ทะลุมิติทั้งครอบครัว - ตอนที่ 367
ท่านย่าหม่าไม่ประหลาดใจ
หอนางโลมในเมืองเฟิ่งเทียนก็ยิ่งคึกคัก
แขกผู้ชายมาฟังเรื่องเล่า แม่เล้าของหอนางโลมก็หาแม่นางหน้าตาจิ้มลิ้มมาจากต่างถิ่นเพิ่มอีกหลายคน เพื่อหารายได้ช่วงปีใหม่และหลังปีใหม่
ก่อนและหลังปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าจากทิศเหนือหรือใต้ หรือช่วงวันหยุดของข้าราชการออกมาเที่ยว พวกผู้ชายมักจะชอบมาสถานที่นี้กัน
ท่านย่าหม่าคาดเดา
เมื่อแม่นางเหล่านี้ออดอ้อนออเซาะบอกว่า ปีใหม่ไม่มีคนเป็นเพื่อน ก่อนที่พวกเขากลับจวนเป็นเพื่อนภรรยา นางก็บอกว่านางเป็นเสมือนดวงใจน้อยๆ ของพวกเขาพร้อมกับซับน้ำตา
หนึ่งปีที่ผ่านมาได้เงินจากผู้ชายพวกนี้ไปไม่น้อย มีอะไรก็ซื้อให้กับแม่นางเหล่านี้
อย่าว่าแต่เค้กราคาสามสิบถึงห้าสิบตำลึงเงินเลย แม้ว่าจะโดนมอมเหล้าก็คงจะพูดว่า “เหล้าดี เอามาอีกสักไหหนึ่ง”
ซ่งฝูหลิงถือใบรายการสั่งจอง นางนั่งคำนวณอยู่บนตั่ง
หยุดพักผ่อนเจ็ดวันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว นางต้องทำเค้กหนึ่งชั้นกับเค้กสามชั้นอีกหลายก้อน
ถ้าทำล่วงหน้าให้เสร็จก่อนล่ะ?
ใช่แล้ว ทำให้เสร็จก่อนก็ยังเหลือวันพักผ่อนหลายวัน
อืม คำนวณเสร็จแล้ว ก็ยังสามารถพักผ่อนได้สามวัน สามารถนอนกินบนเตียงได้หนึ่งวัน
วางแผนว่าจะขี่เสี่ยวหงพาหมี่โซ่วและพวกพี่ชายกับพี่สาวไปเที่ยวในเมืองสองวัน
ถึงตอนนั้นนางก็จะไปดูการแสดงกายกรรมต่างๆ ไปเที่ยวร้านหนังสือ ซื้อป้ายมงคล ไปเล่นว่าวที่ริมแม่น้ำ และไปเดินเที่ยวตามร้านค้าต่างๆ ซื้อปิ่นเงินปักผมให้ท่านแม่
นางอยากไปดูว่าในเมืองยุคโบราณจะฉลองปีใหม่กันอย่างไร
แต่เสียดายยังไม่ถึงสองวัน ท่านย่าหม่าก็ยื่นใบรายการสองใบให้กับนาง
ซ่งฝูหลิงจ้องมองใบรายการ มีสีหน้าไม่พอใจ “ทำอะไรนะ? ข้าไม่ต้องฉลองปีใหม่หรือไง?”
“พั่งยาจะฉลองปีใหม่ไปทำไม เจ้าเชื่อฟังหน่อย พวกเราต้องอาศัยช่วงนี้ทำงานหารายได้ ถ้าได้เงินมาแล้ว ย่าจะให้เงินเจ้าใช้”
หลังจากมองสีหน้าของหลานสาวแล้ว นางก็กัดฟันพูด “ให้เจ้าสองตำลึง เจ้าจะเอาไปซื้ออะไรก็ได้ ข้าจะไม่ถาม แบบนี้ได้ไหม?”
