ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 1015 ทรยศหักหลัง
ตอนที่ 1015 ทรยศหักหลัง
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวจบก็คิดจากไป หวังเมิ่งเหยาเห็นเขาจะไปก็พลันลนลาน รีบเรียกเขาไว้ “ได้ ข้าทำตามเจ้าว่า”
ซั่งกวนเฮ่อได้ฟัง ก็หันกลับมาส่งยาใส่มือหวังเมิ่งเหยา “นี่คือยาพิษ นี่คือยาถอนพิษ ก่อนที่เจ้าจะทาไว้บนตัวรัชทายาท ให้เขากินยาถอนพิษก่อน คนข้างกายรัชทายาทก็ต้องกินยาถอนพิษด้วย คนที่อยู่ห่างหน่อยก็แล้วไปได้”
ทายาพิษนี้ไว้ที่ตัว คนที่อยู่ไกลจะไม่ได้รับผลกระทบ และยาจะสลายในอากาศได้เร็วมาก ซั่งกวนเฮ่อกำชับหวังเมิ่งเหยาถึงความสำคัญของเรื่องนี้อีกรอบ
สุดท้ายในที่สุดหวังเมิ่งเหยาก็ยอมรับความจริงได้ว่า ยามนี้ในใจนางกลัวมาก พร้อมกับนึกเสียใจภายหลังจนแทบอยากตายให้พ้นไป แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางไม่ทางกลับหลังหันได้อีกแล้ว ในเวลานี้นางถึงกับคิดถึงก่อนหน้านี้ที่ซั่งกวนเฮ่อกล่อมนาง ว่าได้วางยานางหรือไม่ ดังนั้นนางจึงได้สับสนเลอะเลือนเห็นด้วยกับการวางยาเซียวเหวินอวี๋
หวังเมิ่งเหยาถึงกับคิดถึงว่าการที่ตนเองเปลี่ยนไปเช่นนี้เพราะคนข้างกายเอาแต่บอกว่านางเป็นฮองเฮา อยู่เหนือคนนับหมื่นในแคว้นต้าโจว นางจึงนับว่าเป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดในใต้หล้า ฮูหยินโจวกั๋วเป็นเพียงแค่มารดาเลี้ยงของฝ่าบาท ก็เท่ากับแม่นม ในวังองค์ชายองค์หญิงล้วนมีแม่นม ท่านดู มีผู้ใดสนใจให้ความสำคัญกับแม่นมกันบ้าง
และยังมีคนบอกว่า ในฐานะฮองเฮาต้องวางท่าทางข่มบรรดาฮูหยินพวกนั้นให้ดี หาไม่เช่นนั้นก็จะทำให้บรรดาฮูหยินพวกนั้นดูแคลน สตรีสูงศักดิ์พวกนั้นมักจะแอบนินทาผู้อื่นลับหลัง ยังบอกว่านางควรพึ่งพารัชทายาทให้มากที่สุด ส่วนองค์หญิงพึ่งพาไม่ได้
หวังเมิ่งเหยายิ่งคิดก็ยิ่งตกใจ สุดท้ายนางพลันเงยหน้ามองไปยังผู้ชายตรงหน้า
ชายผู้นี้เป็นถึงรัชทายาทซีเหลียง เขามาหานางถึงที่ได้อย่างไร เขาเข้ามาในวังหลวงแคว้นต้าโจวได้ อย่างราบรื่น แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาวางเส้นสายไว้ในวังแคว้นต้าโจว
หวังเมิ่งเหยาสีหน้าซีดเผือด รู้สึกหลั่งเหงื่อเย็นท่วมไปทั้งตัว
“เจ้าจัดวางกำลังคนไว้ในวังแคว้นต้าโจวนานแล้ว ที่ข้ากับฝ่าบาทเดินมาถึงวันนี้ก็เพราะฝีมือเจ้า ใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่”
หวังเมิ่งเหยาแทบคลุ้มคลั่ง ลุกขึ้นเดินเข้าหาซั่งกวนเฮ่อ ในเวลานี้นางแทบจะฉีกชายผู้นี้เป็นชิ้นๆ ทำกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร ได้อย่างไร เดิมนางรักกันดีกับฝ่าบาท เพราะชายผู้นี้ทำลายหมดสิ้น
