ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 226 มาดูเร็วพวกเรา ผลตื่นรู้ทางห้าสายเผยโฉมแล้ว!
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 226 มาดูเร็วพวกเรา ผลตื่นรู้ทางห้าสายเผยโฉมแล้ว!
พรึบ พรึบ พรึบ!
เสียงคนเคลื่อนไหวตัดอากาศดังมาจากทุกทิศทางในนครหลวง บรรดาผู้ฝึกตนมากหน้าหลายตาต่างพากันสะพายอาวุธมุ่งหน้ามายังจุดที่ต้นตื่นรู้ทางห้าสายอยู่ ซึ่งก็คือร้านเล็กๆ ของฟางฟางนั่นเอง
กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ขั้นนักพรตยุทธการเท่านั้น แต่ยังมีขั้นราชันยุทธการและขั้นจักรพรรดิยุทธการปนอยู่ด้วย ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับขั้นนักพรตยุทธการ นั่นคือต้นตื่นรู้ทางห้าสาย
เหมือนที่สุภาษิตโบราณว่าเอาไว้ ลาภมักมาจากโชคเสมอ หากผู้ที่มายืนสังเกตการณ์การต่อสู้กลับโชคดีได้ผลตื่นรู้ทางห้าสายไปครอบครอง เช่นนี้ไม่นับเป็นเรื่องดีหรือ
ผู้โชคดีคนนั้นจะมีชีวิตที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เขาจะบรรลุขั้นนักพรตยุทธการ จากนั้นก็ก้าวขึ้นเป็นขั้นเทพแห่งสงคราม เผลอๆ อาจจะนอนฝันหวานไปถึงการบรรลุสู่ระดับเก้าขั้นเซียนเทพเลยก็เป็นได้
บรรดาคนเหล่านี้ต่างพุ่งมาที่ร้านของปู้ฟางอย่างรวดเร็วเหมือนฝูงแมลงวันตอมเศษอาหาร
เหล่าสิบสามกองโจรจากเมืองโม่จั่วที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังก็รีบรุดมาที่ตรอกแห่งนี้พร้อมด้วยอาวุธรูปร่างเตะตาเช่นกัน แม้ร้านนี้จะทำให้พวกเขานึกถึงฝันร้ายที่เคยเผชิญ แต่ทุกคนก็อดทนต่อความยั่วยวนใจของผลตื่นรู้ทางห้าสายไม่ได้
หนี่หยันและเยี่ยจึหลิงเองก็มาถึงตรอกพร้อมๆ กัน ม่านตาของทั้งคู่หดแคบเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ตรอกเล็กนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย
ทุกคนล้วนมีพลังปราณแข็งแกร่งจนทำให้บรรยากาศบิดเบี้ยวไปหมด ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครในที่แห่งนี้มีปราณระดับต่ำเลยสักคน และส่วนใหญ่ก็เป็นขั้นนักพรตยุทธการทั้งนั้น
แต่ก็ไม่มีใครกล้าบุ่มบ่ามเข้าไป ตรอกที่ปกติสงบสุขบัดนี้เหลือเพียงเศษซาก กำแพงทะลุเป็นรู ส่วนพื้นก็กลายเป็นทะเลหิน
ร่างอ้วนของเจ้าขาวยืนอยู่ในตรอกเหมือนภูเขาใหญ่ยักษ์ ไม่ไกลกันนั้นเป็นร่างที่คุกเข่าอยู่กับพื้นแต่ไร้ศีรษะ
วืด!
