ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 397 ปลาปักเป้า อาหารชั้นเลิศ!
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 397 ปลาปักเป้า อาหารชั้นเลิศ!
อึดใจนั้นปู้ฟางรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าตายลึกก้อนสุดท้ายมีอะไรอยู่ด้านใน
ตามที่ระบบบอกไว้ ตายลึกสามก้อนนี้จะมียลึกแข็งธรรมดาอยู่หนึ่งก้อน หากโชคร้ายก็อาจจะมีสองก้อน
พวกเขาเปิดตายลึกไปแล้วสองก้อน ดังนั้นตายลึกก้อนสุดท้ายในเหมืองยลึกใหญ่ก็น่าจะเป็นยลึกธรรมดา ไม่มีอะไรด้านใน ถ้าตายลึกก้อนนี้ไม่มีวัตถุดิบที่ปู้ฟางต้องการ แสดงว่าเขาทำภารกิจของระบบไม่สำเร็จ
แน่นอนว่าปู้ฟางสามารถเอากุ้งตั๊กแตนตำข้าวสีทองมาทำอาหารได้ แต่เจ้าตัวเล็กนี่ไม่ค่อยมีเนื้อ ไม่น่าจะเรียกว่าวัตถุดิบได้
ถ้าได้มาเจ็ดหรือแปดตัวก็อาจจะเอามาทำอาหารได้สักจาน แต่พอได้มาแค่ตัวเดียว…ปู้ฟางจึงคิดว่าควรจะลืมเรื่องนี้ไปเสีย
แกร๊ก!
อุณหภูมิของหมื่นไฟประลัยกัลป์สูงมาก ปู้ฟางใช้เพลิงที่เปลี่ยนมาเป็นกระบี่ย่าตายลึกออกด้านหนึ่ง
“หืม”
ทันทีที่ตายลึกเปิด ปู้ฟางก็ใจเต้นด้วยความหวาดกลัว
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ตอนนั้นเอง เข็มเหล็กแหลมหลายเล่มก็พุ่งออกมาจากตายลึก
เข็มเหล่านี้รวดเร็วมากจนเหมือนจะแหวกอากาศได้ แม้ปู้ฟางจะหลบพ้น เข็มก็ยังพุ่งตรงไปเจาะยนังด้านหลังอยู่ดี
ปู้ฟางสูดหายใจเอาอากาศเย็นๆ เข้าปอด โชคดีที่เขาตอบสนองทัน ไม่อย่างนั้นเข็มพวกนี้คงเปลี่ยนเขาเป็นกระชอนมนุษย์ไปแล้ว
มีอะไรอยู่ด้านในตายลึกกันนะ
ปู้ฟางขมวดคิ้วพร้อมโบกกระบี่ไปทางตายลึก เขาย่าตายลึกออกเป็นสองท่อน ตายลึกชิ้นนี้กลวง… ถ้าเมื่อครู่ไม่ได้โดนโจมตีชายหนุ่มคงจะนึกดีใจ
หลังย่าออกเป็นสองท่อน ตายลึกก็แยกออกจากกัน ส่งเสียงใสก้องกังวานไปทั่วถ้ำ
ปู้ฟางหรี่ตาลงจ้องไปยังตำแหน่งที่ตายลึกถูกย่า เขาเห็นว่ามีบางสิ่งลักษณะคล้ายปลาปรากฏอยู่
ครู่ต่อมาปลาตัวนั้นก็พองขึ้นพร้อมส่งเสียงดัง เข็มมากมายถูกยิงแหวกอากาศออกมาอีกครั้ง
ปู้ฟางเรียกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำออกมาแล้วเหวี่ยงไปด้านหน้าเบาๆ ป้องกันตัวเองจากเข็มเหล่านั้นได้ในที่สุด
ย่านไปครู่หนึ่ง เสียงที่ดังขึ้นในถ้ำก็เงียบลง
พลังปราณเที่ยงแท้ระเบิดออกจากขาของปู้ฟางขณะกระโดดขึ้นกลางอากาศ เขาเห็นตัวตนที่ปรากฏขึ้นหลังย่าตายลึกได้อย่างชัดเจน ว่ากันตามตรงมันคือปลาตัวหนึ่ง
แต่ปู้ฟางไม่คาดคิดว่าจะมีปลาเช่นนี้อยู่ในตายลึก
ควันเขียวหมุนวนเมื่อมีดทำครัวกระดูกมังกรทองปรากฏขึ้นในมือ ปู้ฟางตวัดมีดเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้วเหยียบเท้าลงพื้น
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เข็มจำนวนมากยิงใส่ปู้ฟางอีกครั้ง ความเร็วของเข็มเหล่านี้สูงมาก เมื่อเข็มพุ่งมาอยู่ตรงหน้า ปู้ฟางก็เห็นว่ามันมีสีขาวล้วน มีแสงเย็นเยียบส่องประกายเล็กน้อยอยู่ตรงปลายเข็ม ทำให้ร่างของชายหนุ่มสั่นเทิ้ม
แกร๊ง!
