ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 959 เมืองพันอสูร (5) ตอนที่ 960 เมืองพันอสูร (6)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 959 เมืองพันอสูร (5) ตอนที่ 960 เมืองพันอสูร (6)
ตอนที่ 959 เมืองพันอสูร (5) / ตอนที่ 960 เมืองพันอสูร (6)
ตอนที่ 959 เมืองพันอสูร (5)
“ลืมมันไปเสียเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย คุณหนูใหญ่เพิ่งกลับมาถึง ข้าต้องไปรายงานท่านเจ้าเมืองก่อน ชิงอวี่จัดการดูแลให้คุณชายจวินไปพักที่ตึกเพลิงพิโรธ คุณชายจวิน ข้าขอตัวก่อน” การคุยกับหลินเฟิงที่ไม่มีความเกรงอกเกรงใจกันในตอนที่กลับมาทำให้สยงป้ารู้สึกไม่พอใจ โชคดีที่จวินอู๋เสียไม่รู้สึกโกรธเคือง ทำให้เขาโล่งอกเล็กน้อย
จวินอู๋เสียพยักหน้า
เฟิงเย่ว์หยางกลับไปเรือนของเขา สยงป้าพาชวีหลิงเย่ว์ไปจวนท่านเจ้าเมือง ส่วนจวินอู๋เสียตามชิงอวี่เข้าไปที่ตึกเพลิงพิโรธ
ชิงอวี่คือรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ แม้ว่าเขาจะเทียบกับคนที่อายุสามสิบถึงสี่สิบปีไม่ได้ แต่เขาก็จัดการเรื่องราวต่างๆ อย่างมีสติและใจเย็น เป็นคนที่ยกย่องสยงป้าและคอยทำให้เขาใจเย็นลง
ไม่นานคนของเพลิงพิโรธก็รู้ว่ามีแขกมาที่ตึกของพวกเขา พวกเขาต้อนรับจวินอู๋เสียอย่างอบอุ่นและเป็นมิตร
“คุณชายจวินพักห้องนี้ได้ขอรับ ข้าจะให้คนยกสำรับมาให้ ระหว่างนั้นคุณชายจะได้พักผ่อน ถ้าต้องการอะไรก็บอกพี่น้องของเราคนไหนก็ได้ในตึกนะขอรับ” ชิงอวี่พูดพร้อมกับยิ้ม เขาชื่นชมและเคารพจวินอู๋เสียมากเนื่องจากความเฉลียวฉลาดของจวินอู๋เสีย
“ขอบคุณ” จวินอู๋เสียพยักหน้า
ชิงอวี่จากไปอย่างรวดเร็ว
จวินอู๋เสียนั่งลงในห้อง เจ้าแมวดำตัวน้อยกระโจนขึ้นไปบนโต๊ะตรงหน้านาง ส่วนใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเอาตัวถูข้อเท้าของจวินอู๋เสียอยู่
“เหมียว”
เจ้าหนูที่ชื่อหลินเฟิงนั่นดูเหมือนจะเกลียดท่านมากเลยนะ
เจ้าแมวดำตัวน้อยมองจวินอู๋เสียพร้อมกับเลียอุ้งเท้าอย่างเกียจคร้าน แม้แต่มันก็ยังสังเกตเห็นว่าหลินเฟิงตั้งตัวเป็นศัตรูกับนาง
“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก” จวินอู๋เสียไม่เห็นหลินเฟิงอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ถ้าหลินเฟิงไม่มาหาเรื่องนาง นางก็ไม่สนใจเขาหรอก
“เหมียว”
ท่านคิดจะทำอะไรต่อไป
“รอ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลง
ทางเดียวที่จะแก้ไขวิกฤตของเมืองพันอสูรได้คือหาคนที่ถูกจับตัวไป หลังจากที่ช่วยคนพวกนั้นได้แล้ว คนจากสิบสองตำหนักก็จะไม่มีตัวประกันเอาไว้ใช้ข่มขู่เมืองพันอสูรอีกต่อไป
“ฮวาเหยาและคนอื่นๆ แยกย้ายกันไปหลายแห่งนอกเมืองพันอสูร จากที่ชวีหลิงเย่ว์พูด ตอนสิ้นเดือนคนที่ถูกขังอีกกลุ่มหนึ่งจะถูกพามาที่เมืองพันอสูร แล้วพวกเขาจะพาคนที่ปล่อยออกมาของเดือนนี้กลับไป พอพวกนั้นเห็นคนที่ถูกขังถูกพาตัวเข้ามา เฟยเยียนและคนอื่นๆ จะรู้ว่าพวกเขามาจากทางไหน และพอพวกเขาจากไป พวกนั้นก็จะสามารถตามไปได้”
ก่อนที่ศัตรูจะเคลื่อนไหว จวินอู๋เสียไม่คิดแหวกหญ้าให้งูตื่น นางจะทำแค่รวบรวมข้อมูลเบาะแสจากในเมืองพันอสูร
อย่างน้อยมีอยู่หนึ่งอย่างที่นางต้องทำให้แน่ใจ นั่นคือมีคนจากสิบสองตำหนักอยู่ที่เมืองพันอสูรกี่คน และสหายของนางกับเมืองพันอสูรจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรือไม่
“เหมียว”
