ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1007 โมโหมาก
ตอนที่ 1007 โมโหมาก
เขาเองก็ไม่มีทางพระราชทานความตายแด่ฮองเฮาและหญิงเหล่านั้นเพื่อซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน แม้เขาไม่รักไม่โปรดไม่แตะต้องหญิงเหล่านั้น แต่หญิงเหล่านั้นก็ดำรงอยู่ และหากซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเข้าวังก็ยังต้องให้ความเคารพฮองเฮาดังภรรยาเอก พอคิดถึงว่าสตรีที่ตนชอบถึงกับต้องมาให้ความเคารพหวังเมิ่งเหยา เขาก็รู้สึกเคืองใจ
แล้วไปเถอะ เขาไม่ให้นางเข้าวังดีกว่า ต้องโทษที่พวกเขาไร้วาสนาต่อกัน
เซียวเหวินอวี๋คิดเช่นนี้แล้วก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงยากทนรับไหว เขามองลู่เจียวกล่าวว่า “ท่านแม่ ครั้งนี้ให้ข้าได้ช่วยนางเถอะ วันหน้าข้าจะไม่เข้าใกล้นางอีก นางก็คือน้องสาวบุญธรรมของข้า”
ลู่เจียวเห็นเขาเช่นนี้ ในใจก็ยากทนรับไหว เขาเป็นเด็กน้อยเชื่อฟังว่านอนสอนง่ายที่นางเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ แม้ว่าเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว แต่ก็ยังให้ความเคารพต่อพวกเขาเหมือนวัยเด็ก ไม่ได้เพราะว่าตนได้เป็นฮ่องเต้ ก็จะระแวงพวกเขา
เขาไร้คนรู้ใจข้างกายเช่นนี้ทำให้นางคิดแล้วก็ปวดใจ แต่หากจะให้นางส่งอวิ๋นเยี่ยนเข้าวังมาเป็นพระสนม นางก็ไม่ยินดี อวิ๋นเยี่ยนเป็นหญิงสาวยอดเยี่ยมที่นางอบรมมาด้วยตนเอง หากนางเข้าวังก็จะเป็นได้เพียงแค่พระสนม ยังเป็นรองฮองเฮา ฮองเฮาถือสิทธิ์อันใด
เช่นนี้ก็ได้แต่กล่าวว่าพวกเขาไร้วาสนาต่อกันแล้ว
เซียวเหวินอวี๋เห็นลู่เจียวเสียใจก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ท่านอย่าได้เสียใจไป ข้าไม่เป็นอันใด”
พอเขาเอ่ยเช่นนี้ ลู่เจียวก็ยิ่งเสียใจ เซียวเหวินอวี๋มองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ท่านพ่อ พาท่านแม่กลับไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ข้าดูแลเอง”
ตอนนี้ต้องรอให้โรงบ้านส่งข่าวออกมาก่อน พวกเขารอกันมากมายเช่นนี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเห็นด้วย เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องที่เซียวเหวินอวี๋ยินดีกระทำ เป็นความต้องการที่เขาต้องการกระทำให้สำเร็จ
“ได้ เช่นนั้นท่านพ่อพาท่านแม่เจ้ากลับแล้ว”
เขากล่าวจบก็ดึงลู่เจียวเดินออกจากป่าไปขึ้นรถม้า ลู่เจียวจึงได้กล่าวอย่างทุกข์ใจว่า “พวกเขาสองคนล้วนเป็นเด็กดี หากพวกเขาอยู่ด้วยกันได้ย่อมต้องดีอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ไร้วาสนา”
“เอาละ เรื่องของลูกๆ เจ้าก็อย่าได้ร้อนใจไป ทำเอาตนเองต้องปวดใจเช่นนี้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นฝืนรั้งลู่เจียวให้ลงพิงพักผ่อนในอ้อมกอดเขา อย่าได้คิดเรื่องลูกๆ อีก
โรงบ้านตระกูลหลิว
พวกซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเข้าพักที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้มีห้องมากมาย แบ่งสองห้องให้ซั่งกวนเฮ่อกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน พวกเขาสองพี่น้องอยู่คนละห้อง แต่คนที่ซั่งกวนเฮ่อพามาด้วยล้วนกระจายกันเฝ้าอยู่ในลานด้านนอก ป้องกันคนมาช่วยซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน
หากเป็นไปตามคาดหมาย ฮูหยินโจวกั๋วต้องให้คนออกมาตามหาอวิ๋นเยี่ยน ผู้ใดให้อวิ๋นเยี่ยนเป็นบุตรสาวนางกัน
ซั่งกวนเฮ่อให้ลูกน้องทำตามคำสั่งซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ซื้อเข็มทองกับสมุนไพรกลับมา
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนฝังเข็มให้ซั่งกวนเฮ่อ แล้วก็เขียนตำรับยา แม้ว่าไม่อาจถอนพิษอู่ซินเฝิน แต่ทำให้ซั่งกวนเฮ่อรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถอนพิษถูกทางแล้ว เพียงแต่ยังมีพิษบางส่วนที่ยังไม่อาจแยกแยะออกมาได้
ซั่งกวนเฮ่อไม่ร้อนใจและไม่เร่งซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน สรุปก็คือ หากซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถอนพิษให้เขาไม่ได้ เขาก็จะพานางไปตายด้วย
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนง่วนกับการแยกแยะพิษในโลหิตของซั่งกวนเฮ่อ พลางครุ่นคิดว่าจะหนีรอดจากเงื้อมมือซั่งกวนเฮ่อได้อย่างไร
ความจริงนางมียาพิษสังหารคนในมือหลายชนิด แต่เห็นได้ชัดว่าข้างกายซั่งกวนเฮ่อมีลูกน้องไม่น้อย หากตนเองวางยาพิษซั่งกวนเฮ่อสลบไปก็ใช่ว่าจะหนีออกไปได้ อีกอย่าง ซั่งกวนเฮ่อผู้นี้เป็นคนระมัดระวังรอบคอบอย่างยิ่ง นางอาจวางยาเขาไม่ตาย ข้างกายนางยังมีสาวใช้อีกสองคน หลีเซียงกับมู่เซียง สาวใช้สองคนนี้แม้ว่าฉลาดเฉลียว แต่ไร้วิทยายุทธ์ นางไม่อาจทิ้งพวกนางไว้แล้วหนีเอาตัวรอดไปคนเดียวได้
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนคิดแล้วก็ไร้หนทาง สุดท้ายรู้สึกเหนื่อยมาก ได้แต่ล้มลงทิ้งตัวพาดไปบนโต๊ะ ในขณะที่ความรู้สึกกำลังเลือนราง ก็รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามากอดนางไว้ ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนตกใจลืมตาขึ้นเห็นซั่งกวนเฮ่อยื่นมือมากอดนางไว้ แววตาดื้อดึงหลงใหล เขาเห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรู้สึกตัว ไม่เพียงแต่ไม่ลนลานแต่กลับหัวเราะกอดนางแน่นขึ้น
“อวิ๋นเยี่ยน ไว้เจ้าถอนพิษให้ข้าแล้ว ข้าก็จะกลับซีเหลียง แย่งชิงบัลลังก์ฮ่องเต้ซีเหลียงมาครอง ถึงตอนนั้น ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นฮองเฮาซีเหลียง จากนี้ไปพวกเราก็ร่วมกันครองซีเหลียงดีหรือไม่ รอถึงตอนนั้น ขอเพียงเจ้าอยากได้สิ่งใด ข้าจะต้องหามาให้เจ้า หากเจ้าไม่ชอบให้ข้าแตะต้องหญิงอื่น ข้าก็จะไม่แตะต้อง”
สีหน้าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนย่ำแย่อย่างยิ่ง ยกมือผลักซั่งกวนเฮ่อ แต่ซั่งกวนเฮ่อกลับไม่ยอมปล่อยนาง ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อย ยังก้มลงคิดจุมพิตนาง
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนยกมือฟาดหน้าเขาไปทีหนึ่ง
ซั่งกวนเฮ่อไม่หลบ ถูกนางตบหน้าแล้วยังคงยิ้ม
