ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 378 หากยังทำนิสัยเช่นนี้ ระวังจะไม่มีสุนัขสาวมาหมายปอง
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 378 หากยังทำนิสัยเช่นนี้ ระวังจะไม่มีสุนัขสาวมาหมายปอง
นครมหาอสรพิษอันแสนยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ในหนองน้ำปราณมายา นครแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลและโอ่อ่าเป็นอันมาก กำแพงเมืองที่ล้อมรอบนครอยู่สูงเสียดฟ้าจนแทบบดบังท้องฟ้าไปทั้งผืน
บนกำแพงเมืองมีทหารมนุษย์อสรพิษมากมายนับไม่ถ้วนกำลังถืออาวุธคุ้มกันเมืองอยู่
ทหารทุกตนล้วนมีกำลังใจดีและกระตือรือร้นเป็นอันมาก ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายกล้าระยิบระยับ
ประมุขอสรพิษเป็นผู้สร้างนครมหาอสรพิษให้ยิ่งใหญ่ จนกลายมาเป็นสถานที่อันแสนสุขสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์อสรพิษ ทุกตนล้วนรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้อย่างยิ่งยวด และภูมิใจที่ได้อาศัยอยู่ในนครอันแสนโอ่อ่าแห่งนี้มาก
บรรดามนุษย์อสรพิษจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่อยู่ภายในหนองน้ำปราณมายา ต่างพากันหลั่งไหลมายังนครแห่งนี้เหมือนมาแสวงบุญ
หนองน้ำปราณมายาตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจักรวรรดิวายุแผ่ว ด้านตะวันตกของหนองน้ำติดกับมหาสมุทรไร้ขอบเขต ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุดในดินแดนแถบนี้
สตรีรูปงามผู้หนึ่งกำลังยืนอยู่บนภูเขาสูงชันริมทะเล นางเป็นมนุษย์อสรพิษที่มีรูปร่างและใบหน้างดงามหยดย้อย ผมสีเขียวที่ยาวสยายอยู่บนหลังปลิวไสวไปตามสายลมจากทะเล ท่อนล่างของร่างกายเป็นหางงูสีน้ำเงิน ส่วนท่อนบนเป็นร่างกายสตรีหุ่นอวบอัด
สตรีผู้นี้คือประมุขอสรพิษแห่งนครมหาอสรพิษ
นางขดหางเป็นวงกลมขณะยืนอยู่บนหน้าผาสูงชัน ดวงตาคู่สวยมองไปยังกระแสคลื่นที่ซัดกระทบหน้าผาเป็นระยะ ทิ้งหยดน้ำทะเลไว้บนใบหน้าของนาง
หยดน้ำเหล่านี้มีกลิ่นที่ทั้งเค็มและคาวของทะเล เป็นกลิ่นของมหาสมุทรโดยแท้จริง ทะเลนั้นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและล่อตาล่อใจผู้ฝึกตนมากหน้าหลายตา หากได้ตะลุยไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ก็มีความเป็นไปได้มากว่าพวกเขาอาจเจอโชคหล่นทับครั้งใหญ่ยิ่งกว่าการแสวงโชคบนผืนดิน
ขณะนี้ประมุขอสรพิษติดอยู่ที่คอขวดของปราณขั้นเซียนเทพ เพื่อที่จะตะลุยผ่านคอขวดนี้ไปให้ได้ นางจึงตั้งใจจะชิงหมื่นไฟประลัยกัลป์มาเป็นของตนเพื่อบรรลุไปสู่ปราณขั้นที่สูงกว่า แต่สุดท้ายนางก็ทำไม่สำเร็จ
นางนำหมื่นไฟประลัยกัลป์มาไว้ในครอบครองไม่ได้
ในเมื่อไม่มีหมื่นไฟประลัยกัลป์ ก็เป็นเรื่องยากยิ่งที่นางจะทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพลงได้ ดังนั้นนางจึงเหลือเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น ประมุขอสรพิษตัดสินใจแล้วว่าจะออกเดินทางท่องมหาสมุทรไร้ขอบเขตเพื่อแสวงโชค นางต้องการโอกาสที่จะช่วยให้ตนทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพ และรู้ดีว่าตนเองจะบรรลุปราณขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อออกผจญภัยในท้องทะเลเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นางจึงจัดการสะสางทุกสิ่งในนครมหาอสรพิษ ก่อนจะลาจากเพื่อท่องไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่
