ทะลุมิติทั้งครอบครัว - ตอนที่ 373
“โอ๊ยๆ” ชายชราตบตาทำได้เนียนมาก เอามือจับตรงหัวใจแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น ท่าทางเหมือนอาการเพิ่งจะดีขึ้น
“ฟื้นแล้วเหรอ เลิกตีกันได้แล้ว!” พวกป้าอ้วนกับพวกยายๆ ในหมู่บ้านพากันตะโกน
พวกผู้หญิงในบ้านเราก็พากันตะโกนส่งข่าวด้วย
เนื่องจากมีแค่ลุงใหญ่ของซ่งฝูเซิงที่รู้ความจริง คนอื่นๆ ในครอบครัวตัวเองไม่มีใครรู้ว่าท่านลุงซ่งแกล้งหมดสติ
ที่หลังบ้าน อาเจ็ดในหมู่บ้านร้อนใจจนกระทืบเท้า “ได้ยินไหม รีบปล่อยมือเร็วเข้า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขั้นต้องฆ่าแกง รีบไปดูคนแก่สำคัญกว่า!”
ก็แสดงให้เห็นว่า ตอนนี้ตีกันไปจนถึงหลังบ้านแล้ว
จากหน้าบ้านกลิ้งไปยันหลังบ้าน
อีกทั้งนับตั้งแต่พวกซื่อจ้วงกลับมา สถานการณ์ก็คือได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
ในขณะเดียวกัน ตรงทางเข้าหมู่บ้าน กลุ่มที่ไปอำเภออวิ๋นจงก็กลับมาแล้ว
ในหมู่บ้านมีคนที่ปากไวเอาเรื่องนี้ไปบอกว่า เกิดเรื่องที่บ้านพวกเจ้าแล้ว
พวกซ่งฝูลู่มองหน้ากัน ผู้ชายสิบกว่าคนไม่เอาแม้กระทั่งรถเข็นแล้ว คว้ามีดหั่นผักออกมาแล้ววิ่งกลับบ้านราวกับจะไปสู้รบ
เล่นเอาชาวบ้านที่ปากไวคนนั้นมองด้วยความสะพรึง นึกไม่ถึงว่าแค่บอกข่าว จะถึงกับชักมีดกันออกมา
นี่ยังแค่กลุ่มที่กลับมาจากอำเภออวิ๋นจง
กลุ่มที่ไปอำเภอจยายังไม่กลับมา กลุ่มที่ไปเมืองถงเหยาก็ยังไม่กลับมา
ใกล้แล้ว
แต่อย่าเลย
เดิมทีเริ่นโหยวจินหัวหน้าตระกูลเหรินก็ดื่มมามากกลับเข้าหมู่บ้าน พอมาถึงเห็นเหตุการณ์ก็สร่างเมาทันที ขาหมดแรงแทบทรุด ตะโกนหน้าดำหน้าแดงด้วยความโมโห “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้!”
เวลานี้สถานการณ์เป็นอย่างไรน่ะเหรอ
หัวหน้าตระกูลเหรินจะด่าคนในหมู่บ้านว่าใจดำไม่ยอมเข้าไปช่วยห้ามเอาแต่มองดูไม่ได้แล้ว
ครั้งนี้คนในหมู่บ้านพร้อมใจกันไปช่วยห้าม
ถ้าไม่ได้พวกเขา ตอนนี้คงเละเทะไปหมดแล้ว เลือดคงออกจากหัวไปหลายคนแล้ว
มีพวกเขาอยู่ ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ได้มากทีเดียว
ผู้ชายแต่ละคนบากหน้าไปช่วยกันยืนขวางตรงกลางไว้ พวกซ่งฝูเซิงระวังได้ก็ระวัง กลัวพวกเขาจะโดนลูกหลง จึงยั้งๆ มือไว้บ้าง อย่างน้อยก็ใช้มีดกับกระบองไม่ได้
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น สถานการณ์ในตอนนี้ก็กลายเป็นว่าพวกซ่งฝูเซิงกดดันจนคนพวกนั้นเป็นฝ่ายถอยอยู่ฝ่ายเดียว อยากให้ถอยเข้าไปในหลุมให้ได้
และที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดก็คือเริ่นจื่อฮ่าวที่อยู่ในมือซื่อจ้วง ถูกกระชากคอ ดันตัวถอยไปถึงหน้าหลุม หากถอยอีกนิดเดียวจะต้องตกลงไปแน่นอน
หลุมที่มีอยู่รอบตัว ขุดได้น่ากลัวมาก
คนทั่วไปตกลงไปคงปีนไม่ขึ้น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าในนั้นยังมีเหล็กแหลม ตกลงไปต้องถูกทิ่ม ร้องโอดโอยแน่นอน
