ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 701 ครรภ์แฝด
ตอนที่ 701 ครรภ์แฝด
ปู้เจิ้งสื่อให้คนตรวจสอบสมุดบัญชีเมืองหนิงโจวทั้งคืน เดิมเขาคิดให้คนไปสืบค้นหาความจริง ไม่คิดว่าพวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่ต่างพากันมาสารภาพความผิดของตนเอง สารภาพทุกเรื่องออกมาด้วยตนเอง ยามนี้แม้หลินจือฝู่จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้
ใต้เท้าฟางมองไปยังหลินจือฝู่ ตวาดถามว่า “หลินกั๋วเหลียง เจ้าสำนึกผิดไหม”
หลินจือฝู่เงยหน้ามองไปยังใต้เท้าฟางคิดจะแก้ตัวสักสองสามคำ ไม่คิดว่าพอหันหน้าไปเห็นพวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่ พอเห็นเขายังขยับหนีไปอีกทางด้วยสัญชาตญาณคล้ายว่าเขาเป็นตัวเชื้อโรคอันใด
หลินจือฝู่มองพวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่แล้วก็มึนงงไปทันที หากไม่เหนือความคาดหมาย พวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่ชี้มาที่เขาแล้ว
ในใจหลินจือฝู่คับแค้นใจอย่างมาก ถลึงตาใส่พวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่อย่างดุดัน
น่าเสียดายพวกเขาไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เมื่อก่อนกลัวเขาเพราะเขาเป็นจือฝู่เมืองหนิงโจว ตอนนี้เขาใกล้กลายเป็นนักโทษแล้ว พวกเขามีอันใดต้องกลัว
หลายคนไม่สนใจเขา หันไปมองใต้เท้าฟางเอ่ยขอร้องว่า “ใต้เท้า พวกเราจะทำความดีชดใช้ความผิด ขอใต้เท้าโปรดลงโทษสถานเบาด้วย”
ใต้เท้าฟางไม่ได้สนใจพวกข่งทุยกวานและกู้จิงหลี่ หันไปมองหลินจือฝู่ “ตอนนี้เจ้ามีอันใดจะกล่าวอีกไหม”
ใต้เท้าหลินพูดไม่ออก เรื่องมาถึงขั้นนี้ เขายังจะกล่าวอันใดได้ ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว
ใต้เท้าหลินครุ่นคิดแล้วก็เงยหน้าจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขาแค้นใจที่ตอนนั้นไม่คิดหาวิธีสังหารคนผู้นี้ หากสังหารทิ้งไปได้ เขาก็คงไม่ตกในสภาพเช่นตอนนี้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมเห็นสายตาโกรธแค้นของใต้เท้าหลิน แต่เขาไม่สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
ใต้เท้าฟางมองใต้เท้าหลินด้วยสีหน้าเข้มงวด กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “หลินกั๋วเหลียง เจ้าบังอาจมาก มาเมืองหนิงโจวไม่ถึงปี ถึงกับโกงกินพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือไปเกือบแสนตำลึง ความคิดละโมบของเจ้าช่างมากมายนัก ตอนนี้เงินที่โกงกินไปอยู่ที่ใด รีบส่งมอบออกมา”
ใต้เท้าหลินจะเอาเงินที่ไหนมามอบออกมา เงินที่เขาได้มาก็แทบไม่ได้เก็บไว้ ส่งคนแอบนำไปเมืองหลวงหมดแล้ว
เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อช่วยอ๋องจิ้นขึ้นครองราชย์ หากอ๋องจิ้นได้ขึ้น เขาก็ย่อมมีความดีความชอบ เรื่องนี้เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ไม่มีคนหนุนหลังเช่นเขา
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะพังไม่เป็นท่า
ใต้เท้าหลินหน้าซีดไม่กล่าวอันใด ใต้เท้าฟางเห็นเขาไม่ให้ความร่วมมือ ก็ตวาดดุดันให้ทหารเข้าไปกวาดล้างจวนตระกูลหลิน ต้องหาเบาะแสเงินก้อนนี้จากจวนตระกูลหลินได้อย่างแน่นอน
ส่วนใต้เท้าหลิน ให้คุมตัวไปเข้าคุกเมืองหนิงโจว พวกข่งทุยกวานกับกู้จิงลี่ก็ถูกจับไปเข้าคุกเช่นกัน
พริบตาที่ว่าการเมืองหนิงโจวก็ว่างเปล่า ตำแหน่งว่างลงครึ่งหนึ่ง คนที่เหลือล้วนเป็นขุนนางตำแหน่งล่างๆ ไม่มีอำนาจใดๆ และคนที่ปกติไม่ได้รับความนิยมชมชอบจากใต้เท้าหลิน ดังนั้นจึงรอดพ้นภัยนี้ไปได้
ในจำนวนผู้ที่ถูกจับมีมือปราบซย่ารวมอยู่ด้วย เพราะให้ความช่วยเหลือในการก่อกรรมทำเข็ญ จึงถูกจับไปขังคุก เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบขอให้จ้าวเหิงขึ้นเป็นมือปราบเมืองหนิงโจว ให้เขาไปสอบสวนว่ามือปราบเมืองหนิงโจวทั่วไปมีกี่คนที่รังแกชาวบ้าน หากมีก็ให้จับเข้าคุกให้หมด ส่วนตำแหน่งมือปราบก็รีบหาคนมาเติม
แม้ว่ามือปราบรายได้ต่ำ แต่เพราะได้ตำแหน่งขุนนางทางการ พ่อค้าไม่น้อยแทบอยากจะให้บุตรหลานเป็นมือปราบ เช่นนี้ก็นับว่าได้ตำแหน่งขุนนางทางการ ครอบครัวตนจะได้โดนคนรังแกน้อยหน่อย
จ้าวเหิงรับคำสั่งไปจัดการเรื่องนี้ พวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับหูทงพั่นไปตรวจสอบรายละเอียดของพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือเป็นเพื่อนใต้เท้าปู้เจิ้งสื่อ
ชาวบ้านเมืองหนิงโจวได้รู้ข่าวนี้กันอย่างรวดเร็ว ใต้เท้าปู้เจิ้งสื่อนำคนมาตรวจเรื่องโกงกินเรื่องชากับบ่อเกลือของหลินจือฝู่ ตอนนี้พวกหลินจือฝู่ถูกจับอยู่ในคุกแล้ว
พริบตาเดียว ทุกคนในเมืองหนิงโจวต่างออกมาชื่นชม แต่ละคนวิ่งไปบอกต่อกัน ทั่วท้องถนนต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้
คนตระกูลเซี่ยเองก็กำลังคุยเรื่องนี้ ทุกวันตอนเช้าจะมีคนมาส่งผักที่ตระกูลเซี่ย ชาวสวนที่มาส่งผักคุยกับคนครัว ข่าวนี้ก็แพร่กระจายออกไปทันที คนในจวนทุกคนต่างได้รู้ว่าหลินจือฝู่เมืองหนิงโจวถูกจับเข้าคุก
เฝิงจือเอ่ยอย่างดีใจ “วันหน้าใต้เท้าก็ไม่มีอันตรายใดแล้ว ฮูหยินวางใจได้แล้ว”
ลู่เจียวอมยิ้มพยักหน้า ไม่เพียงแต่ไม่มีอันตรายใด วันหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำงานในเมืองหนิงโจวก็จะสะดวกมากขึ้นอีกด้วย หากไม่เหนือความคาดหมาย จือฝู่ที่เบื้องบนจะส่งมาย่อมต้องไม่ยุ่งเรื่องผู้อื่น เขาก็จะได้ทำงานได้สะดวก
ลู่เจียวอารมณ์ดีเป็นพิเศษ บรรดาสาวใช้ทั้งเฝิงจือ หร่วนจู๋และติงเซียง ต่างก็ยิ้มอย่างเบิกบานใจ ซานฉาที่ไม่ค่อยชอบพูดพลันเหมือนคิดถึงบางอย่างขึ้นมา มองลู่เจียวกล่าวว่า “ฮูหยิน เหตุใดบ่าวรู้สึกว่าท้องฮูหยินใหญ่อยู่สักหน่อย”
