ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 377 นายท่านต้องกำราบเจ้าดำให้จงได้
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 377 นายท่านต้องกำราบเจ้าดำให้จงได้
“ภารกิจฉุกเฉิน เดินทางไปยังหนองน้ำปราณมายาและช่วงชิงเหมืองผลึกขนาดใหญ่มาให้ได้ นอกจากนั้นนายท่านยังต้องค้นหา าสมบัติที่ซ่อนอยู่แล้วนำมาทำอาหาร รางวัลของภารกิจคือ พลังปราณเที่ยงแท้ที่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละยี่สิบ
เสียงเคร่งขรึมและจริงจังของระบบดังก้องอยู่ในใจของปู้ฟาง เสียงนี้ดังขึ้นตอนที่เขากำลังจะผล็อยหลับ มันจึงฟัง งเหมือนเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังในหัวตอนครึ่งหลับครึ่งตื่น ปู้ฟางตกใจจนเกือบร่วงจากเก้าอี้
เขาลืมตาซึ่งยังตื่นไม่เต็มที่แล้วยกมือขึ้นมาตบหน้าอกตัวเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นขมึงทึง
“ระบบ ครั้งหน้าถ้ามีภารกิจอีก ช่วยส่งสัญญาณเตือนข้าก่อน! เล่นโผล่มาในหัวกะทันหันเช่นนี้ เดี๋ยวข้าก็หัวใจวายต ตายกันพอดี”
ปู้ฟางบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจหลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้
“ภารกิจฉุกเฉินจะเริ่มสามวันหลังจากนี้ นายท่านต้องเตรียมตัวให้ดี สำหรับภารกิจนี้ นายท่านต้องพาเจ้าดำไปด้วย นายท่านต้องทำให้เจ้าดำยอมไปด้วยให้ได้ภายในสามวัน หากเจ้าดำไม่ยอมเดินทางไปด้วยจะถือว่าภารกิจล้มเหลว นายท่าน จะถูกหักพลังปราณเที่ยงแท้ออกร้อยละสิบ
เสียงของระบบเคร่งขรึมเหมือนเช่นเคย
ทว่าเนื้อหาที่ระบบพูดกลับทำให้ปู้ฟางขมวดคิ้ว เขาประหลาดใจและสับสนกับข้อเรียกร้องของระบบ “ทำไมต้องให้เจ้าดำ ไปด้วย ทำไมถึงไม่ใช่เจ้าขาว ทำไมต้องเป็นเจ้าหมาขี้เกียจตัวนั้น”
ปู้ฟางกะพริบตาปริบก่อนจะแยกเขี้ยวยิงฟันน้อยๆ เขาหันไปมองเจ้าดำที่กำลังหมกมุ่นกับการเลียจานซี่โครงผัดเปรี้ยว วหวาน
“ระบบหมายความว่าข้าต้องเกลี้ยกล่อมให้เจ้าดำไปทำภารกิจฉุกเฉินกับข้าอย่างนั้นรึ” ปู้ฟางพึมพำกับตนเองเบาๆ
“ถูกต้องแล้ว”
เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้งอย่างปุบปับ ทำเอาปู้ฟางที่กำลังครุ่นคิดถึงกับกระโดดโหยงด้วยความตกใจ
“เลิกแกล้งข้าสักที เจ้าคิดว่าข้าจะกล่อมให้ไอ้หมาขี้เกียจนี่เดินทางไปด้วยได้จริงรึ ระบบ เจ้าไม่ได้ล้อข้าเ เล่นใช่ไหม”
มันจะดีเพียงใดหากเจ้าขาวเป็นผู้ติดตามเขาแทน เจ้าขาวทั้งเชื่อฟังและน่ารัก หนำซ้ำพุงที่อวบอ้วนของมันก็ให้ส สัมผัสที่ยอดเยี่ยมถูกใจ
ส่วนเจ้าสุนัขตัวอ้วน… ปู้ฟางรู้สึกว่าไม่ควรพูดถึงจะดีกว่า แค่คิดว่าต้องพาเจ้าดำไปทำภารกิจด้วยเขาก็รู้สึก กเหนื่อยใจแล้ว
ทว่าปู้ฟางก็ตกตะลึงไม่น้อยที่รางวัลของภารกิจฉุกเฉินครั้งนี้ค่อนข้างล่อใจ
รางวัลคือพลังปราณเที่ยงแท้ร้อยละยี่สิบ… มันจะช่วยลดเวลาการทำงานของปู้ฟางได้ เพื่อให้ได้รางวัลพลังปราณเที่ ยงแท้ร้อยละยี่สิบมาครอง ปู้ฟางจึงคิดว่าต้องลองดูสักตั้ง แค่หลอกล่อให้สุนัขตัวหนึ่งตามไปด้วยเท่านั้นเองไม่ใช ช่รึ แค่ล่อลวงให้สุนัขอ้วนๆ ตัวหนึ่งตามเขาไปเท่านั้นเอง
