ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 403 อาหารจานใหม่ของเถ้าแก่ปู้
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 403 อาหารจานใหม่ของเถ้าแก่ปู้
หลังจากถูกโยนออกไป เป่ยกงหมิงที่ตัวเปล่าล่อนจ้อนก็ได้สติ แววตาของเขาปรากฏความหดหู่และความขุ่นเคือง
กระทะสีดำใบนั้นอีกแล้ว ไอ้กระทะสีดำบ้านั่นอีกแล้ว! กระทะนั่นมันแค้นเคืองข้าอะไรนักหนา
เป่ยกงหมิงที่ถูกรังแกมาหมาดๆ เอามือปิดของลับของตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน เขาจ้องเขม็งไปที่ร้านพลางกัดฟันกรอด
ยอดฝีมือขั้นเซียนเทพผู้ทรงเกียรติที่เป็นถึงศิษย์ชั้นในของสำนักมหาพิภพ หนึ่งในสำนักชั้นนำของทวีปมังกรซ่อนเร้นถูกจับแก้ผ้าแล้วโยนออกจาก กร้านในดินแดนที่เป็นเพียงสนามฝึกซ้อม
หากข่าวนี้แพร่ออกไป เขาจะใช้ชีวิตในทวีปนี้ต่อไปได้อย่างไร
หลังจากกัดฟันกรอดอยู่สักพัก เป่ยกงหมิงก็จากไปเงียบๆ
เขาไม่อยากมีเรื่องกับร้านนั้นด้วยประการทั้งปวง เจ้าของร้านมีคู่ปรับตัวฉกาจของเขาอย่างกระทะสีดำอยู่ หากดึงดันจะเผชิญหน้ากับเจ้าของร้านอีกคร รั้ง ก็รังแต่จะหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวมากกว่งเก็รั เขก็ควรรรื่ใงผู้ห้ญชากาก็เฟิงมาจ็งตัองแก็รัต่อยก็ดกาต่เรื่อผู้ห้านง
เป่ยกงหมิงพ่นลมเยาะอย่างเย็นชา เขาปกปิดของสงวนไว้แน่นก่อนรีบกลับโรงเตี๊ยมไป
พอกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เป่ยกงหมิงก็หยิบชุดคลุมยาวมาสวมพลางสูดหายใจลึก ความขุ่นเคืองที่เขามีต่อปู้ฟางเพิ่มมากขึ้น เขาสาบานว่าต่อให้ต้องแล ลกกับอะไรก็จะทำให้ปู้ฟางได้ลิ้มรสการเป็นชีเปกัอยเกรก็าปู้
หลังสวมเสื้อผ้าเสร็จ เป่ยกงหมิงก็หยิบยันต์ออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ ยันต์นี้มีสีเหลือง เป็นยันต์สื่อสารของสำนักมหาพิภพ เขาสามารถใช้มัน ส่งข่าวถึงผู้บัญชาการเฟิงที่มียันต์แบบเดียวกันได้
เป่ยกงหมิงส่งข่าวไปถึงผู้บัญชาการเฟิง แต่กลับไม่ได้รับคำตอบทันที ซึ่งทำให้เขากระวนกระวายใจไม่น้อย ชายหนุ่มเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ใน นห้อง เฝ้ารอคำตอบจากผู้บัญชาการเฟิง
ตอนนั้นเองยันต์ที่ชายหนุ่มวางไว้บนโต๊ะด้วยความวิตกกังวลก็ตอบสนองจนได้ มันเปล่งแสงสีเหลืองออกมา
เป่ยกงหมิงดีใจล้นพ้น รีบหยิบยันต์ขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นรัศมีที่แผ่ออกมาจากยันต์ สีหน้าของเขาก็พลันแข็งทื่อ
นั่นเพราะภาพที่ปรากฏขึ้นภายในรัศมีหาใช่ผู้บัญชาการเฟิงไม่ แต่เป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง คนผู้นี้หล่อเหลาเป็นอันมาก คิ้วเฉียงขึ้น แววตาเ เป็นประกาย บุคลิกดูหยิบโหย่ง สายตาเย่อหยิ่ป็มีแวบุเลิยหบุยิปรากฏลิย
“เหลียง… ไค ทำไมเป็นเจ้าไปได้”
นัยน์ตาของเป่ยกงหมิงเบิกกว้างขณะตั้งคำถาม เขารู้สึกงงงวยไม่น้อย
