ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 399 นี่มันปลาต้องสาป
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 399 นี่มันปลาต้องสาป
เตรียมครัวรึ
หมอนี่เป็นจำอวดที่สุนัขสีดำตัวนั้นจ้างมาเล่นหรืออย่างไร
ประมุขอสรพิษและคนอื่นๆ ต่างตกใจกับคำขอของปู้ฟาง พวกเขาจ้องชายหนุ่มอย่างพูดอะไรไม่ออก
อูมู่ยิ้มกระอักกระอ่วน เขาไม่คาดคิดว่าปู้ฟางจะขออะไรที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทันทีที่กลับมาถึงนคร แม้แต่ตัวเขายังงงงวยไม่น้อย
“เถ้าแก่ปู้…เราควรคุยเรื่องสำคัญกันก่อน...”
ใบหน้าสวยงามของประมุขอสรพิษดูเก้อขึ้นมาเล็กน้อย หรือปู้ฟางอยากคุยเรื่องสำคัญในครัวกันนะ แบบนั้นจะไม่ยิ่งประหลาดหรือ
“เถ้าแก่ปู้ หากท่านอยากกินสิ่งใด ข้าสั่งให้พ่อครัวหลวงทำให้ได้ ก่อนอื่นเราไปที่ท้องพระโรงเพื่อคุยเรื่องอวี่ฝูกันเถิด” ประมุขอสรพิษไม่อยากยืดการเจรจาออกไปอีก นางจึงพยา ายามบอกปู้ฟางให้เข้าวังไปคุยกันก่อน
ปู้ฟางมองประมุขอสรพิษแล้วยิ้มมุมปาก สายตาที่ใช้มองนางมีแววรังเกียจแฝงอยู่เล็กน้อย
“พ่อครัวหลวงหรือ อาหารที่พวกนั้นทำกินได้จริงรึ”
ประมุขอสรพิษขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกเหมือนปู้ฟางกำลังเหยียดพ่อครัวหลวงของนางอยู่อย่างไรอย่างนั้น ถึงอย่างไรตัวนางเองก็เป็นถึงเจ้าผู้ครองนคร แม้นางจะเป็นผู้ฝึกตนขั้นเซียน นเทพชั้นสูงสุดและแทบไม่ต้องกินอาหาร แต่พ่อครัวหลวงในวังก็เป็นสุดยอดพ่อครัวที่เก่งกาจที่สุดในนคร พวกเขาผ่านการคัดเลือกมาอย่างดุเดือดจากมนุษย์อสรพิษมากมายนับไม่ถ้วน
“เถ้าแก่ปู้วางใจได้ พ่อครัวหลวงของเราเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีจากบรรดามนุษย์อสรพิษมากมาย ทักษะการทำอาหารของพวกเขานั้นจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแม้แต่น้อย”
“อ้อ หากพวกนั้นฝีมือดีจริงเหมือนที่เจ้าว่า แล้วทำอาหารด้วยวัตถุดิบนี้ได้หรือไม่เล่า”
ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ เขาส่งพลังปราณออกมาห่อหุ้มมือของตนเองไว้ แล้วหยิบปลาตัวอ้วนที่เต็มไปด้วยหนามแหลมออกมา
เมื่ออูมู่และคนอื่นๆ เห็นปลาแสนน่าเกลียดในมือปู้ฟาง พวกเขาก็ตกใจเป็นล้นพ้น
“นั่นมันอสูรเวทชนิดไหนกันนี่”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นปลานะ แต่ข้าไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย”
“ปลาอะไรน่าเกลียดเป็นบ้า! เชื่อขนมกินได้เลยว่ารสชาติคงอุบาทว์เหมือนหน้าตา…”
…
ผู้คนรอบตัวปู้ฟางเริ่มกระซิบกระซาบกันเรื่องปลาที่ชายหนุ่มถืออยู่ในมือ ใบหน้าของประมุขอสรพิษเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเล็กน้อย นั่นเพราะนางเองก็มองไม่ออกว่าปลาที่อยู่ในมือชายห หนุ่มคืออสูรเวทชนิดใด
