ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1006 ชอบ
ตอนที่ 1006 ชอบ
เซียวเหวินอวี๋นำคนออกจากศาลเจ้าร้าง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพาลูกน้องตระกูลเซี่ยมาถึง พอเห็นเซียวเหวินอวี๋เดินออกมาจากศาลเจ้าร้าง ลู่เจียวก็เข้าไปถามอย่างร้อนใจว่า “เป็นอย่างไรบ้าง มีร่องรอยของอวิ๋นเยี่ยนหรือไม่”
เซียวเหวินอวี๋ส่ายหน้า รีบกล่าวว่า “ไม่มี แต่ข้าตรวจดูแล้ว ในศาลเจ้าร้างมีร่องรอยคนอยู่มาก่อน หากไม่เหนือความคาดหมาย ก่อนหน้านี้อวิ๋นเยี่ยนถูกจับตัวมาที่นี่ ตอนนี้คนพวกนั้นพานางไปแล้ว”
ลู่เจียวร้อนใจไม่อาจเอ่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางร้อนใจ ก็อดปลอบใจนางไม่ได้ “เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป นางหนูนั่นจะไม่เป็นอันใด อย่างไรก็เป็นเด็กที่เจ้าอบรมมาด้วยตนเอง”
เพราะร้อนใจ เซียวเหวินอวี๋จึงไม่ทันได้ฟังความนัยในวาจาเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยามนี้เขาเป็นห่วงซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนอย่างมาก พิษลับซีเหลียงไม่ได้ถอนง่ายดายเพียงนั้น หากถอนไม่ได้ ซั่งกวนเฮ่อจะโมโหจนลงมือกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนหรือไม่
เซียวเหวินอวี๋คิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในใจก็ตื่นตระหนกอย่างไม่อาจระงับ
เพียงแต่เขาไม่ทันได้พูดอะไร ด้านนอกก็มีคนรีบเข้ามารายงาน “ฝ่าบาท พวกเราจับตัวสายสืบมาได้คนหนึ่ง”
เซียวเหวินอวี๋รีบให้ลูกน้องนำตัวเข้ามา ลูกน้องเขาพาชายชุดดำปิดพรางหน้าด้วยผ้าดำผืนหนึ่งเข้ามา มองใบหน้าเขาไม่กระจ่าง แต่เต็มไปด้วยความโมโหมาก พอเห็นเซียวเหวินอวี๋มองมา เขาก็ดิ้นรน แต่กลับไม่เอ่ยอันใด
เซียวเหวินอวี๋มองไปยังลูกน้องตนเอง ถามขึ้นว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
“ก่อนหน้านี้เขาคิดกัดลิ้นฆ่าตัวตาย พวกเราสกัดจุดเขาไว้ได้”
เซียวเหวินอวี๋พยักหน้าเล็กน้อย มองไปยังชายชุดดำที่ถูกคุมตัวไว้ “เรารู้ว่าพวกเจ้าคือคนของซั่งกวนเฮ่อ คิดมาสืบดูว่ามีคนจับตาพวกเจ้าหรือไม่ ว่ามา ซั่งกวนเฮ่อจับตัวองค์หญิงแปดซีเหลียงซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไปไว้ที่ใด”
สายสืบได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็มองเซียวเหวินอวี๋ทีหนึ่งอย่างแปลกใจ องค์หญิงแปดซีเหลียงพวกเขากับเกี่ยวอันใดกับฮ่องเต้แคว้นต้าโจว หรือว่าเป็นห่วงว่าซีเหลียงจะเอาเรื่อง
สายสืบได้แต่คิดเช่นนี้ แต่สีหน้ายังคงนิ่งไม่คิดเปิดเผยร่องรอยของซั่งกวนเฮ่อ
เซียวเหวินอวี๋แค่นยิ้มสั่งการลูกน้อง “พาตัวเขาไปลงทัณฑ์สอบ เราอยากรู้ว่าปากเขาจะแข็งเพียงใด”
องครักษ์ลับข้างกายเซียวเหวินอวี๋ล้วนร้ายกาจ นำตัวสายสืบออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม อีกฝ่ายก็ทนไหวยอมรับสารภาพว่าซั่งกวนเฮ่อพาองค์หญิงแปดไปโรงบ้านตระกูลหลิวที่ห่างจากศาลเจ้าร้างไม่ไกลนัก