“ไม่คิดเลยว่าคนไม่เอาไหนแบบเจ้าจะอยู่ในสนามฝึกซ้อม เช่นนี้ก็สะดวกเลย ข้าใกล้ถึงสนามฝึกซ้อมแล้ว รีบมาต้อนรับด้วยล่ะ”
เหลียงไคยกมุมปากเป็นรอยยิ้มขี้เล่น คำพูดของเขาแสดงถึงความคุ้นเคยกับเป่ยกงหมิงเป็นอย่างดี
ความโกรธฉายวาบบนใบหน้าของเป่ยกงหมิง “ทำไมข้าต้องไปต้อนรับเจ้าด้วย ข้ากำลังรอผู้บัญชาการเฟิงอยู่ เรามีเรื่องสำคัญต้องจัดการ”
รอผู้บัญชาการเฟิงอย่างนั้นรึ
เหลียงไคยิ้มหยอกยิ่งกว่าเดิม เขามองเป่ยกงหมิงที่กำลังโกรธก่อนจะพูดเย้ยออกมา “ข้าเพิ่งได้ข่าวมาว่าผู้บัญชาการเฟิงถูกยอดฝีมือชาวสมุทรส สังหารตอนต่อสู้แย่งชิงสมบัติในเหมืองผลึก เขาตารแล้น รอะไต่ชิเนาบัติสู้องต่ดการลึก”
เป่ยกงหมิงตกตะลึง ชายหนุ่มนิ่งงันและเศร้าสลดไปชั่วขณะหนึ่ง
เหลียงไคไม่คิดใส่ใจกับความเศร้าโศกของเป่ยกงหมิง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างไม่ไยดี “รีบมาที่ดินแดนแสนภูผาเดี๋ยว วนี้ ข้าได้ข่าวว่าเจ้ากำลังเฝ้าไอ้คนท้องถิ่นที่มันี้เอาหด้ข่ไฟประจ้ยว่ลลัไป พข่อ้ถิ่ไปหข้หมที่มันี้ เาาไข่ข้วทาปจ้เสธเพราะข่อ้เป็ท้คำถิ่งของข้า า”
…..
พอปู้ฟางสั่งให้เจ้าขาวโยนเป่ยกงหมิงออกไป เขาก็ไม่คิดใส่ใจเรื่องนี้อีก
ปู้ฟางเดินเข้าครัว ยังคงอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำ เซียวเสี่ยวหลงอยู่ในครัว ในมือมีมีดทำครัวอยู่สองเล่ม ชายหนุ่มใช้มีดทั้งสองหั่นวัตถุดิบ บอย่างว่องไว ทักษะการใช้มีดคู่ของเขาไม่เลวเลงว่เย่ยว
เมื่อเห็นปู้ฟาง เซียวเสี่ยวหลงก็หยุดมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เถ้าแก่ปู้ ท่านกลับมาแล้ว”
“ทำต่อไป อย่าหยุด แล้วรออีกหน่อยล่ะ ข้าจะให้เจ้าชิมของดีๆ” ปู้ฟางพูดกับเซียวเสี่ยวหลงแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายฝึกฝนการใช้มีดต่อไป
ของดีรึ
แววตาของเซียวเสี่ยงหลงเจิดจ้า ใบหน้าขาวผ่องแดงเรื่อ
“เถ้าแก่ปู้มีอาหารจานใหม่อีกแล้วหรือนี่”
พอรู้ว่าจะได้ชิมอาหารจานใหม่ของปู้ฟาง เซียวเสี่ยวหลงก็มีชีวิตชีวาขึ้น พลางตั้งหน้าตั้งตารออย่างกระตือรือร้น
ปู้ฟางเดินมาที่เตาส่วนตัว ถึงไม่ได้ใช้งานนานแล้วแต่ก็ยังสะอาดเอี่ยมอ่อง
ชายหนุ่มสูดหายใจลึกด้วยความคิดถึง อย่างไรเสียเขาก็ชอบใช้เตาของร้านเป็นที่สุด
ปู้ฟางโบกมือหยิบมีดหนักอึ้งที่แขวนอยู่บนราวออกมา เขาควงมีดพลางเหวี่ยงลงไปบนเขียงอย่างแรง
ขณะที่เล่นกับมีด เขาก็ศึกษาสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดไปด้วย วิธีการทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดนั้นง่ายมาก มันง่ายเสียจนปู้ฟางทำสีหน้าแปลกประห หลาด
วัตถุดิบที่ต้องใช้มีน้อยมาก
เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำซุป หอมนิดหน่อย และซอสพริกอเวจีหนึ่งโถ
ปู้ฟางเลิกคิ้วด้วยความฉงน เขารู้สึกว่าอาหารจานนี้เรียบง่ายเกินไป
ชายหนุ่มลูบคางเบาๆ พลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง วิธีการทำอาหารจานนี้มันควรต้องลึกซึ้งหน่อยไม่ใช่หรือ