เจ้าแมวดำตัวน้อยแกว่งหางและไม่พูดอะไรอีก
จากที่มันเห็น จวินอู๋เสียกำลังเล่นเกมอันตราย ถ้าพวกเขาชนะก็ได้รางวัลใหญ่ แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาละก็ พวกเขาจะเจอกับอันตรายร้ายแรงมากๆ
สยงป้าพาชวีหลิงเย่ว์กลับไปที่จวนของเจ้าเมือง
ชวีเหวินเฮ่า เจ้าเมืองคนปัจจุบันของเมืองพันอสูร บิดาของชวีหลิงเย่ว์ มีอายุประมาณห้าสิบปี ใบหน้าของเขาสดใสร่าเริงเป็นมิตร ดวงตามีชีวิตชีวาและมองทะลุผู้คน ถ้าไม่ใช่เส้นผมสีขาวที่ขมับทั้งสองข้างแล้วดูจากหน้าตาของเขาเพียงอย่างเดียว คนจะต้องคิดว่าอย่างมากเขาก็อายุแค่สามสิบปีเท่านั้น
ชวีหลิงเย่ว์เพิ่งก้าวเข้าไปในจวนเจ้าเมือง ชวีเหวินเฮ่าก็เดินออกมาทันที
“ท่านพ่อ!” เมื่อชวีหลิงเย่ว์เห็นบิดาของนาง ความตึงเครียดในใจก็คลายลง
“ลูกพ่อกลับมาแล้ว พ่อดีใจที่เจ้ากลับมา” ชวีเหวินเฮ่าพูด ใบหน้าสดใสร่าเริงของเขาเผยรอยยิ้มที่ทำให้สบายใจออกมา
ตอนที่ 960 เมืองพันอสูร (6)
ชวีเหวินเฮ่ายกทั้งชีวิตของเขาให้เมืองพันอสูร เขากับฮูหยินมีชวีหลิงเย่ว์ตอนอายุสามสิบกว่าๆ ถึงแม้ชวีหลิงเย่ว์จะเป็นสตรี แต่ชวีเหวินเฮ่าก็ทุ่มเทความสนใจและความรักทั้งหมดให้นาง ถึงแม้เมืองพันอสูรกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ เขาก็ยังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องบุตรีของเขาคนนี้
“ท่านเจ้าเมือง” สยงป้าพูดพร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ชวีเหวินเฮ่ายิ้มพยักหน้าแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ข้ารบกวนท่านหัวหน้าตึกสยงมากทีเดียว”
“ท่านเจ้าเมืองเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ สามารถพาคุณหนูใหญ่กลับมาได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้ ข้าดีใจยิ่งนัก” สยงป้ากล่าว
“นั่งลงสิลูก” ชวีเหวินเฮ่าดึงชวีหลิงเย่ว์ไปนั่งและมองบุตรีขึ้นๆ ลงๆ อย่างกังวลใจ เมื่อเขาเห็นแก้มสีชมพูบนใบหน้าของชวีหลิงเย่ว์และดูไม่เหมือนข่าวที่เขาได้ยินมาจากรัฐเหยียนว่านางบาดเจ็บสาหัส ในใจของเขาก็รู้สึกยินดีและโล่งอก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคำถามขึ้นในใจ
“หลิงเย่ว์ อาการบาดเจ็บของลูกหายสนิทดีแล้วหรือ”
ชวีหลิงเย่ว์มองสยงป้าก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐเหยียนให้บิดาของนางฟัง
เมื่อชวีเหวินเฮ่าฟังเรื่องทุกอย่างจบ เขาก็มีสีหน้าแปลกๆ เขาไม่คิดว่าอาการบาดเจ็บที่น่าจะสาหัสของชวีหลิงเย่ว์คือคำสั่งของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน! ตอนที่เขาได้ยินว่าบุตรีของเขาได้รับความทรมานเช่นนั้นเพราะความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของฮ่องเต้รัฐเหยียน ชวีเหวินเฮ่าก็โกรธจัด โชคดีที่ชวีหลิงเย่ว์เล่าให้เขาฟังถึงการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัฐเหยียน ความพิโรธของชวีเหวินเฮ่าจึงกลายเป็นความตกใจจนอ้าปากค้างแทน
“ทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรือ” ชวีเหวินเฮ่าจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากคำพูดของชวีหลิงเย่ว์ เขาได้รู้ว่าผู้ปกครองรัฐเหยียนถูกเปลี่ยนแล้ว และฮ่องเต้ก็ถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์! ส่วนฮองเฮา อัครเสนาบดี และองค์ชายสี่ถูกตัดหัวแขวนประจานอยู่นอกประตูเมือง!
รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลายปีมานี้พวกเขาไม่พบใครที่จะเทียบเคียงกับพวกเขาได้เลย แล้วใครจะไปคิดว่าคนที่จัดการพวกเขาได้จะไม่ใช่รัฐหรือตระกูลและสำนักที่มีอำนาจอื่นๆ แต่เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักคนหนึ่งเท่านั้น!
“ทุกคำพูดที่ข้าพูดมาเป็นความจริง ข้าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตาตัวเองเลย” ชวีหลิงเย่ว์ยืนยันอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้า
“มีคนที่ฉลาดขนาดนั้นอยู่บนโลกด้วยหรือเนี่ย น่าตกใจจริงๆ สติปัญญาแบบนั้นกับพลังวิญญาณที่ไม่ธรรมดา ทั้งหมดนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป” ในฐานะเจ้าเมืองของเมืองพันอสูร ชวีเหวินเฮ่าได้เห็นโลกมามาก เขาเคยเห็นเหตุการณ์แปลกๆ และคนที่ไม่ธรรมดาในโลกนี้มามากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเจอเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยมทั้งสติปัญญาและความแข็งแกร่ง
อายุแค่สิบสี่ถึงสิบห้าปีก็สามารถเล่นงานรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเหมือนลูกไก่ในกำมือได้แล้ว แถมพลังวิญญาณของเขาก็ถึงขั้นสีเขียวแล้วด้วย นั่นมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว! มีแต่ปีศาจเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้!
“คุณชายจวินฉลาดและเฉียบแหลมมาก แถมยังมีพลังที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่สุดที่ข้าเคยพบเจอมาตลอดทั้งชีวิต” สยงป้ายกย่องจวินเสียอย่างมากมายเมื่อพูดถึงเขา มีพรสวรรค์ถึงขนาดนั้นแต่ไม่เย่อหยิ่งหรือขี้หงุดหงิด ไม่หุนหันพลันแล่นเหมือนผู้เยาว์มากมายที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยเดียวกับเขา เป็นคนที่หาได้ยากมากๆ อย่างแท้จริง
“ได้ยินทั้งสองคนเอ่ยยกย่องชื่นชมเขามากขนาดนี้ ข้าชักอยากจะพบหน้าคุณชายจวินผู้นี้สักครั้งเสียแล้วสิ” ชวีเหวินเฮ่าพูดพร้อมหัวเราะ
ชวีหลิงเย่ว์ดีใจ นางพูดขึ้นทันทีว่า “อย่างนั้นลูกก็ใจตรงกับท่านพ่อ ตอนนี้คุณชายจวินมาเป็นแขกของเราที่เมืองพันอสูรแล้ว เขาพักอยู่ที่ตึกเพลิงพิโรธของท่านอาสยง”
“โอ้ อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นสยงป้า เจ้าต้องดูแลแขกของเราให้ดีๆ นะ” ชวีเหวินเฮ่าพูดพร้อมกับหัวเราะ
ชวีหลิงเย่ว์กับสยงป้าสบตากัน พวกเขาเห็นว่าชวีเหวินเฮ่าชื่นชมจวินอู๋เสีย หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชวีหลิงเย่ว์ก็เอียงตัวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของชวีเหวินเฮ่า