ตอนหวังเมิ่งเหยาพุ่งเข้าใส่ซั่งกวนเฮ่อ ซั่งกวนเฮ่อไม่ได้หลบ เขายื่นมือขึ้นยันหวังเมิ่งเหยาที่คลุ้มคลั่งเอาไว้พร้อมกับตวาดเยียบเย็นว่า “ตอนนี้เจ้าเพิ่งคิดได้หรือ น่าเสียดายสายไปแล้ว และการที่เราทำสำเร็จ ก็เพราะในใจเจ้าคิดไม่ซื่อเองด้วย หากเจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ทรงคุณธรรมจะถูกล่อลวงหรือ ผิดที่ตัวจ้าเอง เจ้าไม่หนักแน่นพอเอง”
หวังเมิ่งเหยาได้ยินก็ยังจะมีอันใดไม่เข้าใจ เป็นเพราะคนผู้นี้มีสายอยู่ในวังจริงๆ และคนผู้นี้ก็คือคนข้างกายนางเอง เป็นผู้ใดกัน
หวังเมิ่งเหยาครุ่นคิดทันที จากนั้นก็คิดถึงหลี่หมัวมัวและอวิ๋นซินนางข้าหลวงใหญ่ที่ปรนนิบัติข้างกายนาง อวิ๋นซินเป็นคนที่นางพามาจากตระกูลหวัง เป็นคนที่ภักดีต่อนางมาก นางทรยศนางแล้วหรือ
หวังเมิ่งเหยาราวกับไม่อาจควบคุมตนเองได้ ใกล้จะเสียสติแล้ว
“อวิ๋นซินหรือหลี่หมัวมัว”
หลี่หมัวมัวเป็นคนที่สำนักฝ่ายในในวังส่งมา แต่นางมักจะพูดจาจริงบ้างเท็จบ้างต่อหน้านาง
ดังนั้นหวังเมิ่งเหยาแยกไม่ออกว่าอวิ๋นซินทรยศหรือหลี่หมัวมัวทรยศนางกันแน่
หวังเมิ่งเหยาจ้องมองซั่งกวนเฮ่อเขม็ง ซั่งกวนเฮ่อก้มลงมองนาง เอ่ยอย่างไม่พอใจขึ้นว่า “ตอนนี้แม้เจ้ารู้ว่าผู้ใดทรยศ ก็แก้ไขผลลัพธ์ทั้งหมดตอนนี้ไม่ได้แล้ว”
หวังเมิ่งเหยาดึงดันไม่เลิกรา “ไม่ว่าอย่างไรข้าก็อยากรู้ว่าผู้ใดทำร้ายข้า หากเจ้าไม่บอก ข้าก็จะไม่ลงมือกับฝ่าบาทอีก”
ในใจซั่งกวนเฮ่อโกรธแค้นเซียวเหวินอวี๋มาก เจ้าหมอนั่นทำลายแผนงานของเขาพังหมดสิ้น ยังพาตัวซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไปอีก
แม้ว่าซั่งกวนเฮ่อตอนนี้ไม่ได้คิดกับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเหมือนเมื่อก่อน แต่ในใจก็ยังไม่อาจยอมรับได้ ดังนั้นเขาคิดจะทำให้เซียวเหวินอวี๋ตาย ได้ยินหวังเมิ่งเหยาถาม เขาก็ไม่คิดปิดบังต่อ รีบตอบว่า “เป็นนางกำนัลคนดีของเจ้า”
หวังเมิ่งเหยาพลันเข่าอ่อนยวบ หากไม่ใช่ซั่งกวนเฮ่อประคองนางไว้ นางก็คงล้มพับลงกับพื้นไปแล้ว นางไม่เคยคิดว่าอวิ๋นซินที่โตมากับนางถึงกับทรยศนาง เหตุใด เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้
หวังเมิ่งเหยาเงยหน้ามองซั่งกวนเฮ่อ “เจ้ารับปากให้อันใดกับนาง”
ซั่งกวนเฮ่อยิ้ม “ข้าให้ตั๋วแลกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงกับนาง นางส่งให้คนที่บ้านนาง คนที่บ้านนางนำเงินจากไปนานแล้ว พวกเขากลับไปบ้านเกิด อาศัยตั๋วแลกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงนี้ก็จะได้เป็นเจ้าของที่ดิน ส่วนนางผู้นั้น เรารับปากว่าวันหน้าเมื่อเราขึ้นครองราชย์ก็จะให้ตำแหน่งพระสนมแก่นาง”
