ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 967 ความโหดร้ายในการประลอง (2) ตอนที่ 968 ความโหดร้ายในการประลอง (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 967 ความโหดร้ายในการประลอง (2) ตอนที่ 968 ความโหดร้ายในการประลอง (3)
ตอนที่ 967 ความโหดร้ายในการประลอง (2) / ตอนที่ 968 ความโหดร้ายในการประลอง (3)
ตอนที่ 967 ความโหดร้ายในการประลอง (2)
สัตว์วิญญาณสองตัวถูกนำขึ้นเวทีประลอง ตัวหนึ่งนั้นเหมือนกับพยัคฆ์ดุร้ายขนาดใหญ่ ร่างของมันเป็นสีเทาและดำดูกำยำแข็งแรงและทรงพลัง เขี้ยวทั้งสองงอกยาวออกมาจนถึงคาง เทียบกับพยัคฆ์ทั่วไปแล้ว สัตว์วิญญาณตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าเท่าตัว
และที่เผชิญหน้ากับพยัคฆ์ขนาดใหญ่ตัวนี้คือสัตว์วิญญาณที่ไม่มีใครคาดว่าจะได้เห็นมันที่นี่
สัตว์วิญญาณอีกตัวคือเจ้าก้อนกลมขนฟูนุ่มนิ่มมีขนาดตัวเท่าฝ่ามือ มองแล้วมันดูเหมือนกับกระต่ายตัวเล็กๆ หูของมันยาวมาก ปลายหูกลมมนไม่เหมือนกระต่ายทั่วไปที่มีปลายหูแหลม
สัตว์วิญญาณที่เหมือนกระต่ายนั้นตัวเล็กมาก มันยืนอยู่ข้างหน้าเจ้าพยัคฆ์ร้าย ดูไร้พิษภัยโดยสิ้นเชิง ตัวของมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่าอุ้งเท้าข้างหนึ่งของพยัคฆ์ตัวนั้นเลย เมื่อมันถูกวางลงบนเวทีประลอง เจ้ากระต่ายหูใหญ่ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ หูยาวๆ ตกลงข้างลำตัว ดวงตาโตสีดำขลับเต็มไปด้วยความกลัว และเห็นได้ชัดว่ามันกำลังตัวสั่น
ทำไมถึงได้เอาสัตว์วิญญาณตัวเล็กๆ แบบนั้นมาลงแข่งที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ
เมื่อจวินอู๋เสียเห็นเจ้ากระต่ายหูใหญ่ แววตาของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบทันที นางเคยเห็นกระต่ายหูใหญ่พวกนี้มาก่อนที่ป่าประลองวิญญาณ พวกมันขี้กลัวมาก แม้แต่ในหมู่สัตว์วิญญาณระดับต่ำ เจ้าพวกนี้ก็อยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร พวกมันไม่มีความก้าวร้าวเลยสักนิด แค่เสียงดังนิดหน่อยพวกมันก็กลัวแล้ว มันเป็นสัตว์กินพืช ไม่จำเป็นต้องออกล่าหาอาหาร
พูดได้เลยว่ากระต่ายหูใหญ่เป็นสัตว์วิญญาณที่ไร้ประโยชน์ที่สุด สัตว์วิญญาณแบบนี้ไม่สามารถต่อสู้ได้ เนื่องจากพวกมันไม่สามารถทำร้ายใครได้เลย
เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่กำลังสับสนทำได้เพียงขดตัวอยู่บนเวทีประลองด้วยความกลัว ตัวมันสั่นอย่างน่าสงสาร อุ้งเท้าหน้าสองข้างกอดหูยาวๆ ของมันไว้แน่น มันปิดตาตัวเองโดยไม่กล้ามองเจ้าพยัคฆ์ร้ายเลยสักครั้ง
“อะไรเนี่ย มีคนเอาสัตว์วิญญาณไร้ประโยชน์แบบนั้นมาลงแข่งจริงๆ ดิ”
“ข้าเฝ้ารอการประลองเจ๋งๆ มาตั้งครึ่งค่อนวัน แล้วมาเจอการประลองที่รู้ผลอยู่แล้วเนี่ยนะ”
คนหลายคนในลานประลองเริ่มส่งเสียงโห่ พวกเขาไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกระต่ายหูใหญ่ตัวนั้น ที่พวกเขาสนใจก็คือการประลองครั้งนี้มันจะน่าเบื่อสุดๆ
“สัตว์วิญญาณแบบนี้ก็เข้าร่วมการประลองได้ด้วยหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับขมวดคิ้วมองชิงอวี่ที่อยู่ข้างๆ