ในหนองน้ำแห่งหนึ่งห่างจากนครมหาอสรพิษไปหลายร้อยลี้ มนุษย์อสรพิษชายจำนวนมากกำลังทำบางสิ่งอยู่อย่างกระปรี้กระเปร่า
พวกเขากำลังขุดหลุมในหนองน้ำ ทำให้กลิ่นเหม็นและคาวของหนองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ สิ่งที่มาพร้อมกลิ่นเหม็นคือพลังปราณจำนวนมหาศาลที่พุ่งออกจากหลุมก่อนจะทะยานขึ้นไปในอากาศ
ใบหน้าของเหล่ามนุษย์อสรพิษชายเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสพลังปราณนั้น พวกเขากระโดดเข้าไปในหลุมทีละคนเพื่อหยิบผลึกมากมายในโคลนตมขึ้นมา
ผลึกเหล่านี้เป็นประกายส่องสว่างบริสุทธิ์
ไป๋จ่าน หัวหน้าขุนพลแห่งสำนักเมฆาขาวยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงโคลนตมดังกล่าว แม้เขาจะเหยียบโคลนเข้าไปเต็มๆ แต่รองเท้ากลับไม่เปื้อนแต่อย่างใด ดวงตาของเขาที่มองไปยังหลุมใหญ่ในหนองน้ำมีแววความตื่นเต้นเจืออยู่
ที่ใต้หลุมนั้นมีเหมืองผลึกขนาดใหญ่ตั้งอยู่… และเป็นเหมืองที่มีทรัพยากรมหาศาลเสียด้วย
เหมืองนี้เพิ่งถูกค้นพบไม่นาน นครมหาอสรพิษและสำนักเมฆาขาวต่อสู้แย่งชิงกรรมสิทธิ์ของเหมืองอย่างครึกโครม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจทำงานร่วมกันเพื่อขุดเหมืองแห่งนี้
เมื่อขุดลึกลงไป ไป๋จ่านก็ยิ่งประหลาดใจขึ้นเรื่อยๆ เขาพบว่าขนาดของเหมืองผลึกนี้ใหญ่กว่าความคาดหมายไปมากโข มากเสียจนเรียกได้ว่าน่าตกใจเลยทีเดียว
เหมืองผลึกใหญ่โตขนาดนี้ต้องทำให้สำนักเมฆาขาวแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน
…
“นายท่านตัวเหม็น ท่านทำอะไรอยู่หรือ”
โอวหยางเสี่ยวอี้มองปู้ฟางด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ นางเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างเจ้าดำพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนคนโง่ ในใจจึงอยากรู้ว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไรอยู่
รอยยิ้มซื่อบื้อของปู้ฟางนั้นเอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยน่าดูเท่าใดนัก
เจ้าดำกำลังทำเสียงจิ๊จ๊ะขณะกินซี่โครงมังกรขั้นเซียนเทพเปรี้ยวหวาน จู่ๆ มันก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าชายหนุ่มมานั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มที่เหมือนคนโง่
รอยยิ้มนั้นทำให้เจ้าดำเบิกตากว้างทันที ขนทั้งตัวลุกชัน เจ้าสุนัขเงยหน้าขึ้นมองปู้ฟาง
เจ้าทำบ้าอะไรน่ะ
เจ้าดำเงยหน้าขึ้นมองพร้อมปากที่ยังเปื้อนน้ำซอสสีส้มอยู่ จากนั้นมันก็ยกอุ้งเท้าขึ้นวางบนขอบจานพลางมองปู้ฟางด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
อย่าคิดอุตริขโมยซี่โครงเปรี้ยวหวานไปจากท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้เด็ดขาด… หากท่านสุนัขผู้นี้อยู่ที่ไหน ซี่โครงเปรี้ยวหวานก็จะต้องอยู่ที่นั่น ใครหน้าไหนคิดมาแย่งอาหารของมันไป ต้องมาขออนุญาตอุ้งเท้าของมันเสียก่อน
