ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 284 ซุปครีมเปรี้ยวหวานหอมเหมือนต้องมนต์
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 284 ซุปครีมเปรี้ยวหวานหอมเหมือนต้องมนต์
“เขาจะทำอะไรกันแน่!”
“หมอนี่เป็นบ้ารึ! ต่อยแรงขนาดนั้นเดี๋ยวหม้อกระเบื้องก็แตกกันพอดี!”
“นี่เราเรียกอะไรแบบนี้ว่าการทำอาหารได้หรือ ปาหี่มากกว่าละมั้ง”
…
การต่อยหม้อของปู้ฟางส่งผลต่อทุกคนที่มองเขาอยู่ คนเหล่านั้นตกใจหน้าถอดสี การต่อยหม้อนั้นเรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่หยาบคายและมุทะลุอย่างยิ่ง เช่นนี้จะเรียกว่าทำอาหารได้อย่างไรกัน
เว่ยต้าฝูชะงักพลางพ่นลมเยาะออกมา หมัดของปู้ฟางทรงพลังไม่น้อย เขาจินตนาการออกเลยว่าหม้อและมันฝรั่งในหม้อจะมีสภาพเป็นอย่างไรในตอนนี้… น่าเสียดายที่มันฝรั่งซึ่งนึ่งออกมาอย่างสมบูรณ์แบบกลับเสียของไปเสียแล้ว!
แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ หมัดของปู้ฟางซึ่งกระแทกใส่หม้อกระเบื้องไม่ได้ทำให้หม้อแตกแต่อย่างใด ความจริงแล้วมันไม่มีกระทั่งเสียงที่เกิดจากการปะทะด้วยซ้ำ
หมัดของปู้ฟางซึ่งเต็มไปด้วยพลังปราณเที่ยงแท้เหมือนถูกดูดเข้าไปในหม้อ เขาควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้ได้อย่างแม่นยำทุกกระเบียดนิ้ว จนทำให้มันฝรั่งถูกบดแหลกละเอียดทว่าหม้อไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้ได้เที่ยงตรงเช่นนี้
หมัดนั้นพุ่งเข้าใส่มันฝรั่งและทำให้มันแหลกพอดี ทั้งยังติดอยู่ที่กำปั้นของชายหนุ่มตอนที่เขายกมือขึ้นมาด้วย ปู้ฟางต่อยมันซ้ำๆ เหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน
ทว่าหมัดแต่ละหมัดที่ส่งไปนั้นไม่ได้ทำให้หม้อกระเบื้องที่แสนบอบบางแตกสลายแต่อย่างใด ผู้คนรอบกายล้วนตกอกตกใจกับความจริงข้อนี้เป็นอันมาก
เด็กหนุ่มหน้าตาใสซื่อประหลาดใจมากเสียจนอ้าปากค้าง เขาได้กลิ่นมันฝรั่งหอมฉุยกระจายอยู่ในอากาศ เป็นกลิ่นของมันฝรั่งนึ่งที่ถูกบดซึ่งส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ
ปู้ฟางต่อยหม้ออีกสองสามครั้ง สีหน้าของชายหนุ่มยังเรียบเฉยเหมือนเดิมตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เขาเคร่งขรึมจริงจังเป็นอันมาก เนื่องจากทุกครั้งที่ต่อยลงไปต้องควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้ให้พอดี นี่เป็นเคล็ดลับเดียวกับตอนที่ชายหนุ่มทำขนมไหว้พระจันทร์ผ้าไหมพันชั้น
ทุกครั้งที่ต่อยลงไป พลังปราณเที่ยงแท้ของเขาก็แทรกซึมเข้าไปในมันฝรั่ง ทำให้รสสัมผัสของมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พลังปราณที่หมัดของชายหนุ่มสลายหายไป ส่วนมันฝรั่งซึ่งถูกบดติดอยู่ที่กำปั้นก็ตกลงไปในหม้อดังเดิม ไอร้อนพุ่งขึ้นมาเป็นควันฉุย
