ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 268 น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณ
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 268 น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณ
“อาหารจานไหนหรือที่ท่านร้องเรียนว่าไม่ถูกปาก”
น้ำเสียงของปู้ฟางนิ่งเรียบ สายตาจับจ้องอยู่ที่ชายชราร่างท้วม เขาม่ได้มีท่าทางยกตนข่มท่านแต่อย่างใด ราวกับเป็นคำถามถามไถ่สารทุกข์สุกดิบธรรมดาเท่านั้น
ชายชราร่างท้วมผงะไป รอยยิ้มฉายวาบขึ้นบนใบหน้าขณะมองปู้ฟางด้วยดวงตาเป็นประกาย “เจ้าคงเป็นเถ้าแก่ของร้านนี้สินะ ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานาน ได้เห็นตัวจริงวันนี้ก็ทำให้นึกถึงประโยคที่ว่าวีรบุรุษล้วนเยาว์วัย”
“ข้าเป็นแค่พ่อครัวธรรมดา ไม่ใช่วีรบุรุษอะไร” ปู้ฟางโบกไม้โบกมือพลางยักไหล่ ชายชราผู้นี้ดูเป็นมิตร ท่าทางไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องหาราวแต่อย่างใด
ปู้ฟางดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงตรงข้ามชายชรา บนโต๊ะตรงหน้ามีอาหารอยู่สามอย่าง ได้แก่ข้าวผัดไข่ ปลาดองเหล้า และซี่โครงเปรี้ยวหวาน
ทั้งสามจานถูกชิมหมดแล้ว ข้าวผัดไข่หายไปครึ่งหนึ่ง ปลาดองเหล้าพร่องไปไม่น้อย มีเพียงซี่โครงเปรี้ยวหวานเท่านั้นที่ถูกกินไปชิ้นสองชิ้น
“ฮ่ะๆ ช่างบังเอิญเสียจริง ตาแก่คนนี้ก็เป็นพ่อครัวเช่นกัน ข้าได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่าอาหารของเถ้าแก่ปู้นั้นเลิศรสยิ่งนัก จึงดั้นด้นเดินทางมาไกลมานับพันลี้ คาดไม่ถึงเลยว่าเอาเข้าจริงอาหารเหล่านี้จะด้อยกว่าที่คิดไว้ บอกตามตรงว่าข้ารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย” สีหน้าของชายชราฉายแววผิดหวังขณะส่ายศีรษะไปมา
โอวหยางเสี่ยวอี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังปู้ฟางเม้มปากแน่น นางเชื่อเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าตาแก่ตรงหน้าต้องมาหาเรื่องอย่างแน่นอน
แต่ทั้งชายแก่และโอวหยางเสี่ยวอี้ต่างก็ต้องตะลึงไป เมื่อปู้ฟางทำเพียงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขารวบรวมก้อนพลังปราณเที่ยงแท้ให้ปรากฏขึ้นบนมือแล้วเปลี่ยนมันเป็นตะเกียบคู่หนึ่ง จากนั้นก็คีบซี่โครงเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งเข้าปาก
หลังเคี้ยวอยู่สักพัก คิ้วของชายหนุ่มก็ขมวดมุ่น
“ซี่โครงเปรี้ยวหวานจานนี้มีข้อติมากมาย แต่จะว่าไปฝีมือการทำอาหารของคนเราจะพัฒนาได้ย่อมต้องผ่านการฝึกฝนนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีใครทำอาหารออกมาได้สมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรกหรอก ท่านว่าจริงไหม” ปู้ฟางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตะเกียบพลังปราณเที่ยงแท้ในมือสลายหายไป ชายหนุ่มหันหน้ามามองชายชราร่างท้วม
ชายชราผงะไปเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความจริงใจ แม้แต่ดวงตาก็หยีลงจนกลายเป็นขีดเล็ก
“เถ้าแก่ปู้พูดมีเหตุผลแล้ว เป็นตาแก่ผู้นี้ที่ไม่รู้จักผ่อนปรนเอง”
มุมปากของปู้ฟางยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ข้าเดินทางมาจากดินแดนแสนภูผา ตั้งแต่เจ้าหนูเยี่ยได้กินอาหารรสอร่อยฝีมือเจ้าเข้าไป นางก็เอาแต่พูดพร่ำสรรเสริญความดีงามใส่หูข้าไม่หยุดหย่อน ข้ารำคาญยายเด็กนั่นจะแย่ก็เลยหนีลงเขามา คิดว่าไหนๆ ก็ลงมาแล้ว ควรมาลองชิมรสชาติอาหารฝีมือเถ้าแก่ปู้เสียให้รู้แจ้ง ก่อนหน้านี้ข้าไม่เชื่อว่าเถ้าแก่ปู้จะมีพรสวรรค์อะไร แต่เมื่อได้ยินคำที่เจ้ากล่าว ข้าก็กระจ่างใจทุกอย่าง” ชายชราหัวเราะอย่างปิติยินดี จากนั้นก็โบกมือเรียกน้ำเต้าสีเหลืองแก่ให้ปรากฏขึ้นมา
“เถ้าแก่ปู้ นี่คือของรักของหวงของข้า อยากรู้นักว่ามันจะพอแลกเปลี่ยนกับอาหารฝีมือเจ้าได้หรือไม่” ตาแก่หัวเราะ เขย่าน้ำเต้าสีเหลืองในมือไปมา ของเหลวที่อยู่ด้านในไหลกระทบผนังน้ำเต้าจนเกิดเสียงดัง
หือ? ปู้ฟางอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะสำรวจน้ำเต้าในมือของชายชรา
ชายชรายิ้มกว้างพลางดึงจุกปิดน้ำเต้าออก ทันใดนั้นกลิ่นหอมสดชื่นของกรดน้ำส้มเข้มข้นก็พวยพุ่งออกมา กลิ่นเปรี้ยวเจือด้วยกลิ่นหวานจางๆ กระตุ้นจมูกได้เป็นอย่างดี
ใจของปู้ฟางที่ยังปกติอยู่เมื่อครู่พลันกระตุก ชายหนุ่มจับจ้องไปที่น้ำเต้าไม่วางตาขณะทำจมูกฟุดฟิด
ชายชราพออกพอใจกับปฏิกิริยาของชายหนุ่ม ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้เมื่อได้กลิ่นน้ำส้มสายชูหมักเองสูตรพิเศษของเขา
“แม่หนู ไปหยิบถ้วยเล็กๆ มาใบหนึ่งซิ” ชายชรายิ้มให้โอวหยางเสี่ยวอี้พลางออกคำสั่ง
โอวอยางเสี่ยวอี้อดกลอกตามองบนไม่ได้ แต่กระนั้นนางก็ยังเดินตรงไปที่หน้าต่างห้องครัว พลางร้องขอถ้วยขนาดเล็กจากเซียวเสี่ยงหลงที่กำลังมือระวิงอยู่
“อ้อจริงสิ เถ้าแก้ปู้กลับมาแล้วนะ!”
ไม่นานหลังจากนั้นเซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูก็ออกมาจากครัว ทั้งสองมองปู้ฟางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น อวี่ฝูยังคงมีท่าทีเขินอายอยู่ ขณะที่เซียวเสี่ยวหลงหัวเราะคิกคักไม่หยุดปาก
โอวหยางเสี่ยวอี้ยื่นถ้วยใบเล็กให้ชายชรา พลางส่งเสียงฮึแล้วย่นจมูก
ชายชรายิ้มอ่อนโยน ไม่ใส่ใจกับท่าทีของเด็กหญิงแต่อย่างใด เขาวางถ้วยลงบนโต๊ะจากนั้นก็ค่อยๆ รินน้ำส้มสายชูในน้ำเต้าลงไปเล็กน้อย
หัวใจของปู้ฟางเต้นระรัว ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ปากน้ำเต้า
ควันสีแดงอมดำพวยพุ่งออกมาจากน้ำเต้า ผสานรวมกับคลื่นพลังปราณแปลกประหลาดและกลิ่นเปรี้ยวเข้มข้น
โอวหยางเสี่ยวอี้และคนอื่นๆ ที่อยู่ในร้านต่างก็ได้กลิ่นนี้ ในปากของพวกเขาเริ่มชาหนึบเนื่องจากน้ำลายที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย
“น้ำส้มสายชูชั้นเลิศ!”