สองสตรีมองสิ่งที่เกิดขึ้นปากอ้ากว้าง
ร่างล่อนจ้อนของตาเฒ่าลอยหวือผ่านไป แล้วมาตกลงกระแทกพื้นที่ข้างๆ พวกนางโดยเอาหน้าลงก่อน
“มีคนโดนจับแก้ผ้าอีกแล้ว…ปีศาจที่ชอบจับคนแก้ผ้าของปู้ฟางนี้ยังไม่ทิ้งลายจริงๆ” หนี่หยันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี นางรีบปิดตาเยี่ยจึหลิงเอาไว้ เมื่อถูกกันไม่ให้มอง อีกฝ่ายก็ดูเสียดายไปถนัดตา
หนี่หยันมองชายชราแก้ผ้าด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์
ใบหน้าเหี่ยวย่นของเปี้ยนฉางกงสั่นเทิ้มไม่หยุด แต่เขาเองก็ไม่กล้าหืออือ หุ่นเชิดตัวนี้แข็งแกร่งเกินไปจนตัวเขายังเทียบไม่ติด ไม่แปลกใจเลยที่ต้นตื่นรู้ทางห้าสายจะมาปรากฏอยู่ในร้านเล็กๆ ไกลปืนเที่ยงเช่นนี้ ในเมื่อมีผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้อยู่ เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องเหนือความเข้าใจอีกต่อไป
เขาหยิบเสื้อผ้าอีกชุดออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บแล้วจัดการสวมให้เรียบร้อย เปี้ยนฉางกงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความรู้สึกพอใจนั้นก็อยู่ไม่นาน พอได้สติเขาก็กลับมาโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง
ตัวเขาเองเป็นถึงผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏ ทั้งยังบรรลุปราณระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม การที่ผู้สูงศักดิ์อย่างเขาต้องมาถูกจับแก้ผ้าโยนลงบนพื้นถนน ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายจนอยากซุกดินหนีเสียจริงๆ
“มองอะไรสาวน้อย!” เปี้ยนฉางกงพาลมาว่าสตรีสองนางที่อยู่ข้างๆ ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้า เขาก็หันไปเห็นหนี่หยันและเยี่ยจึหลิงกำลังจ้องมองมาด้วยดวงตาสงสัยใคร่รู้ ใบหน้าของชายชรามืดลงทันทีพลางรีบเอ่ยปากดุพวกนาง
แน่นอนว่าคนอย่างหนี่หยันไม่ยอมใครง่ายๆ นางทำหน้าบูดเบี้ยวแล้วหันไปว่ากลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คนแก่ใกล้ลงโลงอย่างเจ้าที่ถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อนไม่อายฟ้าอายดิน ยังจะกล้าเปิดปากพูดอีกหรือ คิดว่าร่างกายเหี่ยวๆ ใกล้ตายของตัวเองมันน่าดูจนน้ำลายหยดหรืออย่างไร หน้าไม่อายเสียจริง”
เยี่ยจึหลิงเองก็ก้าวออกมาถลึงตาใส่ชายชราด้วยเช่นกัน
เปี้ยนฉางกงโกรธมากเสียจนแทบกระอักเลือดออกมา พลังปราณภายในกายเขาเริ่มหมุนวน เตรียมตัวจะตบสตรีฝีปากกล้าสองนางนี้ให้ตายคามือ
แต่ทันทีที่กระแสพลังปราณพุ่งออกจากแก่นพลังในร่าง เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ จำได้ทันทีว่ายังมีหุ่นเชิดแสนร้ายกาจยืนอยู่ไม่ไกล
ก๊อบๆ ก๊อบๆ
เสียงเท้าลากระทบพื้นดังขึ้น จากนั้นเจ้าลาก็เดินเอ้อระเหยเข้ามาในตรอกพร้อมด้วยผู้ที่ขี่อยู่บนหลัง
ตาแก่ขี้เมายกสุราขึ้นซด ใบหน้าแดงก่ำพลางยิ้มเผล่ “ใครบังอาจกล้าคิดโจมตีผู้อาวุโสลำดับสามแห่งสำนักความลับแห่งสวรรค์กัน”
ชายขี้เมาจับน้ำเต้าที่เต็มไปด้วยสุราเอาไว้ จากนั้นก็ตวัดสายตาเมามายไปมองเปี้ยนฉางกง เขาเลิกคิ้วขึ้นพลันหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ“อ๋อ เจ้านี่เอง ตาแก่เจ้าเก่า”
“เจ้า!” เปี้ยนฉางกงมุ่นคิ้วทันที ตาแก่จากสำนักความลับแห่งสวรรค์นั้นมีพลังปราณแก่กล้าเป็นอันมาก การที่อีกฝ่ายมาเยือนนครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่วในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากทีเดียว หรือว่าจะมาเพราะผลตื่นรู้ทางห้าสายเช่นกัน
มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว เพราะหมอนี่หมกมุ่นเรื่องการทำสุรายิ่งนัก และผลตื่นรู้ทางห้าสายก็เป็นวัตถุดิบที่หาได้ยากยิ่ง ทั้งยังมีคุณสมบัติแสนวิเศษ
เสียงคำรามดังมาแต่ไกลในอากาศ จากนั้นร่างหนาก็กระโจนมาหยุดอยู่บนฟากฟ้า
ผู้ที่เพิ่งมาใหม่นี้ปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากากสีเงิน ไอพลังปราณที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนั้นแข็งแกร่งมาก
“ผลตื่นรู้ทางห้าสายสุกแล้ว…ข้าไม่ละโมบ ขอเพียงผลเดียวก็พอ” จ่านคงยืนอยู่บนอากาศอย่างสง่างาม สายตามองลงไปยังร้านที่อยู่ด้านล่าง
ขั้นเทพแห่งสงครามอีกแล้ว!
