ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1014 หวาดกลัว
ตอนที่ 1014 หวาดกลัว
ยามนี้ตำหนักที่เซียวเหวินอวี๋ประทับอยู่ เซียวเหวินอวี๋กำลังให้หมอหลวงฉีเหล่ยตรวจอาการให้ตนเองเพราะเขาพบว่าสองวันนี้ไม่ค่อยอยากอาหาร และสีหน้าก็ไม่ค่อยดี เหมือนจะมีอาการซีดอิดโรย เพราะตอนนี้ไม่รู้ร่องรอยซั่งกวนเฮ่อ เซียวเหวินอวี๋กังวลว่าเขาจะลงมือทำอันใดตนเอง จึงให้ฉีเหล่ยมาตรวจ
ฉีเหล่ยตรวจติดกันถึงสามรอบก็ตรวจไม่พบอาการผิดปกติอันใด แต่ในฐานะหมอ เขามองออกว่าสีพระพักตร์ฝ่าบาทไม่ค่อยปกติ คล้ายไม่มีสีแดงระเรื่อดังเดิม มีแต่ความซีดขาวอยู่เล็กน้อย รายละเอียดเหล่านี้หากไม่สังเกตให้ดีอาจไม่ทันรู้ตัว แต่สำหรับผู้มีสุขภาพดีเช่นฮ่องเต้แล้ว เรื่องนี้ผิดปกติอยู่บ้าง แต่เขาเองก็จนใจที่ตนเองก็ตรวจไม่พบอันใด
ฉีเหล่ยอดร้อนใจไม่ได้ “ฝ่าบาท รีบมีราชโองการให้คนไปตามฮูหยินโจวกั๋วกลับเมืองหลวงดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรู้สึกว่าพระองค์มีอันใดผิดปกติ แต่กระหม่อมตรวจไม่ออก”
เซียวเหวินอวี๋เป็นกังวลยิ่งกว่า สุดท้ายก็ส่งคนไปตามเรือเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว แต่เพราะเป็นห่วงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนจะสละเรือเดินทางบก ดังนั้นเขาส่งคนไปสองเส้นทาง
แม้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ก่อนหน้านี้บอกว่าไปทางน้ำ แต่ไม่แน่อาจบอกว่าไปทางน้ำ แต่แอบไปทางบก เพราะท่านพ่อกับท่านแม่รู้ดีว่าซั่งกวนเฮ่ออยู่ในที่ลับ ไม่อาจกลับเมืองหนิงโจวอย่างเอิกเกริกได้
เซียวเหวินอวี๋ค่อนข้างแน่ใจว่าพวกเขาไปทางบก
เพียงแต่เซียวเหวินอวี๋คิดถึงปัญหาหนึ่ง ซั่งกวนเฮ่อเองก็ย่อมคิดได้ ในฐานะที่เขาเคยเป็นฮ่องเต้ที่ขึ้นบัลลังก์มาในยุคกลียุค เขาเป็นคนฉลาด ดังนั้นเขาน่าจะคาดเดาได้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวอาจเดินทางด้วยเส้นทางทางบก รีบส่งคนแยกเป็นสองเส้นทางไล่ตามเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนพาซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนขี่ม้ากลับเมืองหลวง สามคนเดินทางย่อมเดินทางง่ายกว่า
ตามหลักแล้วน่าจะไม่มีคนจดจำได้ แต่ผู้ใดจะรู้ว่าพวกเขาเดินทางมาได้แค่สองวัน ก็ถูกกลุ่มชายชุดดำขวางทางไว้ สถานที่แห่งนี้เบื้องหน้าไร้หมู่บ้านเบื้องหลังไร้ร้านค้า กอปรกับฟ้าใกล้มืดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีรถม้าผ่านไปมาดังปกติ
คนชุดดำปรากฏตัวเข้าล้อมพวกเขาไว้รวดเร็ว หัวหน้าชายชุดดำตวาดดังขึ้นทันที “สังหารพวกเขา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง ตวาดเยียบเย็นว่า “พวกเจ้าเป็นใคร กล้าสังหารผู้อื่นกลางวันแสกๆ”
คนชุดดำแค่นยิ้มกล่าวว่า “ใต้เท้าเซี่ยอย่าเสแสร้ง พวกเราจดจำท่านได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นปลอมตัวเป็นชายวัยกลางคนท่าทางไร้เรี่ยวแรง ลู่เจียวปลอมเป็นฮูหยินวัยกลางคน แม้แต่ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนก็ปลอมตัวเป็นสาวน้อยธรรมดา ไม่ว่ามองมุมใดก็มองโฉมหน้าเดิมของพวกเขาไม่ออก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดไม่ตกว่าเหตุใดคนเหล่านี้จึงจดจำพวกเขาได้ “พวกเจ้าจดจำพวกเราได้อย่างไร”