เขาโบกมีดทำครัวกระดูกมังกรทองส่งเข็มลอยขึ้นกลางอากาศ พริบตาต่อมา เขาก็เดินตรงไปยังอสูรเวทตัวดังกล่าว อสูรตัวนี้เป็นปลา มันกำลังกลอกตาจ้องมองปู้ฟาง ทั่วร่างปกคลุมไปด้วยจุดและลายนับไม่ถ้วน ทันทีที่พองตัว ร่างของมันก็อ้วนใหญ่ขึ้น เข็มแบบเมื่อครู่ถูกปล่อยออกมาทันทีที่มันพองตัว
ทักษะการใช้มีดฝนดาวตกของปู้ฟางบรรลุขั้นสมบูรณ์แล้ว มีดถูกตวัดไปรอบตัวปู้ฟางเมื่อเข็มพุ่งเข้ามาใส่
หลังปัดเข็มทั้งหมดออกไป ปู้ฟางก็ตวัดมีดฟาดใส่ปลาตัวบวมเป่งจนอีกฝ่ายหมดสติไปทันที
ร่างของมันเล็กลงอีกครั้งหลังหมดสติ ราวกับลูกโป่งลมรั่ว
ปู้ฟางสบายใจขึ้นเมื่อทำให้มันหมดสติลงได้
“ใครจะไปคิดว่าจะมีปลาประหลาดเช่นนี้อยู่ในตายลึกก้อนสุดท้าย ว่ากันตามตรง เจ้านี่ก็เป็นวัตถุดิบล้ำค่าหายากจริงเสียด้วย”
ปู้ฟางคว้าหางปลาแล้วลุกยืนขึ้นก่อนจะสำรวจปลาลายจุดตัวท้วม หากเป็นโลกเมื่อที่แล้ว ปลาเช่นนี้รู้จักกันในชื่อปลาปักเป้า ชายหนุ่มเคยได้ยินเรื่องของปลาชนิดนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นปลาพ่นเข็มได้ในทวีปมังกรซ่อนเร้น
เรื่องรสชาติของปลาปักเป้านั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเลิศล้ำเพียงใด แม้ปลาชนิดนี้จะมีพิษ แต่ก็เป็นอาหารอันโอชาที่ทุกคนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้ลิ้มลองสักครั้ง
“ปลาปักเป้าจันทร์ดับ อสูรเวทระดับเจ็ด เป็นอสูรเวทพันธุ์หายาก การเพาะพันธุ์เองก็ยากเช่นกัน ปลาปักเป้าจันทร์ดับสามารถหดตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างเข็มใต้ยิว ทุกครั้งที่พองตัวจะพ่นเข็มออกไป เข็มเหล่านี้มีพิษร้ายแรงที่แม้แต่อสูรเวทระดับเก้ายังถึงตายได้”
ระหว่างที่ปู้ฟางกำลังสำรวจปลาปักเป้าจันทร์ดับอยู่นั้น เสียงจริงจังของระบบก็ดังขึ้นในศีรษะ เขาขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำอธิบายจากระบบ พอได้ยินความสามารถของปลาปักเป้าจันทร์ดับ ชายหนุ่มก็ได้แต่สูดเอาอากาศเย็นเยียบเข้าปอด