ซ่งฝูหลิงพูดขึ้น “ข้าดูเหมือนเป็นคนขาดแคลนเงินหรือ? ข้าเพียงแค่ไม่อยากทำงาน”
นางพูดจบก็โยนใบรายการสองใบปลิวว่อนไปไกลจนตกลงบนเตียง นางพูดขึ้น “ทำไมถึงเยอะขนาดนี้ น่ารำคาญจัง”
ใช่สิ ทำไมถึงเยอะขนาดนี้
เพราะในแต่ละเมืองต่างก็มีครอบครัวใหญ่หลายครอบครัว พวกเขาเกิดความคุ้นเคยจนเป็นนิสัย มักจะส่งคนมาซื้อของว่างที่ร้านของท่านย่าหม่า
ขนมในร้านของท่านย่าหม่า ด้านบนมีเนื้อครีมไม่เหมือนกับของว่างร้านอื่นที่ดูแห้งๆ คุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยที่อยู่ในบ้านต่างร้องจะกิน
ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ จะมีการสั่งจองเข้ามามาก ไม่มีการสั่งจองน้อย
เมื่อถึงช่วงเทศกาลปีใหม่การสั่งจองซื้อของก็มีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ครอบครัวที่พอมีจะกินก็คิดจะซื้อพวกเค้กไปให้เด็กและคนสูงวัยที่อยู่ในบ้าน ช่วงวันปกติธรรมดาไม่ได้กิน ครั้งนี้จะซื้อเยอะหน่อย
นอกจากนี้ยังมีการไปมาหาสู่กันระหว่างผองเพื่อน มีการส่งของขวัญให้กัน
ของว่างที่ร้านของท่านย่าหม่ามีความพิเศษไม่เหมือนใคร ร้านอื่นไม่มีขาย ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีญาติมาเยี่ยมถึงที่บ้าน เมื่อถือออกมาก็ดูดี มีใครบ้างที่ไม่อยากรักษาหน้าตา?
แค่ถือออกไปก็ดูมีหน้ามีตามากขึ้นแล้ว
เพราะมีการพูดแนะนำ
ร้านหลักอยู่บนถนนใจกลางเมืองเฟิ่งเทียน ดูโอ่อ่ามาก มีสองชั้น
ร้านสาขาย่อยของพวกเขากระจายอยู่ในอำเภอต่างๆ ได้ยินมาว่าในเมืองขายดีมาก ถึงแม้จะแพงหน่อย แต่พวกเขาก็สามารถลิ้มรสชาติที่คนมีฐานะในเมืองชอบกินได้
ยามได้รับของว่างพวกนี้จากญาติๆ ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญ
ส่วนพวกบัณฑิตก็นิยมสั่งจองของว่างในช่วงนี้
เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ลูกศิษย์จะต้องไปเยี่ยมเยือนอาจารย์และถือของฝากไปให้ ในนั้นจะมีของว่าง เหล้า เนื้อสัตว์ และผ้า ของทั้งสี่สิ่งนี้ส่วนใหญ่พวกบัณฑิตจะชอบนำมามอบให้กับอาจารย์
ของที่งสี่อย่างนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ลูกศิษย์ชอบนำมาเป็นของฝาก ในแต่ละตัวเมืองข้าราชการชั้นผู้น้อยเองก็มักจะนำมาเป็นของฝากให้กับเจ้านาย
ของว่างซึ่งเป็นหนึ่งในสี่อย่างนี้ มีหลายคนเลือกของว่างที่ปีนี้ทำขึ้นมาใหม่และยังไม่เคยกิน ของว่างของร้านท่านย่าหม่า
ถึงแม้จะมีราคาแพงหน่อย แต่ปีหนึ่งก็มอบให้เพียงครั้งเดียว แพงหน่อยก็ไม่เป็นไร
ไม่ใช่เพียงแค่รสชาติแปลกใหม่ที่อยากมอบให้คนได้ลิ้มรส สิ่งที่ทำให้พวกเขาเลือกร้านของท่านย่าหม่าก่อนก็เพราะว่าการห่อหุ้มของว่างอย่างดี