ชายหนุ่มหยุดทำมันฝรั่งบด จากนั้นก็หยิบไม้ระแนงออกจากหม้อ เขาล้างหม้อแล้วเทน้ำสะอาดลงไป เพื่อเตรียมตัวทำซุป
ปู้ฟางใส่เห็ดหั่นเต๋าลงในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน จากนั้นก็ใช้ไม้พายโลหะคน กลิ่นหอมของเห็ดลอยออกจากหม้อ ชายหนุ่มมีสีหน้าพึงพอใจทันที
ขณะที่ซุปเห็ดกำลังเดือด เขาก็หยิบมันฝรั่งบดมาหยิบมือหนึ่งแล้วใส่ลงไปในหม้อ มันฝรั่งจมลงไปที่ก้นหม้อที่มีซุปเห็ดเข้มข้น
ชายหนุ่มทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูง ก้อนมันฝรั่งบดที่เขาออกมาปั้นเป็นทรงกลมขนาดเล็กพอดิบพอดี
เมื่อใส่มันฝรั่งบดจนหมดเขาก็เอาฝาหม้อปิดกลับลงไป จากนั้นก็รวบรวมและควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้ในกาย คอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหารภายในหม้อ พลังปราณเที่ยงแท้ถูกส่งเข้าไปในหม้อเพื่อควบคุมการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยของวัตถุดิบ
การทำอาหารด้วยพลังปราณเที่ยงแท้เป็นทักษะพิเศษของชายหนุ่ม และตอนนี้ที่พลังปราณของเขามีระดับสูงมากพอ การใช้พลังปราณเที่ยงแท้ปริมาณน้อยนิดเช่นนี้จึงนับเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
น้ำซุปในหม้อกลายเป็นสีเหลืองส้มส่งกลิ่นหอมเข้มข้น กลิ่นของมันเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเห็ดและมันฝรั่ง
ซุปเดือดปุดเต็มไปด้วยฟองอากาศ น้ำที่เคยใสตอนนี้เข้มข้นและงวดขึ้น ชายหนุ่มคนซุปในหม้อแล้วตักขึ้นมาหนึ่งทัพพี น้ำซุปเข้มข้นเนียนนุ่มเหมือนผ้าไหมล้นออกจากสองข้างของทัพพี
ชายหนุ่มลองชิมดูแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติเข้มข้นของวัตถุดิบในปาก เป็นกลิ่นหอมเข้มของอาหารที่ทำจากเห็ด จากนั้นชายหนุ่มก็ใส่ผักลงไปในซุปเพื่อเพิ่มสีสัน ทำให้อาหารจานนี้ดูน่ากินยิ่งขึ้นไปอีก
ขณะที่ซุปกำลังเดือด ปู้ฟางก็ใส่น้ำส้มสายชูและซอสพริกลงไป ตอนแรกเขาตั้งใจจะใส่พริกธรรมดา แต่เนื่องจากไม่ได้เตรียมมาจึงต้องใช้ซอสพริกแทน
แม้วัตถุดิบที่เตรียมไว้ให้จะมีไม่มาก แต่ก็เรียกได้ว่าครบถ้วนทุกสิ่งอย่าง ทำให้งานของชายหนุ่มง่ายขึ้นมากโข
ชายหนุ่มหยิบชามกระเบื้องสะอาดขึ้นมาแล้วตักซุปใส่ลงไป กลิ่นเข้มข้นเจือเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูลอยฟุ้งไปในอากาศ ทำให้ใครก็ตามที่ได้กลิ่นต่างพากันน้ำลายสอ ผู้คนที่อยู่รอบกายกลืนน้ำลาย ดวงตาจ้องไปที่ซุปชามนั้นไม่วางตา
แค่กลิ่นของซุปก็กินขาดแล้ว ถึงอย่างไรก็อร่อยแน่นอน เอาหัวเป็นประกันได้!
