ทะลุมิติทั้งครอบครัว - ตอนที่ 252-2 แม่ของเจ้า อย่างไรก็ยังเป็นแม่ของเจ้าอยู่ดี / ตอนที่ 253 ปรมาจารย์น้อยด้านงานฝีมือ
- Home
- ทะลุมิติทั้งครอบครัว
- ตอนที่ 252-2 แม่ของเจ้า อย่างไรก็ยังเป็นแม่ของเจ้าอยู่ดี / ตอนที่ 253 ปรมาจารย์น้อยด้านงานฝีมือ
ตอนที่ 252-2 แม่ของเจ้า อย่างไรก็ยังเป็นแม่ของเจ้าอยู่ดี
คำพูดของท่านแม่นี้ ทำให้ซ่งฝูลู่ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของนางถึงกับหัวเราะออกมา ท่านแม่พูดเหมือนกับเป็นเรื่องจริงเลย
“ดูพวกเจ้าสิ ยังหัวเราะกันอีก อย่าทำเป็นไม่เชื่อสิ”
บ้านท่านยายหวัง ครอบครัวของนางครึกครื้น
ท่านยายหวังเรียกหลานคนโตและดึงหลานคนรองมา อีกมือหนึ่งก็จับคอเสื้อของซ่วนเหมียวจื่อไม่ปล่อย
ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางช่วยกันขนน้ำร้อนเข้าบ้าน
ท่านยายหวังเพิ่งสระผมมาใหม่และผสมน้ำมันฆ่าเหาไว้แล้ว ลูกสะใภ้คนรองก็หาผ้ามาพันผมให้นางอีกที โดยบอกให้ท่านแม่เอาผ้าพันหัวไว้หน่อย จะได้ไม่เป็นหวัด
ตอนนี้ท่านยายหวังพูดไม่หยุดและพูดเยอะจนทำให้คนอื่นๆ ตกใจกลัว
“ฟังย่าพูด ไม่สระผมไม่ได้ มันจะกัดเจ้า ตอนตกดึกมันจะคลานออมา คลานมาอยู่บนร่างกายแล้วกัดน้องชายของเจ้า มันกัดเสร็จเจ้าก็จะฉี่ไม่ออกและยังสูบเลือดของเจ้าด้วย ดูดกินอาหารและนมที่เจ้ากินเข้าไป”
ซ่วนเหมียวจื่อรีบเอาศีรษะจุ่มน้ำในอ่าง “ท่านย่า ได้โปรดอย่าพูดอีกเลย อย่าให้มันมาสูบเค้กที่ข้ากินเมื่อตอนบ่ายออกมา ข้าจะสระผมแล้ว”
ทำให้คนที่อยู่ในบ้านพากันหัวเราะ ลูกชายคนโตของท่านยายหวัง เขามีศักดิ์เป็นลุงใหญ่ของซ่วนเหมียวจื่อ เขาอุ้มซ่วนเหมียวจื่อมาหนีบไว้ใต้รักแร้และใช้หนวดเคราทิ่มแทงหลานชาย ซ่วนเหมียวจื่อดิ้นด้วยความโมโหและรู้สึกว่าผู้ใหญ่ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน ลุงใหญ่ทำไมถึงชอบรังแกเขานะ
หวังจงอวี้พ่อแท้ๆ ของซ่วนเหมียวจื่อพูดอย่างอารมณ์ดี “พี่ใหญ่ ตีเขา เขาดิ้น”
“ตีทำไมกัน ซ่วนเหมียวจื่อของพวกเรากำลังเล่นกับลุงใหญ่”
ครอบครัวแลดูครึกครื้น และสามัคคีปรองดองกัน
ตอนเช้าของวันที่สอง
ซ่งฝูหลิงกำลังสอนย่าของนางว่าควรพูดอย่างไร จะพูดแนะนำเค้กวันเกิดอย่างไรกับโรงเตี๊ยม และให้บอกกับเขาว่า พวกเรามีรูปแบบ วันนี้จะทำรูปแบบออกมา นางหยิบผ้าพันคอที่มี ลายดอกไม้เล็กๆ ออกมาหลายผืนให้ท่านย่า ส่วนที่ด้านนอก ก็มีท่านยายหลายคนกำลังมายืนเรียกท่านย่าหม่าอยู่
ท่านย่าหม่ากับซ่งอิ๋นเฟิ่งมากินข้าวที่บ้านของซ่งฝูเซิงในเช้าวันนี้ เฉียนเพ่ยอิงทำก๋วยเตี๋ยวคลุกเนื้อตุ๋น นางตั้งใจเรียกทั้งสองคนมาเป็นพิเศษ มิเช่นนั้นสองคนนี้คงกินแต่ปัวปัว ไม่ยอมกินอย่างอื่น
ท่านย่าหม่าที่ไม่รู้เรื่องอะไร นางครุ่นคิดในใจ เช้าตรู่นี้ คนพวกนั้นเรียกนางมาเพราะเรื่องอะไรกัน? หรือว่าจะเปลี่ยนใจแล้ว
“ไปได้แล้ว” หญิงสูงวัยสี่คนเข็นรถเข็นสองคัน
“ทําไมหรือ?”