ชิงอวี่พูดตะกุกตะกัก “นี่…นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นกระต่ายหูใหญ่ในลานประลองสัตว์วิญญาณ กฎของลานประลองแค่ห้ามสัตว์วิญญาณที่ยังไม่โตเต็มที่ลงแข่งขัน แต่ไม่ได้บอกว่าสัตว์วิญญาณที่โตเต็มที่แล้วอย่างกระต่ายหูใหญ่ลงแข่งไม่ได้…”
จุดประสงค์ของลานประลองสัตว์วิญญาณคือให้คนได้แสดงความสามารถในการฝึกสัตว์วิญญาณ ไม่ได้ส่งเสริมการฆ่า ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้เอาสัตว์วิญญาณที่ยังไม่โตเต็มวัยมาที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ ทหารทุกคนที่นี่รู้กฎนี้ดี เห็นได้ชัดว่ากระต่ายหูใหญ่ที่อยู่บนเวทีคือสัตว์วิญญาณที่โตเต็มวัยแล้ว
แต่…
สัตว์วิญญาณที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยสักนิดแบบนี้ ใครจะอยากเอามันมาสู้ในลานประลองกัน
จะไม่เป็นการส่งมันไปตายหรืออย่างไร
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง สายตาของนางมองไปที่เด็กหนุ่มที่อุ้มกระต่ายหูใหญ่ขึ้นมาบนเวที เด็กหนุ่มคนนั้นดูเหมือนจะอายุสิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น หลังจากวางกระต่ายหูใหญ่ลงบนเวที เขาก็ออกจากเวทีประลองไปทันที สีหน้าไม่มีวี่แววของความกังวลเลยสักนิด แต่กลับมีความโล่งใจอยู่แทน
เมืองพันอสูรมีกฎอยู่กฎหนึ่งว่า คนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะได้รับอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์วิญญาณครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น ถึงจะเป็นกระต่ายหูใหญ่ที่ผู้คนดูถูกเหยียดหยาม แต่กฎของเมืองพันอสูรก็ห้ามทอดทิ้งหรือฆ่าสัตว์วิญญาณที่ตนเลี้ยงอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเด็กหนุ่มคนนั้นจึงเกิดความคิดชั่วร้ายที่จะเอาเจ้ากระต่ายหูใหญ่ไร้พิษสงตัวนี้ไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณและปล่อยให้มันถูกฆ่าตายที่นั่น!
ตอนที่ 968 ความโหดร้ายในการประลอง (3)
สายตาของจวินอู๋เสียเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง นางสังเกตเห็นว่าตอนที่กระต่ายหูใหญ่ถูกทิ้งไว้บนเวทีประลองอย่างไร้หัวใจ มันมองตามหลังเด็กหนุ่มที่เดินออกไป เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวจ้อยนั่นคิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเจ้านายของมัน มันไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายมันถึงได้วางมันลงตรงหน้าสัตว์วิญญาณที่ดุร้ายน่ากลัวแบบนี้
มันกลัวและรู้สึกหมดสิ้นหนทาง มันไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จึงได้แต่กอดหูยาวๆ ของตัวเองเอาไว้พยายามซ่อนตัวจากสัตว์วิญญาณที่น่ากลัวตรงหน้า
แต่บนเวทีประลองเรียบๆ เปิดโล่งแบบนั้น เจ้าตัวจ้อยนี่จะไปซ่อนตรงไหน เจ้าพยัคฆ์ร้ายเห็นมันแล้วอย่างชัดเจนและดูเหมือนจะรู้ด้วยว่าภารกิจของมันคืออะไร ก่อนที่การประลองจะเริ่ม มันก็แยกเขี้ยวขู่เสียงต่ำใส่กระต่ายหูใหญ่ตัวนั้น
“ชิงอวี่” จวินอู๋เสียเรียกขึ้นทันที
“ขอรับ” ชิงอวี่ตอบ
“ลานประลองสัตว์วิญญาณยอมให้หยุดการประลองกลางคันหรือไม่” จวินอู๋เสียถามชิงอวี่พร้อมกับมองเขา
ชิงอวี่ตกใจแล้วก็เข้าใจทันทีว่าจวินอู๋เสียหมายถึงอะไร เขามองไปที่กระต่ายหูใหญ่บนเวทีประลองแล้วส่ายหน้าอย่างสงสาร “นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สามารถต่อสู้ได้ ก็ต้องให้เจ้านายยอมแพ้เอง ไม่อย่างนั้นก็หยุดการประลองไม่ได้ขอรับ”