ไม่เหมือนร้านค้าอื่นที่ใช้กระดาษมันธรรมดาห่อหุ้ม ปิดปากถุงด้วยกระดาษแดงและเขียนตัวอักษรสีดำแล้วใช้เชือกผูกอีกที ส่วนการห่อหุ้มของร้านย่าหม่าเป็นแบบกล่องและเป็นถุง ด้านบนจะมีรูปการ์ตูนต่างๆ
หลังจากสองวันผ่านไป ท่านย่าหม่าก็มานั่งอยู่ขอบเตียง นางหยิบใบรายการสองใบมายื่นให้ซ่งฝูหลิง
ซ่งฝูหลิงถือพู่กันในมือ นางเหล่มองท่านย่าของนาง
ท่านย่าของนางเบนหน้าไปมองห้องเตาอบ “…” แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกว่าหลานสาวคนเล็กกำลังถลึงตาใส่นาง
เฮ้อ ช่วงนี้นางโดนถลึงตาใส่หลายครั้งแล้ว
ไม่ได้มองสังเกตสีหน้าของพั่งยาแค่คนเดียว ตอนนี้ต้ายากับเอ้อร์ยาก็กำเริบเสิบสานขึ้นมากเช่นกัน ชักสีหน้าใส่นาง บอกว่าจะไม่ทำงานแล้ว
บอกว่าวันหยุดวันที่สาม พั่งยาจะพาพวกนางกับพวกหูจือและจินเป่าเข้าเมืองไปดูการแสดงกายกรรม วันนั้นไม่อยากทำงานแล้ว
หลานสาวทั้งสามคนจะทิ้งรายได้ไปเพื่อไปดูการแสดงกายกรรม กล้าหยุดงาน
รอก่อน รอนางมีเวลาว่างก่อน นางจะจัดการกับเด็กพวกนี้
หลังจากสองวันก็มีการประชุมกันขึ้น
“เงียบหน่อย”
ท่านย่าหม่าใช้ห้องประชุมชั่วคราว สองมือวางบนโต๊ะอภิปรายและประกาศออกมา
“ช่วงฉลองปีใหม่ปีนี้เราจะไม่หยุดพักผ่อน จะหยุดพักผ่อนเฉพาะวันปีใหม่…
…วันที่สามสิบ ห้องเตาอบจะไม่หยุดทำงาน จำได้หรือไม่? อันไหนที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานก็ลงมือทำก่อน…
…วันที่สองของปีใหม่จะเป็นวันที่เปิดร้านอย่างเป็นทางการ”
หญิงสาวหลายคนที่อยู่ด้านล่างไม่ได้ตบมือ รวมถึงซ่งฝูหลิงด้วย
แต่ถึงแม้พวกนางจะไม่ตบมือก็ไม่ได้ทำให้เสียบรรยากาศ เพราะมีพวกท่านป้าทั้งหลาย ต่างพากันปรบมือเสียงดัง
ในกลุ่มคนที่ทำเค้กก็มีผู้หญิงที่แต่งงานแล้วต่างก็ปรบมือด้วยความดีใจ
พวกนางมีความคิดเช่นเดียวกันกับท่านย่าหม่า ผ่านช่วงวันเวลาที่ลำบากมาได้ เมื่อเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ก็รีบคว้าเอาไว้ก่อน จะพักผ่อนไปทำไม? ฉลองปีใหม่ไม่สำคัญเท่ากับการหาเงิน ถ้าไม่มีเงินก็ฉลองปีใหม่ไม่ได้
พวกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว พวกนางกำลังคิดว่า
ห้องเตาอบไม่หยุดทำงานก็ดีแล้ว มิเช่นนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่พวกนางก็ไม่ได้มีเวลาว่างนอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน ยังต้องช่วยทุกคนทำอาหาร
ช่วงวันที่ยี่สิบเจ็ดและยี่สิบแปดก็ต้องเริ่มซักที่นอน ผ้าห่ม เย็บเสื้อผ้าและทำความสะอาดบ้าน
โอ้ สวรรค์ สู้มาทำงานในห้องเตาอบไม่ได้ อย่างน้อยการทำขนมแต่ละหม้อก็สามารถสร้างรายได้ได้ แม่สามีกับพวกสะใภ้ทั้งหลายก็ไม่สามารถหาเหตุผลมาต่อว่าพวกนางได้