ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 402 ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดกับวงแหวนปราณอาหารเลิศรส
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 402 ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดกับวงแหวนปราณอาหารเลิศรส
“ท่านเอาข้าวผัดไข่เหมือนเดิมใช่หรือไม่”
โอวหยางเสี่ยวอี้ที่นั่งขดอยู่บนเก้าอี้เอ่ยปากถามเป่ยกงหมิงที่เพิ่งเดินเข้าประตูร้านมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
เป่ยกงหมิงมองเด็กหญิงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาหาที่นั่งแล้วเริ่มหันไปจ้องทางห้องครัว
เขามาที่ร้านทุกวันเพราะหวังว่าจะเจอปู้ฟาง ชายหนุ่มยังไม่กลับมาเสียดี แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะกลับมาในเร็ววันนี้
เมื่อปู้ฟางกลับมาเขาจะรีบรายงานผู้บัญชาการเฟิงทันที และผู้บัญชาการเฟิงก็จะรีบรุดมาที่นี่พร้อมด้วยผู้ฝึกตนมากมายจากสำนักมหาพิภพ เพื่อบังคับให้ไอ้หนุ่มที่กินหมื่นไฟประลัยกั ลป์เข้าไปคายไฟออกมา
ไม่มีใครต้านทานแสนยานุภาพอันเกรียงไกรของสำนักมหาพิภพได้แน่นอน
เป่ยกงหมิงมั่นใจเป็นอันมาก เขาเริ่มจินตนาการชะตากรรมอันน่าสมเพชของปู้ฟางหลังจากถูกสำนักของเขาจัดการ แล้วก็อดยิ้มออกมาอย่างสาแก่ใจไม่ได้
ตึก...
เสียงดังตึกปลุกเขาให้ตื่นจากฝันกลางวัน
โอวหยางเสี่ยวอี้วางชามข้าวผัดไข่ลงตรงหน้า จากนั้นก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะเบาๆ เนื่องจากเห็นว่าเป่ยกงหมิงกำลังเหม่อลอยฝันหวานอยู่
มุมปากของเป่ยกงหมิงยกขึ้นอีกครั้ง เขาลากชามเข้ามาใกล้ หยิบช้อนกระเบื้องขึ้น จากนั้นก็เริ่มกินอาหารที่สั่งเป็นประจำ
แม้จะยังไม่ทันได้เริ่มสอดแนมปู้ฟาง แต่เขาก็ค้นพบเรื่องที่ไม่คาดคิดเรื่องหนึ่ง นั่นคืออาหารร้านนี้อร่อยใช้ได้
ครั้งแรกที่มาที่ร้าน เป่ยกงหมิงตกใจกับราคาอาหารที่แพงหูฉี่เสียยิ่งกว่าโอสถทิพย์
แต่หลังจากที่ได้ลองชิมครั้งหนึ่ง เขาก็ติดใจกับรสชาติของอาหารร้านใจไม้ไส้ระกำเข้าจนได้
ทุกวันนี้ทันทีที่มาถึงร้านเขาจะสั่งอาหารก่อน จากนั้นก็คอยดูว่าปู้ฟางกลับมาแล้วหรือยัง
ขณะที่เป่ยกงหมิงกำลังกินข้าวผัดไข่อยู่นั้น ก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ชั้นสองของร้าน ลมพายุก่อตัวขึ้น จากนั้นภาพที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าปู้ฟาง เขากลับมาถึงร้านแล้ว
ห้องที่คุ้นเคยและแสนสงบเงียบทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมา
กุ้งตั๊กแตนสีทองกำลังนอนหลับอุตุอยู่บนไหล่ของชายหนุ่ม
ปู้ฟางยกเจ้าดำขึ้นสำรวจดู มันนอนหลับลึกจนบอกไม่ได้ว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ชายหนุ่มไม่ได้เอาเจ้าดำไปไว้ที่หน้าร้าน แต่วางมันไว้ในห้องของตัวเองอย่างนั้น