พิษจากเข็มพวกนี้ทำให้แม้แต่อสูรเวทระดับเก้ายังถึงตายได้! ถ้าเมื่อครู่ไม่ระวังตัวแล้วโดนเข็มทิ่มเขาคงจะตายไปแล้ว
สมแล้วที่เป็นปลาปักเป้าพิษรุนแรง
ปู้ฟางดูขนาดปลาปักเป้าในมือก่อนจะเม้มปากอย่างพึงพอใจ
เห็นได้ชัดว่าปลาปักเป้าตัวนี้คือวัตถุดิบที่ปู้ฟางออกตามหา เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
หลังจากตบปลาปักเป้าดูเบาๆ เขาก็รู้สึกยินดียิ่ง
ความอร่อยของเนื้อปลาปักเป้านั้นไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ รู้เพียงว่ารสชาติดีถึงขนาดมีคนยอมกินแม้พิษของมันจะร้ายแรง แค่นี้ก็พอจะบอกได้แล้วว่าเนื้อปลาปักเป้าเลิศรสเพียงใด
แม้ปลาปักเป้าจันทร์ดับจะไม่ใช่อสูรเวทระดับสูง แต่ปู้ฟางก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้มันมาแทนที่จะเป็นเนื้อของอสูรชั้นเซียนเทพชนิดอื่น
เขาโบกมีดพร้อมหยิบไหกระเบื้องออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ ชายหนุ่มตวัดมีดเบาๆ ย่าตัวปลาปักเป้าจันทร์ดับ
ปลาปักเป้าจันทร์ดับในมือปู้ฟางเริ่มดิ้นทันทีขณะที่เลือดสีเข้มไหลลงไหกระเบื้องที่ชายหนุ่มถืออยู่
หลังเก็บเลือดเรียบร้อย ยู้ฟางก็ล้างปลาด้วยน้ำจากทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ จากนั้นก็เก็บไหกระเบื้องที่อัดแน่นไปด้วยเลือดของปลาปักเป้าจันทร์ดับ
ร่างของปลาปักเป้าจันทร์ดับมีพิษทั้งตัว เลือดและเครื่องในเองก็ด้วย ดังนั้นปู้ฟางต้องหาวิธีจัดการกับมันอย่างเหมาะสม
ปลาปักเป้าจันทร์ดับเป็นปลาปักเป้าที่พบเจอได้ในทวีปมังกรซ่อนเร้น พิษของมันร้ายแรงเทียบเท่าปลาปักเป้าบนโลก พอได้ยินว่าพิษของมันสามารถสังหารยู้ฝึกตนขั้นเทพเซียนได้ ปู้ฟางก็ไม่กล้าแตะสุ่มสี่สุ่มห้า
หลังจากล้างทำความสะอาดปลาปักเป้าเสร็จ เขาก็เก็บมันเข้ากระเป๋าคลังเก็บแล้วปัดมือไปมาด้วยความพึงพอใจ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะในการทำปลาปักเป้า กลับไปจัดการที่นครมหาอสรพิษน่าจะดีกว่า
แกร๊ก!
พญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพที่อยู่ไม่ไกลพลิกตัวกลับมาได้ในที่สุด มันใช้ขาหยัดพื้นเพื่อยืน สภาพของมันในตอนนี้ค่อนข้างน่าเวทนา เปลือกถูกตบเป็นรอยเว้าลึก รัศมีพลังที่เปล่งออกมาอ่อนแรงไร้กำลัง
ปู้ฟางที่ตั้งใจจะกลับออกไปชะงักกึก พร้อมมองพญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพอยู่พักใหญ่
ชายหนุ่มไม่ใช่คนจิตใจโอบอ้อมอารี อสูรตัวนี้ไล่ตามเขามาไม่ลดละ ไม่มีทางที่ปู้ฟางจะลืมเรื่องนี้ได้ลง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพลาดวัตถุดิบดีๆ เช่นนี้ไปก็น่าเสียดายแย่
พญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพที่เพิ่งพลิกตัวกลับมาได้ยังคงมีสีหน้างุนงง ทันใดนั้นดวงตาของมันก็เบิกกว้างเมื่อรู้สึกได้ว่ารอบตัวมืดดับลง
ตู้ม!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนเหมืองสั่นสะเทือน
ปู้ฟางปัดเศษหินออกจากกระทะกลุ่มดาวเต่าดำที่ตอนนี้มีขนาดใหญ่มโหฬาร
พอยกกระทะขึ้น เปลือกของพญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพที่อยู่ด้านใต้ก็ปรากฏรอยร้าวนับไม่ถ้วนจากการโจมตีของปู้ฟาง
พญากุ้งตั๊กแตนตำข้าวยกก้ามขึ้นเล็กน้อยพร้อมหันมองปู้ฟาง
ตู้ม!
ปู้ฟางยกยิ้มขณะฟาดกระทะใส่มันไม่หยุด เปลือกของมันแตกหักเต็มไปด้วยรอยร้าว
“ถ้าอยากมาเป็นวัตถุดิบให้ข้า…ก็รีบบอกข้าสิ ไม่เห็นต้องเสียเวลาไล่ตามมาตั้งครึ่งค่อนวัน”
ชายหนุ่มยิ้มพร้อมยกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำขึ้น พญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพที่อยู่ใต้กระทะหมดสติลงในที่สุด
เขาใส่พญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพลงในกระเป๋าคลังเก็บด้วยสีหน้าพึงพอใจ ชายหนุ่มคิดว่าในการเดินทางครั้งนี้เขาคงไม่ได้เนื้อของอสูรขั้นเซียนเทพกลับไปแน่ ใครจะไปคิดกันเล่าว่าจะมีพญากุ้งตั๊กแตนขั้นเซียนเทพตามไล่ล่าแล้วมอบตัวเองให้เขาง่ายๆ เช่นนี้
ปู้ฟางรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ลำบากอะไรเลย
กุ้งตั๊กแตนสีทองที่ขดตัวอยู่บนไหล่ของชายหนุ่มยืดตัวเล็กน้อยก่อนจะหลับต่อ
เขาหันมองสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยก่อนจะหันไปทางเจ้าดำที่กำลังหลับปุ๋ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เจ้าสุนัขดำท่าทางจะหลับลึกเลยทีเดียว
ปู้ฟางทำได้เพียงอุ้มเจ้าดำขึ้นมาแล้วโยนลงกระทะกลุ่มดาวเต่าดำ ชายหนุ่มถือกระทะด้วยมือข้างหนึ่ง ถือเสียว่าหาที่ให้ท่านสุนัขได้นอนก็แล้วกัน
เขาหันมองรอบเหมืองอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินออกไป ชายหนุ่มเดินตามทางภายในเหมืองไปจนถึงรอยแตกที่จนเองร่วงลงมา
เขาหันมองเหมืองที่เต็มไปด้วยยลึกอีกครั้งแล้วสูดหายใจลึก ชายหนุ่มไม่นึกสนใจยลึกจึงตรงไปที่รอยแยกแล้วออกจากที่แห่งนี้ไป
ตอนที่ชายหนุ่มกลับออกไป เสียงดังครืนก็สะท้อนก้องออกมาจากด้านในเหมือง
ร่างโชกเลือดตะเกียกตะกายออกจากกองหิน ยอดฝีมือชาวสมุทรอยู่ในสภาพน่าเวทนา ร่างของเขาดูราวกับโชกไปด้วยเลือด แม้แต่ความเงาบนยิวหนังสีน้ำเงินก็ดูจางลง
“ไอ้มนุษย์สารเลว… ไอ้หมาสารเลว… นักพรตบอกข้าว่าบรรพบุรุษกุ้งหลับใหลอยู่ในตายลึกหนึ่งในสามก้อน... เจ้าหมาดำต้องเอาตัวท่านไปซ่อนแน่! บรรพบุรุษกุ้งคือความหวังของเย่าพันธุ์เรา ถ้าไม่มีท่านบรรพบุรุษ เราก็ไม่มีทางเรืองอำนาจขึ้นได้… ต้องตามหาตัวท่านให้พบ!”
