ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 411 เจ้าไม่มีวันเดาหมากของข้าได้
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 411 เจ้าไม่มีวันเดาหมากของข้าได้
การเปิดฉากโจมตีฝ่ายตรงข้ามของเถ้าแก่ปู้ทำให้หลายคนตกอกตกใจ
ในสายตาของพวกเขา ปู้ฟางเป็นคนสงบเงียบที่ตีหน้าตายตลอดเวลา ชอบนอนซุกเก้าอี้อาบแดดในบางโอกาส ไม่ใช่คนประเภทที่จะเปิดฉากบุกฝ่ายตรงข้ามก่อนอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านี้… เถ้าแก่ปู้มีปราณเพียงระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม เขาจะต่อกรกับยอดฝีมือระดับสิบขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร
เหลียงไคหาได้ใส่ใจความคิดของผู้อื่น สายตาที่เขามองปู้ฟางเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ ยกริมฝีปากปากเป็นรอยยิ้มเย็นชา ทำให้ทุกคนเสียวสันหลังวาบ
บนชั้นสองของร้าน
เจ้าดำกำลังนอนกรนเสียงดัง มันหลับลึกมาก ไม่มีวี่แววตื่นในอนาคตอันใกล้
ปู้ฟางตระหนักเรื่องนี้ดี เจ้าสุนัขตัวอ้วนหลับใหลไปนับตั้งแต่สวาปามวัตถุลึกลับภายในตาผลึกของเหมืองผลึกเข้าไป ประหนึ่งว่าถูกวางยาอย่างไรอย่างนั้น ปู้ฟางรู้ว่าเขาพึ่งเจ้าดำไม่ไ ได้
หลังสวาปามก๋วยเตี๋ยวอาละวาดไปหนึ่งชาม ปู้ฟางก็ตั้งใจจะลงมือเองด้วยพลังทั้งหมดที่มี
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำควงสว่านแล้วพุ่งมาด้วยความเร็วเหลือเชื่อ มันพุ่งแหวกอากาศทะยานเข้าหาเหลียงไคโดยตรง
เหลียงไคโบกฝ่ามือ บิดมุมปากเป็นเชิงดูถูก ก่อนกำหมัดฟาดใส่กระทะกลุ่มดาวเต่าดำ
ปัง เสียงปะทะดังสนั่น
เหลียงไคมองกระทะกลุ่มดาวเต่าดำด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ สัมผัสที่แข็งแกร่งคล้ายภูผาสูงตระหง่านแผ่ออกมาจากกระทะ ทำให้เขารู้สึกเหมือนฟาดหมัดใส่ขุนเขาอันสูงส่ง
กระนั้นเหลียงไคยังเป็นเหลียงไควันยังค่ำ ยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์อย่างเขามีร่างกายแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด
แม้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำจะร้ายกาจ แต่มันก็ไม่อาจคว่ำเขาได้
ปู้ฟางวางเท้าลงบนถนน คลื่นพลังแผ่ออกมารอบตัว คลื่นพลังนี้ราวกับลมพายุที่ซัดหินขัดมันซึ่งใช้ปูถนนกระเจิดกระเจิง
ถนนเริ่มมีรอยร้าวเมื่อปู้ฟางกระโดดขึ้นบนอากาศขณะยังตีหน้าตายเช่นเดิม พลังปราณเที่ยงแท้ทะลักออกจากร่างของเขา
หลังกินก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเข้าไป ปู้ฟางก็รู้สึกว่าทั้งร่างเหมือนถูกไฟเผา พลังปราณเที่ยงแท้ผันผวนรุนแรง ความรุนแรงของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด
เหลียงไคดันกระทะกลุ่มดาวเต่าดำออกไป
ทว่าปู้ฟางกลับดีดตัวขึ้นกลางอากาศก่อนพุ่งลงมาอย่างรุนแรง
เพียงเสี้ยวใจนึก กระทะกลุ่มดาวเต่าดำก็ขยายขนาดมหึมาจนแทบจะกลืนเหลียงไคได้ทั้งตัว เมื่อเห็นปู้ฟางโจมตี เหลียงไคก็สะดุ้งเล็กน้อย
เขาเสียท่าให้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำขนาดยักษ์
ปัง ปัง ปัง!