ตาแก่ขี้เมาจิบสุราอีกอึกพร้อมหรี่ตา
เปี้ยนฉางกงมองจ่านคงด้วยสายตามีความหมาย
ขั้นเทพแห่งสงครามนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ในตรอกแห่งนี้…เพิ่งมีขั้นเทพแห่งสงครามคนหนึ่งสิ้นชีพไป!
จ่านคงมุ่นคิ้วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบสนองคำขอของเขา เขาก้าวกระโจนไปข้างหน้าแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านพอดิบพอดี
ทันใดนั้นความรู้สึกประหลาดก็แล่นเข้ามาในใจ ดลให้เขาหันเข้าไปมองในร้าน
ปัง ปัง!!
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องเคล้าเสียงร้องโหยหวยของอสูรเวท ร่างในชุดแดงร่างหนึ่งหนีหัวซุกหัวซุนออกมาจากร้านด้วยสีหน้าหวาดกลัวสิ้นหวัง
จ่านคงสัมผัสได้ว่าหมอนี่มีปราณขั้นนักพรตยุทธการ
ใบหน้าของเปี้ยนฉางกงซีดเผือด “ไม่นะ! หลิงเฟิงเข้าไปทำอะไรในนั้น”
เมื่อเห็นสภาพหวาดกลัวของมู่หลิงเฟิง เปี้ยนฉางกงก็กระโจนเข้าหาชายหนุ่มทันทีโดยไม่ลังเล
“ผู้อาวุโส…ผู้อาวุโสเปี้ยน ช่วยข้าด้วยขอรับ!”
มู่หลิงเฟิงวิ่งกระเซอะกระเซิงออกมา เมื่อเห็นเปี้ยนฉางกงกำลังพุ่งตรงมาหา เขาก็รู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างรำไร ชายหนุ่มร้องโหยหวนอย่างน่าอดสู
ตาย ตายหมดแล้ว!
อัคคีน้อย ธาราน้อย อสนีน้อย ตายหมดทุกตัวเลย!
เป็นเพราะสุนัขสีดำตัวนั้น เหล่าอสูรเวทระดับเจ็ดต้านทานอุ้งเท้าของมันไม่ได้เลย อสูรเวทระดับเจ็ดสามตัวของเขาถูกสุนัขตัวนั้นฆ่าตายหมด!
เขารู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหลือเกิน ทั้งยังสิ้นหวังจนแทบเป็นบ้า
ไอ้สุนัขนั่น…มันปีศาจชัดๆ!
เปี้ยนฉางกงดูตกใจเป็นอันมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมู่หลิงเฟิงตกใจกลัวแทบสิ้นสติเช่นนี้ เขาดึงชายหนุ่มมายืนข้างกาย รู้สึกได้ถึงพลังงานแก่กล้าจากภายในร้าน
“หา พลังปราณรูปอุ้งเท้าสุนัขรึ”
เปี้ยนฉางกงงุนงงหนัก อุ้งเท้าสุนัขน้อยๆ นั่นทำให้นายน้อยผู้สง่างามแห่งวิหารอสูรโอฬารแทบเสียสติด้วยความหวาดกลัวเช่นนั้นรึ
“ระวัง ผู้อาวุโสเปี้ยน! ก้มลง!”
เมื่อมู่หลิงเฟิงเห็นเปี้ยนฉางกงโง่เง่าพอที่จะพยายามโต้กลับ เขาก็กลัวจนแทบสลบ อสูรเวทสามตัวที่ตายไปนั้นหาใหม่ได้ แต่หากผู้อาวุโสแห่งวิหารเทพเจ้าแห่งดินแดนป่ารกชัฏตาย…คงจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับสำนักแน่!