ลู่เจียวได้ยินองครักษ์ลับรายงาน รีบคิดตามไป แต่กลับถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเซียวเหวินอวี๋รั้งไว้
ทั้งสองคนมองนาง แลวกล่าวว่า “ซั่งกวนเฮ่อเป็นคนขี้ระแวงมาก และยังมีความสามารถ หากไม่เหนือความคาดหมาย รอบโรงบ้านตระกูลหลิวจะต้องมีคนของเขาซุ่มอยู่ หากพวกเราบุกเข้าไป ย่อมทำให้ซั่งกวนเฮ่อรู้ตัว ถึงตอนนั้นเกรงว่าคงส่งผลเสียต่อซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน”
“ท่านแม่อย่าได้ร้อนใจ เรื่องนี้ต้องหารือวางแผนกันก่อน ซั่งกวนเฮ่อต้องการให้อวิ๋นเยี่ยนถอนพิษให้เขา น่าจะไม่ทำอันใดนางในตอนนี้”
ลู่เจียวย่อมรู้เรื่องนี้ นางไม่เป็นห่วงว่าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนจะมีภัยถึงชีวิต แต่นางเป็นห่วงซั่งกวนเฮ่อโรคจิตชั่วร้ายอาจทำอันใดกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนได้
เรื่องนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็คิดได้ แต่เซียวเหวินอวี๋ไม่เข้าใจ
แม้ว่าไม่เข้าใจ แต่เห็นสีหน้าเป็นห่วงของลู่เจียว เขาก็อดถามไม่ได้ว่า “ท่านแม่ มีอันใดหรือ”
ลู่เจียวคิดแล้วก็เอ่ยออกมาว่า “ซั่งกวนเฮ่อหมายปองในตัวอวิ๋นเยี่ยน”
ตอนแรกเซียวเหวินอวี๋ไม่เข้าใจวาจานี้ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พลันเข้าใจ สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน เรียวตาดอกท้อเต็มไปด้วยความดุดันเย็นเยียบ พร้อมกับโมโหด่าขึ้นว่า “เขามันเดรัจฉานไหม อวิ๋นเยี่ยนเป็นน้องสาวเขา เขาถึงกับคิดกับน้องสาวตนเอง สู้สุนัขสุกรยังไม่ได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสบตากันทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรเอ่ยอันใด ภพก่อนซั่งกวนเฮ่อก็มุ่งมาดปรารถนาต่ออวิ๋นเยี่ยน ชาติภพนี้ก็มองออกว่ายิ่งดึงดันไม่ยอมเลิกรามากกว่าเดิม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ทันได้พูดอะไร ก็ได้ยินเซียวเหวินอวี๋สั่งการเยียบเย็น “เจียงเจิน นำคนซุ่มโดยรอบโรงบ้านตระกูลหลิว จำไว้ จะต้องไม่ทำให้คนในนั้นรู้ตัว แฝงตัวเข้าไปหาดูว่าพวกซั่งกวนเฮ่ออยู่ที่ใด”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดการ”
เซียวเหวินอวี๋สั่งการเสร็จก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ ท่านพ่อพาท่านแม่กลับไปพักผ่อนเถอะ”
ตอนนี้ต้องรอข่าวจากโรงบ้านตระกูลหลิว พวกเขาต้องรออยู่อย่างนี้ทำอันใดไม่ได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็ไม่ได้สนใจ แต่มองเซียวเหวินอวี๋เอ่ยว่า “เจ้าพาคนกลับไปพักผ่อน ทางนี้มอบให้พ่อดูแลเอง ข้าช่วยนางหนูนั่นออกมาเอง ไม่มีทางปล่อยให้นางเกิดเรื่องอันใดอย่างแน่นอน”
เซียวเหวินอวี๋รู้ความสามารถบิดาตนเอง ตามหลักควรวางใจ แต่เขาไม่อาจวางใจ
“ท่านพ่อ พาท่านแม่กลับไปพักผ่อนดีกว่า”
