ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 410 ปู้ฟางลงมือ
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 410 ปู้ฟางลงมือ
คลื่นพลังที่มองไม่เห็นซัดสาดเป็นระลอก
หมัดที่เจ้าขาวซัดออกไปโดนเหลียงไคใช้ฝ่ามือสกัดไว้อย่างง่ายดาย
ปู้ฟางยืนอยู่ด้านหลังเจ้าขาวด้วยใบหน้านิ่งเฉย ส่วนดวงตาของเจ้าขาวยังคงวูบวาบไม่หยุด
นับตั้งแต่กลืนลูกโลกวิญญาณล่วงลับเข้าไป พลังต่อสู้ของเจ้าขาวก็พุ่งถึงจุดสูงสุดของขั้นเซียนเทพ อาจพูดได้ว่ามันห่างจากขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์เพียงครึ่งก้าวเท่านั้น
กระนั้นเหลียงไคก็หาใช่ยอดฝีมือขั้นกึ่งเทพศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นยอดฝีมือขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ ชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริงเสียงจริง
ดังนั้นหมัดอันทรงพลังของเจ้าขาวจึงถูกเขาสกัดอย่างง่ายดาย
“หุ่นเชิดรึ คนจากสำนักหุ่นเชิดหรืออย่างไร ไม่สิ… เจ้านี่ดูไม่เหมือนหุ่นเชิดของสำนักหุ่นเชิด แถมวิชาที่ใช้ก็แตกต่าง” เหลียงไคปรายตามองเจ้าขาว ขมวดคิ้วแล้วพึมพำออกมาด้วยความ มสับสน
เหลียงไคเคยเห็นหุ่นเชิดของสำนักหุ่นเชิดมาก่อน ทุกห้าปี ทวีปมังกรซ่อนเร้นจะจัดการประลองฝีมือ และเชิญยอดฝีมือรุ่นใหม่จากสำนักชั้นนำต่างๆ มาร่วมประลอง
เหลียงไคเคยเผชิญหน้ากับยอดฝีมือจากสำนักหุ่นเชิดระหว่างการประลองมาก่อน จึงคุ้นเคยกับรูปแบบของหุ่นเชิดจากสำนักนั้นเป็นอย่างดี
ปัง!!
พลังมหาศาลระเบิดออกมาจากร่างของเหลียงไค
เจ้าขาวถูกคลื่นพลังนี้ผลักกระเด็นถอยหลังทันที
ปีกโลหะสองข้างกางออกจากหลังของเจ้าขาวพร้อมเสียงดังแกร๊ง ปีกสองข้างกระพือไปมาไม่ต่างจากปีกของนกยักษ์ บดบังท้องฟ้าจนเกือบมิด ปีกนั้นหน้าตาเหมือนดาบแหลมคมปล่อยแสงเรืองรอง งเย็นเยียบออกมา
ปีกโลหะของเจ้าขาวส่งเสียงหวีดหวิวขณะกระพือไปมา ก่อนเปลี่ยนร่างเป็นฝูงมีดสั้นคมกริบพุ่งเข้าโจมตีเหลียงไค
ภาพของมีดสั้นจำนวนมากปกคลุมท้องฟ้าดูน่าสะพรึงยิ่งนัก
ชาวบ้านธรรมดาที่เห็นภาพนี้ย่อมต้องรู้สึกหวาดกลัวจนยืนไม่ไหว ทว่าเหลียงไคยังคงเยือกเย็น เพราะเขาหาใช่คนธรรมดาไม่
ในฐานะหนึ่งในสิบผู้สืบทอดแห่งสวรรค์ของสำนักมหาพิภพ ไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่เคยเผชิญ
เหลียงไคโบกฝ่ามือ คลื่นพลังประหลาดระเบิดออกมาทันที มีดสั้นนับไม่ถ้วนที่พุ่งตรงมาหาชายหนุ่มถูกดูดเข้ามาในมือของเขา
หลังจากรวมกันบนฝ่ามือของเหลียงไค มีดสั้นทั้งหมดก็ประกอบร่างเป็นลูกกลมขนาดยักษ์
“บอกตามตรงว่าหุ่นเชิดของเจ้ามีฝีมือการต่อสู้ไม่เลว… น่าเสียดาย ที่มันยังไม่ถึงขั้น” เหลียงไคเหลือบมองปู้ฟางพลางเอ่ยวาจาเย้ยหยัน
เขาขยี้ฝ่ามือจนมีดสั้นโลหะป่นปี้ไปทั้งหมด
ร่างของเจ้าขาวก็ถูกฝ่ามือของเขาฟาดหงายหลังด้วยเช่นกัน
“นอกจากหุ่นเชิดตัวนี้… เจ้ายังมีสิ่งใดอีก” เหลียงไคแสร้งยิ้ม เอ่ยถามปู้ฟางทีเล่นทีจริง