เปี้ยนฉางกงชะงักไปทันที ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น พลางเรียกเกราะพลังปราณมาคุ้มกันกายตน ลำแสงสว่างขึ้นบนฝ่ามือ งูสีดำตัวเล็กเลื้อยมาพันเกี่ยวแขนเอาไว้
ฟ่อ ฟ่อ งูนั้นแลบลิ้นออกมา ตามมาด้วยพลังปราณแก่กล้าที่แผ่ไปทั่ว
เจ้านี่ก็เป็นอสูรเวทระดับเจ็ดเช่นกัน
เปี้ยนฉางกงโยนงูเล็กใส่อุ้งเท้าสุนัขทันที งูธาราทมิฬระดับเจ็ดตัวนี้เป็นของล้ำค่าสำหรับเขา มันมีความสามารถในการต่อสู้ที่เยี่ยมยอด แม้แต่ขั้นเทพแห่งสงครามที่ไม่ทันระวังตัวก็ยังหลบหนีการโจมตีของมันไม่ได้
งูเล็กตัวนั้นอ้าปากกว้างอย่างดุร้าย พ่นพิษออกมาทางเขี้ยว
อึดใจต่อมา อุ้งเท้าสุนัขก็บดขยี้งูตายคาพื้นด้วยเสียงดังสนั่น งูตัวนั้น…ระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วระเหิดหายไปกลายเป็นเพียงหมอกโลหิตเท่านั้น
ฉิบหาย!
เปี้ยนฉางกงตัวสั่นตั้งแต่หัวจดเท้า ความกลัวพุ่งเข้ามาในดวงตาเหมือนสายน้ำไหลแรง
อสูรเวทระดับเจ็ดถูกทำลายกลายเป็นหมอกเลือดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว…อุ้งเท้าสุนัขนี่น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
เปี้ยนฉางกงตัดสินใจหนีโดยไม่ต้องคิด แต่เขาจะหนีทันหรือไม่
ชายชรากันมู่หลิงเฟิงเอาไว้ เมื่ออุ้งเท้าสุนัขพุ่งเข้าหาพวกเขาทั้งสองอีกครั้ง
ปัง!
เปี้ยนฉางกงหมดที่กำบัง เขาเรียกหอกออกมาแล้วพยายามเหวี่ยงเพื่อโจมตีกลับ
เอื้อก!
แต่กระดูกของชายชรากลับต้องแตกร้าวเหมือนประทัดระเบิด ตามมาด้วยเลือดสดๆ ที่พุ่งออกจากปาก หอกในมือสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที
ร่างของเขาถูกซัดปลิวไปในอากาศ กระแทกใส่กำแพงตรอก เกราะกำบังรอบกายสลายกลายเป็นเศษผง…
อุ้งเท้าสุนัขทำให้ขั้นเทพแห่งสงครามแทบตายคามือ
มู่หลิงเฟิงล้มลงก้นกระแทกพื้น รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นสีขาวดำ
กล้ามเนื้อบนใบหน้าจ่านคงกระตุก เขากระแอมกระไอออกมาเบาๆ จากนั้นก็ชักมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน อุ้งเท้าสุนัขนั้น…ทำให้เขาไปไม่ถูกเช่นกัน
ตรอกเล็กๆ แห่งนี้เงียบสนิทในบัดดล เสียงผู้ฝึกตนหน้าใหม่มาเยือนดังขึ้นเป็นครั้งคราว แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันตรายในตรอก ทุกคนก็ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากในร้านทำลายความเงียบ ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งก้าวออกมาจากเงามืด
ปู้ฟางถือผลตื่นรู้ทางห้าสายสามผลเอาไว้ในมือ พลังปราณที่แผ่ออกมาจากผลไม้นั้นแก่กล้าเป็นอย่างมาก เขาเดินมาที่ทางเข้าร้านพร้อมสุนัขสีดำตัวใหญ่ซึ่งเยื้องย่างด้วยท่าทางเหมือนแมว และเด็กหญิงที่ขนาบอยู่ด้านซ้ายมือ
ภาพแสนประหลาดนี้ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง เมื่อเห็นผลตื่นรู้ทางห้าสายอยู่ระหว่างนิ้วเรียวยาวของชายหนุ่ม ทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าหนัก
ตัวเอก…เผยโฉมแล้ว!