ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1013 กลับเมืองหลวง
ตอนที่ 1013 กลับเมืองหลวง
ในห้องท้องเรือ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเห็นลู่เจียวสีหน้าแปรเปลี่ยน ก็พากันปลอบใจนาง “เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป บางทีอาจไม่ร้ายแรงดังที่พวกเราคิด การคิดเข้าใกล้รัชทายาท ทำให้รัชทายาทลงมือ ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้พวกเรากลับเมืองหลวง ไม่แน่ว่าอาจเอ่ยเตือนซื่อเป่าได้”
ลู่เจียวกลับร้อนใจยิ่ง รีบสั่งการทันที “กลับเมืองหลวง รีบกลับเมืองหลวง ข้าคิดได้เรื่องหนึ่ง เมื่อก่อนฮองเฮาก็ดีๆ อยู่ เหตุใดต่อมาพลันเปลี่ยนไป ความจริงก็คือแผนของรัชทายาทซีเหลียงซั่งกวนเฮ่อ ตอนนั้นเขาตั้งสำนักลัทธิบัวขาวในแคว้นต้าโจว พร้อมกับส่งคนเข้าวังมายุยงฮองเฮา ไม่เพียงแต่ทำให้ฮองเอากับฮ่องเต้แตกกัน ยังทำให้ฮองเฮาห่างเหินกับตระกูลเซี่ย”
“คนผู้นี้ทำเช่นนี้ได้ เกรงว่าตอนนี้ก็คงอยู่ข้างกายฮองเฮา ซื่อเป่าตกอยู่ในอันตราย”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนพลันแปรเปลี่ยน รีบเทียบท่าขึ้นฝั่งกลางดึก เร่งเดินทางกลับเมืองหลวง แต่ยังคงให้เรือใหญ่เดินทางต่อไปยังเมืองหนิงโจว เพื่อหลอกล่อสายสืบของซั่งกวนเฮ่อ
คนเรือไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามมากความ รับคำสั่งเดินทางต่อไปยังเมืองหนิงโจว
ตำหนักเฉาหยางกงในวัง
ฮองเฮาร้อนใจมองผู้ชายที่ยืนอยู่ในตำหนักบรรทมพลางถามอย่างเป็นกังวลว่า “เจ้าแน่ใจว่ายาที่เจ้าให้ข้าไม่ใช่ยาพิษ”
แววตาซั่งกวนเฮ่อวูบไหว แต่สีหน้ายังคงไม่แปรเปลี่ยน เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ข้าจะหลอกเจ้าไปทำไมกัน วางใจได้ ไม่ใช่ยาที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ทำให้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนเท่านั้น”
หวังเมิ่งเหยาคิดถึงเซียวเหวินอวี๋ ในใจก็ลงมือไม่ลง เอ่ยพึมพำว่า “ไม่เอาดีกว่า ข้าไม่อยาก ไม่อยากเห็นเขากลายเป็นคนปัญญาอ่อน”
คนผู้นี้เคยเป็นชายที่นางรักมากที่สุด ตอนได้พบกับเขาครั้งแรก นางก็ชอบเขาดังหมายปองจันทรา ได้มองเขา ได้ทำเรื่องที่เขาชอบ รู้ว่าเขาชำนาญการค้า นางก็ไปทำการค้า แม้ไม่ได้แต่งกับเขา แต่ได้ทำเรื่องเหมือนกับเขา ก็ทำให้นางมีความสุขมากแล้ว
ต่อมาได้แต่งเป็นพระชายารองเขา แม้เขาไม่แตะต้องนาง นางก็ดีใจ ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างเขา นางก็พอใจแล้ว
ต่อมาเขาโปรดปรานนางเพียงผู้เดียว นางก็เบิกบานใจมาก วันเวลาช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของนาง ต่อมาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พวกเขาจึงได้เริ่มเอาใจออกหากกัน ความจริงไม่เพียงแต่เพราะตระกูลเซี่ย ยังมีเหตุอื่นอีก หวังเมิ่งเหยาตั้งใจครุ่นคิด คล้ายว่าเพราะนางแล้งน้ำใจต่อผู้อื่น หยิ่งยโสต่อบรรดาฮูหยิน เย็นชากับองค์หญิงรอง ตอนนั้นเขาบอกนางหลายครั้ง นางก็ไม่คิดสนใจ ต่อมาเขาก็ไม่เอ่ยอีก แต่คล้ายว่ามีท่าทีเย็นชาต่อนาง