อวี่ฝูเองก็ตกใจเช่นกัน แม้นางจะเป็นแม่ครัวฝึกหัดของปู้ฟางมานาน และศึกษาศาสตร์การทำอาหารมาพักใหญ่ นางก็ยังดูไม่ออกเช่นกันว่าปลาตรงหน้านี้เป็นปลาอะไรกันแน่ หากเรื่องนี นางยังไม่รู้ ประมุขอสรพิษก็ย่อมต้องไม่รู้อย่างแน่นอน
“สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือเจ้าต้องพาข้าไปที่ครัวก่อน ข้าจะนำวัตถุดิบนี้มาทำอาหาร พอทำเสร็จแล้วเจ้าก็ลองชิมดู ถ้าได้กินก็จะรู้เองว่าพ่อครัวหลวงนั้นเทียบอะไรกับข้าไม่ ได้แม้แต่น้อย” ปู้ฟางถือปลาปักเป้าจันทร์ดับไว้ในมือพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่คิดจะถ่อมตัวแม้แต่น้อย
กุ้งตั๊กแตนสีทองบนไหล่ของชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาโตของมันเหลือบมองปลาปักเป้าในมือปู้ฟาง รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นสิ่งนี้ที่ไหนมาก่อน
ปู้ฟางไม่ได้สนใจกุ้งตั๊กแตนสีทองแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาจ้องไปที่ประมุขอสรพิษเขม็ง
สุดท้ายประมุขอสรพิษและคนอื่นๆ ก็ยอมแพ้แล้วพาชายหนุ่มเข้าไปในครัวจนได้
อวี่ฝูเดินตามหลังทุกคนไปอย่างร่าเริง นางถูกประมุขอสรพิษกักขังอยู่ในห้องมาเป็นเดือนๆ จึงไม่สามารถทำอาหารได้ นี่เป็นโอกาสที่นางจะได้จับมีดทำครัวอีกครั้ง และนางก็อยากเข ข้าครัวทำอาหารเป็นอย่างมาก
พอพวกเขาเดินเข้าห้องครัวไป บรรดาพ่อครัวแม่ครัวหลวงก็พากันทำความเคารพประมุขอสรพิษ
“มีใครรู้หรือไม่ว่านี่คือวัตถุดิบชนิดใด”
เสียงของประมุขอสรพิษเย็นเยียบขณะถามพ่อครัวหลวงเรื่องวัตถุดิบที่อยู่ในมือของปู้ฟาง นางไม่เชื่อสิ่งที่ปู้ฟางพูด และไม่เชื่อเช่นกันว่าพ่อครัวแม่ครัวหลวงของนางจะไม่รู้จักวัตถ ถุดิบชนิดนี้แม้แต่ตนเดียว
แต่สุดท้ายนางก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากพอบรรดาพ่อครัวแม่ครัวมองปลาในมือปู้ฟาง กลับไม่มีใครระบุชนิดของมันได้ แม้หลายตนจะรู้สึกว่ามันดูคุ้นตาเหลือเกิน แต่ก็ไม่มีผู้ใดบอกช ชื่อปลาได้สักคน
“มัน… ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะมาจากทางตอนเหนือของนครมหาอสรพิษนะขอรับ หน้าตาของมันเหมือนมัจฉาปีศาจที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำบริเวณนั้นไม่มีผิด”
พ่อครัวหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่ปลาชนิดนี้มีพิษร้ายที่ทำให้ถึงตายอยู่ ไม่มีทางเลยที่จะกินเข้าไปโดยไม่ถูกพิษ จึงจะถือว่าเป็นวัตถุดิบไม่ได้”
ปู้ฟางตกใจเล็กน้อยเนื่องจากเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีใครในหมู่พ่อครัวแม่ครัวรู้จักสิ่งนี้ แต่แม้จะประหลาดใจที่มีคนเดาถูก ชายหนุ่มก็ไม่ได้บอกชื่อปลาชนิดนี้ให้ใครล่วงรู้แต่อย ย่างใด แถวนี้มีปลาปักเป้าอาศัยอยู่จริงๆ หรือ
“เจ้าพูดถูก วัตถุดิบชนิดนี้มีพิษที่ทำให้ถึงตายอยู่ ปลาปักเป้าชนิดนี้มีพิษที่สังหารได้แม้แต่ผู้ฝึกตนขั้นเซียนเทพเลยทีเดียว” ปู้ฟางเอ่ย
เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด ความโกลาหลก็อุบัติขึ้นทันที คนคนนี้อยากทำอาหารจากวัตถุดิบที่มีพิษร้ายแรงจนทำให้ขั้นเซียนเทพถึงตายได้เนี่ยนะ
“นี่…นี่มันปลาต้องสาป! ต่อให้เอาไปปรุงอาหารแล้วอาหารจานนั้นก็จะเต็มไปด้วยพิษร้ายอยู่ดี ของแบบนี้มันกินไม่ได้…”
พ่อครัวหนุ่มผู้นั้นมือสั่นไปหมด เขาส่ายหน้าแล้วร้องตะโกนออกมา
“นั่นเป็นเพราะพวกเจ้าไม่รู้วิธีที่ถูกต้องในการทำอาหารจากปลาชนิดนี้ต่างหากเล่า เอาละ บอกข้ามาทีว่าแม่น้ำแห่งนั้นอยู่ที่ไหน” ปู้ฟางมองมนุษย์อสรพิษหนุ่มตนนั้นพลางเอ่ย ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
หากมีแม่น้ำเช่นนั้นอยู่จริง ปู้ฟางจะแวะไปจับปลาปักเป้ามาให้เต็มกระบุง จากนั้นก็เอากลับไปที่ร้านเพื่อสร้างสรรค์อาหารจานใหม่มาขายเสียเลย
“แม่น้ำนั่นถูกสาป… ปลาปีศาจในแม่น้ำนั้นถูกผู้ฝึกตนจากเผ่าของเราสังหารตายหมดแล้ว แต่เลือดของปลาเหล่านั้นกลับทำให้แม่น้ำปนเปื้อนไปหมด จึงทำได้เพียงปิดตายแม่น้ำแห่งนั นไป ผู้ฝึกตนของเราต้องผนึกแม่น้ำสายนั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้พิษกระจายออกไป” พ่อครัวหนุ่มผู้นั้นเชิดหน้าขึ้นพลางประกาศอย่างภาคภูมิใจ
ใบหน้าของปู้ฟางนิ่งสนิทขณะมองพ่อครัวหนุ่ม เมื่อเห็นอีกฝ่ายเชิดคางขึ้นด้วยความภูมิใจ เขาก็รู้สึกอยากเอากระทะกลุ่มดาวเต่าดำฟาดหน้าหมอนั่นอย่างยิ่ง
ปลาปีศาจที่ว่านั่นมันเรียกว่าปลาปักเป้า! เป็นวัตถุดิบชั้นยอดต่างหากเล่า…
ปู้ฟางหยุดตนเองเอาไว้แล้วดึงอวี่ฝูเข้าครัวไป
ประมุขอสรพิษและอูมู่ตกใจกับการกระทำของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก บรรดาพ่อครัวแม่ครัวหลวงเองก็อยากเดินตามอีกฝ่ายเข้าครัวไปเพื่อดูวิธีการทำอาหารจากปลาปีศาจเช่นกัน
แต่ก่อนที่ใครจะทันได้เข้าไป ปู้ฟางที่แบกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำอยู่ก็ยืนปิดทางเข้าครัวเอาไว้เสียก่อน ชายหนุ่มมองบรรดาพ่อครัวแม่ครัวหลวงด้วยสายตานิ่งสงบ
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกัน พวกเจ้าทุกคนห้ามเข้ามาใกล้ห้องครัวเป็นอันขาด นอกจากแม่ครัวฝึกหัดของข้าแล้ว ตอนที่ข้าทำอาหารอยู่ห้ามใครก้าวเข้าครัวมาแม้แต่ก้าวเดียว หากใครไม่ฟัง งจะถูกกระทะข้าตบจนตาย”
พอพูดจบปู้ฟางก็กระแทกประตูครัวปิดดังปัง
ประมุขอสรพิษดูอับอายพอตัว ช่างน่าเอาศีรษะซุกแผ่นดินหนีอะไรเช่นนี้ นางพ่นลมเยาะปู้ฟางในใจ พลางเลื้อยไปที่ประตูห้องครัว นางเองก็อยากเห็นปู้ฟางใช้วัตถุดิบชั้นเลิศอะไรนั่น ประกอบอาหารเช่นกัน
อูมู่ยิ้มอบอุ่นพลางเอ่ยกับอีกฝ่าย “เถ้าแก่ปู้เป็นชายที่มากความสามารถและเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ยิ่ง ทักษะในการทำอาหารของเขานั้นยอดเยี่ยมที่สุด ไม่แปลกที่เขาจะอารมณ์ร้าย”
ประมุขอสรพิษเหลือบตามองอูมู่พลางพ่นลมเย็นเยาะ แต่สุดท้ายก็ยอมหันหน้าไปอีกทางในที่สุด
…..