พอกลับมาถึงร้าน ปู้ฟางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เขายืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็เอาเจ้ากุ้งออกจากไหล่แล้ววางมันลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
พอแช่น้ำร้อนเสร็จ เขาก็สวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมผมที่ยังเปียก ชายหนุ่มมานั่งอยู่บนเตียงสักพัก จากนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้นในศีรษะ
“นายท่าน ขอแสดงความยินดีที่ทำภารกิจฉุกเฉินสำเร็จ ในเมื่อท่านกลับมาถึงแล้ว ระบบจะออกรางวัลให้เดี๋ยวนี้”
ทันทีที่เสียงของระบบดังขึ้น สีหน้าของปู้ฟางก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าแก่นพลังของตนเองร้อนจัด จากนั้นพลังปราณในกายก็พุ่งสูงขึ้น พลังปราณในแก่น นพลังของเขาเริ่มหลอมรวมกัน กลายเป็นเกราะป้องกันที่หลอมขึ้นในแก่นพลัง เกราะนี้เป็นเอกลักษณ์ของผู้ฝึกตนขั้นเทพแห่งสงคราม ผู้ฝึกตนระดับนี้สามารถเรียกเกราะออกมาป้องกัน ร่างกายตนเองขณะต่อสู้ได้ เป็นเกราะที่สร้างขึ้นจากพลังปราณในแก่นพลังนั่นเอง
เขาบรรลุปราณขั้นเทพแห่งสงครามได้ง่ายดายเพียงเท่านี้เองหรือ ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกว่าตนเองต้องก้าวข้ามจุดคอขวดแต่อย่างใด
ปู้ฟางยกมือขึ้นมองฝ่ามือขาวผ่องของตนเอง เขายิ้มออกมาจากนั้นก็ผ่อนลมหายใจยาว ในที่สุดก็บรรลุขั้นปราณเสียที
พอทำภารกิจเสร็จเขาก็ได้รับรางวัลเป็นขั้นปราณที่พัฒนาขึ้นร้อยละ 20 สุดท้ายปู้ฟางก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นเทพแห่งสงครามจนได้
ในเมื่อขั้นปราณของเขาพัฒนาขึ้น ระบบก็น่าจะพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน
นายท่าน: ปู้ฟาง
ระดับพลังปราณเที่ยงแท้: ระดับแปด (ในฐานะชายที่จะก้าวขึ้นมาเป็นพ่อครัวเทพในโลกแห่งจินตนาการ ท่านได้ผ่านช่วงต้นของความอ่อนแอไร้ความหมายมาแล้ว เส้นทางการก้าวไปสู่การเป็น นพ่อครัวเทพต่อจากนี้จะทวีความยากยิ่งขึ้นไปอีก พยายามเข้าละ พ่อหนุ่ม)
พรสวรรค์การทำอาหาร: สี่ดาว
ทักษะ: ทักษะการใช้มีดฝนดาวตกระดับสอง (100/100) ทักษะการแกะสลักกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ระดับสอง (100/100) วงแหวนปราณอาหารเลิศรส (1/6)
อุปกรณ์: มีดทำครัวกระดูกมังกรทอง (ชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ) กระทะกลุ่มดาวเต่าดำ (ชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ)
คะแนนรวมการเป็นพ่อครัวเทพ: พ่อครัวระดับกลาง (ศาสตร์การทำอาหารของท่านพัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว ทักษะของท่านก็ซับซ้อนประณีตยิ่งขึ้น โลกแห่งการทำอาหารที่แสนกว้างใหญ่เปิดออก กต่อหน้าท่านแล้ว และท่านสามารถเริ่มทำอาหารวิเศษได้)
ระดับของระบบ: แปดดาว (อัตราการแปลงหน่วยร้อยละร้อย)
รางวัลจากระบบ: ก๋วยเตี๋ยวอาละวาด วงแหวนปราณอาหารเลิศรสระดับต้น เสี้ยวหนึ่งของอุปกรณ์พ่อครัวเทพ (2/3)