พอซานฉาเอ่ย เฝิงจือ หร่วนจู๋ ติงเซียงต่างหันมองไปยังท้องลู่เจียว
ระยะนี้ลู่เจียวไม่ค่อยได้ให้ความสนใจครรภ์สักเท่าไร พอได้ยินซานฉาพูด ก็รีบก้มหน้าลงมอง ปรากฏพบว่าท้องตนเองคล้ายว่าใหญ่กว่าท้องหญิงตั้งครรภ์สี่เดือนทั่วไปอยู่ไม่น้อย
ลู่เจียวสะอึกในใจ คงไม่เกิดเหตุอันใดกระมัง
นางรีบจับชีพจรตนเอง แต่จับไปจับมา สีหน้าก็ยินดีปรีดา แววตาเปล่งประกายความอ่อนโยน
เฝิงจือเห็นสีหน้าลู่เจียว เห็นชัดว่าเป็นเรื่องน่ายินดี หรือว่าเหนียงจื่อตั้งครรภ์แฝด นี่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะครรภ์ก่อนหน้านี้ก็แฝดสี่ ตอนนี้ตั้งครรภ์แฝดอีกก็เป็นเรื่องปกติ
“ฮูหยิน ท่านคงไม่ได้มีครรภ์แฝดกระมัง”
หร่วนจู๋ส่งเสียงตกใจระคนดีใจ “ฮูหยิน จริงหรือ”
ลู่เจียวยิ้มมองสาวใช้ข้างกาย พยักหน้าอย่างดีใจ “ใช่ ข้าตั้งครรภ์แฝด”
เฝิงจือส่งเสียงร้องอย่างดีใจ “นี่เป็นเรื่องมงคลใหญ่ยิ่ง ฮูหยินรีบตกรางวัลพวกเราเร็ว”
ลู่เจียวดีใจอย่างมาก ตั้งครรภ์ทีเดียวสองคน ย่อมต้องคุ้มค่าแก่การดีใจ
“ตกรางวัลให้คนทั้งจวน ทุกคนได้เงินเดือนสองเท่า”
หร่วนจู่ได้ฟังก็ดีใจอย่างที่สุด หันหน้าวิ่งออกไป “ข้าต้องไปบอกเรื่องนี้กับทุกคน”
ปรากฏเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป คนทั้งจวนตระกูลเซี่ยต่างรู้ว่าฮูหยินตั้งครรภ์แฝดและยังตกรางวัลให้ทุกคนเป็นเงินเดือนสองเท่า ทำเอาทั้งจวนเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข
ตกค่ำเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมา เห็นแววตาที่ทุกคนมองเขาล้วนมีแต่ความยินดี คล้ายว่าในจวนมีเรื่องน่ายินดีบางอย่าง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นถามพ่อบ้านเซียว พ่อบ้านเซียวยังทำท่าพิลึกไม่ยอมเอ่ย ให้เขาไปถามฮูหยินเอง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมีสีหน้าแปลกใจ เดินไปถึงเรือนด้านหลัง สีหน้าลู่เจียวก็เปี่ยมด้วยความยินดี แววตาอ่อนโยนอย่างไม่อาจบรรยาย แม้แต่รอยยิ้มมุมปากก็หวานสดใสยิ่งกว่าฤดูวสันต์
“นี่เกิดเรื่องอันใดกัน เหตุใดข้ารู้สึกว่าทุกคนต่างดีใจกันเป็นพิเศษ มีเรื่องมงคลอันใดกันหรือ”
ลู่เจียวกวักมือบอกให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดินมาหานาง พอเขาเดินมาถึงหน้านาง นางก็ยิ้มตาหยีกล่าวว่า “วันนี้ซานฉาว่าท้องข้าใหญ่กว่าหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป ข้าจึงตรวจให้ตัวข้าเอง ปรากฏพบว่าข้าตั้งครรภ์แฝด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเริ่มแรกยังไม่ทันได้คิด เอ่ยตามว่า “ครรภ์แฝด?”
แต่ก็ตั้งสติได้ทันที มองท้องลู่เจียวอย่างตกใจ “เจ้าว่า เจ้าตั้งครรภ์แฝดสองหรือ”