เอาล่ะ ครั้งนี้คนในหมู่บ้านเหรินจยาก็ได้รู้ความลับหน้าบ้านหลังบ้านของพวกซ่งฝูเซิงแล้ว
แค่เห็นก็เหงื่อแตก
พวกคนในหมู่บ้านถึงขนาดที่เกิดภาพหลอนขึ้นมาแวบหนึ่ง คนพวกนี้ที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ อย่าว่าแต่จัดการคนหลายสิบเลย ถ้าโกรธขึ้นมาจริงๆ อาจจะจัดการพวกเขาทั้งหมู่บ้านได้ไม่ยาก
“หยุดเถอะ ฝูเซิง เจ้าบอกให้พวกเขาหยุดเถอะ ฟังอาพูด” หัวหน้าตระกูลเหรินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “อาจะทวงความยุติธรรมให้พวกเจ้า ดีไหม หลานชาย หมู่บ้านเหรินจยาของพวกเราจะเกิดเรื่องไม่ได้อีกแล้ว ใกล้ปีใหม่แล้ว พวกเจ้าก็อยากข้ามปีแบบสงบสุขใช่ไหมล่ะ”
ซ่งฝูเซิงพูดด้วยความโมโห
“อาศัยจังหวะที่พวกเราไม่อยู่บ้านมาหาเรื่องถึงที่…
…แบบนี้มันรังแกกันถึงบ้าน…
…ก่อนหน้านี้ก็มีคนคิดจะมารื้อบ้านพวกเรา…
…วันนี้จะมาพังอีกแล้ว…
…คนนี้ถูกหมาป่ากัดก็มาโทษพวกเรา คนนั้นพ่อป่วยจะตายก็มาโทษพวกเราอีก…
…ทำผู้เฒ่าของข้าโมโหจนหมดสติ ทำพวกเด็กผู้หญิงในครอบครัวตกใจร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว…
…คิดว่าพวกเราไร้ทางสู้จริงๆ เหรอ…
…วันนี้ข้าขอพูดไว้ตรงนี้ ป้ายความผิดไม่เลือก มาหาเรื่องผิดที่…
…ใครก็ตามที่กล้าทำตัวอันธพาลในบ้านข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เกิดตายขึ้นมาก็สมควรแล้ว!”
“ใช่ๆๆ เขาสมควรโดน ฝูเซิง ต่อให้ไปฟ้องทางการพวกเจ้าก็เหนือกว่า เจ้าว่าที่อาพูดมันยุติธรรมไหม ดังนั้นเจ้าต้องเชื่ออา อารับรองว่าจะคอยคุมพวกเขาให้ดี พวกเขาไม่มีทางมาอีกแล้ว นะ?”
หัวหน้าตระกูลเหรินดึงแขนเสื้อของซ่งฝูเซิง ความหมายคือ ข้าพูดอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว เจ้าจะเห็นแก่หน้าข้าได้หรือเปล่า อย่าเอาเรื่องเลย ข้าเพิ่งรับตำแหน่ง
เด็กหนุ่มที่ถูกเกาเถี่ยโถวจับไว้ พอได้ยินว่าจะแจ้งทางการก็รีบอ้อนวอน “ข้าเคยบอกแล้ว พวกเราเป็นคนนอกหมู่บ้าน ไม่ใช่คนในหมู่บ้านพวกเจ้า พวกเราก็แค่ขาดเงินไว้ใช้ขึ้นปีใหม่ อยากหาเงินไว้ใช้สักหน่อย ไม่ได้หวังอย่างอื่นเลย”
เด็กหนุ่มที่ถูกต้าหลังถีบล้มก็พูดบ้าง “ทำพวกเราทำไม พวกเราก็แค่มาข่มขู่พวกเจ้าเอง ไม่คิดจะทำร้ายใคร ดูสิ พวกเราไม่ได้ลงไม้ลงมือเลยนะ”
หลานชายคนโตของท่านลุงซ่งถ่มน้ำลายใส่หน้าคนนี้ พวกเจ้ายังคิดจะใช้กำลังอย่างไรอีก เอาจอบมากันด้วย
ถูกถ่มน้ำลายไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือขอให้ปล่อยพวกเขาไป นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาเจอของแข็ง
“นายท่าน ข้าเรียกนายท่านยังไม่พอเหรอ ถ้าจะโทษต้องโทษเริ่นจื่อฮ่าว เขาบอกว่าจะให้พวกเราคนละสามสิบเงิน บอกแค่ว่าให้มาช่วยรุมขู่พวกท่าน พังบ้านนิดหน่อย แม้แต่จอบเขาก็เป็นคนให้มา ปล่อยข้าเถอะนะ ข้าจะกลับบ้าน ข้าจะไสหัวกลับบ้านทันทีเลยดีไหม วันหน้าเห็นพวกท่านก็จะเดินหนี ข้าถูกจับไม่ได้ ครอบครัวข้าเหลือแม่แก่ๆ คนเดียว น่าสงสารเหลือเกิน”