ใบหน้าของปู้ฟางเฉยชาไร้ความรู้สึกทั้งยังยืนนิ่งไม่ไหวติง หากเป็นเมื่อก่อน อันธพาลอวดดีรายนี้คงถูกเจ้าดำตบตายไปแล้ว แต่เจ้าดำหลับสนิทเป็นเจ้าชายนิทราตั้งแต่กลับจากหนองน้ำป ปราณมายา และยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเจ้าดำ… จึงไม่อาจช่วยได้
ทันใดนั้นความตื่นเต้นก็ปั่นป่วนอยู่ในหัวใจของปู้ฟาง แววตาของเขาดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ เจ้าขาวพยุงตัวขึ้น สีเทาในดวงตาของมันเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม เจ้าขาวกระทืบเท้าแล้วทะยานออกไ ไปราวกับเป็นลูกธนู
“ลงไปวัดพื้นเสีย…”
ตู้ม!!
เหลียงไคมองปู้ฟางพร้อมยิ้มเยาะออกมา ก่อนขยับเข้าหาทีละก้าว ระหว่างกำลังสืบเท้ายาวๆ เขาก็สะบัดมือฟาดเจ้าขาวซึ่งกำลังห้อตะบึงเข้ามาอย่างรวดเร็วลงไปนอนกองอยู่บนถนนอย่างง่าย ยดาย
หมอนี่ร้ายกาจจริงๆ
ทุกคนในร้านใจกระตุก
ปกติแล้วเจ้าขาวนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดที่ว่ายอดฝีมือขั้นเซียนเทพยังพลาดท่าตอนเผชิญหน้ากับมัน กระนั้นพอมาอยู่ต่อหน้าชายรูปงามผู้นี้ เจ้าขาวกลับถูกกำราบจนไม่อาจฉวยโอกาสตอบโต้ ได้
เช่นนั้นแล้วเจ้าดำล่ะ
ทุกคนตระหนักถึงกระดูกสันหลังที่แข็งแกร่งของร้านเป็นอย่างดี ป่านนี้เจ้าดำควรออกโรงแล้วไม่ใช่รึ
เจ้าดำโหดเหี้ยมกว่าเจ้าขาวมาก ตอนนั้นขนาดเจ้าลัทธิอสุรายังถูกฝ่ามือเจ้าดำตบจนตาย ดูเหมือนว่าเจ้าดำน่าจะจัดการหมอนี่ได้
โอวหยางเสี่ยวอี้ เซียวเสี่ยวหลงและคนอื่นๆ ไม่ได้วิตกนัก มีเจ้าดำเฝ้าร้าน มันน่าจะยืนหยัดได้ไม่ต่างจากหินผา
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ
เหลียงไคเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าปู้ฟาง ห่างกันเพียงศอกเดียวเท่านั้น ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ใกล้ขนาดเห็นรูขุมขนบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
ปู้ฟางมองเหลียงไคด้วยดวงตาเย็นเยียบ
เหลียงไคมองปู้ฟางแล้วยกยิ้มจอมปลอม
สองสายตาปะทะกันกลางอากาศ กระนั้นปู้ฟางก็เห็นเพียงสายตาเหยียดหยามของเหลียงไค
แน่นอนว่ายอดฝีมือปราณระดับสิบขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ยอมยิ้มหยันใส่ผู้ฝึกตนระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามได้อยู่แล้ว
กระนั้นปู้ฟางก็รู้สึกขุ่นเคืองกับสายตาเย้ยหยันนี้ไม่น้อย เพียงแวบเดียวที่ใจคิด กลุ่มควันสีเขียวก็หมุนวนรอบมือของเขา กระทะกลุ่มดาวเต่าดำปรากฏขึ้น ปู้ฟางคว้ามันแล้วขว้างใส่ เหลียงไคทันที
ทั้งสองยืนชิดกันมาก กระทะของปู้ฟางตรงออกไปด้วยความเร็วที่น่าทึ่งจนแทบจินตนาการไม่ออก
เหลียงไคไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่ามดปลวกตรงหน้าจะบังอาจลงมือกับเขา ชั่วขณะนั้นเขาจึงไม่ทันคิดว่าจะมีกระทะสีดำลอยมาหา
ปัง!!