แต่หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน เขากลับไม่ได้อะไรใหม่ๆ เลย
ดังนั้นปู้ฟางจึงเริ่มลงมือทำ
ขั้นแรกปู้ฟางต้องนวดแป้งแล้วทำเส้นก๋วยเตี๋ยว งานนี้ค่อนข้างยากสำหรับชายหนุ่มเพราะในชาติที่แล้วเขาไม่เคยทำมาก่อน
แป้งถูกนวดอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแป้งโด ตามที่ระบบอธิบายไว้ ต้นกำเนิดของแป้งที่เขาใช้นี้ค่อนข้างพิเศษทีเดียว
เขาตบแป้งโดที่เรียบเนียนให้ลอยขึ้นไปกลางอากาศ มันหมุนรอบตัวเองเป็นวงกลมราวกับเป็นดาวเคราะห์
แป้งสีขาวลอยขึ้นไปในอากาศพลางหมุนรอบแป้งโดที่หมุนรอบตัวเอง แป้งโดเริ่มดูดซับแป้งสีขาวเข้าไป
ปู้ฟางตบมือเพื่อให้แป้งกระจายไปทั่ว ดวงตาค่อยๆ เป็นประกายขึ้นมา
เขายื่นนิ้วเข้าไปในแป้งโดที่กำลังหมุน แล้วดึงแป้งออกมาจนเป็นเส้นยาว
ปู้ฟางขยับมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง สะบัดแขนซึ่งกำลังดึงแป้งออกมาเป็นเส้นไม่หยุด
เส้นก๋วยเตี๋ยวที่กำลังร่ายรำรอบตัวปู้ฟางยาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะถูกดึงออกมาจากแป้งโดไม่หยุด
ปู้ฟางเริ่มดึงเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกเส้นออกมาจากแป้งโดที่กำลังหมุน ยิ่งจำนวนเส้นก๋วยเตี๋ยวในมือเพิ่มขึ้น เขาก็ยิ่งหมุนควงแขนได้ลำบาก เส้นก๋ว วยเตี๋ยวที่ลอยอยู่รอบตัวของชายหนุ่มดูเหมือนหที่ผีเยวที่ายรวไม่มียตั
เซียวเสี่ยวหลงตะลึงงัน เขาวางมีดลงพลางจ้องมองปู้ฟางดึงเส้นก๋วยเตี๋ยวออกมาเรื่อยๆ ด้วยความสนเท่ห์
เถ้าแก่ปู้นี่แตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ขนาดการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ยังแหวกแนวไม่เหมือนใคร
เมื่อแป้งโดส่วนสุดท้ายถูกดึงเปลี่ยนเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ปู้ฟางก็ใช้มืออีกข้างจับปลายเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นสุดท้ายเอาไว้แล้วยกขึ้นสูง เส้นก๋วยเตี๋ ๋ยวเส้นอื่นๆ ซึ่งปู้ฟางปล่อยให้ลอยในอากาศร่ววลงมอื่ราส้พาปู้กระห้จำนวห้มหาศาร่ที่หวนร่อื่วฝัส้ ขณะส้มัอื่ปู้วยลงมา ปู้ฟางก็แบร่ที่แฝัศยื่นออกมา รับเส้นก๋วยเตี๋ยวเอาไว้ พลางม้วนรวมกันจนเหมือนขนแกะก้อนใหญ่
กระบวนการทั้งหมดชวนให้นึกถึงภาพคนใช้หวีสางผมตัวเองอย่างประณีตไม่มีผิด
เส้นก๋วยเตี๋ยวสำเร็จเสร็จได้ด้วยวิธีเช่นนี้
ปู้ฟางวางเส้นก๋วยเตี๋ยวไว้ข้างๆ ก่อนจะเริ่มเตรียมน้ำซุป กระทะกลุ่มดาวเต่าดำลอยออกมาแล้วหมุนรอบกลางอากาศ ใบหน้าของปู้ฟางเป็นสีแดงก่ำขณะอ้า าปากพ่นเปลวไฟสีทองอร่ามออกมา เปลวไฟพุ่งตรพ่ไปสีใพ่กระทมแฟร่เมนจุดไาใฟพุ่กโชฟ
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำเริ่มปล่อยไอ้น้ำหนาแน่นออกมาในเวลาสั้นๆ
ปู้ฟางเทน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งของเทือกเขาน้ำแข็งมหากาฬซึ่งระบบจัดหาให้ลงในกระทะ
ฉ่า!