หวังเมิ่งเหยาหวนกลับไปคิดถึงเรื่องระหว่างนางกับฮ่องเต้ ในห้องบรรทม ซั่งกวนเฮ่อเริ่มรู้สึกโมโห มองหญิงตรงหน้าด้วยสีหน้าเย็นเยียบ หญิงผู้นี้คือหญิงโง่เง่าโดยแท้ รวมทั้งตู้เยี่ยนหญิงผู้นั้น เดิมเขายังคิดว่านางไม่เหมือนหญิงอื่น ตอนนี้จึงได้รู้นางก็เหมือนกับหญิงอื่น โง่เง่าไร้ทางเยียวยา เซียวเหวินอวี๋ก็แค่เล่นละครดังวีรบุรุษช่วยสาวงาม นางก็ซาบซึ้งใจเช่นนั้น ช่างโง่เง่ายิ่งนัก
ซั่งกวนเฮ่อคิดแล้วก็เอ่ยว่า “เจ้าทนเห็นเขากลายเป็นคนปัญญาอ่อนไม่ได้ แต่เขาไม่ได้คิดทะนุถนอมเจ้า รอให้เขาแต่งซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเข้าวัง ในวังก็จะไม่มีที่ให้เจ้ายืน ถึงตอนนั้น เขาย่อมต้องหาโอกาสกำจัดเจ้าทิ้ง บุตรชายเจ้าก็ไม่อาจดำรงตำแหน่งรัชทายาทมั่นคง ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเข้าวังย่อมเป็นที่โปรดปรานของเขามาก วันหนึ่งก็จะให้กำเนิดองค์ชาย ฝ่าบาททรงรักสิ่งใดก็จะโปรดปรานสิ่งนั้น ต้องทรงปลดตำแหน่งบุตรชายเจ้า ให้บุตรชายของนางขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาท เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว”
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวความในใจหวังเมิ่งเหยาจบ นางก็รู้สึกขื่นขม เริ่มบ้าคลั่งไม่อาจควบคุมตนเอง “ไม่ บุตรชายข้าจึงจะเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว เขาเป็นฮ่องเต้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี”
“เจ้ากล่าวกับข้าก็ไร้ประโยชน์ ต้องไปกล่าวกับเซียวเหวินอวี๋ ประเด็นสำคัญก็คือตอนนี้เขาไม่พบหน้าเจ้า ไม่มีทางยอมให้บุตรชายเจ้าครองตำแหน่งรัชทายาทมั่นคงเป็นแน่”
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวจบก็โมโหกล่าวว่า “ตามใจเจ้า เจ้าอยากจะตายไปพร้อมกับบุตรชายก็ไปตายเถอะ ข้าไปละ”
หวังเมิ่งเหยาเอ่ยร้องขึ้นอย่างร้อนใจ “เดี๋ยวก่อน”
ซั่งกวนเฮ่อแค่นหัวเราะหันไปมองนาง หวังเมิ่งเหยากัดฟันถามว่า “เจ้าจะช่วยบุตรชายข้าขึ้นครองตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นต้าโจวจริงหรือ”
ซั่งกวนเฮ่อเอ่ยถามน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “หากไม่ช่วยเจ้า ข้าจะช่วยออกความคิดให้เจ้าเพื่ออันใด”
ในใจซั่งกวนเฮ่อแค่นเสียงฮึเยียบเย็น นังโง่ เพ้อฝันได้สวยหรูมาก เขาช่วยนางเพราะต้องการจัดการเซียวเหวินอวี๋
เซียวเหวินอวี๋ทำลายงานของเขา เขาจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร เขาต้องสังหารทิ้ง หลังช่วยรัชทายาทเซียวจิ่งขึ้นบัลลังก์ ถึงตอนนั้นเขาก็จะเอาชีวิตคนตระกูลเซี่ยทั้งตระกูลมาข่มขู่ฮูหยินโจวกั๋ว เขาไม่เชื่อว่านางจะไม่ปรุงยาถอนพิษอู่ซินเฝินให้เขา เขาจะอาศัยกองทัพแคว้นต้าโจวชิงบัลลังก์ซีเหลียงกลับคืนมา ถึงตอนนั้นค่อยหันกลับมากวาดล้างฮ่องเต้เยาว์วัยแคว้นต้าโจว แคว้นต้าโจวก็จะถูกเขาทำลายลงได้อย่างง่ายดาย หลังสองแคว้นรวมเป็นหนึ่ง ยังต้องหวั่นเกรงแคว้นใดอีกหรือ เขาก็จะได้ครอบครองใต้หล้า
ซั่งกวนเฮ่อมีความคิดเช่นนี้ แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับหวังเมิ่งเหยา