คนชุดดำรีบกล่าวว่า “เร่งเดินทางทั้งวันคืน ขี่ม้าทะยานไม่หยุดพัก นอกจากใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋ว ข้าน้อยก็คิดไม่ออกว่าจะยังมีผู้ใดกล้าเดินทางบนเส้นทางไร้หมู่บ้านไร้ร้านค้าเร่งเดินทางเข้าเมืองหลวง และไม่แม้แต่จะพักค้างคืน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสบตากับลู่เจียวทีหนึ่ง ก็ได้แต่จนใจ คิดไม่ถึงว่าเพราะเรื่องนี้ทำให้เขารู้ ซั่งกวนเฮ่อไม่เสียทีที่เป็นฮ่องเต้ปราบจลาจลยุคกลียุค ร้ายกาจแท้จริง
คนชุดดำกล่าวจบก็ไม่คิดพูดจากับพวกเขาอีก โบกมือสั่งลูกน้องสังหารพวกเขาทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแค่นยิ้มกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าพวกเจ้าสังหารพวกเราได้หรือ”
เขากล่าวจบมองไปยังลู่เจียว ลู่เจียวได้บอกกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นไว้แล้วว่า จะวางยาสลบซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน นางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าไปในห้วงอากาศได้ ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเข้าไปไม่ได้ ดังนั้นนางได้แต่ต้องทำให้ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนสลบ โชคดีที่ก่อนหน้านี้นางได้บอกกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนแล้ว ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนก็มิได้คัดค้าน
ลู่เจียวเห็นซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนสลบก็รีบกระโดดไปบนหลังม้าซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนประคองนางไว้ จากนั้นก็บังคับม้าเข้าใกล้เซี่ยอวิ๋นจิ่น ดึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นไว้พร้อมกับท่องคำเข้าห้วงอากาศ
สามคนคล้ายว่าหายวับไปกับตา
นอกห้วงอากาศ คนชุดดำตกใจเอ่ยว่า “คนเล่า”
“เหตุใดจึงหายตัวไปได้เช่นนี้”
“นี่มันเรื่องอันใดกัน”
“หรือว่าพวกเขาเป็นวิชาพรางกายอันใด ดังนั้นจึงรู้วิธีการพรางกาย”
“แล้วทำอย่างไรต่อดี”
“รีบกลับเมืองหลวงไปรายงานเจ้านาย ให้เจ้านายรีบหาทางอื่น”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ยินเสียงคนชุดดำคุยกัน
ทั้งสองคนเป็นห่วงเซียวเหวินอวี๋อย่างมาก รอคนชุดดำไปกันแล้ว ทั้งสามคนจึงได้ออกมาจากห้วงอากาศ ลู่เจียวให้ยาแก้สลบกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน สามคนเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง
ในวัง หวังเมิ่งเหยารู้เรื่องนี้รวดเร็ว สีหน้าพลันไร้สีโลหิต ซีดขาวอย่างไม่อาจบรรยาย