ครัวนั้นถือว่าใช้ได้ ดูโอ่อ่ากว้างขวาง สะอาดสะอ้านไม่มีแม้คราบสกปรกสักจุดเดียว นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบอยู่มากมายที่รอให้พ่อครัวแม่ครัวได้เลือกสรรไปประกอบอาหาร มีแม้กระทั่งอ อสูรเวทที่ถูกขังอยู่ในกรงนั่งจ้องหน้าปู้ฟางด้วยซ้ำไป
อสูรเวทเหล่านั้นกำลังจะถูกเชือดมาทำอาหารในไม่ช้า
ปู้ฟางไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อย ทันทีที่เดินเข้าครัวมา เขาก็เริ่มเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางสิ่งของในห้อง
เขาหยิบมีดทำครัวที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาโบก หลังจากคิดสักพักชายหนุ่มก็โยนมันให้อวี่ฝู
“ลองแกว่งมีดนี่ดู เจ้าไม่ได้จับมีดทำครัวมาร่วมเดือน พยายามทำให้คุ้นชินเข้าไว้ มาตั้งใจดูข้าทำอาหารเร็วเข้า เจ้าน่าจะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง” ปู้ฟางบอกอวี่ฝู
มนุษย์อสรพิษสาวรับมีดทำครัวมาจากมือปู้ฟางพลางพยักหน้าด้วยความตั้งใจ นางรู้สึกมีความสุขเป็นอันมากที่ได้เข้าครัวทำอาหารอีกครั้ง
ปู้ฟางพยักหน้าให้อีกฝ่ายแล้วยกกระทะในครัวออก แน่นอนว่าเขาต้องอยากใช้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำทำอาหารมากกว่ากระทะอะไรก็ไม่ทราบได้ที่พ่อครัวหลวงใช้
ชายหนุ่มอุ้มเจ้าดำที่นอนหลับอุตุอยู่ในกระทะไปโยนไว้ตรงมุมหนึ่งของห้องครัว พอกำจัดเจ้าดำไปได้ เขาก็เทน้ำทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ใส่กระทะ จากนั้นก็ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก ก้าวพลางอ้าปากกว้าง พ่นลูกไฟสีทองออกมาจากปาก
อวี่ฝูที่กำลังตั้งใจดูจ้องปู้ฟางด้วยสายตาตกอกตกใจ ดูเหมือนว่าการพ่นไฟได้จะมีประโยชน์เช่นนี้เองสินะ
พอหมื่นไฟประลัยกัลป์พุ่งไปถึงก้นกระทะ มันก็เริ่มอุ่นกระทะให้ร้อนทันที ไม่นานนักน้ำจากทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ที่อยู่ภายในกระทะก็เริ่มเดือดปุด
ปู้ฟางมองกระทะกลุ่มดาวเต่าดำอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอามันไปพักไว้ข้างๆ จากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมปลาปักเป้าจันทร์ดับ
หากเจ้าดำรู้ว่าปู้ฟางทำความสะอาดกระทะด้วยวิธีนี้ มันจะต้องอยากตบชายหนุ่มจนตายคามือแน่นอน ไอ้หนูปู้ฟางนี่บังอาจทำความสะอาดกระทะเพียงเพราะท่านสุนัขไปนอนอยู่ในกระทะเนี่ย นะ
แค่นอนกลางวันเฉยๆ เอง! เหตุใดต้องเอาน้ำจากทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ไปล้างด้วย
กระนั้นความตั้งใจของปู้ฟางก็ส่งผลถึงอวี่ฝูด้วยเช่นกัน เส้นขนบนแขนขาวๆ ของนางลุกชันไปหมด ปู้ฟางเห็นว่าอวี่ฝูดูประหม่า นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นปู้ฟางตั้งใจและจริงจังเช่ นนี้
พอหยิบปลาปักเป้าจันทร์ดับออกมาแล้ว ควันสีเขียวก็ลอยวนรอบมือของเขาทันที ปู้ฟางเรียกมีดทำครัวกระดูกมังกรทองออกมาพลางโบกมันในอากาศ จากนั้นก็เริ่มแล่ปลาปักเป้า
แม้หนังปลาจะหนาและแข็งเอาเรื่อง แต่มีดทำครัวกระดูกมังกรทองก็แล่มันได้อย่างง่ายดาย คมมีดแล่ผ่านหนังปลาได้อย่างไหลลื่นเหมือนผ่าเต้าหู้
ปู้ฟางโบกมือหนึ่งครั้ง พลันเส้นที่เกิดจากรอยมีดเส้นเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นบนตัวปลาปักเป้า เขาบิดมีดเพื่อเปิดหนังปลาปักเป้าออก
มือของปู้ฟางสั่นเล็กน้อยขณะส่งมีดลึกลงไปในเนื้อปลา ชายหนุ่มตัดส่วนที่เชื่อมเนื้อปลาและหนังปลาอย่างเบามือ
เมื่ออวี่ฝูเห็นวิธีการเตรียมปลาปักเป้าของปู้ฟาง นางก็อดเบิกตากว้างไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าภายในห้องที่มืดสลัวนี้มีแสงจากเบื้องบนส่องลงมาที่ปู้ฟาง
หนังของปลาปักเป้าเปิดออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นปู้ฟางก็ลอกมันออก
ทักษะการใช้มีดของเถ้าแก่ปู้พัฒนาไปมากจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
อวี่ฝูที่เป็นแม่ครัวฝึกหัดฝึกซ้อมทักษะการใช้มีดเป็นประจำทุกวัน แต่ก็ยังอ่อนด้อยกว่าทักษะการใช้มีดฝนดาวตกของปู้ฟางอยู่มาก
อวี่ฝูรู้สึกตกใจกับทักษะการใช้มีดของปู้ฟางเป็นอันมาก ทุกครั้งที่นางดูเขาทำอาหาร มันเหมือนชายหนุ่มกำลังสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ช่างเป็นภาพที่ชวนมองเสียจริงๆ
ปู้ฟางสะบัดมีดทำครัวในมือเล็กน้อย จากนั้นก็วางหนังปลาลงบนถาดกระเบื้องบนเตา
พอจัดการกับหนังปลาเสร็จ ปู้ฟางก็หันมาสนใจปลาทั้งตัวตรงหน้าต่อ
ชายหนุ่มจับมีดทำครัวเอาไว้มั่นพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย อึดใจต่อมาคมมีดก็กะพริบวาบเหมือนสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่ปลาปักเป้า การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ใครก็ตามที่ได้ เห็นถึงกับตะลึงงันไป
ทุกครั้งที่เขายกมีดขึ้น ถุงพิษขนาดเล็กจะถูกเฉือนออกมา พิษในถุงพิษถูกนำมาสร้างเข็มพิษที่เจ้าปลาใช้โจมตีปู้ฟาง ในถุงพิษมีพิษร้ายแรงและของเหลวแปลกประหลาดอยู่ภายใน ปู้ฟางรู ว่าหากของเหลวนั้นปนเปื้อนเนื้อปลา ปลาปักเป้าทั้งตัวจะกินไม่ได้ทันที
นี่เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความอดทนและความแม่นยำเป็นอันมาก ปู้ฟางรู้ดีว่าตัวเขาจะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด
ดึ๋ง! ดึ๋ง! ดึ๋ง!