เหลียงไคสวนกลับอย่างรวดเร็ว ใช้หมัดฟาดกระทะสีดำ
พลังแข็งแกร่งแผ่ออกจากกระทะสีดำ บีบให้เหลียงไคต้องหลับตาทั้งสองข้างลง
กระทะอะไรหนักขนาดนี้!
เหลียงไคเซถอยหลังเล็กน้อย เส้นผมที่ปลิวไสวตั้งเด่เพราะแรงปะทะของกระทะ
กระนั้นเขาก็เพียงเซถลาเล็กน้อยเท่านั้น
กระทะสีดำทำเขาตกใจก็จริง แต่ไม่อาจเอาชีวิตเขาได้
เหลียงไควางฝ่ามือบนกระทะ ส่งมันกลับคืนไปให้เจ้าของ
ปู้ฟางคว้ากระทะสีดำ ถอยร่นออกไปสองสามก้าว สีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน “เจ้าหมอนี่… ร้ายกาจจริงๆ ต้องเป็นยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพได้ชิ้นหนึ่งแล้ วแน่ๆ”
ปู้ฟางมีปราณระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม เขาอาศัยกระทะสีดำคอยปราบเหล่าขั้นเซียนเทพอย่างไร้ปัญหา แต่การพล่ามว่าจะฟาดยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์จนหมดสติเป็นคำพูดของคนเขล ลาชัดๆ
เมื่อบรรลุชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ คนคนนั้นย่อมมีร่างกายเหนือมนุษย์ แม้แต่ขั้นเซียนเทพทั่วไปก็ไม่ใช่คู่ต่อกร
ปู้ฟางพยายามยืนตรง สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่สุด
ทว่าดวงตาที่ดูเคร่งเครียดกลับแฝงความตื่นเต้นไว้เล็กๆ
ซู่ ซู่ ซู่!
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำทะยานขึ้นฟ้า น้ำแข็งจากเทือกเขาน้ำแข็งมหากาฬถูกเทออกจากกระเป๋าคลังเก็บ ใบหน้าของปู้ฟางแดงก่ำก่อนพ่นเปลวไฟสีทองออกมาเต็มปาก
เปลวไฟพุ่งตรงไปใต้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำแล้วลุกไหม้อย่างรุนแรง มันปล่อยคลื่นความร้อนแผดเผาออกมา
ภายในเสี้ยวพริบตา น้ำในกระทะก็เดือด
สองสามวันที่ผ่านมาปู้ฟางทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดไปเกือบร้อยชาม เขาคุ้นเคยกับขั้นตอนการทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่ว่าสามารถทำเสร็จหนึ่งชามในไม่กี่อึดใจ
เมื่อใช้มือสาวเส้นก๋วยเตี๋ยวเสร็จ เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ถูกต้มในน้ำร้อนก็คลี่ตัวจนดูคล้ายเส้นไหม
ซู่ ซู่ ซู่!