ระบบพัฒนาขึ้นเงียบๆ โดยไม่บอกกล่าว ตอนนี้ระบบของเขาอยู่ที่ระดับแปดตามขั้นปราณของปู้ฟางที่บรรลุขั้นเทพแห่งสงคราม ระบบที่พัฒนาขึ้นนั้นมาพร้อมการใช้งานรูปแบบใหม่ด้วยเช ช่นกัน ไอ้อาหารวิเศษนี่มันอะไรกัน
ปู้ฟางคิดอยู่คนเดียวอย่างงุนงง
รางวัลที่เขาได้มาคราวนี้ก็ประหลาดเช่นกัน
ก๋วยเตี๋ยวอาละวาด ก๋วยเตี๋ยวนี่มันอาละวาดได้ด้วยหรือ แล้วจะกินเข้าไปได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นไอ้วงแหวนปราณอาหารเลิศรสมันคืออะไรกันแน่
ปู้ฟางเริ่มรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกใหม่หลายอย่างปรากฏขึ้นในการพัฒนาขั้นปราณครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่อีกแล้วสินะ
ชายหนุ่มจึ๊ปาก ในใจเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ระบบออกรางวัลเรียบร้อยแล้ว นายท่านโปรดดูได้”
เสียงของระบบดังขึ้น ภายในอึดใจเดียว ข้อมูลมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในศีรษะของปู้ฟาง ซึ่งเป็นความรู้ที่ตัวเขาไม่เคยรู้มาก่อน
ปู้ฟางอยากรู้เรื่องอาหารจานใหม่มากที่สุด เขาจึงเริ่มอ่านเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวอาละวาดก่อนเป็นอันดับแรก
“ก๋วยเตี๋ยวอาละวาด: อาหารวิเศษ เป็นอาหารที่ซื้อกลับบ้านได้ เส้นก๋วยเตี๋ยวทำมาจากการบดแป้งสาลีพลังปราณที่ได้จาก ‘เรือนจำทมิฬ’ หนึ่งในบริเวณต้องห้ามของทวีปมังกรซ่อนเร้นใ ให้เป็นผงละเอียด น้ำแกงทำมาจากการนำน้ำแข็งจากเทือกเขาน้ำแข็งมหากาฬมาละลายพร้อมใส่ซอสพริกอเวจีเข้าไป อาหารจานนี้มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ความสามารถในการต่อสู้ พัฒนาขึ้นหนึ่งเท่าโดยไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด ยิ่งผู้ที่กินแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมเท่าไร ก็ยิ่งได้รับพลังเสริมมากขึ้นเท่านั้น”
คำอธิบายคุณลักษณะของก๋วยเตี๋ยวอาละวาดทำให้ปู้ฟางอึ้งไปทันทีที่ได้อ่าน
นี่น่ะหรือสิ่งที่เรียกว่าอาหารวิเศษ
การทำให้พลังการต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นหนึ่งเท่านั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างจริงแท้ มันมีฤทธิ์เหมือนการกินโอสถทิพย์ชั้นดี แต่โอสถทิพย์มีผลข้างเคียง ไม่เหมือนอาหารจานนี้ที่ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มพลังการต่อสู้หนึ่งเท่าก็ไม่ได้เรียบง่ายเหมือนเอาหนึ่งบวกกับหนึ่งอีกด้วย
ชายหนุ่มไม่ได้คาดคิดแม้แต่น้อยว่าอาหารสามารถส่งผลเช่นนี้ได้ ปู้ฟางคิดว่าการที่อาหารสามารถเพิ่มขั้นปราณ รวมทั้งฟื้นฟูพลังปราณเที่ยงแท้ในกายได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว อาหารโอ อสถทิพย์นั้นสามารถรักษาร่างกายได้ด้วยซ้ำ
ปู้ฟางย่นจมูก ความอยากรู้ก่อตัวขึ้นในจิตใจ เขารู้ตัวดีว่าตนเองยังไม่เข้าใจอาหารจานต่างๆ อย่างถ่องแท้
“ระบบ เมื่อกี้ที่เจ้าบอกมาน่ะ เช่นนี้ไม่ได้แปลว่าอาหารโอสถทิพย์ก็เป็นอาหารวิเศษจำพวกหนึ่งหรือ ในเมื่อมันสามารถเยียวยาอาการบาดเจ็บได้ ก็ควรจะนับเป็นหนึ่งในอาหารวิเศษ ด้วยไม่ใช่หรือ” ปู้ฟางถาม