ซั่งกวนเฮ่อเล่าถึงสุดท้าย ก็แค่นหัวเราะขึ้นมา “อย่างไรก็ต้องกล่าวว่าตระกูลหวังเจ้าไม่เหมาะกับการดำรงตำแหน่งในวังหลังจริงๆ ไม่ว่าเป็นมารดาเจ้า หรือว่าเป็นเจ้า ล้วนโง่เง่า”
ตระกูลหวังฮูหยินรู้ว่าบุตรสาวตระกูลอวิ๋นมาเป็นนางกำนัลในวัง ยังถึงกับเมตตาอารียอมให้บิดามารดานางกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด
จากจุดนี้แสดงให้เห็นว่าตระกูลหวังอ่อนต่อโลกมาก ฮูหยินหวังไม่ฉลาดเหมือนสตรีในตระกูลสูงศักดิ์ หรือว่านางไม่คิดบ้างว่า หากไม่กุมชะตาชีวิตคนในครอบครัวอวิ๋นซินไว้ อวิ๋นซินทรยศจะทำเช่นไร
จะว่าไป หวังเมิ่งเหยาก็ไร้ความสามารถเป็นฮองเฮา ไม่ใช่ผู้ใดก็จะเป็นฮองเฮาได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีความสามารถเพียงพอจะเป็นฮองเฮา
ฮองเฮาไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับฮ่องเต้ ยังต้องเผชิญหน้ากับบรรดาฮูหยิน และข้างกายยังอาจมีคนวางอุบายต่างๆ นานา ตำแหน่งนี้ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าฮ่องเต้ แต่บุตรสาวที่ตระกูลหวังซึ่งเป็นตระกูลไร้รากฐานอบรมมาจะมีความสามารถดำรงตำแหน่งนี้มั่นคงได้อย่างไร
ซั่งกวนเฮ่อคิดไปก็แค่นเยาะไป เอ่ยว่า “เอาละ เจ้าจะวางยาเซียวเหวินอวี๋หรือไม่ หากไม่คิดลงมือ เราจะไปแล้ว”
เขาไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับหญิงผู้นี้ต่อไปอีกแล้ว หญิงผู้นี้โง่เง่า เขาไม่อยากตายด้วยน้ำมือนาง
หวังเมิ่งเหยาโมโหจนยกมือขึ้นทุบตีซั่งกวนเฮ่อ “เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้า เหตุใดต้องทำร้ายข้า”
ซั่งกวนเฮ่อสะบัดนางทิ้งก่อนหันหลังก้าวเดินออกไป หวังเมิ่งเหยาเห็นเขาจะไปก็ตกใจลนลานส่งเสียงตะโกนดัง “หยุดนะ”
ซั่งกวนเฮ่อชะงัก หวังเมิ่งเหยาเอ่ยด้วยสีหน้าซีดขาวไร้สีโลหิตว่า “ข้ารับปากเจ้า จะวางยาฝ่าบาท แต่ข้าต้องการยาจากเจ้าอีกหน่อย ข้าต้องการสังหารนังชั้นต่ำอวิ๋นซินนั่นด้วย”
ซั่งกวนเฮ่อตกลง เขาไม่ได้เสียดายอวิ๋นซินแม้สักนิด หญิงผู้นั้นตายก็ตายไปเถอะ
ซั่งกวนเฮ่อหยิบยาพิษออกมาอีกชุด กล่าวย้ำเน้นหนักว่า “ยาพิษนี้ปรุงยาก เรามีแค่นี้ หากเจ้าทำภารกิจไม่สำเร็จ วันหน้าเราก็ไม่มียาพิษให้เจ้าอีกแล้ว เจ้ากับบุตรชายก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
ซั่งกวนเฮ่อไม่ได้เอ่ยวาจาเท็จอันใด ยาพิษนี้เขาไม่มีแล้วจริงๆ ยาพิษไม่ได้ปรุงง่ายดังที่คิด จำเป็นต้องเป็นหมอที่มีวิชาการแพทย์ลึกซึ้ง จึงจะปรุงออกมาได้ เขาเองก็เสียเงินทองไปมากมาย จึงได้มาจากหมอหลวงซีเหลียง
ซั่งกวนเฮ่อกล่าวจบก็เดินไป หวังเมิ่งเหยาถือยาเดินไปมา แต่สุดท้ายก็เรียกคนด้านนอกเข้ามา หลี่หมัวมัวกับนางข้าหลวงอวิ๋นซินสองคนก้าวเข้ามา