“ซุปครีมเปรี้ยวหวาน ลองชิมดู”
ปู้ฟางส่งซุปในชามกระเบื้องให้เว่ยต้าฝู ชายวัยกลางคนมีสีหน้าจับต้นชนปลายไม่ถูกขณะรับชามมาจากปู้ฟาง พอได้สติก็มองหน้าชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง
ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นพ่อครัวฝีมือฉกาจที่มีทักษะการทำอาหารยอดเยี่ยมหาตัวจับยาก มีประสบการณ์ยิ่งกว่าพ่อครัวที่อายุมากกว่าบางคนด้วยซ้ำ สำหรับชายที่อายุเพียงเท่านี้ ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์โดยแท้
แต่เว่ยต้าฝูก็เบนความสนใจกลับมาที่ซุปครีมเปรี้ยวหวานในมือทันที
ตัวซุปมีสีเหลืองอมส้ม แต่งแต้มด้วยสีเขียวของผักที่ลอยอยู่ข้างบน สีขาวดำของเห็ดทำให้เกิดเป็นภาพที่ตัดกัน ขับด้วยสีเหลืองทองของมันฝรั่ง
หากดูจากความสวยงามเพียงอย่างเดียว ซุปครีมเปรี้ยวหวานนี้ไม่ได้เลิศเลอมาก แต่หากรวมกลิ่นเข้าไปด้วย ก็จัดได้ว่าน่าหลงใหลชวนชิมไม่น้อยทีเดียว
ชายวัยกลางคนใช้ช้อนกระเบื้องตักซุปขึ้นมา ความนุ่มเนียนเหมือนผ้าไหมของซุปทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอันมาก ซุปร้อนไหลลงลำคอแข้าสู่ช่องท้องอย่างไม่ติดขัด ภายในปากเต็มไปด้วยรสชาติเข้มข้นของเห็ดและมันฝรั่ง มีความเปรี้ยวเจือเผ็ดเล็กน้อย ทำให้ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
อร่อย!
เว่ยต้าฝูกลืนซุปลงท้องไปแล้วตักขึ้นมาอีกช้อนอย่างทนไม่ไหว คราวนี้ในช้อนมีเห็ดอยู่ด้วย เห็ดนั้นอ่อนนุ่มต้านฟัน ความร้อนของซุปทำให้ชายวัยกลางคนพ่นลมออกจากปาก
เขาซู้ดปาก เหงื่อเกาะพราวบนจมูกเพราะรสชาติเปรี้ยวอ่อนๆ ที่ชวนให้รู้สึกสดชื่น
“สุดยอดไปเลย!”
เว่ยต้าฝูตื่นเต้นมากพลางตักซุปขึ้นมาอีกช้อน คราวนี้ชายวัยกลางคนอยากลองมันฝรั่งบดสีเหลืองทอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสงสัยใคร่รู้มากที่สุด
หลังจากที่มันฝรั่งสุกเรียบร้อยแล้ว ผิวของมันก็เรียบตึงขึ้นเหมือนมีอะไรห่อหุ้มเอาไว้ ผิวนั้นอ่อนนุ่มเรียบลื่นกัดง่าย รสชาติของมันฝรั่งบดระเบิดออกมาในปากทันที
รสสัมผัสของมันนุ่มนวลราวกับเป็นเต้าหู้ แต่ก็ยังสู้ฟันเหมือนทรายละเอียด
วัตถุดิบที่ดูเหมือนจะไปด้วยกันไม่ได้ทั้งสองชนิด รวมถึงรสชาติเปรี้ยวหวานพุ่งขึ้นสู่สมองของเว่ยต้าฝู ทำเอาเขาคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
หลังจากที่กินซุปครีมเปรี้ยวหวานชามใหญ่จนหมด ริมฝีปากของเว่ยต้าฝูก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ปลายจมูกเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเยอะกว่าเดิมเสียอีก
“ฟู่… ฟู่…”