น้ำหนักของกระทะกลุ่มดาวเต่าดำนั้นเบาสำหรับปู้ฟาง ทั้งที่มีขนาดใหญ่โต แต่ปู้ฟางก็สามารถกดกระทะลงอย่างง่ายดายแล้วลากมันไปกับพื้น
หลังถูกปะทะรุนแรง พื้นก็ปรากฏรอยร้าวลึก
เกิดควันฟุ้งเป็นวงกลม
หลายคนหายใจไม่ทั่วท้องเพราะความอกสั่นขวัญหนี
โดยเฉพาะจีเฉิงเสวี่ยที่ยืนอ้าปากกว้างบนกำแพงเมือง ชายหนุ่มตื่นตกใจมากจนเกิดอาการพูดไม่ออก
ฝีมือของเถ้าแก่ปู้ร้ายกาจเพียงนี้เชียวรึ
จีเฉิงเสวี่ยคิดเสมอว่าความแข็งแกร่งของร้านนั้นมาจากเจ้าขาวหุ่นเชิดโลหะตัวป้อม และเจ้าดำสุนัขสีดำลึกลับ เขาไม่เคยนึกฝันว่าเถ้าแก่ปู้ที่เก็บเนื้อเก็บตัวมาตลอดจะมีฝีมือการต่อสู้ ไร้เทียมทานทัดเทียมกัน
สามารถกดยอดฝีมือชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ไว้กับพื้นแล้วถูลู่ถูกังไปตามถนนได้
This was something completely unimaginable, filling others with all sorts of emotions.
ภาพตรงหน้าเป็นสิ่งเหนือจินตนาการอย่างสิ้นเชิง ทำให้ความรู้สึกในใจของหลายคนผสมปนเปกันไป
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!!
ปู้ฟางยังตรึงกระทะกลุ่มดาวเต่าเอาไว้บนพื้น ทว่าสีหน้าของเขากลับเปลี่ยนเป็นขึงขังทั้งยังขมวดคิ้ว
พื้นเริ่มสั่นอย่างรุนแรง คลื่นความร้อนเริ่มแผ่ออกมา
ปู้ฟางสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ค่อยๆ ขยายตัวอยู่ใต้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำ และพยายามดันกระทะขึ้น
โครม…
เศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงหล่นลงพื้น
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำถูกยกขึ้นทีละนิด มันลอยขึ้นจากพื้นแล้วลอยค้างกลางอากาศ
ใต้กระทะกลุ่มดาวเต่าดำ ผมสีดำของเหลียงไคพลิ้วไสวตามสายลม ดวงตาของเขามีเปลวไฟลุกโชนขณะร่างกายขยายใหญ่ขึ้น มือทั้งสองข้างปรากฏเส้นเลือดปูดโปนชัดเจน
เหลียงไคสามารถยกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำขึ้นได้ด้วยพละกำลังแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัว
หัวใจของปู้ฟางบีบรัดรุนแรง เขาตบกระทะกลุ่มดาวเต่าดำก่อนขยับตัวออกมา
เพียงเสี้ยวใจนึก กระทะกลุ่มดาวเต่าดำก็เริ่มหดขนาดจนเหลือเพียงลำแสงสีดำแล้วกลับคืนสู่มือของเขา
เมื่อหลุดพ้นจากการกดขี่ของกระทะกลุ่มดาวเต่าดำ พลังของเหลียงไคก็แผ่ออกมาทันที พลังของเขาในคราวนี้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ร่างของเขาทะยานขึ้นฟ้ารวดเร็วราวสายฟ้าแลบ พุ่งตรงเ เข้าหาปู้ฟาง
“เจ้าคนท้องถิ่นไร้หัวนอนปลายเท้า! บังอาจลงมือกับนายน้อยผู้นี้รึ!”