“อาหารโอสถทิพย์จัดอยู่ในหมวดย่อยหมวดเล็กๆ ของอาหารวิเศษเท่านั้น ไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือนอาหารวิเศษจานอื่น และไม่สามารถสร้างวงแหวนปราณอาหารเลิศรสได้” ระบบตอบ
วงแหวนปราณอาหารเลิศรสรึ มันคืออะไรกัน
คนเป็นพ่อครัวแม่ครัวสามารถสร้างวงแหวนปราณเหมือนผู้เชี่ยวชาญด้านวงแหวนปราณได้ด้วยหรือ
ปู้ฟางรู้ว่าวงแหวนปราณคืออะไร ตอนที่เขาพยายามบุกเข้าไปในนครมหาอสรพิษ วงแหวนปราณพิทักษ์นครที่เป็นปืนใหญ่ก็ทำให้เขารู้สึกประทับใจไม่น้อย
จัตุรัสประตูมายาสวรรค์ของจักรวรรดิวายุแผ่วเองก็มีวงแหวนปราณอยู่เช่นกัน เอาเข้าจริงปู้ฟางเองก็รู้สึกสนใจเรื่องวงแหวนปราณพอตัว
“วงแหวนปราณอาหารเลิศรสนั้นจะสร้างขึ้นได้ก็ต่อเมื่อใช้อาหารวิเศษเป็นตัวจุด เช่น หากท่านใช้ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเป็นตัวจุด ก็จะสามารถสร้างวงแหวนปราณที่ใช้ในการโจมตีได้”
ระบบอธิบายให้ปู้ฟางฟังด้วยเสียงเคร่งขรึม ค่อยๆ คลายความสงสัยในใจของชายหนุ่มไปทีละเปาะ
ปู้ฟางหรี่ตา ชายหนุ่มรู้ว่าทุกครั้งที่ขั้นปราณของเขาเพิ่มขึ้น เขาจะได้รับสิ่งใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงตาของวงแหวนปราณอาหารเลิศรสในที่สุด
ปู้ฟางรู้สึกว่าอาหารวิเศษนั้นไม่ได้ต่างจากอาหารโอสถทิพย์แต่อย่างใด แต่ผลลัพธ์ของมันนั้นเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าอาหารโอสถทิพย์
ปู้ฟางยังคงงุนงงอยู่ตอนที่ดึงจิตออกจากระบบ ชายหนุ่มเช็ดผมเปียกๆ บนศีรษะ แล้วหันไปมองเจ้าดำที่ยังคงหลับลึก จากนั้นก็หยิบเจ้ากุ้งขึ้นมาวางบนไหล่แล้วเดินลงไปชั้นล่าง
พอเป่ยกงหมิงกินข้าวผัดไข่คำสุดท้ายหมดก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความอิ่มเอมใจ เขาหยิบผลึกจำนวนหนึ่งออกมาจ่ายค่าอาหาร แล้วมองไปที่ห้องครัวด้วยสีหน้าเสียดาย ดูเหมือนว่าวันน นี้เถ้าแก่ก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิมสินะ
เขาลุกขึ้นยืนตั้งท่าจะจากไป
แต่หูก็พลันกระตุกเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
ม่านตาของเป่ยกงหมิงหดแคบ เขาหันหน้าไปมองแล้วก็เห็นชายร่างผอมเพรียวกำลังเดินลงบันไดมาช้าๆ
หมอนั่น! หมอนั่นจริงๆ ด้วย!
เป็นหมอนั่นตัวจริงเสียงจริงแน่นอน!
รูขุมขนทั้งหมดในร่างกายของเป่ยกงหมิงพลันระเบิดออก เขาตื่นเต้นมากเสียจนหนังศีรษะแทบจะหลุดปลิวหายไป
ในที่สุดก็หาตัวเจอเสียที หลังจากมาสังเกตการณ์ที่ร้านหลายต่อหลายวัน สุดท้ายเขาก็เจอเป้าหมายในตอนที่กำลังจะล้มเลิกความตั้งใจพอดี
นี่มันไอ้คนป่าที่กลืนเปลวเพลิงแห่งสวรรค์และปฐพีในดินแดนแสนภูผาเข้าไปจริงๆ ด้วย
สายตาของเป่ยกงหมิงวาววับราวสายฟ้าที่เจาะทะลวงอากาศ ชายหนุ่มพุ่งเข้าใส่ปู้ฟางอย่างรวดเร็ว
ปู้ฟางกำลังเดินลงบันไดมาอย่างเกียจคร้าน เขาเอามือจับผมที่ยังเปียกอยู่เล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามาประสานกับสายตาคมกริบของเป่ยกงหมิงพอดิบพอดี