เจ้าดำแยกเขี้ยวใส่ปู้ฟาง เผยให้เห็นฟันขาวไม่มีที่ติราวไข่มุก และเศษเนื้อที่ติดอยู่ตามซอกฟันสองสามชิ้น มันมองปู้ฟางด้วยสายตาเกรี้ยวกราดพร้อมสะบัดหางใส่
รอยยิ้มของปู้ฟางแข็งทื่อไปทันที หน้าตาจริงใจใสซื่อเช่นนี้ยังทำให้เจ้าดำยอมใจอ่อนไม่ได้อีกหรือ
ชายหนุ่มเอามือลูบใบหน้าที่แข็งทื่อของตนพลางพึมพำกับตนเอง “ทำไมเล่า รอยยิ้มข้ามันไม่ดีหรืออย่างไร”
เขามองเจ้าดำก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เจ้าดำรู้สึกเสียวสันหลังวาบไปหมด
ยังมีหน้าถามว่ารอยยิ้มเจ้าไม่ดีหรืออย่างไรอีก เจ้าดำอยากตบปู้ฟางสักหนึ่งฉาดให้ปลิวออกนอกโลกไป… ‘จู่ๆ เจ้าก็เดินดุ่มมาแสยะยิ้มใส่ข้า เพื่ออะไรกัน’
เจ้าดำไม่อยากสนใจปู้ฟางอีกต่อไป มันพ่นลมเยาะจากนั้นก็หันหลังให้ โบกบั้นท้ายใส่หน้าปู้ฟางแล้วตั้งหน้าตั้งตากินซี่โครงมังกรขั้นเซียนเทพเปรี้ยวหวานต่อ
ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นไร้ความรู้สึกทันที ความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจ
‘หรือเป็นเพราะรอยยิ้มของข้าไม่น่าประทับใจพอ เวลาข้ายิ้มมันไม่ได้ดูอบอุ่นเป็นมิตรหรอกหรือ’
เขาคิดอยู่สักพักก่อนตัดสินใจเลิกพยายามโน้มน้าวเจ้าดำด้วยรอยยิ้มของตน เสน่ห์รอยยิ้มของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่สุนัขจะเข้าใจได้ ปู้ฟางเอามือดึงหางของเจ้าดำที่กำลังส่ายไปมา
ทันใดนั้นเจ้าดำก็หันขวับมามองปู้ฟางพร้อมแยกเขี้ยวขู่
“หันกลับมาคุยกันก่อน” ปู้ฟางพูดกับเจ้าดำด้วยน้ำเสียงสงบ
เจ้าดำชะงักไปชั่วขณะก่อนพ่นลมแล้วหันหน้ากลับมาหาปู้ฟาง มันดึงชามซี่โครงเปรี้ยวหวานมาด้วยและตั้งหน้าตั้งตากินต่ออย่างไม่สนใจใคร พร้อมทำเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความเอร็ดอร่อย
“เจ้าดำ ดูตัวเองสิ! เจ้าเอาแต่นอนอืดอยู่ตรงนี้ทั้งวัน… จนเริ่มอ้วนแล้วมิใช่หรือ แบบนี้จะมีสุนัขสาวสวยมาสนใจเจ้าได้อย่างไร คราวหน้าที่ข้าออกไปทำภารกิจ เจ้าต้องไปกับข้าด้วย จะได้ออกกำลังกายให้ตัวเองผอมลง พอผอมลงแล้วรับรองต้องมีสุนัขสาวมาหมายปองแน่” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจและจริงจัง
“หว่านเสน่ห์ใส่สุนัขสาวเช่นนั้นรึ ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ทั้งสง่างามและหล่อเหลา เสน่ห์อันเป็นที่สะกดใจของข้าทำให้ข้าไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย แค่นี้ข้าก็ดูดีจะแย่อยู่แล้ว”
พอเจ้าดำได้ยินสิ่งที่ปู้ฟางพูด มันก็กลอกตาใส่อีกฝ่ายแล้วเลิกสนใจชายหนุ่มทันที
พอชายหนุ่มเห็นเจ้าดำทำตัวเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเซ็งและเจ็บใจเป็นอันมาก ปู้ฟางรู้แล้วว่าตนเองตามใจเจ้าดำมากเกินไป
“เจ้าดำ เจ้าไม่ควรปล่อยตัวเช่นนี้ หากเจ้าอยากมีอนาคตที่สดใสก็ควรจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองบ้าง” ปู้ฟางยังคงพยายามโน้มน้าวเจ้าดำด้วยน้ำเสียงจริงใจต่อไป เขาพยายามใจเย็นเพื่อที่จะไม่เร่งเจ้าดำ “ออกไปทำภารกิจกันดีกว่าจะได้ไปเห็นโลกกว้างบ้าง แถมเจ้ายังจะผอมลงด้วย!”
