ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD - บทที่ 421 ปู้ฟางทำเต้าหู้เหม็น
- Home
- ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD
- บทที่ 421 ปู้ฟางทำเต้าหู้เหม็น
พอชายคลั่งรักจากไปแล้ว หญิงสาวผมแดงในร้านโอสถทิพย์ฝั่งตรงข้ามที่เหมือนจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็จ้องประตูโลหะที่ปิดมิดชิดของร้านอาหารหมอกเมฆาด้วยสายตางุนงง
‘ดูเหมือนร้านอาหารแห่งนี้จะปิดแต่หัววัน’ นางคิดในใจ
ตอนนั้นเองลูกตาดำของนางก็ขยายกว้างเมื่อสังเกตเห็นแสงสว่างเจิดจ้าพุ่งออกจากร้านฝั่งตรงข้าม เกิดอะไรขึ้นในร้านนั้นกัน นางกะพริบตาปริบ ความอยากรู้อยากเห็นท่วมท้นในหัวใจ
…..
ปู้ฟางอุทานด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการปรับปรุงร้านของระบบ ร้านตรงหน้าเขาในตอนนี้มีแสงสีขาวเป็นประกายระยิบระยับแผ่ออกมาจากผนังทั้งสี่ด้าน แสงนั้นสว่างจ้าจนท ทำให้ตาพร่า ปู้ฟางจึงต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
เสียงดังกังวานก้องอยู่ในหูของชายหนุ่มตลอดเวลา มันดังเหมือนเสียงโต๊ะและเก้าอี้กระทบกันและหมุนวนไปมารอบร้าน
ปู้ฟางเห็นเงาวูบวาบนับไม่ถ้วนในร้าน สายลมรุนแรงพัดเข้ามา และทำเชือดมัดผมกำมะหยี่ของเขาขาด
ผมสีดำของชายหนุ่มทิ้งตัวลงมาเคลียบ่าอย่างงดงาม
หลังจากนั้นไม่นานแสงเจิดจ้าภายในร้านก็เริ่มจางลง โฉมใหม่เอี่ยมอ่องของร้านปรากฏต่อหน้าปู้ฟาง
ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อเห็นร้านใหม่เอี่ยมตรงหน้า
ขนาดของร้านไม่ได้เปลี่ยนไป แต่การตกแต่งและรูปแบบนั้นดูสวยงามเหมือนร้านเล็กๆ ของฟางฟางที่นครหลวงในจักรวรรดิวายุแผ่ว เอาเข้าจริงมันดูพึงใจกว่าเสียด้วยซ้ำ
ต้นตื่นรู้ทางห้าสายตั้งอยู่ทั้งสี่มุมของร้าน ต้นไม้เหล่านี้ปล่อยพลังปราณพิเศษที่ทำให้จิตใจเบิกบานออกมา
ชั่วขณะที่ยืนอยู่ในร้าน ปู้ฟางก็รู้สึกเหมือนได้กลับไปยังร้านที่นครหลวงในจักรวรรดิวายุแผ่ว
รายชื่ออาหารบนรายการที่ติดอยู่ตรงผนังด้านหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีอาหารเพียงสามอย่างเท่านั้น
ข้าวผัดไข่ – สิบผลึก
ซี่โครงเนื้อผัดเปรี้ยวหวาน – ห้าสิบผลึก
พระกระโดดกำแพง – หนึ่งหมื่นผลึก
จำนวนอาหารบนรายการค่อนข้างน้อยหากเทียบกับร้านของเขาที่นครหลวงในจักรวรรดิวายุแผ่ว ซึ่งมีอาหารมากมายนับไม่ถ้วน
กระนั้นก็ดี พวกมันล้วนเป็นอาหารที่ดีที่สุดของเขา ข้าวผัดไข่ ซี่โครงเนื้อผัดเปรี้ยวหวาน และพระกระโดดกำแพงคืออาหารยอดนิยมที่สุดในร้านเล็กๆ ของฟางฟาง
หากอาหารสามอย่างแรกของร้านคือรายการพวกนี้ แปลว่าอาหารอย่างอื่นๆ ย่อมต้องไม่ธรรมดา มันคือข้อเท็จจริงที่ปู้ฟางไม่ทันคิดในตอนนี้
เขามองดูรายการอาหารอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าครัวไป ข้างในมีเตาเพียงเตาเดียวและมันเป็นของเขา สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ทุกอย่างเหมือนในร้านของเขาที่นครหลวงในจักรวรรดิวายุแผ่วท ทั้งสิ้น เครื่องไม้เครื่องมือก็เหมือนกันหมด
ระบบไม่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ในครัวไม่มีอะไรแปลกใหม่แม้แต่น้อย แต่แบบนี้ก็ดีไม่หยอก ปู้ฟางยกยิ้มมุมปาก เขายกมือลูบเตาโลหะ ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงอาการหลงใหลน้ อยๆ
มันคือครัวที่เขาคุ้นเคยและผูกพัน
ปู้ฟางยกมือหยิบมีดทำครัวจากชั้นวาง กล้ามเนื้อมือของเขาสั่นไหวขณะเล่นกับมีด คมมีดส่องประกายวูบวาบแผ่รัศมีเย็นเยือก
ปู้ฟางขยับขาเดินไปเปิดตู้ ก่อนหยิบเนื้อหมูป่าเมฆาทะยานออกมา เขาควงมีดทำครัวแล้วเริ่มหั่นเนื้ออย่างคล่องแคล่ว
ทักษะการใช้มีดฝนดาวตกของเขาบรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว การหั่นเนื้อจึงนับเป็นเรื่องง่ายดาย ท่วงท่าในการหั่นก็งดงามตระการตา
ปู้ฟางหั่นเนื้อหมูป่าเมฆาทะยานเสร็จในเวลาอันสั้น เนื้อที่หั่นออกมาบางเท่าปีกจักจั่น
ปู้ฟางควงมีดส่งเนื้อชิ้นบางขึ้นไปในอากาศ เขาเปิดตู้อีกตู้แล้วหยิบถาดกระเบื้องลายครามสีฟ้าออกมา ชิ้นเนื้อตกลงไปบนถาดพอดิบพอดี
ปู้ฟางรู้สึกพอใจจึงขยับตัวมาลองเตา ความรู้สึกที่คุ้นเคยทำให้เขาหลงใหล ทำให้ทุกขั้นตอนและทุกการเคลื่อนไหวดูเป็นธรรมชาติทั้งยังผ่อนคลาย
“นายท่าน การปรับปรุงร้านเสร็จสมบูรณ์แล้ว กิจการจะเริ่มได้นับตั้งแต่วันนี้ ท่านต้องคิดค้นอาหารที่จะสร้างชื่อเสียงให้ร้านอาหารหมอกเมฆาภายในสามวัน” ขณะที่ปู้ฟางกำลังเพลิดเพลิน เสี ยงขึงขังของระบบก็ดังก้องขึ้นในใจ
ชายหนุ่มผงะไป เขาลูบคางแล้วเริ่มครุ่นคิด เขาตัดสินใจเรื่องอาหารจานใหม่ได้แล้ว และมันก็ผ่านการคิดมาอย่างถี่ถ้วน อาหารจานนี้ดังกระฉ่อนในโลกที่แล้ว ชื่อของมันสะพัดไปทั่ว วทุกมุมของประเทศจีน ทั้งยังแพร่กระจายไปทั่วโลกเลยด้วยซ้ำ แทบทุกคนที่เคยชิมไม่อาจลืมรสชาติของมันได้ ยิ่งกว่านั้นวิธีทำก็แสนง่าย อาหารจานนี้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ ไม่ยาก
หากยังมีใครไม่สนใจร้านอาหารหมอกเมฆาหลังจากเขาทำอาหารจานนี้ จมูกของคนผู้นั้นย่อมต้องมีปัญหาแน่นอน
ปู้ฟางตื่นเต้นขึ้นมา เขายกยิ้มมุมปาก รู้สึกกระหายอยากเริ่มทำอาหารจานนี้ทันที
ปู้ฟางหยิบสมุนไพรพลังปราณกำใหญ่จากกระเป๋าคลังเก็บของระบบ แล้วเลือกออกมาสิบชนิด เขาบดสมุนไพรพลังปราณทั้งสิบชนิด จากนั้นก็คั้นน้ำของมันใส่ในถังตั้งทิ้งไว้ ปู้ฟางหยิบถั่วด ดำออกมาต้มในน้ำเปล่า แล้วเทน้ำที่ได้จากการกรองถั่วดำต้มใส่ในถังก่อนหน้านี้ จากนั้นก็เริ่มหมักส่วนผสม ปู้ฟางเก็บถังไว้ในตู้ที่ระบบเตรียมไว้ให้ มันเป็นตู้ที่เร่งการไหลข ของเวลา