“ข้าทั้งหล่อทั้งฉลาดขนาดนี้ ต้องทำภารกิจสำเร็จแน่”
ขณะที่ปู้ฟางกำลังครุ่นคิด ร่างหลายร่างก็พุ่งเข้ามาขัดจังหวะเขาจากนอกร้าน
ปู้ฟางเงยหน้ามองคนพวกนั้น พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่นางหนี่หยันคนงามและชายชราหนวดเคราขาว ส่วนพี่น้องตระ ะกูลเซียวยืนอยู่ข้างหลังคนทั้งคู่
อาการเศร้าโศกที่เคยฉาบอยู่บนใบหน้าของเซียวเสี่ยวหลงสลายหายไปหมดสิ้น ตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มมีสีแดงเรื่อ ผ ผิวขาวนวลเนียน ค่อนข้างมีชีวิตชีวาไม่น้อย
“เถ้าแก่ปู้อรุณสวัสดิ์” เซียวเสี่ยวหลงทักทายปู้ฟางด้วยน้ำเสียงรื่นเริง
แทนที่จะกล่าวทักทายตอบ ปู้ฟางกลับจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งเฉย ตอนนั้นเองใบหน้าของเซียวเสี่ยวหลงก็เปลี่ย ยนเป็นสีแดงเหมือนตูดลิง จากนั้นชายหนุ่มก็รีบวิ่งเข้าครัว แล้วเริ่มฝึกฝนทักษะการทำอาหารโดยไม่ต้องให้ปู้ฟางเอ อ่ยปากเตือน
“หากมาสายเช่นนี้อีก เจ้าเตรียมรับผลกรรมได้เลย…” ปู้ฟางลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางตะโกนไล่หลังเซียวเสี่ยวหลงที่เ เข้าครัวไปแล้ว
เซียวเสี่ยวหลงเกือบลื่นล้มขณะที่ความเศร้าสลดเข้าเกาะกุมหัวใจ
ตั้งแต่ที่อวี่ฝูไม่อยู่ เถ้าแก่ปู้ก็เหลือแค่เขาคนเดียวที่เอาไว้คอยรังแก
เซียวเยียนอวี่มองปู้ฟางด้วยดวงตาอ่อนโยน จากนั้นก็ยกมือขาวผ่องยื่นถุงเงินขนาดใหญ่ซึ่งมีผลึกเต็มถุงให้ปู้ฟาง
“เถ้าแก่ปู้ ในนี้มีหนึ่งหมื่นผลึก แต่ข้ารู้ว่าต่อให้ตระกูลเซียวมอบผลึกมากกว่านี้ให้ท่าน มันก็ไม่พอทดแทน บุญคุณที่ท่านมีต่อพวกเรา”
ดวงตาที่ชุ่มชื้นและสดใสของเซียวเยียนอวี่จ้องปู้ฟางเขม็งขณะกล่าวขอบคุณชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงจริงใจ
หลังจากฟังหญิงสาวพูด ปู้ฟางก็รู้สึกเขินเล็กน้อย กระนั้นไม่รู้เพราะความหน้าด้านหรือเหตุผลอื่น สีหน้าของเขากลั บไม่เปลี่ยนไปเลยตอนยื่นมือไปรับถุงเงินมา
โอวหยางเสี่ยวอี้ร้องเพลงเบาๆ ขณะเดินมาที่ร้านอย่างอารมณ์ดี
เด็กหญิงต้องมาทำงานที่นี่ทุกวัน นางจึงค้นพบความเปลี่ยนแปลงภายในร้านได้อย่างรวดเร็ว เด็กหญิงเดินวนรอบต้นตื่นร รู้ทางห้าสายกับต้นผลเมฆาม่วงแล้วพบว่าพื้นที่ในร้านใหญ่ขึ้น
“นายท่านตัวเหม็น… เหตุใดวันนี้ร้านจึงดูใหญ่โตขึ้น” โอวหยางเสี่ยวอี้มองปู้ฟางจากนั้นก็เอ่ยถาม
“ก็… มันขยายขึ้นไง” ปู้ฟางตอบเสียงนิ่ง ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขายังกลัดกลุ้มอยู่ว่าควรเกลี้ยกล่อมเจ้าด ดำอย่างไรให้มันยอมตามไปทำภารกิจด้วย
เหมืองผลึกในหนองน้ำปราณมายารึ
เมื่อนึกถึงตำแหน่งของภารกิจฉุกเฉิน เขาก็อดรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ ที่ตั้งของมันคือหนองน้ำปราณมายาอีกแล้ว ว
