มีอารมณ์มาต่อปากต่อคำกับมั่วเฉี่ยนยวน เวลานี้เขาคิดเพียงแต่ต้องหาข้ออ้างแล้วออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด ตราบใดที่เขาออกไปจากตำหนักหลินยวนแห่งนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะไปหยุดหมอหลวงพวกนั้นทันหรือไม่ เรื่องราวทั้งหมดในวันนี้ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็สิ้นเรื่อง เขาและไป๋อวิ๋นเซียนจะได้ไม่ต้องเสียหน้ามากด้วย
อนิจจาคนวางแผนหรือจะสู้ฟ้ากำหนด ดูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่เข้าข้างมั่วเซวี่ยนเฝ่ยจริงๆ เพราะเขายังไม่ทันได้ก้าวออกจากตำหนักหลินยวน ขันทีข้างพระวรกายของฮ่องเต้สองคนก็รีบก้าวเท้าถี่ๆ เข้ามา ในมือยังถือถาดที่เต็มไปด้วยของมีค่ามากมาย ทั้งสองคนเดินเข้ามาทักทายมั่วเซวี่ยนเฝ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง
“องค์ชายรองกับคุณหนูไป๋อยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย เม็ดยาน้ำค้างหยกที่คุณหนูไป๋เพิ่งส่งไปให้ฮ่องเต้เมื่อสักครู่นั้นทรงรับไว้แล้ว ฝ่าบาททรงปลาบปลื้มพระทัยยิ่งนัก สิ่งของเหล่านี้จึงนำมาเพื่อมอบเป็นของกำนัลให้แก่คุณหนูไป๋ หวังว่าคุณหนูไป๋จะยินดีรับมันไว้” ขันทีที่มาประกาศราชโองการนั้นเป็นหนึ่งในขันทีอาวุโสข้างพระวรกายของฮ่องเต้ เขาพูดด้วยรอยยิ้มประจบประแจง
“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
ขันทีผู้นั้นผงะไปครู่หนึ่ง รู้สึกงุนงงและตกใจกับการแสดงออกที่เกรี้ยวกราดของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยพอสมควร
“ฝ่า…ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้…ข้าน้อย…นำของกำนัลเหล่านี้มามอบให้แก่คุณหนูไป๋……”
“เจ้าเพิ่งพูดว่าอวิ๋นเซียนถวายเม็ดยาน้ำค้างหยกให้เสด็จพ่ออย่างนั้นรึ” ดวงตาของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเบิกกว้าง และแม้แต่การแสดงออกของไป๋อวิ๋นเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างเองก็ดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง
ขันทีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมองทั้งสองคนพลางคิดในใจ เม็ดยาน้ำค้างหยกเหล่านี้ล้วนเป็นตำรับลับของสำนักชิงอวิ๋น หากไป๋อวิ๋นเซียนไม่ได้ส่งไป แล้วใครเล่าที่ส่ง!
มั่วเฉี่ยนยวนมองไปยังพวกโง่งมที่ยืนออกันอยู่ตรงที่หน้าประตูทางเข้าตำหนักแล้วโค้งมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา ก่อนจะหันไปมองจวินอู๋เสียที่กำลังก้มหน้าจิบชาของนางต่อไป ภายในใจรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
จวินอู๋เสียคำนวณทุกอย่างไว้อย่างถี่ถ้วนแล้ว แม้กระทั่งการล่าถอยกลางคันของมั่วเซวี่ยนเฝ่ย เพราะเหตุนี้นางถึงแอบส่งเม็ดยาน้ำค้างหยกไปให้ฮ่องเต้แต่แรกโดยแอบอ้างชื่อของไป๋อวิ๋นเซียน! ฮ่องเต้จะต้องพระราชทานรางวัลให้แก่ไป๋อวิ๋นเซียนอย่างแน่นอนเพราะเขาต้องการเอาใจสำนักชิงอวิ๋น โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้จะทำให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียนสองคนนี้ถูกอุดปากจนหน้าเขียวคล้ำ!
การที่มีของกำนัลถูกส่งกลับมา นั่นก็หมายความว่าเม็ดยาที่จวินอู๋เสียส่งไปนั้นถูกพิสูจน์โดยเหล่าหมอหลวงเรียบร้อยแล้ว และมันก็ถูกนำขึ้นถวายแต่ฮ่องเต้แล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนคำตอบที่ว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกพวกนั้นเป็นของจริงหรือไม่ ไม่ใช่ว่าก็ชัดเจนอยู่แล้วหรือ
การมาถึงของขันทีพร้อมกับของกำนัลนั้นช่างประจวบเหมาะเสียจริง ทำให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่เหลือช่องว่างให้ดิ้นหนีได้อีก
“จวินอู๋เสีย นี่เจ้ากล้าถึงขั้นหลอกลวงเบื้องสูงเชียวรึ! ยานั่นเห็นอยู่ว่าไม่ใช่ของอวิ๋นเซียน!” ดวงตาของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท เขาจะไม่ยอมปล่อยให้จวินอู๋เสียหยอกเขาเล่นแบบนี้แน่ๆ การที่ถูกผู้หญิงที่ตัวเองเคยทิ้งไปแล้วปั่นหัวเล่นเช่นนี้ เขาไม่สามารถทนรับได้!
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ยานั่นเป็นของนาง”
“เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน!”
จวินอู่เสียตอบอย่างเฉยเมย “มันเป็นยาที่ข้าชดใช้ให้นาง”
นางเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะปรุงเม็ดยาน้ำค้างหยกชดเชยให้กับไป๋อวิ๋นเซียน
“เอาล่ะ ในเมื่อผลก็ประกาศออกมาชัดเจนแล้ว เช่นนั้นไป๋อวิ๋นเซียน ข้อสรุปของเจ้าเล่าเป็นเช่นไร” จวินอู๋เสียพินิจใบหน้าที่ขาวซีดและร่างกายที่สั่นสะท้านเล็กน้อยของไป๋อวิ๋นเซียนด้วยแววตาเย็นเฉียบ
…………………