พลังปราณที่อัดแน่นพุ่งขึ้นจากกระทะ ทำให้ปู้ฟางตาพร่าเล็กน้อย
“สวรรค์! น้ำนี่วิเศษจริงๆ!
ปู้ฟางอุทานด้วยความชื่นชม เขาเพิ่มความแรงของหมื่นไฟประลัยกัลป์ เพียงชั่วอึดใจน้ำในกระทะก็เริ่มเดือด ขั้นต่อมาเขาก็จุ่มเส้นก๋วยเตี๋ยวลงใ ในน้ำเดือนทันที
ขณะดูเส้นก๋วยเตี๋ยวกำลังถูกต้ม ปู้ฟางก็เรียกโถซอสพริกอเวจีมาไว้ในมือ เขามองโถซอสพริกอเวจีแล้วลังเลครู่หนึ่งก่อนจะเปิดฝา ชายหนุ่มโบกมือ อเหนือโถก่อนจะตักซอสพริกสีแดงออกมาช้อนหนึ่ก่
ความเผ็ดร้อนของมันทำให้ปู้ฟางขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
จ๋อม…
ปู้ฟางใส่ซอสลงในกระทะ น้ำที่เดือดปุดๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที รสชาติเผ็ดร้อนพวยพุ่งออกมา
“หืม… ใส่มากไปหรือเปล่านี่ ช่างเถอะๆ อย่างไรเสียเซียวเสี่ยวหลงก็เป็นคนชิมคนแรกอยู่แล้ว” ปู้ฟางพึมพำ
เขาเชื่อมจิตเข้ากับกระทะกลุ่มดาวเต่าดำ แล้วเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบในกระทะ
ปู้ฟางมึนงงไปชั่วขณะ วัตถุดิบเดียวในกระทะคือเส้นก๋วยเตี๋ยว เขาไม่รู้ว่าควรปรุงมันให้สุกประมาณไหน
ปัง!