“ตามเจ้าเข้าเมืองไปช่วยกันขนอิฐน่ะสิ ที่บ้านเหลือคนสามคนไว้ทําอาหาร ส่วนพวกข้าทั้งสี่คนตามเจ้าไป แค่เจ้าสองคนจะขนอิฐกลับมาจะได้เท่าไรกัน เมื่อไหร่ถึงจะเริ่มงานได้”
เก่อเอ้อร์นิวบอกให้รีบๆ หน่อย พวกนางแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้เจ้าจะต้องไปขนเข่งนึ่งกลับมาอีกไม่ใช่หรือ
วันนี้มีรถเข็นสามคัน หญิงสูงวัยห้าคนและซ่งอิ๋นเฟิ่งอีกหนึ่งคน ทั้งหกคนเดินทางออกจากหมู่บ้านแล้ว
ซ่งฝูหลิงยืนเคียงข้างพ่อของนางอยู่ที่ริมแม่น้ำ นางมองเบื้องหลังของพวกท่านยายเหล่านี้ที่อยู่บนสะพาน ก่อนพูดขึ้น “ท่านพ่อ ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าพวกข้าเป็นทีมผู้หญิงที่แข็งแกร่งและกระตือรือร้น? พวกเรามาแข่งกันเอาไหม?”
“แข่งอะไร?”
“แข่งว่าใครจะหาเงินได้เร็วกว่ากัน” ซ่งฝูหลิงพูดจบก็เดินจากไป
ตอนที่ 253 ปรมาจารย์น้อยด้านงานฝีมือ
ซ่งฝูหลิงกลับไปหาท่านลุงรองของนาง
นางต้องการให้ลุงรองใช้ไม้ทำชั้นเค้กวันเกิด เป็นแบบหนึ่งชั้นกับสามชั้น
โดยธรรมดา เวลาพวกเราซื้อขนมเค้กวันเกิดก็จะมีลักษณะเป็นวงกลม นางจึงต้องมีสิ่งของที่มีลักษณะกลมหนึ่งอันก่อน
รูปแบบที่ใช้กันทั่วไปควรเป็นกล่องกระดาษ มันสะดวกกับการที่ท่านย่าของนางจะขนส่งสินค้าออกไป มีน้ำหนักไม่มาก และสะดวกในการทำรูปแบบเค้ก แค่นำดอกไม้ปลอมมาติดบนกล่องกระดาษก็ติดได้ง่าย
แต่ถ้าเป็นกล่องกระดาษที่ค่อนข้างแข็ง ท่านย่าของนางไปถามมาแล้ว เมื่อวานไปเมืองถงเหยา ซื้อกระดาษน้ำมันและซื้อกระดาษสีให้กับนาง สอบถามหลายร้านแล้วแต่ก็ไม่มีร้านไหนขาย
เมื่อคืนวาน ท่านพ่อของนางก็บอกว่า ที่นี่ถึงแม้จะมีกล่องกระดาษ แต่ประชาชนทั่วไปก็ไม่ได้ใช้กัน เพราะกล่องกระดาษแข็งนั้นเหมือนกล่องใส่รองเท้าของพวกเรา ทางราชการนำมาใช้ทำหมวกขุนนาง ก็อาจจะนำมาใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้บ้างแต่ยังนำมาใช้ไม่เป็นที่กว้างขวาง และบางร้านก็ไม่ได้นำของเข้ามาขาย
ดังนั้น ในตอนนี้จึงได้แต่หาวิธีการอื่นดู