ดวงตาของปู้ฟางเป็นประกาย ขณะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด กลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูหลั่งไหลเข้าไปในโพรงจมูก กลิ่นที่เข้มข้นนี้ทำให้จมูกของชายหนุ่มชาหนึบ แต่ก็ให้ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจไปพร้อมกัน
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นน้ำส้มสายชูที่หมักจากผลไม้” ปู้ฟางออกความเห็น
ชายชรารินน้ำส้มสายชูลงในถ้วยแล้วดึงน้ำเต้าเข้าหาตัว หลังจากปิดจุกเรียบร้อยดี เขาก็โบกมือเก็บน้ำเต้าลงไป
“ถูกต้องแล้ว เถ้าแก่ปู้นี่สายตาแหลมคมดีจริง ‘น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณ’ นี้เป็นสิ่งที่ข้าคิดค้นขึ้นมาเองและภูมิใจกับมันมาก” ชายชราผายมือไปยังถ้วยที่ใส่น้ำส้มสายชู จากนั้นก็ดันถ้วยไปตรงหน้าปู้ฟาง
น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณเช่นนั้นหรือ ปู้ฟางใจเต้นรัว เป็นไปได้สูงว่าน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณนี้ไม่ได้หมักจากผลไม้พลังปราณธรรมดา เมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสพลังปราณที่กระเพื่อมไปมารวมทั้งกลิ่นเข้มข้นของน้ำส้มสายชูตรงหน้า เขาก็เดาเอาเองว่ามันน่าจะหมักจากผลไม้พลังปราณระดับเจ็ดทั้งหมดแปดชนิดรวมกัน
ทว่าปู้ฟางก็ยังไม่แน่ใจนัก เขาหยิบถ้วยแล้วค่อยๆ ยกขึ้นจ่อริมฝีปาก ตอนนั้นเองกลิ่นเข้มข้นก็อวลขึ้นในอากาศรอบตัว กลิ่นหวานอ่อนๆ ลอยเข้ามาปะทะใบหน้า
สำหรับพ่อครัวแม่ครัวแล้ว เครื่องปรุงรสอย่างน้ำส้มสายชู สุราและซีอิ๊วจัดว่าสำคัญยิ่ง น้ำส้มสายชูคุณภาพเยี่ยมสักถ้วยอาจเพิ่มรสสัมผัสที่มหัศจรรย์ให้อาหาร ส่วนสุราเลิศรสก็สร้างกลิ่นที่หอมหวนให้อาหารได้
ชายหนุ่มจิบน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณเข้าไปเล็กน้อย ความเปรี้ยวของมันทะลุทะลวงลิ้นของเขาทันที กลิ่นเข้มข้นระเบิดภายในปากและเริงระบำอยู่บนต่อมรับรส รสสัมผัสนี้ทำให้ขนทั่วตัวของปู้ฟางลุกเกรียวขึ้นมา กระนั้นเมื่อความเปรี้ยวจางลงมันก็ยังทิ้งรสหวานที่ทำให้ในใจรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเอาไว้
น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณให้ความรู้สึกเหมือนมีสายธารเย็นฉ่ำไหลเรื่อยไปตามร่าง ทำให้เขาต้องหลับตาลงเพื่อดื่มด่ำรสชาติที่ละเอียดอ่อนของมัน รสสัมผัสนี้อ้อยอิ่งอยู่ในปากและในใจไปพักใหญ่
ใบหน้าของปู้ฟางมีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย รสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านของมันช่วยขับเหงื่อออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“เป็นน้ำส้มสายชูที่วิเศษจริงๆ!” ปู้ฟางเปิดเปลือกตาพลางกล่าวชื่นชมเป็นคำรบสอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ชิมรสชาติน้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ที่ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร
“ฮ่ะๆ แน่นอนสิ ตาแก่ผู้นี้ใช้เวลาหมักน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณนานถึงสิบปี ข้าหมักน้ำส้มสายชูแปดอย่างลงในถังแปดถัง แต่ละถังทำจากเปลือกของต้นผลไม้พลังปราณไม่ซ้ำกัน ทุกปีน้ำส้มสายชูจะถูกสลับสับเปลี่ยนลงไปตามถังต่างๆ ระหว่างนั้นข้าก็คอยหล่อเลี้ยงพวกมันด้วยพลังปราณของตัวเอง ข้าทุ่มเทถึงขนาดนี้ แน่นอนว่าผลลัพธ์ย่อมต้องออกมาดีงามไม่มีผิดหวังแน่!” ชายชราพออกพอใจในตัวเองเป็นอย่างมาก เขาม้วนเคราเล่นไปมาขณะประกาศก้องถึงผลงานชิ้นเอกที่แสนภาคภูมิใจ แถมยังเปิดเผยวิธีการหมักออกมาอย่างสุดแสนสบายใจ เพราะยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่านั้นในการหมักน้ำส้มสายชูชนิดนี้
ปู้ฟางยังดื่มด่ำกับรสชาติที่กรุ่นอยู่ในปากไม่เลิก แต่ก็ไม่คิดขอชิมเพิ่ม น้ำส้มสายชูนั้นควรจิบทีละน้อย การลิ้มรสเครื่องปรุงรสมากเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
ปู้ฟางพินิจรสหวานและเปรี้ยวที่ผสานกันในปากของเขา จากนั้นก็ยกมุมปากขึ้น ทำตาเยิ้มใส่ชายชรา ประกายในดวงตาเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ สายตาเช่นนี้ทำเอาชายชรารู้สึกขนหัวลุกชันไปหมดทั้งตัว
“ท่านผู้เฒ่า เมื่อครู่ท่านบอกว่าอยากลิ้มรสมือของข้าใช่หรือไม่ ข้ากำลังอยากทดลองทำอาหารจานใหม่แต่ยังขาดวัตถุดิบดีๆ บางอย่างอยู่ พอได้ลองชิมน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณของท่าน บอกตามตรงว่าข้าอดใจที่จะทำอาหารจานนั้นไม่ไหวแล้ว” ปู้ฟางเอ่ยช้าๆ
ดวงตาของชายชราร่างท้วมเบิกกว้าง เถ้าแก่ปู้หมายความว่าอย่างไรกัน ต้องการน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณของเขาไปทำอาหารหรือ
“เถ้าแก่ปู้… น้ำส้มสายชูของตาแก่ผู้นี้ล้ำค่ามาก ให้ท่านได้ลองชิมจิบหนึ่งถือว่าใจกว้างมากแล้ว ให้ใช้จำนวนเยอะๆ ไม่ได้หรอก!” เขาใช้เวลาเป็นสิบปีหมักน้ำส้มสายชูชนิดนี้ และถ้าพูดกันตามตรง มันก็ไม่ได้มีเยอะแยะอะไร ไม่อาจยกให้ปู้ฟางเอาไปใช้ทำอาหารเรื่อยเปื่อยได้เด็ดขาด
ปู้ฟางทำเพียงส่ายศีรษะ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วสั่งให้อวี่ฝูไปหยิบถ้วยอีกใบมาจากครัว
เขาวางถ้วยลงตรงหน้าชายชรา แล้วพูดรับรองให้อีกฝ่ายคลายใจด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าไม่ได้ต้องการเยอะหรอก แค่ถ้วยเล็กๆ ก็พอ หากอาหารจานใหม่ของข้าไม่ถูกปากท่าน หรือทำออกมาแล้วไม่คู่ควรกับน้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณของท่าน เช่นนั้นข้าจะทำอาหารทุกรายการที่มีในร้านให้ท่านกิน..โดยไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักเหรียญ”
ชายชราอึ้งไป โอวหยางเสี่ยวอี้ เซียวเสี่ยวหลงและอวี่ฝูที่ยืนอยู่ด้านหลังปู้ฟางต่างก็อ้าปากกว้างด้วยความตกตะลึง
“เถ้าแก่ปู้พูดเช่นนี้… ข้าเกรงใจแย่แล้ว!” ดวงตาของชายชราเป็นประกาย เขารีบโบกมือเรียกน้ำเต้าออกมา จากนั้นก็เทน้ำส้มสายชูเล็กน้อยลงในถ้วย
เกรงใจแย่แล้วมารดาเจ้าสิ… ปู้ฟางหยิบถ้วยที่ใส่น้ำส้มสายชูผลไม้แปดวิญญาณขึ้นมา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย พลางสูดหายใจเฮือกใหญ่
“โปรดรอสักครู่”
จากนั้นเขาก็หันหลังเดินเข้าครัวไปพร้อมถ้วยน้ำส้มสายชูในมือ เตรียมตัวทำอาหารจานใหม่