ใบหน้าของเหลียงไคถมึงทึง เขาถูกผู้ฝึกตนระดับแปดกดไว้กับพื้นแล้วลากไปทั่ว หากข่าวนี้แพร่ออกไป เขาจะกล้าเรียกตัวเองว่าผู้สืบทอดแห่งสวรรค์ของสำนักมหาพิภพได้อย่างไร
ในฐานะผู้สืบทอดแห่งสวรรค์ เขาต้องไร้เทียมทานและยิ่งใหญ่กว่าทุกคน
หากเขาคิดจะเหนือกว่าคนระดับเดียวกัน ก็ยิ่งไม่ควรคณนามือกับคนไร้หัวนอนปลายเท้าระดับแปด
เหลียงไคมาปรากฏตรงหน้าปู้ฟางพร้อมเสียงตวาด เขาโกรธจนหน้าซีด ใบหน้าหล่อเหลาในตอนนี้ไม่ชวนมองเลยสักนิด รังสีสังหารกระจายไปทั่ว
ปู้ฟางสูดหายใจเข้าลึกแล้วขว้างกระทะกลุ่มดาวเต่าดำออกไปอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้ เหลียงไคไม่พยายามหลบด้วยซ้ำ
ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้น วงแหวนดวงอาทิตย์แผดเผาปรากฏอยู่ตรงหว่างคิ้ว เปล่งรัศมีรุ่งโรจน์เจิดจ้า
เส้นเลือดแผ่ออกมาจากกลางคิ้วทั้งสองข้าง ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วลำตัว
ตึง
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำถูกกระแทกกลับมาใส่ตัวของปู้ฟาง
พ่อครัวหนุ่มเซถอยหลังเพราะแรงกระแทกที่ทรงพลัง
“ถือว่าเจ้าโชคดี… ได้เห็นวิชากายาปีศาจอาทิตย์แผดเผาของนายน้อยผู้นี้ทั้งที่เป็นแค่ลูกกระจ๊อกระดับแปด! นับเป็นบุญใหญ่หลวงแล้วที่ตายด้วยวิชาที่ยิ่งใหญ่ของข้า!”
นัยน์ตาของเหลียงไคฉายแววอำมหิต
ตอนนั้นเองเสียงระเบิดพร้อมเสียงหวีดหวิวก็ดังขึ้นในอากาศ
ชายหนุ่มมาปรากฏตรงหน้าปู้ฟางทันที
ปัง พลังที่พุ่งออกจากร่างของผู้สืบทอดแห่งสวรรค์กระแทกใส่ปู้ฟางจนลอยไปไกลโดยไม่ต้องยกมือขึ้นด้วยซ้ำ ปู้ฟางได้แต่ลงไปนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น
ฟึ่บ... ขณะที่ปู้ฟางกำลังพยุงตัวเองขึ้น เหลียงไคก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขาอีกครั้ง
หมัดขนาดยักษ์ฟาดลงมา
กระทะกลุ่มดาวเต่าดำกวัดแกว่งไปมาเพื่อสกัดกั้นการโจมตี ปู้ฟางลอยละลิ่วข้ามขอบฟ้าเมื่อถูกกระหน่ำอีกครั้ง
ทันทีที่เรียกวิชากายาปีศาจอาทิตย์แผดเผาออกมา เหลียงไคก็แกร่งกล้าขึ้นจนน่าตกใจ พลังการต่อสู้ของเขาน่าพรั่นพรึงมากขึ้นอีกหลายขุม
ปู้ฟางถูกขีดชะตามาให้โดนบดขยี้
แม้จะกินก๋วยเตี๋ยวอาละวาดไปแล้ว แต่คู่ต่อสู้ของเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับสิบขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์… หนำซ้ำยังเป็นอัจฉริยะมากพรสวรรค์ด้วย
ปู้ฟางทำได้เพียงอดทนรับการโจมตีโดยไม่อาจตอบโต้ได้แม้แต่น้อย
ฝูงชนเงียบกริบ อย่างไรเสียเถ้าแก่ปู้ก็มีปราณเพียงระดับแปดขั้นเทพแห่งสงคราม ยังห่างไกลจากคู่ต่อสู้ระดับสิบขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่มากโข อนิจจา เขาไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้
ปัง ปัง ปัง!!