เขาเองก็เห็นว่าเจ้ากระต่ายหูใหญ่ตัวนั้นน่าสงสารเช่นกัน แต่กฎของลานประลองสัตว์วิญญาณว่าไว้แบบนั้น พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง แล้วจู่ๆ นางพูดขึ้นว่า “ท่านช่วยไปลงทะเบียนให้ข้าหน่อย ข้าอยากเข้าร่วมการประลองรอบต่อไป”
นางไม่อาจทนดูการแสดงอันโหดร้ายไร้มนุษยธรรมแบบนี้อีกต่อไปได้แล้ว
ชิงอวี่มองจวินอู๋เสียตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณชายจวินว่าอะไรนะขอรับ ท่านอยากเข้าร่วมการประลองอย่างนั้นหรือ” ขณะที่พูดสายตาของชิงอวี่ก็มองไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ จากที่เขาเห็น เจ้าสัตว์วิญญาณคล้ายแกะตัวนี้ก็ไม่แตกต่างจากกระต่ายหูใหญ่ที่อยู่บนเวทีตอนนี้มากนัก ทั้งสองตัวมีความสามารถในการโจมตีเป็นศูนย์ เป็นสัตว์วิญญาณที่ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้เลย เอาแกะตัวนี้ขึ้นไปบนเวทีประลอง ผลที่ออกมาก็มีแต่ตายเท่านั้น
“ใช่” จวินอู๋เสียตอบ
ชิงอวี่รีบพูดขึ้นทันทีว่า “คุณชายจวินอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามสิขอรับ! อะไรก็เกิดขึ้นได้บนเวทีประลอง เราคาดการณ์ผลของมันไม่ได้หรอกขอรับ เมื่อสัตว์วิญญาณสองฝ่ายสู้กันมันย่อมหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายไม่ได้ ข้าเห็นท่านรักและให้ความสำคัญสัตว์วิญญาณของท่านมาก จะดีกว่าที่ท่านจะไม่เข้าร่วมการประลองนะขอรับ”
ชิงอวี่ไม่คิดฝันเลยว่าจวินอู๋เสียจะมีความคิดเช่นนั้นขึ้นมาหลังจากดูการประลองของสัตว์วิญญาณสองตัวไปไม่ถึงครึ่งรอบ
ถ้าเป็นสัตว์วิญญาณตัวอื่น เขาอาจจะยอมให้ แต่นี่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาก็ไม่เห็นว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดของจวินอู๋เสียอย่างน่ารักน่าชังจะมีพลังโจมตีด้วย ถ้าเอาสัตว์วิญญาณแบบนั้นขึ้นไปบนเวทีประลอง ผลจะออกมาดีได้อย่างไร
“ข้าอยากเข้าประลอง” จวินอู๋เสียพูด ดวงตาใสกระจ่างเย็นชาของนางมองตรงไปที่ชิงอวี่
คำพูดที่จะห้ามปรามจวินอู๋เสียติดอยู่ในลำคอของชิงอวี่และถูกกลืนกลับลงไปอย่างรวดเร็ว สายตาของจวินอู๋เสียบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น
“อย่างนั้น…ก็ได้ขอรับ ข้าจะไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของลานประลอง” ชิงอวี่พูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างจนปัญญา จวินอู๋เสียไม่ได้มาที่เมืองพันอสูรด้วยเหตุผลทั่วๆ ไป เขาถูกสยงป้าย้ำเตือนอยู่หลายรอบแล้วว่าให้ดูแลจวินอู๋เสียให้ดี แต่…เขาดูแลเด็กหนุ่มคนนี้ได้ไม่ถึงครึ่งวันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะทำให้สยงป้าผิดหวัง
วันแรกที่จวินอู๋เสียอยู่ที่เมืองพันอสูรก็จะส่งสัตว์วิญญาณของตัวเองไปตายเสียแล้ว
แต่เมื่อไม่สามารถคัดค้านจวินอู๋เสียได้ ชิงอวี่ก็ลุกขึ้นและเดินไปลงทะเบียนให้จวินอู๋เสีย
แล้วจวินอู๋เสียก็หันกลับไปมองกระต่ายหูใหญ่บนเวทีประลอง
ตอนนั้นเองเสียงระฆังเริ่มศึกประลองก็ดังขึ้น เจ้าพยัคฆ์ร้ายกระโจนเข้าใส่กระต่ายหูใหญ่ที่ตัวสั่นระริกอยู่ทันที!