เขาหายใจหอบ แต่ภายในกลับผ่อนคลายเป็นอันมาก รสชาติเปรี้ยวหวานของซุปครีมนี้สอดประสานกันเป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกราวกับต้องมนต์ ชายวัยกลางคนนึกภาพตนเองแหวกว่ายไปในซุปครีมท่ามกลางเห็ดสีขาวดำ มีสาวงามผิวขาวผ่องกำลังใช้มืออ่อนนุ่มนวดคลึงร่างกายของเขาอยู่
รสชาติของมันฝรั่งบดแสนวิเศษทำให้เขารู้สึกเหมือนหลุดออกจากโลกแห่งความจริงไปชั่วขณะ
ชายวัยกลางคนกินน้ำซุปหมดจนหยดสุดท้าย ก่อนที่สีหน้าเหมือนถูกมนต์สะกดจะมลายหายไป เขากลับมาทำหน้านิ่งทั้งที่แก้มเป็นสีแดงก่ำ
หลายคนรอบกายมองเว่ยต้าฝูด้วยความประหลาดใจ เว่ยต้าฝูที่ตกหลุมเสน่ห์ของซุปทำให้ทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสีหน้าเช่นนี้จากหัวหน้าหน่วยโรงครัว
“ข้า…” เว่ยต้าฝูพยายามอธิบาย อันที่จริงเขาควรจะวิจารณ์อาหารจานนี้ให้เละไม่เหลือชิ้นดี เพื่อให้ชายหนุ่มตรงหน้าอับอายจนต้องซุกแผ่นดินหนี… แต่สุดท้ายเขากลับกินหมดอย่างเอร็ดอร่อยเสียนี่
เว่ยต้าฝูทำหน้านิ่ง ชี้ไปที่หม้อซุป กลิ่นหอมของซุปทำให้เขากลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้
“ซุปนี่… การเตรียมวัตถุดิบ… เอ่อ การปรุงรส… เอ่อ คือ…”
ชายวัยกลางคนพยายามทำตัวเรื่องมากแต่ก็พูดวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนตามนิสัยออกมาไม่ได้สักคำ สถานการณ์น่าอายนี้ทำให้เขาหน้าแดงมากยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่ใหญ่ ข้าขอ… ชิมสักชามได้หรือไม่”
เด็กหนุ่มหน้าตาใสซื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป กลิ่นของซุปนี้หอมยั่วยวนใจเกินไป ปู้ฟางไม่ได้ปฏิเสธแต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้ทุกคนมาตักชิมกันเอาเอง ทุกคนที่อยู่รอบกายเลิกทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ แล้วพุ่งมาหาอาหารตรงหน้าทันที ต่างพากันแย่งชิงเพื่อให้ได้กินซุปสักชาม
“สวรรค์ช่วย! อร่อยมาก! รสเผ็ด… กับรสเปรี้ยวนี้!”
“เห็ดนี่ทั้งนุ่มและเหนียวไปพร้อมๆ กันได้อย่างไร… ข้าว่าข้ากำลังมีความรัก!”
“มันฝรั่งหรือนี่ ทั้งนุ่มทั้งละมุน แถมยังอร่อยจนแทบไม่อยากเชื่อ หมอนี่ทำได้อย่างไรกัน น่าทึ่งเสียจริง!”
…
เสียงอุทานด้วยความตื่นเต้นดังไปทั่วค่ายของหน่วยโรงครัว
ผู้ที่ได้กินซุปครีมเปรี้ยวหวานของปู้ฟางต่างตกใจเป็นอันมาก และมีสีหน้าเหมือนต้องมนต์ไปตามๆ กัน
เด็กหนุ่มหน้าตาใสซื่อกินซุปหมดชามแล้วกำลังพยายามแอบตักกินอีกชาม
ปู้ฟางยิ้มมุมปากพลางเช็ดหยดน้ำออกจากมือ เขาหันไปมองเว่ยต้าฝูที่กำลังพยายามควบคุมความอยากอาหารของตนเอง จากนั้นก็พึมพำถาม “เป็นอย่างไร พอใจกับทักษะของข้าหรือไม่”