ลู่เจียวหรี่ตามองเซียวเหวินอวี๋ ค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างกายเซียวเหวินอวี๋ ดึงเขาเดินไปอีกทาง
“ซื่อเป่า เจ้าชอบอวิ๋นเยี่ยนใช่หรือไม่”
แม้ว่าซื่อเป่าเป็นถึงฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ทว่าแต่ไรมาลู่เจียวไม่เคยเห็นเขาร้อนใจด้วยเรื่องอันใดเช่นนี้มาก่อน ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจวถึงกับนำกำลังออกมาช่วยซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนด้วยตนเอง ไม่กล่าวว่าชอบแล้วคืออันใด และยังไม่ใช่ความชอบทั่วไป แต่เรียกได้ว่าชอบอย่างที่สุด
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังคำพูดลู่เจียว แก้มพลันเห่อร้อนขึ้นมาทันที ท่าทางเหมือนร้อนตัว ตั้งแต่ขึ้นครองราชย์มา เขาไม่เคยไม่อาจควบคุมตนเองได้เช่นนี้
“ท่านแม่ ไม่มีเรื่องเช่นนี้ ข้าเพียงแต่เห็นว่านางเป็นบุตรสาวบุญธรรมท่านแม่ เป็นห่วงว่านางจะเกิดเรื่อง นับประสาอันใดกับนางเป็นองค์หญิงแปดซีเหลียง หากเกิดเรื่องในแคว้นต้าโจวเรา ฮ่องเต้ซีเหลียงย่อมต้องเอาเรื่อง ข้าทำเพื่อแผ่นดิน”
ลู่เจียวมองเขาลุ่มลึกทีหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ซื่อเป่า เชื่อแม่ กลับไปเถอะ เจ้าเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ทุกเรื่องต้องเห็นแผ่นดินเป็นสำคัญ”
ไม่ใช่ว่านางเห็นว่าซื่อเป่าไม่ดีพอ แต่เพราะพวกเขาสองคนเป็นไปไม่ได้ ซื่อเป่าไม่เพียงแต่มีฮองเฮา ในวังยังมีพระสนมอีกหลายคน อวิ๋นเยี่ยนไม่มีทางเข้าวังไปเป็นพระสนม หากไม่มีฮองเฮากับสตรีอื่นในวังก็อาจพอคุยกันได้
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังคำพูดลู่เจียว สมองพลันอื้ออึง ท่านแม่ไม่อยากให้อวิ๋นเยี่ยนเข้าวังมาเป็นสนมหรือ เพราะไม่เชื่อใจเขาหรือ
ลู่เจียวมองเขากล่าวว่า “เจ้ามีฮองเฮา ในวังยังมีสตรีอีกหลายคน อวิ๋นเยี่ยนไม่มีทางเข้าวังไปเป็นสนมเจ้า ไม่มีทางร่วมแบ่งปันสามีกับหญิงอื่น”
“นางเหมือนกับแม่มาก หากท่านพ่อเจ้าให้แม่ร่วมแบ่งปันสามีกับหญิงอื่น แม่ก็จะตบบ้องหู เห็นข้าเป็นของเล่นหรือ”
ลู่เจียวพูดน้ำเสียงไม่ดังนัก แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดินมาได้ยินพอดี รีบก้าวเข้ามากล่าวอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าพูดอันใด ข้าไม่ใช่คนเช่นนั้นไหม ในใจข้ามีเพียงเจ้าคนเดียว หญิงอื่นใดล้วนเทียบเจ้าไม่ได้ พวกนางล้วนเป็นตัวอันใดกัน”
วาจาเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำเอาลู่เจียวยิ้มแก้มปริดีใจ สีหน้าเบิกบานอย่างไม่อาจบรรยาย
เซียวเหวินอวี๋เห็นภาพนี้ พลันเข้าใจแล้วว่าปัญหาของเขากับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนอยู่ที่ใด
เขามีฮองเฮา ยังมีพระสนมในวังหลัง ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่มีทางร่วมแบ่งปันเขากับหญิงอื่น