ถึงแม้พื้นที่พิเศษของครอบครัวนางจะมีกล่องกระดาษใส่รองเท้าอยู่มาก กล่องกระดาษแข็งก็มีอยู่เยอะ แต่ก็ไม่กล้าจะไปนำพวกมันออกมาใช้
เพราะต้องวางอยู่ในโรงเตี๊ยมเป็นระยะเวลานาน หากมีคนสนใจในรูปแบบและนำไปวิเคราะห์ เมื่อแกะออกมาก็รู้ว่าใช้กระดาษทำเป็นกล่อง และที่สำคัญก็คือมันมียี่ห้อสินค้าอยู่ด้วย
เวลาใช้สิ่งของที่มีอยู่ในพื้นที่พิเศษ ซ่งฝูหลิงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วนที่ทำนาฬิกาทรายจากขวดน้ำ นั่นเป็นเพราะไม่มีสิ่งของใสๆ มาทดแทนได้แล้ว ถ้าซื้อกระจกใสมาทำก็ขายแพงมาก สิ่งสำคัญก็คือมันไม่ค่อยใสมากนัก นางไม่มีวิธีการอื่นแล้วถึงได้ใช้ขวดน้ำพลาสติกแทน
อีกอย่าง ถึงแม้คนกลุ่มนี้จะรู้ พวกเขาก็ไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไรนัก ตอนอพยพลี้ภัยก็เคยเห็นสิ่งของแปลกๆ มาบ้างแล้ว แล้วนี่ก็แค่ใช้ทำเค้กเท่านั้น ตอนใช้ก็ปิดประตูห้อง
พูดสาธยายมาตั้งมากมาย ก็ได้แต่นำไม้ที่มีน้ำหนักมาใช้ทดแทน
นางจึงต้องมาขอให้ลุงรองทำให้
ซ่งฝูสี่ถาม “เจ้าจะเอาแบบไหน?”
“ทำขนาดความสูงเท่านี้ ขนาดเล็กใหญ่เท่านี้” ซ่งฝูหลิงพูดไปก็ทำท่ากะขนาดให้ดู “เป็นทรงกลมคล้ายเขียงที่พวกเราใช้หั่นผัก ลุงรอง ข้าต้องการมันหลายๆ อันและมีขนาดเท่าๆ กัน ท่านต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงทำเสร็จ?”
ซ่งฝูสี่มองหลานสาวคนเล็ก เขากัดฟันพูด “ข้าคงต้องใช้เวลาอีกสักครู่หนึ่ง เจ้าต้องบอกขนาดอย่างละเอียดให้ข้าฟังอีกสักรอบ เสร็จแล้วก็เข้าไปรออยู่ที่บ้านเถอะ ด้านนอกอากาศหนาวเย็น ถ้าลุงทำเสร็จแล้วจะเอาไปส่งให้ที่บ้านเอง”
ซ่งฝูหลิงดีใจ “ขอบคุณท่านลุงรอง”
ก่อนที่ซ่งฝูหลิงจะกลับเข้าไปในบ้าน นางก็เรียกพวกเด็กๆ มา
“แต่พี่พั่งยา เรายังทำที่เป่าลมยังไม่เสร็จเลยนะ”
ทำไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร วันนี้อากาศหนาวเย็นมาก เดี๋ยวพวกเจ้าจะไม่สบาย พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ ให้ทุกครอบครัวอย่าเพิ่งใช้ ให้พวกเรายืมมาใช้ก่อน
“ไปเถอะ พี่จะพาพวกเจ้าไปพับกระดาษ”
มีเด็กหลายคนร้องถาม ถ้าเช่นนั้นพี่ไม่ทำเค้กแล้วหรือ?