พอเอาถุงพิษแต่ละถุงออกมาได้ เขาก็จะโยนมันลงในถาดกระเบื้อง เสียงดึ๋งที่ดังขึ้นทำให้อวี่ฝูต้องกลั้นหายใจ นางรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ เหงื่อเม็ด ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก
ดวงตาของนางเบิกกว้างจนกลมโต ดูน่ารักเป็นอันมาก
แต่ตอนนี้ปู้ฟางยุ่งเกินกว่าจะมีเวลาชื่นชมความน่ารักของอวี่ฝู
“เจ้าไปจัดการถุงพิษ แต่จำไว้ว่าจะสัมผัสโดนมันไม่ได้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกพิษ” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
หลังจากที่อวี่ฝูตั้งสติได้นางก็พยักหน้าให้ปู้ฟาง จากนั้นก็ยกถาดกระเบื้องที่เต็มไปด้วยถุงพิษออกไปด้วยความระมัดระวัง มองเห็นว่าในถุงพิษบนถาดกระเบื้องมีน้ำสีเหลืองไหลอยู่ภ ภายใน
ปู้ฟางเริ่มขั้นตอนต่อไปหลังจากตรวจสอบเนื้อปลาปักเป้าเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีถุงพิษหลงเหลืออยู่
เขาควักลูกตาของปลาออก นั่นเพราะดวงตาของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ก็มีพิษร้ายอาบอยู่เช่นกัน
ชายหนุ่มโบกมีดเพื่อขูดหนามแหลมบนผิวปลาออก หนามเหล่านั้นไม่ได้ใหญ่ไม่ได้คม และไม่มีพิษแฝงอยู่ด้วยซ้ำ แต่ปู้ฟางขูดมันออกเนื่องจากหนามนี้จะทำให้ปากของคนกินรู้สึกชา และ ะส่งผลต่อการรับรู้รสชาติอาหาร
เขาผ่าตัวปลาแล้วควักหัวใจของมันออก ตามด้วยถุงลม ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำจากทะเลสาบเทือกเขาปราณสวรรค์ จากนั้นก็จัดการเนื้อเยื่อบางๆ ภายในตัวปลาอย่างระมัดระวัง
ปู้ฟางใช้เวลานานพอตัวกว่าจะจัดการปลาปักเป้าทุกส่วนเสร็จ เนื่องจากมันมีพิษอยู่หลายส่วน
เขาสะบัดมีดแล้วเริ่มแล่เนื้อส่วนที่เหลือซึ่งไม่มีพิษแฝงอยู่ เนื้อของปลาปักเป้านั้นอ่อนนุ่มพอตัว เพียงแค่วาดคมมีดผ่านเบาๆ ก็แล่ออกได้อย่างง่ายดาย
พอจัดการเนื้อปลาเสร็จ ปู้ฟางก็เริ่มเตรียมทำอาหาร
เขาตื่นเต้นเล็กน้อยเนื่องจากเนื้อปลาปักเป้าถือเป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกของชาติก่อนที่เขาเคยอยู่ แม้นี่จะเป็นการกล่าวเกินจริงไปบ้าง แต่มันก็แปลว่าเนื้อของปล ลาปักเป้าอร่อยมากจริงๆ
และเพราะเขากำลังจะได้ทำอาหารรสเลิศด้วยตัวเอง ปู้ฟางจึงย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่เขาก็ยังรอบคอบและระมัดระวังขณะทำอาหารจากเนื้อปลาปักเป้า
ชายหนุ่มโบกมือส่งให้หมื่นไฟประลัยกัลป์เผาไหม้รุนแรงขึ้นอีก อุณหภูมิของกระทะกลุ่มดาวเต่าดำเพิ่มขึ้นสูงในพริบตา