หวังเมิ่งเหยาได้ฟังคำเขาก็กัดฟันกล่าวว่า “ได้ หากเจ้าช่วยบุตรชายข้าครองบัลลังก์แคว้นต้าโจวทำให้ข้าได้เป็นไทเฮาได้สำเร็จ ก็จะให้จิ่งเอ๋อร์ส่งกำลังไปช่วยเจ้ายึดบัลลังก์ซีเหลียง วันหน้าพวกเราสองแคว้นเป็นพันธมิตรต่อกันตลอดไป”
“ตกลง”
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวจบก็ส่งยาให้หวังเมิ่งเหยา ความจริงหลายวันก่อนเขาส่งมาให้ชุดหนึ่งแล้ว
“จำไว้ อย่าบอกบุตรชายเจ้า อย่าให้เขารู้ และอย่าลืมว่าทาบนตัวบุตรชายให้น้อยหน่อย อย่าได้ทำให้เซียวเหวินอวี๋รู้ตัว”
นี่คือยาพิษความรุนแรงระดับต้นๆ ในมือเขา ทำให้คนตายไปอย่างไม่ทันรู้ตัวได้
แต่เพราะกลัวเซียวเหวินอวี๋จะรู้ ดังนั้นซั่งกวนเฮ่อจึงเอ่ยเตือนหวังเมิ่งเหยาตลอดว่าให้ทาให้น้อย ให้เซียวเหวินอวี๋ค่อยๆ สูดดม ทำให้เขาค่อยๆ ถูกพิษตายไป ยานี้ไร้สีไร้กลิ่น และสังเกตได้ยาก แต่หากใส่ยามากเกินไป คนที่เชี่ยวชาญวิชาการแพทย์ก็จะรู้ได้ แต่หากปริมาณน้อย คนทั่วไปจะไม่ทันสังเกต แม้แต่ผู้ถูกพิษก็ยังไม่ทันรู้ตัว
ขอเพียงฮูหยินโจวกั๋วผู้นั้นไม่กลับมาเมืองหลวง เขาก็แน่ใจว่าจะสังหารเซียวเหวินอวี๋ได้อย่างไม่มีผู้ใดล่วงรู้สาเหตุ
แต่หวังเมิ่งเหยาไม่รู้เรื่องนี้ นางคิดเพียงว่ายาที่ซั่งกวนเฮ่อให้นางทำให้เซียวเหวินอวี๋สมองเสื่อมเท่านั้น
คิดถึงว่าเซียวเหวินอวี๋ต้องสมองเสื่อมกลายเป็นคนปัญญาก่อน นางเองก็ทำใจยอมรับไม่ได้ แต่กลับไม่คิดหยุดมือ นางรู้สึกว่าเซียวเหวินอวี๋กลายเป็นคนปัญญาก่อนก็ดี นางจะอยู่ข้างกายเขาตลอดไป ถึงตอนนั้นนางเป็นไทเฮาก็จะดีต่อเขา เมื่อก่อนดีกับเขาไม่พอ วันหน้านางจะดีต่อเขาให้มาก
หวังเมิ่งเหยากำยาพิษในมือแน่น ในใจแอบสาบานเช่นนี้
ซั่งกวนเฮ่อไม่สนใจอีกนาง หันหลังคิดจะไป
หวังเมิ่งเหยาเอ่ยเตือนเขาอย่างเป็นกังวล “เจ้าระวังหน่อย อย่าให้ผู้ใดพบเข้า ในวังมีองครักษ์ซุ่มอยู่ไม่น้อย”
ซั่งกวนเฮ่อแค่นหัวเราะ เรื่องพวกนี้ทำอันใดเขาได้หรือ ก่อนหน้านี้เขาเข้าวังมาขโมยแผนที่ในวังแคว้นต้าโจวไว้แล้ว มีแผนที่นี้และรู้ระบบลาดตระเวนในวัง เขาก็เข้าออกวังหลวงได้อย่างสบาย
แต่เขาเข้าวังมาได้ ก็ไม่กล้าไปลอบสังหารเซียวเหวินอวี๋ ป้องกันผู้อื่นล่วงรู้ร่องรอยของเขา
ซั่งกวนเฮ่อออกจากวังหลวง ลูกน้องก็นำคนเข้ามารายงานว่า “เจ้านาย สองสามีภรรยาตระกูลเซี่ยเดินทางจากเมืองหลวงไปเมืองหนิงโจวแล้ว”
ซั่งกวนเฮ่อพยักหน้า พาลูกน้องออกจากวัง แต่เดินไปๆ ก็ชะงักฝีเท้าครุ่นคิดขึ้นมา
ใต้เท้าเซี่ยผู้นั้นขึ้นสู่ตำแหน่งโส่วฝู่ได้ แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา หรือว่าเขาจะไม่พบว่านี่เป็นแผนการล่อเสือออกจากถ้ำของเขา หากเขาพบเข้าเล่า พวกเขาย่อมต้องแอบเดินทางกลับเมืองหลวง
หากพวกเขาสองสามีภรรยากลับเมืองหลวงมาได้ แผนการเขาก็จบสิ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจให้ทั้งสองคนกลับมาถึงเมืองหลวงได้
ซั่งกวนเฮ่อครุ่นคิดแล้ว ก็รีบจัดลูกน้องออกเป็นสองทางไปขัดขวางพวกเขาไว้ ไม่ว่าพวกเขากลับเมืองหลวงทางน้ำหรือทางบก จะต้องสังหารพวกเขาทิ้งให้หมด