“จะตบข้างนี้อีกทีหรือไม่ สองข้างจะได้เสมอกัน”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวอย่างรังเกียจว่า “ซั่งกวนเฮ่อ ปล่อยข้า อย่าคิดว่าข้าไร้หนทางจัดการเจ้า หากข้าคิดสังหารเจ้า ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ อย่างมากพวกเราสองคนก็ตายตกไปพร้อมกัน หากเจ้าคิดอยากลอง คืนนี้ลองดูก็ได้”
ภพนี้นางไม่ได้ต้องคิดมากเหมือนภพก่อน ภพก่อนเขานำกำลังคนปราบเหตุจลาจลใต้หล้านำความสงบสุขคืนสู่ราษฎร เพิ่งจะผ่านพ้นช่วงเวลาวุ่นวายมา หากนางสังหารเขาทิ้ง ใต้หล้าก็จะวุ่นวายอีกครั้ง ดังนั้นเพื่อราษฎร นางจึงมิได้สังหารเขา แต่ชาติภพนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
นางสังหารเขาได้โดยไม่ต้องคิดมาก อย่างมากนางก็ตายไปพร้อมกับเขา
ซั่งกวนเฮ่อได้ฟังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ก็หยุดเคลื่อนไหว แววตานิ่งจ้องมองนางเขม็ง “เจ้าโกรธแค้นข้าเพียงนี้หรือ”
“ไม่ใช่โกรธแค้น แต่รังเกียจ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเคยมีของที่รังเกียจหรือไม่ แต่ข้ามี ก็คือเจ้า อย่าว่าแต่คุยกับเจ้า แม้แต่หายใจอากาศเดียวกับเจ้า ในใจข้าก็รังเกียจแทบทนไม่ไหว”
ซั่งกวนเฮ่อได้ฟังวาจาซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน สีหน้าก็ย่ำแย่ยิ่ง ก่อนจะค่อยๆ บิดเบี้ยว วาจาที่เอ่ยออกมาล้วนเป็นวาจาที่ไม่อาจทำใจยอมรับได้
“ข้าเป็นมังกรในหมู่ชนที่หาได้ยากยิ่ง ภพก่อนนำพาลูกน้องสยบความวุ่นวาย นำพาความสงบสุขมาสู่ราษฎร ข้าเช่นนี้ไม่ยอดเยี่ยมเพียงพอหรือ เหตุใดเจ้าจึงรังเกียจข้า”
ซั่งกวนเฮ่อไม่เข้าใจ ภพก่อนเขานำพาพี่น้องทนลำบากตรากตรำมาไม่น้อย กว่าจะนำพาความสงบมาสู่ใต้หล้าได้ สุดท้ายยังคิดแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา หากเป็นหญิงอื่นต้องดีใจอย่างที่สุด ปรากฏว่านางรังเกียจเขา ไม่เพียงแต่ภพก่อนรังเกียจเขา ชาติภพนี้ก็ยังคงรังเกียจเขา
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนแค่นเสียงเยาะยิ้มมองเขา “เจ้าเป็นคนไร้คุณธรรม เจ้าปราบจลาจลวุ่นวายใต้หล้าลงได้ นำความสงบสุขมาสู่ราษฎรก็จริง แต่ไม่อาจกล่าวได้ว่าเจ้าเก่งกาจยอดเยี่ยม แต่เพราะในจังหวะที่เหมาะสมเช่นนั้น ทำให้เจ้าเดินไปถูกทาง แต่เจ้ากลับเห็นแก่ตัว ถึงขั้นเลือดเย็น ไม่มีความรักพี่น้องแม้สักนิด เพราะเจ้าได้ครอบครองใต้หล้า เจ้าก็คิดว่าเจ้าคือผู้บงการทุกอย่างในใต้หล้า เจ้าควรได้เสื้อผ้าอาภรณ์ อาหารล้ำเลิศ สุราเลิศล้ำ นารีงามที่สุดในใต้หล้านี้ไว้เพียงผู้เดียว”
เขาก็เป็นเหมือนที่ท่านแม่นางกล่าวไว้ พวกพระเอกในนิยายเพ้อฝันที่ไม่ต้องทำอันใดก็สำเร็จง่ายดาย เห็นแก่ตัวและคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ เขายึดมั่นในตัวนางเพียงเพราะว่านางเป็นหญิงงาม เหมาะจะร่วมเสวยวาสนาสุขกับเขา ไหนเลยจะมีความรักหรือไม่
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบก็ไม่คิดพูดคุยกับเขาอีก กล่าวน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “เจ้ารีบปล่อยข้า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าลงมือกับเจ้า พวกเราสองคนตายไปพร้อมกัน”