เหมืองผลึกที่ว่านี้คืออะไร มันต่างจากเหมืองผลึกที่เจ้าอ้วนจินเคยพูดถึงตรงไหนกัน
“นายท่าน จงจำไว้ว่าเหมืองผลึกเป็นแค่สายแร่ผลึกที่ธรรมดาที่สุด มันตั้งอยู่ลึกลงไปใต้ดิน คุณภาพของผลึกถือว ว่าต่ำและมีสิ่งเจือปนจำนวนมาก
“ส่วนเหมืองผลึกขนาดใหญ่นั้นตั้งอยู่ใต้ดินเช่นกัน กระนั้นมันก็เป็นเหมืองผลึกซึ่งสร้างผลึกคุณภาพสูงจำนวนมหาศาล ลออกมา ผลึกเหล่านี้มีสิ่งเจือปนน้อย ผลึกเป็นหน่วยเงินตราหนึ่งในทวีปมังกรซ่อนเร้น และถือเป็นสิ่งจำเป็นในการฝึ กปราณ นอกจากนี้ยังมีตาผลึกซ่อนอยู่ในเหมืองผลึกขนาดใหญ่แห่งนี้ด้วย” ระบบอธิบายให้ปู้ฟางฟัง
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของระบบ ปู้ฟางก็เข้าใจความต่างระหว่างสองสิ่งในที่สุด เหมืองผลึกขนาดใหญ่คือเหมืองผลึกเช่น นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีมูลค่ามากกว่า ที่สำคัญมันยังมีสายแร่ของตาผลึกอยู่ด้วย เป้าหมายของภารกิจครั้งนี้ คือการครอบครองตาผลึก
“พูดง่ายๆ คือเหมืองผลึกขนาดใหญ่มีตาผลึกสามก้อน หนึ่งในนั้นเป็นตาผลึกแข็งที่มีราคาค่อนข้างต่ำ ส่วนตาผลึก ของอีกสองก้อนไม่แข็งและค่อนข้างล้ำค่า มีวัตถุลึกลับซ่อนอยู่ในนั้น วัตถุลึกลับที่ว่าอาจเป็นของมีค่าหรือโอส สถทิพย์จากโบราณกาล หรืออาจเป็นสิ่งมีชีวิตบางประเภทก็ได้…”
ระบบจะอธิบายเรื่องใหม่ๆ และคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ปู้ฟางต้องเจอให้ชายหนุ่มฟังเสมอ เหตุผลเดียวที่ระบบยอมเสียเวลาอธิ บาย คือปู้ฟางจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้เพื่อที่จะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง
หลังจากฟังคำอธิบายของระบบ ปู้ฟางก็สนใจตาผลึกขึ้นมา
‘ระบบ เจ้าคิดว่า… ตาผลึกที่ว่าจะมีมังกรขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ยุคกำเนิดโลกหรืออะไรเช่นนั้นไหม’ ปู้ฟางเริ่มฟุ้ง งซ่านและกำลังเดาสุ่มไปเรื่อย
“นายท่านวางใจได้ ไม่มีตาผลึกใดสามารถเก็บอสูรเวทขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ยุคกำเนิดโลกได้ พลังที่เกิดจากเหมืองผล ลึกขนาดใหญ่ค้ำจุนอสูรเวทขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่จำศีลอยู่ไม่ได้”
หลังจากรู้ตัวว่ากำลังคิดมากไป ปู้ฟางก็เริ่มถามคำถามเกี่ยวกับภารกิจ
หนี่หยันกับคนอื่นๆ เริ่มสั่งอาหาร
หลังรับรายการอาหารจากโอวหยางเสี่ยวอี้ ปู้ฟางก็ตรงเข้าครัวแล้วเริ่มทำอาหาร
ผู้อาวุโสสูงสุดนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้ พลางมองปู้ฟางที่กำลังเดินเข้าครัวด้วยสายตาลุ่มลึก อาการบาดเจ็บของเ เขาหายเป็นปลิดทิ้งหลังจากกินพระกระโดดกำแพงเข้าไปเมื่อวันก่อน หากเปรียบเทียบกันแล้ว ประสิทธิผลของมันน่าประทับใจ จยิ่งกว่าโอสถทิพย์ทั่วไปเสียอีก เรื่องนี้ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดใส่ใจร้านนี้ยิ่งกว่าเดิม เขากวาดตามองร้านของป ปู้ฟางอย่างเอาจริงเอาจัง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นปู้ฟางผู้ลึกลับ สุนัขอ้วนซึ่งกำลังกินอาหารอยู่ตรงทางเข้าร้าน หรือหุ่นเชิดที่ยืนจับตาดูทุกสิ่งอยู ในครัว ทั้งหมดล้วนมีรัศมีลึกล้ำและลึกลับไม่น้อย