พอสองคนนี้พูด คนอื่นก็รีบช่วยพูดบ้าง คนนี้บอกว่าครอบครัวลำบากสุดๆ คนนั้นบอกว่าเกิดเขามีอันเป็นไป แม่ที่แก่เฒ่าก็จะกินข้าวไม่ลง
ถึงขนาดที่มีคนขี้ขลาด จากที่ทำท่าเอาเรื่องก็กลายเป็นคุกเข่าลง
คนในหมู่บ้านก็เอาด้วย รีบเลิกทะเลาะเถอะ ตีกันไปแล้ว ได้ระบายอารมณ์กันพอหอมปากหอมคอ ปล่อยได้ก็ปล่อยไปเถอะ
ท่านลุงซ่งได้ลุงใหญ่ของซ่งฝูเซิงช่วยพยุง แสร้งทำเป็นหายใจไม่ทัน ประโยคเดียวพักไปสามครั้ง “ไม่ ไม่…”
เด็กหนุ่มพวกนั้นคิดในใจ แย่แล้ว อุตส่าห์ขอร้องขนาดนี้ยังไม่มีประโยชน์ ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
“ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว ให้พวกเขาไสหัวไป”
พวกเด็กหนุ่ม “…”
จากนั้นท่านลุงซ่งก็รีบเข้าไปดึงตัวซื่อจ้วง
ไม่แปลกที่เริ่นจื่อฮ่าวถูกผลักมาจนถึงขอบหลุมแล้วยังไม่ร้องสักแอะ ที่แท้ก็ถูกกระชากคอไว้แน่น ใบหน้าซีดเผือด แบบนี้ไม่ดี เดี๋ยวได้ตายกันพอดี
“ปล่อยสิ ซื่อจ้วง ฟังลุง อย่าไปถือสาสิงสาราสัตว์เลย โยนมันไว้ข้างทางนู่น อย่าทำมือพวกเราแปดเปื้อน”
ทันใดนั้นเริ่นจื่อจิ่วก็วิ่งมา
หลังจากที่วิ่งมาอย่างรีบร้อนก็เหลือบมองน้องชายตัวเองก่อน จากนั้นก็หันไปโค้งตัวให้ซ่งฝูเซิงอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง
หลังจากที่พ่อตัวเองหมดสติไป เริ่นจื่อจิ่วกดจุดใต้จมูกเสร็จเห็นเริ่นกงซิ่นค่อยๆ ฟื้นขึ้น แต่ปากยังคงสั่นอยู่ กลัวว่าพ่อตัวเองจะอาการไม่ดีจึงไม่สนว่าตอนนั้นสถานการณ์เป็นแบบไหน แบกเริ่นกงซิ่นวิ่งออกไป จากนั้นก็สั่งช่างสองคนของบ้านให้คนหนึ่งไปเชิญหมอ อีกคนรีบเข้าเมืองไปส่งข่าวพี่ชายคนโต
พอเสร็จธุระถึงได้วิ่งกลับมาก็เห็นน้องชายตัวเองถูกกระชากคออยู่
เริ่นจื่อจิ่วโค้งตัวเคารพซ่งฝูเซิง จากนั้นก็หันไปโค้งตัวจนสุดให้ลุงซ่ง “ขอโทษด้วย ขอโทษด้วย ข้ารู้ว่าครอบครัวข้าไม่เอาไหน ไร้เหตุผล ข้าขอโทษทุกคนแทนเขาด้วย”
ขณะพูดก็ยกมือคารวะทุกคนรอบตัว แม้แต่กับคนในหมู่บ้านก็แสดงความขอโทษด้วย
“แต่ต่อให้เขาจะทำตัวแย่แค่ไหนขอให้เขากลับบ้านก่อนได้หรือไม่ ท่านพ่อข้าฟื้นแล้วไม่เห็นน้องสามที่ไม่เอาไหนของข้าก็ร้อนใจจนหมดสติไปอีก ดูท่ายาจะไม่ได้ผล ให้เขากลับไป ให้ท่านพ่อข้าได้เห็นหน้าเขา บรรเทาอาการร้อนใจของคนแก่ เขาจะได้สบายใจขึ้น ข้าขอขอบคุณทุกคน ขอบคุณมาก”
ซ่งฝูเซิงถึงได้ทำท่าบอกให้ทุกคนมีอะไรก็ไปทำ และก็ให้คนพวกนี้รีบไสหัวออกไป อย่ามาแปดเปื้อนพื้นที่ของเขา
บ้านเขามีงานเยอะแยะ อันที่จริงใครจะอยากเสียเวลากับคนพวกนี้ ใครจะอยากทะเลาะเบาะแว้ง
ในบ้านมีทั้งเด็กทั้งผู้หญิง
รังแกกันเกินไปจริงๆ
ตอนนี้เห็นท่านลุงซ่งดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว เริ่นโหยวจินก็ดึงแขนเสื้อของเขาไม่หยุดเพื่อบอกให้เขายุติเหตุการณ์ อีกทั้งคนพวกนั้นก็ถูกพวกเขาอัดไปน่วมอยู่ ในที่สุดคนในหมู่บ้านได้รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องกันได้ง่ายๆ แค่นี้ก็พอแล้ว