เลือดไหลออกจากปากของเขาก่อนจะหยดลงพื้นไม่หยุด
แต่ยอดฝีมือชาวสมุทรก็ไม่ใช่คนเขลา พอเห็นสุนัขดำสังหารยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์จากสำนักมหาพิภพ เขาก็รู้แล้วว่าสุนัขดำต้องทำลายโซ่ตรวนชั้นเซียนเทพไปแล้วมากกว่าหนึ่งชิ้นเป็นแน่ จึงสามารถทำร้ายอีกฝ่ายจนบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
เขาเทียบสุนัขดำตัวนั้นไม่ได้ จึงรู้ว่าต้องกลับไปหากำลังเสริมจากชาวสมุทร
แค่ก! แค่ก! พลังรัศมีของยอดฝีมือชาวสมุทรอ่อนลง เขาสำลักเลือดกองใหญ่ออกมาอีกครั้งขณะเดินโซเซออกจากเหมืองไป
…
ด้านนอกเหมือง กลุ่มอำนาจหลายกลุ่มกำลังประจันหน้ากันอยู่
ยานรบเหล็กเย็นเยียบลอยอยู่กลางอากาศ ปลดปล่อยพลังกดดันมหาศาลใส่ยู้ฝึกตนชาวสมุทร อูมู่ และคนอื่นๆ
ทุกคนอยากเข้าไปในเหมือง แต่ก็รู้ดีว่าภายในอันตรายเพียงใด
มียู้ฝึกตนขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านในถึงสองคน พวกเขาจึงรู้ว่าถึงจะเข้าไปก็ไม่มีทางได้สิ่งล้ำค่ากลับมา ด้วยเหตุนี้อูมู่และประมุขอสรพิษจึงไม่ขยับไปไหน ทั้งสองยืนประจันหน้ากับยานรบและทัพยู้ฝึกตนชาวสมุทร
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังก้องออกมาตรงปากทางเข้าเหมือง เสียงฝีเท้าดังกล่าวทำให้บรรยากาศเคร่งเครียดคุกรุ่นกว่าเดิม
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ปากทางเข้า
กลุ่มยู้ฝึกตนชาวสมุทรและยู้ฝึกตนสำนักมหาพิภพจ้องเขม็งไปที่ทางเข้ามากเป็นพิเศษ
ใครกันที่ออกมาจากเหมือง ใครเป็นคนได้สมบัติไป
ทุกคนอยากรู้ยลลัพธ์
เพราะพวกเขาต่างส่งยอดฝีมือขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์เข้าไป ย่อมไม่ใช่ยู้ฝึกตนระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการที่ถูกพญากุ้งตั๊กแตนชั้นเซียนเทพไล่เข้าไปในเหมืองแน่นอน
พอนึกถึงยู้ฝึกตนระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการที่ถูกไล่กวดจนลนลานหนีเข้าไปในเหมือง ทุกคนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ออกมาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นของใคร แต่ทุกคนก็หันไปจ้องร่างที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทางเข้าเหมืองทันที
ร่างเพรียวสูงค่อยๆ เยื้องย่างออกมาจากเหมือง