ผู้อาวุโสสูงสุดกำลังจะหยิบยันต์ขึ้นมาเพื่อคำนวณบางอย่าง เขาอยากรู้ความลับที่รายล้อมตัวปู้ฟางมากกว่านี้ เพราะ รู้สึกว่าเป็นได้ไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตน่าเกรงขามอย่างสุนัขสีดำตัวนั้นจะมาเป็นสุนัขเฝ้าร้านให้คนธรรมดาๆ ปู้ฟางคน นนี้ต้องมีสถานะและภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่
หรือชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นทายาทของยอดฝีมือจากสำนักอื่นในทวีปมังกรซ่อนเร้นกัน
บางทีปู้ฟางอาจจะเป็นสุดยอดฝีมือ เขาซ่อนพลังของตัวเองไว้แล้วแสร้งทำเป็นอ่อนแอขณะมาเปิดร้านที่นี่ ยิ่งครุ่นคิ ดชายชราก็ยิ่งมีคำถามในศีรษะมากขึ้น
ทว่าก่อนที่จะทันหยิบยันต์ขึ้นมาค้นหาความลับที่รายล้อมร้านนี้อยู่ ร่างของผู้อาวุโสสูงสุดก็สั่นเทิ้ม เขารู้ส สึกอึดอัดหายใจไม่ออก หัวใจเต้นถี่รัว
รัศมีกดดันรุนแรงพุ่งออกมาจากร้านและทำให้ยันต์หยกในมือของชายชราแตกเป็นเสี่ยง
ผู้อาวุโสสูงสุดมึนงงเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด หัวใจบีบรัดรุนแรงจนทำให้ต้องหยุดการกระทำลง ช ชายชราไม่กล้าขยับกล้ามเนื้อแม้แต่ส่วนเดียว
ชัดเจนแล้วว่าร้านนี้… น่าหวาดผวาและน่ายำเกรงเกินไป
ผู้อาวุโสสูงสุดเกือบได้รับผลกระทบจากการสะท้อนกลับอย่างรุนแรงเพราะพยายามเสาะหาเบาะแสของปู้ฟาง ประหนึ่งว่าภูมิห หลังของชายหนุ่มผู้นี้เป็นความลับสวรรค์ มีพลังมาหยุดเขาไม่ให้สอดรู้สอดเห็นความลับของคนผู้นี้ เขารู้สึกว่าตัว วเองโชคดีแล้วที่ระแวดระวังตัวและรีบยอมแพ้อย่างรวดเร็ว
หนี่หยันมองผู้อาวุโสสูงสุดด้วยความประหลาดใจ ก่อนหันมองยันต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ป่นปี้อยู่บนมือของชายชรา หญิงสา าวที่หน้าตาสะสวยจนใจเจ็บยกมุมปากขึ้นน้อยๆ
นางไม่สนใจสถานะที่แท้จริงของปู้ฟาง สิ่งเดียวที่สนคืออาหารรสอร่อยของอีกฝ่าย ไม่ได้อยากรู้ตัวตนหรือสถานะของ งคนผู้นี้แม้แต่น้อย
อาหารกลิ่นหอมหลายจานถูกยกออกจากครัวมาวางตรงหน้าพวกเขา
ดวงตาของหนี่หยันเจิดจ้าขึ้นทันทีก่อนจะเริ่มสวาปามอย่างสุขใจ
ตอนที่ผู้อาวุโสสูงสุดมองปู้ฟาง สายตาของเขามีร่องรอยความกลัวปะปนอยู่ ปู้ฟางรู้สึกงุนงงเล็กน้อยกับสายตาของอีกฝ ฝ่าย
ทำไมชายชราถึงมองข้าด้วยสีหน้าประหลาดเช่นนี้ หรือว่าข้าจะหล่อขึ้นกันนะ
กระนั้นเขาก็ไม่คิดแยแสผู้อาวุโสสูงสุด หลังจากทำอาหารตามที่หนี่หยันและคนอื่นๆ สั่งหมดแล้ว เขาก็ปรี่มาที่ทา างเข้าร้านแล้วเดินเตร่ไปเตร่มา
ภายใต้สายตางุนงงของทุกคน ปู้ฟางยกชายชุดคลุมขึ้นแล้วนั่งยองๆ กับพื้น จากนั้นก็ฉีกยิ้มโง่ๆ ให้เจ้าสุนัขอ้วน ที่กำลังง่วนอยู่กับการกินซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานตรงหน้า