หือ
หมอนี่หน้าตาคุ้นๆ ข้าเคยเจอที่ไหนมาก่อนนะ
ปู้ฟางชะงัก เขาไม่ได้เดินเข้าครัวไป แต่กลับเดินมายังบริเวณที่ใช้รับรองลูกค้าแทน
“นายท่านตัวเหม็นกลับมาเสียที”
เมื่อโอวหยางเสี่ยวอี้เห็นปู้ฟาง ดวงตากลมโตของนางก็เบิกกว้างขึ้น นางยิ้มกริ่มเผยให้เห็นลักยิ้มบุ๋มน่ารักทั้งสองข้าง
นับวันก็ยิ่งสวยสง่าสมเป็นสาวน้อยแรกแย้ม
ปู้ฟางยกมือขึ้นลูบศีรษะนางเหมือนเคย จากนั้นเขาก็หันไปมองเป่ยกงหมิง
พอได้มองชัดๆ ชายหนุ่มก็เลิกคิ้วขึ้นทันที
ร่างของเป่ยกงหมิงร้อนรุ่มด้วยโทสะและความแค้นคับแน่นใจ
เขาคำรามออกมาดังลั่น
“เจ้านี่เองไอ้หนุ่มที่กินหมื่นไฟประลัยกัลป์เข้าไป เจ้านี่เองคนที่เอากระทะสีดำมาตีหัวข้า”
เป่ยกงหมิงจำปู้ฟางได้ขึ้นใจ ความแค้นของเขาแน่นอกจนฝังลึกเข้าไปในกระดูกดำ
เขาจะไม่มีวันลืมเสียงน่ารำคาญของกระทะสีดำที่ตีหัวของตัวเองเลยแม้แต่ลมหายใจเดียวในชีวิตนี้
ปัง!
เป่ยกงหมิงกระทืบเท้าลงบนพื้น พลังปราณระเบิดออกจากกายจนทำให้เส้นผมปลิวสยาย เขาอยากล้มปู้ฟางเสียตรงนี้เลย
ปู้ฟางมองเป่ยกงหมิงที่พุ่งเข้าใส่ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
เขานึกออกแล้วว่าชายตรงหน้าเป็นใคร
มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม หยิบกระทะกลุ่มดาวเต่าดำออกมาอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็เหวี่ยงมันใส่ศีรษะเป่ยกงหมิงที่กำลังพุ่งเข้ามาทันที
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำเคลื่อนที่รวดเร็วมาก เป่ยกงหมิงหยุดตัวเองเอาไว้ไม่ทัน จึงทำได้เพียงมองกระทะลีดำที่กำลังพุ่งเข้าหาตนด้วยสีหน้าอมทุกข์
ป๊อง!
ทันทีที่กระทะฟาดใส่ศีรษะ เป่ยกงหมิงก็เริ่มสงสัยว่าตนเองเกิดมาทำไม เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเหตุใดผู้ฝึกตนขั้นเซียนเทพชั้นกลางอย่างเขาจึงถูกกระทะตีหัวได้ง่ายดายเช่นนี
หรือชะตาของเขาจะต้องถูกกระทะฟาดตลอดไปกันนะ
มุมปากของโอวหยางเสี่ยวอี้กระตุกขณะมองเป่ยกงหมิงที่ถูกกระทะตีจนตัวแข็งทื่อ… ไอ้หมอนี่มันสมองทึบหรืออย่างไรกัน
ปู้ฟางเหลือบตามองเป่ยกงหมิงที่ยืนทื่ออยู่กับที่ จากนั้นก็หันหลังกลับอย่างเกียจคร้าน พลางเอ่ยสั่งเสียงเรียบ “เจ้าขาว จับไอ้หมอนี่แก้ผ้าแล้วโยนออกไป”
ลำแสงสีแดงส่องสว่างออกจากห้องครัว
เจ้าขาวมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเป่ยกงหมิง ฉีกเสื้อผ้าอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ แล้วโยนร่างเปลือยเปล่าของชายฉกรรจ์ออกจากร้านไป
ลมเย็นพัดผ่านทำเอาเป่ยกงหมิงที่เพิ่งกลับมาได้สติรู้สึกอมทุกข์จนอยากตาย
ปู้ฟางไม่ได้สนใจเหตุไม่คาดฝันเล็กน้อยนี้เลยสักนิด
เขาเอามือไพล่หลังแล้วเดินเข้าครัวไป
ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะลองทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดอะไรนี่…ดูสักตั้ง