นางเดินไปมาอยู่ในตำหนักบรรทมตนเองอย่างแตกตื่นลนลาน รู้สึกหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่นางไม่รู้ในตอนนี้อย่างมาก พร้อมกับนึกเสียใจภายหลัง เหตุใดต้องฟังคำรัชทายาทซีเหลียงผู้นั้นวางยาฝ่าบาทด้วย เมื่อก่อนเขาดีต่อนางมาก นางค่อยๆ รั้งใจเขากลับคืนมาก็ได้
“ตอนนี้ทำอย่างไรดี หากฮูหยินโจวกั๋วกลับเมืองหลวงมาต้องรู้อย่างแน่นอนว่าฝ่าบาทถูกยาพิษ”
หวังเมิ่งเหยากล่าวจบ ซั่งกวนเฮ่อก็เดินมาตรงหน้านาง กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตอนนี้ไม่มีหนทางอื่นแล้ว พวกเราต้องรีบจัดการให้จบ เจ้าให้คนไปแอบเชิญรัชทายาทมา ทายาไว้บนตัวรัชทายาทให้มากขึ้นอีก จากนั้นก็ให้รัชทายาทไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท ฝ่าบาทก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนในไม่ช้า พอเขาปัญญาอ่อน เจ้าก็ให้รัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่ง เช่นนี้แม้ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินโจวกั๋วกลับเมืองหลวงมาก็ไม่ทันการณ์แล้ว”
หวังเมิ่งเหยาได้ยินวาจานี้ก็รู้สึกแตกตื่นตกใจ ไม่รู้ว่าควรทำเยี่ยงไรดี
ซั่งกวนเฮ่อไม่พอใจ เอ่ยเตือนนางว่า “หากเจ้าไม่ทำให้เขากลายเป็นคนปัญญาอ่อน รอฮูหยินโจวกั๋ว กลับมาเมืองหลวง รัชทายาทกับเจ้าก็ได้แต่จบสิ้นไปพร้อมกันแล้ว เจ้าคิดถึงผลเช่นนั้นไหม เจ้ายินดีรับไว้หรือ แม้รัชทายาทไม่รู้ว่าบนร่างถูกเจ้าทายาพิษไว้ แต่เขาจะทำร้ายฝ่าบาทจนถึงแก่ชีวิตเป็นเรื่องจริง ขอเพียงฝ่าบาทสืบเรื่องนี้กระจ่าง รัชทายาทก็ย่อมถูกปลด ถึงตอนนั้นพวกเจ้าแม่ลูกก็ต้องถูกทอดทิ้ง”
หวังเมิ่งเหยาพอได้ฟังเขาก็เอ่ยอย่างตื่นกลัว “ไม่ ไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ บุตรชายข้าเป็นรัชทายาทถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของแคว้นต้าโจว เขาเป็นรัชทายาท เขาเป็นฮ่องเต้ในวันหน้า”
“เจ้าคิดว่ารอให้ฮูหยินโจวกั๋วกลับมา เขายังจะดำรงตำแหน่งรัชทายาทได้อีกหรือ”
หวังเมิ่งเหยาได้ฟังก็เริ่มวุ่นวายใจ ความจริงเดินมาถึงวันนี้ก็เพราะนางเดินทางผิด สมองเลอะเลือน ค่อยๆ สูญเสียสติสัมปชัญญะ เดินไปตามสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว
นางมองไปยังซั่งกวนเฮ่อ “ลงยามากอีกหน่อยจะไม่เป็นอันใดหรือ จะส่งผลต่อบุตรชายข้าหรือไม่”
ซั่งกวนเฮ่อมองด้วยสีหน้าเย็นเยียบนางกล่าวว่า “ไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ บุตรชายเจ้ากับคนข้างกายเขาได้กินยาถอนพิษไว้แล้ว จะไม่เกิดเรื่องอันใด”
ความจริงยาที่เขาให้หวังเมิ่งเหยาเป็นยาพิษ ยาพิษนี้หากเซียวเหวินอวี๋กินลงไป ขอเพียงไม่กี่คำก็จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ข้างกายเซียวเหวินอวี๋มีขันทีคอยทดสอบอาหาร ทุกคำที่กินล้วนต้องมีคนทดสอบยาพิษก่อน เขาคิดวางยาย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้เลือกวิธีการอ้อม
ซั่งกวนเฮ่อครุ่นคิดแล้วก็รำคาญใจไม่น้อย กล่าวว่า “ตอนนี้เราให้เจ้าเลือก หากเจ้าไม่ยอมวางยาเซียวเหวินอวี๋ เราก็จะไปทันที อย่างไรเซียวเหวินอวี๋ก็จับตัวเราไม่ได้”
————————————-