พอปู้ฟางขยับไหล่ เจ้ากุ้งที่หลับอยู่บนไหล่ของเขาก็พลิกตัวหนึ่งรอบก่อนร่อนลงกระทะ แสงสีทองเป็นจุดๆ เปล่งประกายออกจากตัวมัน แล้วละลายไปในก๋วยเตี๋ยวช้าๆ
พอใส่ซอสพริกอเวจีลงไปก็เป็นอันเสร็จพิธี
ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเสร็จสมบูรณ์แล้ว
เหลียงไคจ้องเขม็งอ้าปากค้างอยู่ไกลๆ
ทว่าหลังจากตกอกตกใจครู่หนึ่ง แสงวิบวับในดวงตาของเขาก็ขยายตัวกลายเป็นแสงเจิดจ้า
“หมื่นไฟประลัยกัลป์! หมื่นไฟประลัยกัลป์อยู่กับเจ้านี่เอง เจ้าคือคนท้องถิ่นที่ได้มันไปครองรึ ฮ่ะๆๆ ดูเหมือนว่าข้าคงไม่ต้องออกแรงเพื่อชิงมันมา!!”
เหลียงไคอดตื่นเต้นไม่ได้ เขาไม่คาดคิดว่าคนทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดและคนที่ได้หมื่นไฟประลัยกัลป์ไปครองจะเป็นคนเดียวกัน เรื่องนี้ช่วยให้ปัญหาของเขาลดน้อยลงไปมาก
เหลียงไควางแผนตามล่าเจ้าของหมื่นไฟประลัยกัลป์หลังจากได้กินก๋วยเตี๋ยวอาละวาด ตอนนี้ทุกอย่างช่างเป็นใจกับเขาเหลือเกิน
พอทำก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเสร็จ ปู้ฟางก็ตั้งใจจะยัดมันเข้าปากตัวเอง
เหลียงไคหรี่ตาพลางโบกมือ หมายควบคุมปู้ฟางเหมือนที่เคยบงการเซียวเหมิงก่อนหน้านี้ เขาตั้งใจฉวยก๋วยเตี๋ยวอาละวาดมาเป็นของตัวเอง แต่กลับรู้สึกได้ทันทีว่าพลังกดดันของตนใช้กับป ปู้ฟางไม่ได้
ซวบ!!
ปู้ฟางสวาปามก๋วยเตี๋ยวต่อหน้าต่อตาเหลียงไคเสียงดังฟังชัด มิหนำซ้ำยังซดน้ำซุปจนหยุดสุดท้ายด้วย
เหลียงไคยังโบกมือไปมาไม่เลิก ท่าทางประดักประเดิดไม่น้อย
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่รู้สึกร้อนใจสักนิด เขาเคยสร้างจินตภาพไว้ว่าผู้ครอบครองหมื่นไฟประลัยกัลป์ต้องมีพลังร้ายกาจ หรืออาจเป็นยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ดูเหมือน เขาจะกังวลมากเกินไป
เขาต้องชิงหมื่นไฟประลัยกัลป์มาได้แน่!