ยังรู้จักเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นนะเจ้าเด็กพวกนี้
ซ่งฝูหลิงคิดในใจ ข้าก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย ดีที่มีเก็บไว้ในเตาอบอีก เลยมีของพอสำหรับสองวัน ก่อนที่พวกคนทำเค้กคนใหม่จะเริ่มทำงาน
คาดว่าหากสอนพวกนางก็ใช้เวลาเพียงช่วงครึ่งวันเช้า ต่อให้พวกนางเรียนรู้ช้าก็สามารถทำมันออกมาได้ อีกทั้งพวกนางรีบร้อนต้องใช้เงิน ก็น่าจะต้องขยันทำงานจนสุดความสามารถ นางจะเหนื่อยทำต่อไปทำไม วันต่อไปนางก็ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยแล้ว นางเพียงแค่รับงานมา กับรับทำแค่งานใหญ่
พี่สาวคนโตพาพวกเด็กๆ มาที่บ้านของซ่งฝูเซิง พวกเด็กๆ รวมตัวกันอยู่บนเตียงเตาอย่าง ครึกครื้น
ซ่งฝูหลิงก็ไม่สนใจห้องทำเค้กห้องใหม่ ด้านในอบอุ่น มีทั้งเตาผิงและพวกฟืนไว้ก่อไฟ ไม่ต้องกังวล ท่านพ่อของนางสามารถจัดการแทนนางได้ ดูสิ แค่ช่วงเวลาพักกลางวันก็คอยจัดการทำความสะอาดให้อย่างเรียบร้อยแล้ว
“มานี่สิ ดูมือพี่สาว ต้องพับแบบนี้แล้วก็พับแบบนี้นะ…” ซ่งฝูหลิงสอนพวกเด็กๆ พับกระดาษ
ความหนาของกระดาษสีโบราณไม่ค่อยดีนัก มันทั้งอ่อนและหยาบ แต่มีประโยชน์กับการทำเค้กดอกไม้ปลอม สามารถนำมาทำเป็นกลีบดอกไม้ได้หลายชั้น
“มาสิ พวกเจ้ามาช่วยข้านวดคลึงดอกฝ้ายพวกนี้ ดูที่มือของข้าที่ค่อยๆ ดึงดอกฝ้าย หลังจากนั้นค่อยนวดปั้นเป็นดอกฝ้ายเล็กๆ ใช้มือนวด ใช่แล้ว แบบนี้แหละ เก่งมาก”
เมื่อสอนเด็กพวกนี้เสร็จแล้ว ซ่งฝูหลิงก็ลงจากเตียงเตาแล้วให้เด็กพวกนี้ทำงานกันต่อไป ส่วนนางก็ไปตักแป้งเปียกมา
เป็นสิ่งของชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้แทนกาวได้
ใส่น้ำลงไปในหม้อและนำแป้งใส่ลงไปในน้ำ จากนั้นคนให้เข้ากันจนข้น แล้วก็เติมน้ำตาลลงไปนิดหน่อย นำทัพพีออกมาไว้ข้างๆ เมื่อพักรอจนเย็น มันก็จะกลายเป็นกาว
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ซ่งฝูสี่ทำแผ่นไม้กลมขนาดสิบนิ้วแผ่นแรกจนเสร็จ ขนาดความหนาทั้งบนและล่าง ทำตามขนาดของขนมเค้ก เขาอุ้มมาให้
ท่ามกลางสายตาความอยากรู้ของเด็กๆ ซ่งฝูหลิงก็ใช้กระดาษขาวทากาวแป้งเปียก นำกระดาษขาวมาติดแผ่นไม้กลมจนมิดชิด
นางกำลังใช้เชือกฝ้ายสีขาวบิดจนเป็นเกลียวแล้วทากาวแปะบนเค้ก ทำเหมือนกับมีดอกไม้อยู่รอบเค้กสีขาว สักพักก็พบว่าหมี่โซ่วแอบเอามือจิ้มลงไปในกาวแป้งเปียกแล้วเอาเข้าปาก
“หมี่โซ่ว เจ้ากำลังทำอะไร?”
“หึหึ พี่สาว มันหวานจังเลย และยังมีรสชาติอร่อยด้วย”