เจ้าดำไม่สนใจปู้ฟางที่มันมองว่าเสียสติไปแล้วแม้แต่น้อย มันยังคงตั้งหน้าตั้งตากินซี่โครงเปรี้ยวหวานต่อไป อาหารจานนี้ทำมาจากเนื้อของมังกรขั้นเซียนเทพที่มีรสชาติอร่อยล้ำ ยิ่งกินมากเท่าไหร่ เนื้อก็ยิ่งหวานหอมมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้น้ำผลไม้ที่ปู้ฟางเอาให้มันยังอร่อยมากเช่นกัน การได้กินซี่โครงเปรี้ยวหวานพร้อมดื่มน้ำผลไม้ไปด้วยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเจ้าดำขณะนี้
ปู้ฟางสัมผัสได้ว่าตนเองโดนเมินเต็มๆ
เขารู้สึกราวกับว่าตนเองมีค่าน้อยกว่าซี่โครงเปรี้ยวหวานหนึ่งจาน...
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องงัดไพ่ตายออกมาใช้เสียแล้ว”
ใบหน้าของปู้ฟางเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขามองเจ้าดำด้วยสีหน้าร้ายกาจ ในเมื่อเจ้าดำชอบซี่โครงเปรี้ยวหวานมากขนาดนี้ เขาจึงคิดแผนใหม่ขึ้นมา และเป็นแผนที่เรียกได้ว่าเข้าทางเลยทีเดียว…
“เจ้าดำ เจ้าจะตามข้าออกไปผจญภัยหรือไม่ หากเจ้าไม่ไปก็อย่าคิดว่าจะได้กินซี่โครงเปรี้ยวหวานอีกเลยในชีวิตนี้ ข้าจะไม่ทำให้เจ้ากินอีกแล้ว หากเจ้าได้กินอีกแม้แต่จานเดียวก็เชิญเรียกข้าว่าไอ้ขี้แพ้ได้เลย”
ฮึ เจ้าสุนัข หากข้าขู่ไม่ยอมทำซี่โครงเปรี้ยวหวานให้กิน เจ้าต้องยอมจำนนแน่
ปู้ฟางคิดอย่างสงบพร้อมยกมุมปากขึ้นแสยะยิ้ม
เจ้าดำตัวแข็งทื่อทันที มันเงยหน้าขึ้นมองปู้ฟางที่กำลังยิ้มชั่วร้ายอยู่
จากนั้นเจ้าสุนัขก็แลบลิ้นออกมา แล้วตั้งหน้าตั้งตากินซี่โครงเปรี้ยวหวานต่อไป
ปู้ฟางรู้สึกเหมือนโดนสายลมเย็นพัดเข้าใส่ตัวจนเสียวสันหลังวาบไปหมด เขาสงสัยเหลือเกินว่าเหตุใดเจ้าดำจึงไม่แยแสคำขู่ของเขาแม้แต่น้อย หรือการขู่ว่าจะไม่ทำซี่โครงเปรี้ยวหวานให้กินจะไม่พอให้เจ้าสุนัขนี่ฟังเขากันนะ
เจ้าดำไม่สนใจคำขู่ของปู้ฟางจริงๆ เสียด้วย ก็แค่ไม่ได้กินซี่โครงเปรี้ยวหวานเองนี่นะ
หากไม่มีซี่โครงเปรี้ยวหวานให้กิน ท่านสุนัขผู้นี้ก็แค่ต้องหลับไปสักหลายร้อยปีเท่านั้น และในเมื่อนอนอยู่จะมาสนใจเรื่องการไม่ได้กินซี่โครงเปรี้ยวหวานไปทำไม เจ้าดำคิดว่าปู้ฟางนั้นช่างปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจริงๆ ที่กล้าเอาเรื่องซี่โครงเปรี้ยวหวานมาขู่มัน