ปู้ฟางกลายเป็นลูกไล่ของเหลียงไค ทุกครั้งที่ชายหนุ่มลุกยืนได้ เหลียงไคก็จะโฉบมาซัดเขากระเด็น หรือไม่ก็ใช้ฝ่ามือกดปู้ฟางเอาไว้กับพื้น
ยอดฝีมือขั้นเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เปิดโอกาสให้ปู้ฟางได้ปัดป้อง
อีกอย่างปู้ฟางไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้ ความสามารถในการตอบโต้จึงแทบจะไม่มี
หลังจากบันดาลโทสะอย่างต่อเนื่อง ร่างของเหลียงไคก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นจนทำลายสถิติความเร็วเสียงลงได้ ไม่มีใครจับการเคลื่อนไหวของเขาได้อีกต่อไป
ปู้ฟางยืนขึ้น เสื้อผ้าฉีกขาดรุ่งริ่ง เขาปาดหยดเลือดตรงมุมปาก ความโกรธแค้นอัดแน่นในหัวใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเล่นงานจนถึงขั้นกระอักเลือด
ไฟแค้นที่ควบคุมไม่ได้ถูกจุดขึ้นในใจ
ดวงตาของเขาแข็งทื่อทั้งยังเย็นยะเยือก ขณะมองตามเงาของเหลียงไคที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วน่าอัศจรรย์
มีดทำครัวกระดูกมังกรทองปรากฏขึ้นในมือของปู้ฟางแล้วซึมซาบพลังปราณเที่ยงแท้เข้าไป
มีดทำครัวกระดูกมังกรทองส่องประกายสุกสว่าง มันเปลี่ยนร่างเป็นปังตอขนาดมหึมา จากนั้นชายหนุ่มก็ยกมันพาดบ่า
ปู้ฟางกลอกตาเหมือนจับการเคลื่อนไหวของเหลียงไคได้ มีดทำครัวพุ่งแหวกอากาศ คมมีดคมกริบวาดผ่านหวังเล่นงานเหลียงไค
แกร๊ง
แววตาของเหลียงไคเย็นดุจน้ำแข็ง ก้อนพลังปราณเที่ยงแท้ผุดเป็นฟองบนมือขณะยกขึ้นคว้ามีดทำครัวกระดูกมังกรทองเอาไว้ เขากดมีดลงอย่างรุนแรงพลางปรายตามองปู้ฟางด้วยสายตาเย็นชา
“มีฝีมือเท่านี้เองรึ ลูกไม้กระจอกเช่นนี้.. กล้าดีอย่างไรถึงคิดกำจัดข้า ไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน” เหลียงไคเผยอริมฝีปากพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ วงแหวนดวงอาทิตย์แผดเผาตรงหว่าง คิ้วปล่อยคลื่นความร้อนออกมามากขึ้นขณะพูดแต่ละประโยค
ปู้ฟางรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังเผชิญกับดวงอาทิตย์ร้อนแรงตรงๆ ไม่มีผิด
ร่างของเหลียงไคเปล่งลำแสงสีทองออกมา ดวงตาแผดเผากล้าแกร่ง
ปู้ฟางมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ยังเก็บอาการไว้ได้เป็นอย่างดี
เหลียงไคแข็งแกร่งมากจริงๆ ปู้ฟางต้องยอมรับในจุดนี้ คนผู้นี้มีพลังเหนือกว่าเจ้าลัทธิอสุราด้วยซ้ำ
“เจ้าไม่มีทา… เดาหมากของข้าได้” น้ำเสียงของปู้ฟางเยียบเย็น
เหลียงไคทั้งร่างที่เปล่งประกายแสงสีทองหัวเราะเย็นชา
เหตุใดมดปลวกที่จนแต้มแล้วยังมีกำลังใจกล้าแกร่งอยู่อีก หมอนี่มีสิทธิ์อะไรที่จะเด็ดเดี่ยวได้ปานนี้
“หมากรึ เจ้ามีหมากอะไรอีก หมื่นไฟประลัยกัลป์เช่นนั้นหรือ น่าสมเพชที่เจ้าไม่รู้จักวิธีใช้มันให้ถึงขีดสุดด้วยซ้ำ… หากเจ้ายอมมอบหมื่นไฟประลัยกัลป์ให้ข้า วิชากายาปีศาจอาทิตย์แผ ผดเผาของข้าจะเข้าขั้นสมบูรณ์แบบ มาอยู่ในมือของเจ้า… มันก็เป็นได้แค่เพียงไฟปรุงอาหารเท่านั้น เป็นการใช้ของขวัญจากพระเจ้าอย่างเสียเปล่าจริงๆ!”