ปู้ฟางแสยะยิ้มพลางโบกมือ เส้นก๋วยเตี๋ยวในกระทะทะยานขึ้นไปทันที เขาหยิบชามกระเบื้องออกมา เส้นก๋วยเตี๋ยวควันฉุยที่ลอยอยู่กลางอากาศตกลงมาใน นชามพอดิบพอดี
กลิ่นหอมของมันซึ่งเริ่มแผ่ไปในอากาศทำให้ปู้ฟางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ปู้ฟางตักซุปสีแดงร้อนๆ ออกมาเทลงชาม จากนั้นก็โรยหอมสับลงไปเล็กน้อยเป็นอันเสร็จสิ้น ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดซึ่งดูเหมือนจะทำให้คนอยากอาหารได้เสร ร็จสมบูรณ์แล้ว
“ง่ายดายอะไรเช่นนี้!” ปู้ฟางอุทานด้วยความชื่นชม ประหนึ่งว่ายิ่งมีทักษะสูงขึ้น เขาก็ยิ่งทำอาหารได้ง่ายขึ้น
เซียวเสี่ยวหลงมองอยู่ด้านข้างด้วยแววตาเบิกบาน เสร็จแล้วรึ อาหารจานใหม่ของเถ้าแก่ปู้หรือนี่
ตอนนั้นเองชายหนุ่มก็เห็นปู้ฟางหันมายิ้มพลางกวักมือเรียก
เซียวเสี่ยวหลงรีบเดินไปหาอีกฝ่ายทันที
“นี่คือสิ่งที่ข้าได้มาจากการเดินทาง ก๋วยเตี๋ยวอาละวาด ชิมสิ รสชาติของมันน่าจะ… ยอดเยี่ยมทีเดียว” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
เซียวเสี่ยวหลงดีใจ ความมันเงาของก๋วยเตี๋ยวดูดีทีเดียว เขาถูกจู่โจมด้วยน้ำซุปสีแดงอมชมพูกับกลิ่นหอมที่เผ็ดร้อนเบาๆ น้ำลายจึงสอออกมาโดย ไม่ได้ตั้งใจ
“ข้าไม่เกรงใจนะ” เซียวเสี่ยวหลงพูดพร้อมรอยยิ้ม
เขาหยิบตะเกียบไม้ไผ่มาคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวสีแดงสดร้อนๆ ที่ชุ่มด้วยน้ำซุป
เส้นก๋วยเตี๋ยวดูหนุบหนับ ขณะถูกคีบมันก็ส่ายดุกดิกเล็กน้อยในอากาศ
แม้ปู้ฟางจะไม่ได้ใส่วัตถุดิบอื่นใดนอกจากเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่กลิ่นหอมของมันก็เข้มข้นยิ่งนัก หอมสับยังทำให้ก๋วยเตี๋ยวมีความแวววาวดูสวยงามยิ่ง ง
“สมแล้วที่เป็นเถ้าแก่ปู้” เซียวเสี่ยวหลงอุทานด้วยความชื่นชม
ซวบ!
ซวบ!
เซียวเสี่ยวหลงอ้าปากพลางดูดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าไป
ชายหนุ่มยิ้มแป้นวางตะเกียบจากนั้นก็เริ่มเคี้ยวเส้นก๋วยเตี๋ยว เขาอยากดื่มด่ำความหอมและรสชาติของมันอย่างเต็มที่ ทว่าพอเคี้ยวไปเรื่อยๆ รอยยิ้มของเซียวเสี่ยวหลงก็จางหายไปทีละน้อย สีหน้าของเขาแข็งทื่อ คิ้วขมวดกันแน่น
อึดใจต่อมาเขาก็หันมองปู้ฟางด้วยดวงตาเบิกโพลงแดงก่ำ
“อ่า!”
เซียวเสี่ยวหลงกลืนเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วพรูลมร้อนออกจากปาก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ริมฝีปากกลายเป็นสีแดงอมชมพูดูดึงดูดใจ
ท่าทางของชายหนุ่มเหมือนกำลังจะพ่นไฟออกมา สายตาที่ใช้มองปู้ฟางเปลี่ยนเป็นหวาดผวา
เถ้าแก่ปู้ ท่านพยายามจะสังหารข้ารึ
แม้ว่าข้าจะขี้เกียจและทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายไปบ้างตอนท่านไม่อยู่ แต่ท่านก็ไม่ควรลงโทษข้าเช่นนี้ หากอยากลงโทษก็ควรพูดออกมาตามตรงเพื่อให้ข้าได้เตรียมใจบ้าง
“น้ำ… น้ำ… อ่า!”
ยิ่งมองเซียวเสี่ยวหลงปู้ฟางก็ยิ่งรู้สึกอึ้ง เขาหยิบชามก๋วยเตี๋ยวบนโต๊ะส่งให้เซียวเสี่ยวหลงอย่างเลื่อนลอย
เซียวเสี่ยวหลงที่สับสนและหวาดผวาก็ไม่รู้ตัวว่าปู้ฟางยื่นอะไรให้
เขารับมันมา เทกรอกปากตัวเองแล้วกลืนเข้าไปเสียงดัง
เซียวเสี่ยวหลงวางชามทั้งที่ตัวสั่นเทา เขาหันมองปู้ฟาง น้ำตาเป็นประกายไหลอาบดวงตาที่เศร้าสร้อย
“เถ้าแก่ปู้… ข้าผิดไปแล้ว”