ปู้ฟางอึ้งไปเมื่อเห็นว่าเจ้าดำไม่สนใจคำขู่ของเขาแม้แต่น้อย ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ขาแข็งไปหมดเนื่องจากนั่งยองๆ นานเกิน
เหตุใดการจะทำให้เจ้าสุนัขขี้เกียจตัวนี้ออกเดินทางไปกับเขาถึงได้ยากเย็นเพียงนี้กันนะ วันๆ เอาแต่กินกับนอน แบบนี้จะไปหาสุนัขสาวสวยมาจากไหนกัน
ปู้ฟางเอามือไพล่หลัง จากนั้นก็เดินไปที่ทางเข้าร้าน
จีเฉิงเสวี่ยพร้อมขันทีสองสามคนกำลังก้าวยาวๆ มุ่งตรงมาที่ร้านแต่ไกล
จู่ๆ ปู้ฟางก็หยุดฝีเท้าเหมือนคิดอะไรได้ เขาหันกลับไปมองเจ้าดำแล้วเอ่ยขึ้น “เอาเช่นนี้ไหม…หากเจ้ายอมออกไปทำภารกิจกับข้า ข้าจะเพิ่มปริมาณซี่โครงเปรี้ยวหวานเป็นสองเท่า”
สองเท่า… สองเท่า… เท่า… เท่า!
หูของเจ้าดำกระตุกเล็กน้อย มันเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารพลางมองปู้ฟางด้วยดวงตาเป็นประกาย จนทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
ปู้ฟางเลิกคิ้วมองเจ้าดำ
จากนั้นเจ้าสุนัขก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตนเอง แล้วค่อยๆ ยกอุ้งเท้าเล็กน่ารักขึ้นชี้ไปบนฟ้า
จีเฉิงเสวี่ยที่กำลังเดินมาที่ร้านด้วยความตื่นเต้นดีใจถึงกับหน้าซีดทันทีเมื่อเห็นเจ้าดำยกอุ้งเท้าขึ้นมา ขาของเขาอ่อนแรงลงจนเดินเป๋เลยทีเดียว
“ท่านสุนัขเป็นอะไรไป หรือข้าจะเผลอไปทำให้เขาไม่พอใจกันนะ”
“เจ้าจะยกอุ้งเท้าขึ้นมาทำไม หากไม่พอใจอะไรข้าก็บอกมาตรงๆ สิ! อย่ายกอุ้งเท้าขึ้น มันอันตราย!”
ดวงตาของเจ้าดำเป็นประกายกล้า ตอนนี้มันตื่นเต้นมาก อุ้งเท้าที่ยกขึ้นมาชี้สองนิ้วขึ้นไปบนฟ้า
“เพิ่มให้ข้าอีกเท่าหนึ่ง ข้าอยากได้ซี่โครงเปรี้ยวหวานสามเท่า หากไม่ยอมก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีก”
เสียงอ่อนโยนหนักแน่นสมชายชาตรีของเจ้าดำดังชัดไปทั่ว
ปู้ฟางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง “ได้” ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ชายหนุ่มอึ้งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าดำร้องขอ เจ้าสุนัขนี่ช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายเสียจริง
กลายเป็นว่าการจะโน้มน้าวจิตใจของเจ้าดำนั้นง่ายมาก เขาเพียงต้องเพิ่มซี่โครงเปรี้ยวหวานให้มันอีกไม่กี่ชิ้นเท่านั้น…