แม้ว่าก๋วยเตี๋ยวอาละวาดจะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ แต่มันจะช่วยให้ผู้ฝึกตนระดับแปดขั้นเทพแห่งสงครามต่อกรกับชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นนั้นหรือ
แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นไปได้
ชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ต่างจากขั้นเซียนเทพอย่างสิ้นเชิง มันคือชั้นที่ไม่อาจบรรลุหากไม่สามารถทำลายโซ่ตรวนขั้นเซียนเทพได้ ปู้ฟางเรอออกมาอย่างอิ่มเอมหลังกินก๋วยเตี๋ยวอาละวาดหม มดชาม หน้าของชายหนุ่มแดงเรื่อ
ปู้ฟางหรี่ตา สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนประหลาดที่กำลังผันผวนอยู่ในกาย
พื้นฐานของปู้ฟางจะแข็งแกร่งเพียงพอหรือเปล่า
เรื่องนี้ไม่อาจโต้แย้งได้ เพราะเขาบรรลุปราณแต่ละขั้นด้วยการทำภารกิจที่ระบบมอบหมายจนสำเร็จ ความก้าวหน้าทุกครั้งไร้ที่ติและอยู่ในจุดสูงสุดของแต่ละระดับ หากพูดถึงผู้ที่ม มีพื้นฐานแข็งแกร่ง การพูดถึงปู้ฟางย่อมไม่ใช่เรื่องผิดแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าคนอื่นๆ ย่อมไม่รู้เรื่องนี้
แม้แต่ตัวปู้ฟางเอง… ก็ยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างถ่องแท้
กระแสพลังปราณเที่ยงแท้หมุนวนอยู่ในแก่นพลังของเขาอย่างรุนแรง หมื่นไฟประลัยกัลป์สีทองที่ลอยอยู่ภายในถูกแผดเผาแรงกล้า ไม่ต่างจากทุ่งหญ้าที่ถูกไฟป่าลุกโหม
ปู้ฟางอ้าปากพยายามพ่นลมหายใจออกมา แต่กลับเป็นพลังปราณเที่ยงแท้ที่ร้อนผ่าวราวไฟเผาพุ่งออกมาแทน
เหลียงไคอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดร่างกายของหมอนี่จึงเปลี่ยนแปลงปุบปับอย่างแปลกประหลาด”
ตอนนั้นเองปู้ฟางก็ขยับตัว
เป็นครั้งแรกที่ปู้ฟางชิงลงมือก่อน เชือกกำมะหยี่ที่มัดผมของชายหนุ่มไว้หลุดลุ่ย ทำให้เส้นผมของเขาปลิวไสวตามลม ปู้ฟางใช้ความเร็วอย่างเหลือเชื่อ พุ่งเข้าหาเหลียงไคดุจสายฟ้าแลบ บ
เขาเคาะกระทะกลุ่มดาวเต่าดำเบาๆ มันหมุนติ้วอยู่กลางอากาศก่อนจะพุ่งเข้าใส่เหลียงไค
ตอนนั้นเอง… ทุกคนที่ดูอยู่ต่างก็ตัวแข็งทื่อ
ทั้งโอวหยางเสี่ยวอี้ เซียวเสี่ยวหลง… หรือจีเฉิงเสวี่ยรวมถึงคนอื่นๆ บนกำแพงเมืองต่างตกตะลึงด้วยกันทั้งสิ้น สีหน้ามีแต่ความสับสน
พวกเขาเพิ่งจะเห็นอะไรไปน่ะ
เมื่อครู่เป็นเถ้าแก่ปู้ที่สุดท้ายก็ยอมแสดงฝีมือรึ
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเถ้าแก่ปู้ลงมือ ใครจะคาดคิดว่าคนอย่างเถ้าแก่ปู้ ที่ปกติเก็บเนื้อเก็บตัวไม่แสดงฝีมือจะเปิดฉากจู่โจมคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้
แล้วเจ้าดำล่ะ
พวกเขาจนด้วยเกล้า ทว่าเบื้องหลังความฉงนสนเท่ห์คือความรู้สึกที่ทำให้หัวใจดำดิ่ง หรือว่าเจ้าดำจะจากไปแล้ว
พอไม่มีเจ้าดำ เถ้าแก่ปู้จึงต้องทำหลายสิ่งด้วยตัวเอง
แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงยอดฝีมือระดับสิบขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์
เถ้าแก่ปู้จะรับมือกับคนคนนี้ได้จริงๆ หรือ
เหลียงไคมองปู้ฟางที่ทะยานเข้ามาพลางยิ้มเย็นเยือก
“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง… เช่นนั้นก็ลงนรกเสียเถอะ เอาไว้ข้าจะดูดหมื่นไฟประลัยกัลป์ออกจากซากศพของเจ้าทีหลัง!”