ปู้ฟางเอาถังออกจากตู้มากวนแล้วเก็บกลับที่เดิมเป็นพักๆ
ระหว่างรอของในถังหมักได้ที่ เขาก็เริ่มเตรียมวัตถุดิบหลัก
ปู้ฟางใช้เวลาตลอดทั้งเช้าทำเต้าหู้จำนวนมาก เต้าหู้สีขาวเป็นเงาปล่อยไอน้ำกลิ่นเข้มข้นจนเขาอดสูดเข้าไปเต็มปอดไม่ได้ ชายหนุ่มรักใคร่กลิ่นนี้ยิ่งนักเพราะมันจะจางหายไปในเวลาไม่ นาน อาหารที่เขาเลือกทำคืออาหารจานเด็ดที่แตกต่างจากทุกจานที่เคยทำมา
ก่อนหน้านี้อาหารที่เขาทำมีกลิ่นหอมจัด แต่อาหารจานนี้มีกลิ่นเหม็นรุนแรง
ในเมื่อกลิ่นหอมยากจะดึงดูดความสนใจของลูกค้า ปู้ฟางจึงเลือกแทงสวนอย่างสุดขั้ว และให้คนพวกนั้นได้เพลิดเพลินกับกลิ่นเหม็นเกินบรรยายแทน
อย่างไรเสียปู้ฟางก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจพวกที่เข้าแถวรอ จนหางแถวยาวมาถึงหน้าร้านของตนเองอยู่แล้ว
“ในเมื่อหลงใหลการเข้าแถวรอนัก ข้าก็จะให้พวกเจ้าเข้าแถวต่อไป หากยังทนอยู่ในแถวหลังจากข้าทำเต้าหู้เหม็นได้ ข้าก็จะยอมรับว่าพวกเจ้านั้นแน่ไม่น้อย”
เมื่อถึงตอนนั้น ปู้ฟางก็อยากจะเห็นนักว่าใครหน้าไหนในเมืองหมอกนภาจะมองข้ามร้านอาหารหมอกเมฆาได้อีก
เขาขยับเต้าหู้มาวางข้างๆ ก่อนจะเปิดตู้ น้ำหมักในถังพร้อมแล้วเพราะตู้ช่วยเร่งการไหลของเวลาที่อยู่ภายใน
ปู้ฟางเลิกคิ้วขึ้นตอนเปิดตู้เพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงพุ่งออกมาพร้อมกระแสพลังปราณ กลิ่นเหม็นของมันไม่เด่นชัดนักแต่ก็ยังทำให้ปู้ฟางต้องเม้มปาก
ปู้ฟางวางถังบนพื้น
เขาหยิบเครื่องปรุงรสแล้วโรยใส่ถังน้ำหมักกลิ่นเหม็น
ครืน!
น้ำหมักสีดำสนิทในถังเริ่มกระเพื่อม มีฟองมากมายผุดออกมา หนำซ้ำกลิ่นยังเหม็นยิ่งกว่าเดิมจนปู้ฟางต้องส่ายหน้า
กลิ่นเหม็นของมันรุนแรงมากจริงๆ
ปู้ฟางปิดจมูกแล้วเริ่มโยนเต้าหู้มากมายใส่ลงไปในน้ำหมักที่เหม็นอย่างยิ่งยวด
เขามองเต้าหู้จมลงในส่วนผสมภายในถัง พลางแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความตื่นเต้น
ชายหนุ่มแช่เต้าหู้ในน้ำหมักสองชั่วยามก่อนจะยกขึ้น
เต้าหู้ที่เพิ่งขึ้นมามีสีดำเล็กน้อยเพราะถูกแช่อยู่ในน้ำหมัก กลิ่นเหม็นที่ฟุ้งออกมาทำให้ปู้ฟางรู้สึกวิงเวียน
พูดกันตามตรง กลิ่นของเต้าหู้เหม็นไม่เป็นมิตรอย่างมาก แต่รสชาติของมันกลับดีผิดธรรมดา เต้าหู้เหม็นเป็นอาหารเพียงจานเดียวที่มีความตรงข้ามกันอย่างสุดขั้ว
ถือได้ว่าเป็นสิ่งประหลาดในโลกแห่งอาหารเลิศรส
ควันสีเขียวหมุนวนรอบข้อมือเมื่อปู้ฟางเรียกกระทะกลุ่มดาวเต่าดำออกมา เขาเทน้ำมันใส่กระทะเล็กน้อย ก่อนจะพ่นหมื่นไฟประลัยกัลป์สีทองไปที่ใต้กระทะ ทำให้อุณหภูมิของกระทะสูงขึ้นอย่ างรวดเร็ว
ปู้ฟางเอามืออังน้ำมันเพื่อประเมินอุณหภูมิ ตอนน้ำมันเริ่มอุ่นๆ เขาก็เทเต้าหู้สีดำใส่กระทะแล้วเริ่มทอด
ซ่า!