เหลียงไคกัดฟันแน่นก่อนจะคำรามด้วยความโกรธ
ปู้ฟางขมวดคิ้ว ปรายตามองเหลียงไคที่กำลังแผ่แสงสีทองเรืองอร่าม
“บ้องตื่นยิ่งนัก… หมื่นไฟประลัยกัลป์มีไว้สำหรับทำอาหารต่างหาก!” ปู้ฟางพูดบ้าง
ในเสี้ยวพริบตา เขาก็อ้าปากพ่นเปลวไฟสีทองออกมา
ความร้อนแรงน่าเกรงขามปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว
เสี้ยวลมหายใจที่ปู้ฟางพ่นเปลวไฟสีทอง กุ้งตั๊กแตนที่นอนอยู่บนไหล่ก็ผงกหัวขึ้นช้าๆ มันโบกก้ามน้อยน่ารักพลางกลอกตาไปมา จากนั้นเท้าของมันก็ออกแรงถีบแล้วกระโดดออกจากไหล่ของป ปู้ฟาง เคลื่อนที่ด้วยความเร็วฉีกอากาศราวกับสายฟ้าแลบ
เหลียงไคมองไม่เห็นชั่วขณะเพราะหมื่นไฟประลัยกัลป์ของปู้ฟาง ตอนลืมเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็เห็นลำแสงสีทองพุ่งเข้าประชิดตัวแล้ว
“อะไรกัน!”
หัวใจของเหลียงไคสั่นสะท้าน
โครม!
เลือดสีแดงเข้มพุ่งออกจากท้องของเหลียงไค เขาร้องคร่ำครวญเมื่อร่างถูกพลังมหาศาลกระแทกจนลงไปกองกับพื้น
แสงสีทองอร่ามบนร่างของเขาทำให้สีของเลือดที่ยังทะลักออกจากรูขนาดใหญ่บนท้องดูจางลง
“บัดซบ! บัดซบ!”
เหลียงไคพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้น สีหน้าขุ่นเคืองยุ่งเหยิง พลังปราณของเขาปั่นป่วนจนไม่สามารถใช้วิชากายาปีศาจอาทิตย์แผดเผาได้อีกต่อไป
เหลียงไคเงยหน้าพุ่งสายตาออกไป เห็นผู้ร้ายที่ทะลวงท้องเขาจนเป็นรูนอนเอ้เต้อยู่บนไหล่ของปู้ฟาง ดูคล่องแคล่วว่องไวยิ่งนัก
เป็นเพียงกุ้งตั๊กแตนเหตุใดจึงทะลวงร่างของผู้สืบทอดแห่งสวรรค์สำนักมหาพิภพที่มีปราณชั้นกายาศักดิ์สิทธิ์ได้กัน
จิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของเหลียงไครุนแรงมากเสียจนดูเหมือนจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างได้
ปู้ฟางกำกระทะกลุ่มดาวเต่าดำด้วยมือข้างหนึ่ง น้ำจากเทือกเขาน้ำแข็งมหากาฬกำลังเดือดปุดๆ อยู่ในกระทะ
เพียงเสี้ยวใจคิด เส้นก๋วยเตี๋ยวจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นแล้วไหลลงไปในน้ำ
ชามกระเบื้องเก้าใบลอยขึ้นมากลางอากาศ รั้งอยู่รอบๆ ตัวเขา
ปู้ฟางสูดหายใจลึก สีหน้ายังขึงขังเช่นเดิม ก๋วยเตี๋ยวพุ่งออกจากกระทะตกลงไปในชามทั้งเก้าใบ พลังปราณและไอร้อนพวยพุ่งออกมา ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดทั้งเก้าชามสำเร็จแล้ว
คลื่นพลังที่มองไม่เห็นลอยค้างอยู่เหนือชามทั้งเก้าที่รายรอบตัวชายหนุ่มอยู่ จากนั้นก็ระเบิดออกมา
จิตสังหารของเหลียงไคแผ่ออกมามากขึ้น
หอกยาวสีทองปรากฏขึ้นในมือ เขาชี้ปลายหอกใส่ปู้ฟางด้วยจิตสังหารเย็นเยียบ
ก๋วยเตี๋ยวอาละวาดเก้าชามโคจรล้อมรอบปู้ฟาง ขณะความคิดในสมองของพ่อครัวหนุ่มวูบไหว
“บอกแล้วอย่างไร… เจ้าไม่มีวันเดาหมากข้าได้” ปู้ฟางมองจ้องเหลียงไค พลางยกมุมปากขึ้น
ในที่สุดวงแหวนปราณอาหารเลิศรสก็เผยโฉมกลางอากาศ