ขณะทอด กลิ่นเหม็นของเต้าหู้ก็พุ่งออกจากกระทะพร้อมไอร้อนจากน้ำมันที่ระเหยออกมา กลิ่นของมันทำให้ปู้ฟางมีสีหน้าเหยเก
กุ้งตั๊กแตนบนไหล่ของชายหนุ่มตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา มันขยับเท้าเล็กกะจิริดไม่หยุด ตอนอุณหภูมิของกระทะพุ่งสูงขึ้นจนน้ำมันระเหย เจ้ากุ้งน้อยก็กระโดดออกจากไหล่ของปู้ฟางด้วยอา าการกระดี๊กระด๊า มันหมุนรอบตัวเองกลางอากาศก่อนตกลงไปในกระทะพร้อมเสียงดังจ๋อม กลิ่นเหม็นรุนแรงพวยพุ่งออกมาทันที
กลิ่นเหม็นจัดทำให้กุ้งตั๊กแตนอึ้งไป มันเริ่มตะเกียกตะกายไปมาในน้ำมัน
เจ้ากุ้งสะบัดหางแล้วกระโดดขึ้นจากน้ำมัน
กุ้งตั๊กแตนปล่อยพลังปราณของตนออกมาขจัดน้ำมันที่เกาะอยู่ตามตัว หลังจากนั้นก็คลานกลับขึ้นมาบนไหล่ของปู้ฟางแล้วนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง มีฟองฟอดออกจากปาก
หากต้องใช้คำหนึ่งคำอธิบายความรู้สึกของมันตอนนี้ ย่อมต้องเป็นคำว่า ‘อึ้งกิมกี่’
ปู้ฟางขบขันกับสิ่งที่เห็น เจ้ากุ้งจอมซนน่าจะสำลักกลิ่นเหม็นนั่นจนสติหลุดไป
ปู้ฟางตักเต้าหู้เหม็นสีดำอมเหลืองอ่อนๆ ขึ้นจากน้ำมัน ก่อนเอาใส่จานหลังสะเด็ดน้ำมันดีแล้ว เขาใช้ตะเกียบเจาะรูเต้าหู้ทอด ซึ่งทำให้กลิ่นเหม็นเข้มข้นยิ่งขึ้นอีก
หลังจากโรยเครื่องปรุงรสลงไปในจาน เต้าหู้เหม็นก็สำเร็จเสร็จสิ้น
ปู้ฟางอดแลบลิ้นเลียริมฝีปากไม่ได้ ขณะมองเต้าหู้เหม็นสีดำอมเหลืองอ่อนๆ หน้าตาวิจิตรตระการตา
เต้าหู้เหม็นคืออาหารจานแรกที่เขาหมายจะใช้ดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านอาหารหมอกเมฆาซึ่งเป็นร้านสาขา มันต้องสร้างความประหลาดใจอย่างน่าดูชมต่อชาวเมืองหมอกนภาแน่นอน
ในเมื่อกลิ่นหอมไม่อาจดึงดูดให้พวกเขาสนใจได้ ปู้ฟางจึงเลือกใช้กลิ่นเหม็นแทน คนพวกนั้นจะได้เห็นว่าสิ่งใดกลิ่นแรงกว่ากัน จะเป็นโอสถอดอาหารหลากรสจากพวกร้านโอสถทิพย์หรือเต้ าหู้เหม็นกันแม่
ปู้ฟางยกยิ้มมุมปาก
เขาใช้ตะเกียบคีบเต้าหู้เหม็นขึ้นมา
เจ้ากุ้งกลอกตาสักพักแล้วซบชายหนุ่มแน่นกว่าเดิม มันตกจากไหล่ของเขาทันทีหลังทำเช่นนั้น มีฟองฟอดออกจากปากของมันอีกครั้ง
ปู้ฟางมองเจ้ากุ้งก่อนจะเอาเต้าหู้เหม็นใส่ปากด้วยสีหน้าตายด้าน
จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด