ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 702 มากไปแล้วนะ
ตอนที่ 702 มากไปแล้วนะ
ลู่เจียวพยักหน้า “ใช่แล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตื่นเต้นได้สติหันไปกอดลู่เจียวหมุนเป็นวงกลมรอบห้อง
“เจียวเจียว คิดไม่ถึงว่าเจ้าถึงกับตั้งครรภ์แฝดสอง เป็นเรื่องดีจริงๆ”
ลู่เจียวยื่นมือไปโอบลำคอเขา ห้ามเขาเหวี่ยงนาง “รีบวางข้าลง ในท้องมีลูกอยู่นะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบวางนางลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เขาก็นั่งลงข้างกายนาง ยื่นมือไปลูบท้องนาง
ลู่เจียวจงใจเย้าแหย่เขา “ก่อนหน้านี้เจ้าเอาแต่คิดอยากได้บุตรสาว ตอนนี้ในท้องนี่มีเด็กสองคน ไม่แน่อาจเป็นบุตรสาวคนหนึ่ง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังวาจานี้ก็ยิ่งดีใจ แต่เขาเอ่ยว่า “หากสองคนล้วนเป็นบุตรสาวก็ดี ถึงตอนนั้นคนหนึ่งเหมือนเจ้า อีกคนเหมือนข้า ดีเหลือเกิน”
ลู่เจียวค้อนขวับอย่างไร้วาจาจะกล่าว ก่อนหน้านี้คิดแต่ต้องการบุตรสาว ตอนนี้ถึงกับคิดต้องการบุตรสาวสองคน เกินไปแล้วนะ
ไม่ว่าอย่างไร เพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นดีใจมาก วันต่อมาก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
อย่าว่าแต่เขา แม้แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ปิดเรียนกลับมาได้ยินว่าในครรภ์มารดาเป็นฝาแฝดก็ดีใจอย่างมาก
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ล้อมลู่เจียว มองท้องนางพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างนึกแปลกใจว่า “ท่านแม่ ในท้องท่านแม่มีน้องสาวสองคนหรือ”
“โอ้ เดิมข้าคิดว่ามีน้องสาวคนเดียว คิดไม่ถึงว่าถึงกับมีน้องสาวสองคน เช่นนี้พวกเราก็แบ่งกันมาดูแลพวกนางได้แล้ว วันหน้าก็ไม่ต้องแย่งกันแล้ว”
“พวกเจ้าว่าน้องสาวสองคนจะหน้าตาเหมือนผู้ใด”
ต้าเป่ายิ้มตาหยีกล่าวว่า “ก็ต้องเหมือนข้า ข้าเหมือนท่านพ่อ น้องสาวสองคนย่อมเหมือนท่านพ่อ เช่นนั้นก็เหมือนข้า”
เอ้อร์เป่าไม่ยอม กล่าวว่า “เหมือนข้า ข้าเหมือนท่านแม่ น้องสาวคลอดมาก็ย่อมต้องเหมือนท่านแม่ ดังนั้นก็เหมือนข้าสิ”
ซื่อเป่าไม่พอใจ ขมวดคิ้วสีหน้าไม่เบิกบานใจ
ลู่เจียวเห็นก็ยื่นมือไปดึงเขามา “เป็นอันใดหรือ”
“ท่านแม่ น้องสาวคลอดออกมาจะเหมือนต้าเป่ากับเอ้อร์เป่า ไม่เหมือนข้ากระมัง”
ลู่เจียวลูบศีรษะเขาอย่างนึกขำ กล่าวว่า “เจ้าอย่าไปฟังพวกเขาพูดจาเหลวไหล ไม่แน่ว่าน้องสาวคลอดมาอาจจะเหมือนเจ้า เหมือนท่านพ่อกับท่านแม่แค่นิดหน่อย ไม่เหมือนท่านพ่อกับท่านแม่ทั้งหมด ในโลกนี้ไม่ใช่ทุกคนจะหน้าตาเหมือนท่านพ่อท่านแม่ตน บางคนอาจเหมือนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ ซื่อเป่าก็ดีใจยิ้มตาหยีมองพี่ๆ อีกสามคน กล่าวว่า “ไม่แน่ว่าน้องสาวเหมือนข้า ไม่เหมือนพวกเจ้า”
ลู่เจียวเห็นพวกเขาท่าทางดีอกดีใจ ก็ตัดใจขัดจินตนาการของพวกเขาไม่ได้ หากนางคลอดบุตรชายสองคน พวกเขาก็มีน้องชายเพิ่มอีกสองคน
แต่เห็นลูกๆ ดีใจ ลู่เจียวก็ไม่พูดอันใดอีก
ที่ว่าการเมืองหนิงโจว ใต้เท้าปู้เจิ้งสื่อนำคนตรวจสอบคดียักยอกเงินค่าใบชาของหลินจือฝู่ด้วยตนเอง ปรากฏตรวจพบว่าหลินจือฝู่ไม่เพียงแต่ยักยอกโกงกินเงินค่าใบชา แต่ยังยักยอกโกงกินเงินค่าเกลือมหาศาล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหนิงโจวมีพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ ตามหลักการแล้วราษฎรในพื้นที่ควรร่ำรวยถึงจะถูกต้อง ปรากฏไม่ว่าพื้นที่ปลูกชาหรือบ่อเกลือ ราษฎรล้วนยากจนอย่างมาก
ไม่เพียงแต่หลินจือฝู่ แม้แต่จือฝู่คนก่อน ก็ทำผิดเพราะพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ
พื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือก็คือเนื้อก้อนโต หลายคนย่อมไม่อาจระงับจิตใจที่คิดจะครอบครองได้
ใต้เท้าฟางปู้เจิ้งสื่อตรวจพบว่าหลินจือฝู่โกงกินชาและเกลือแล้ว ก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับหูทงพั่นกล่าวว่า “วันหน้าพวกเจ้าสองคนก็ต้องระวังตนเอง อย่าได้คิดแตะต้องของพวกนี้ อย่าได้ทำลายชีวิตตนทั้งชีวิตเพราะของนอกกายพวกนี้”
ในฐานะปู้เจิ้งสื่อขุนนางระดับสอง ความจริงในใจรู้ดีว่าเงินที่หลินจือฝู่โกงกินไปย่อมต้องส่งให้คนบงการเบื้องหลัง ความจริงเขาเองไม่ได้อันใดด้วย ก่อนหน้านี้เขาให้คนไปตรวจค้นเงินทองและทรัพย์สินตระกูลหลิน ได้มาไม่ถึงแสนตำลึง มีเพียงแค่ไม่กี่หมื่นตำลึง แต่เงินที่เขาโกงกินไปเป็นล้านตำลึงกลับหาไม่พบ
แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่ปู้เจิ้งสื่อต้องสอบสวน ปู้เจิ้งสื่อจะนำตัวพวกหลินจือฝู่ไปเมืองหลวงสอบสวนด้วยตนเอง วันหน้าคดีนี้ก็จะมอบให้กรมอาญาไปจัดการ
จากคดีนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองออกว่าใต้เท้าฟางปู้เจิ้งสื่อเป็นขุนนางดี ดังนั้นไม่คิดให้เขาต้องเสี่ยงภัย เขาจึงเอ่ยเตือนใต้เท้าปู้เจิ้งสื่อ
“ใต้เท้า ใต้เท้าหลินโกงกินเงินก้อนโตมหาศาล หาไม่พบ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเบื้องหลังเขามีผู้มีอิทธิพล ตอนนี้ใต้เท้าฟางคุมตัวใต้เท้าหลินไปเมืองหลวงรับการสอบสวน คนบงการก็จะร้อนใจทนไม่ไหวส่งคนมาสังหารใต้เท้าหลิน ใต้เท้าฟางควรระมัดระวังหน่อยเป็นดี ดีที่สุดใต้เท้าก็จัดวางเส้นทางเข้าเมืองหลวงให้ดี ไม่เพียงแต่ต้องคุมตัวใต้เท้าหลินเข้าเมืองหลวงให้ได้ ยังต้องรักษาชีวิตตนเองเอาไว้ให้ได้อีกด้วย”
ใต้เท้าฟางได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พยักหน้า “อืม ข้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง”
เขากล่าวจบก็คุมตัวพวกใต้เท้าหลินออกจากเมืองหนิงโจวไป
ตลอดเส้นทางมีชาวเมืองหนิงโจวพากันมาแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่ละคนปรบมือตะโกนชม และยัง สมน้ำหน้าพวกโกงกิน
ในนี้มีคนอดไม่ไหว ตะโกนและขว้างปาสิ่งของใส่รถคุมขังใต้เท้าหลิน ใต้เท้าข่ง ใต้เท้ากู้และคนอื่นๆ
มิผิด พวกใต้เท้าข่งกับใต้เท้ากู้เองก็ถูกคุมตัวเข้าเมืองหลวงรับการไต่สวน พวกเขาออกมาชี้ตัวใต้เท้าหลิน แต่ก็ต้องส่งไปตัดสินโทษที่กรมอาญา
พริบตาที่ว่าการเมืองหนิงโจวก็มีขุนนางหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ใต้เท้าจือฝู่ถูกคุมตัวเข้าเมืองหลวง ขุนนางที่ใหญ่ที่สุดในที่ทำการก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับหูทงพั่น ทั้งสองคนหารือกันแล้วก็แบ่งงานกันทำ ขุนนางเล็กๆ ก็ต่างให้ความร่วมมืออย่างดี
พวกเขานับว่าได้รู้ความร้ายกาจของใต้เท้าถงจือผู้นี้แล้ว ลงมือทีก็ล้มหลินจือฝู่ลงได้ พวกเขาเป็นแค่ขุนนางเล็กๆ อย่าได้หาเรื่องใต้เท้าถงจือดีกว่า
เพราะคนเหล่านี้เคารพและหวาดเกรงเซี่ยอวิ๋นจิ่น ทำให้ทุกคนในที่ทำการอยู่กันอย่างสงบ แม้ว่าขุนนางหายไปครึ่งหนึ่ง แต่งานในที่ทำการไม่ได้หยุดเดิน กลับกันยังจัดการได้ดีอย่างมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจัดการแบ่งงานในที่ทำการเกินครึ่งให้ใต้เท้าหู ส่วนเขาจะตั้งใจไปปลูกข้าวเจ้า และมีเวลาเป็นเพื่อนลู่เจียวมากอีกหน่อย เจียวเจียวตั้งครรภ์แฝด เขาจะมีบุตรสาวสองคนแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงเรื่องนี้ก็เบิกบานใจ ตกค่ำก็กลับบ้านแต่หัววันไปอยู่เป็นเพื่อนลู่เจียว
ตอนนี้ลู่เจียวราวกับนักโทษตระกูลเซี่ย ไม่ว่าใต้เท้าหรือว่าลูกๆ ล้วนจับจ้องเพียงนาง ขอเพียงนางว่าหิวน้ำ แต่ละคนก็จะแย่งกันรินน้ำให้นาง หากนางบอกว่าเบื่อ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็แย่งกันเล่าเรื่องตลกให้นางฟัง
ทุกวันเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับถึงบ้าน เรื่องแรกที่ทำก็คือถามถึงลูกในครรภ์อย่างห่วงใยว่าเชื่อฟังดีหรือไม่ รบกวนนางหรือไม่ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นบิดาเช่นนี้ ก็มิได้อิจฉา พ่อลูกมีหัวข้อสนทนาร่วมกันขึ้นมา พอมีเวลาก็จะหารือกันว่าน้องสาวหน้าตาเหมือนผู้ใด น้องสาวต้องน่ารักเป็นแน่ พวกเขาควรตั้งชื่อให้น้องสาว
สุดท้ายพ่อลูกตั้งชื่อออกมากองโต เอาไปวางตรงหน้าลู่เจียวให้นางเลือก
ต้าเป่าชี้ไปที่ชื่อสองสามชื่อในนั้นทันที “ท่านแม่ นี่คือชื่อที่ข้าตั้งให้น้องสาว”
แต่ไรมาต้าเป่าชอบเรียนหนังสือ ดังนั้นชื่อที่เขาตั้งจึงดูมีระดับและไพเราะ
เอ้อร์เป่าไม่ยอม ชี้ไปอีกสองสามชื่อ บอกลู่เจียวว่า “ท่านแม่ ชื่อพวกนี้ข้าตั้งเอง ท่านดูสิ หากเรียกน้องสาวเราเช่นนี้ พอได้ฟังก็จะรู้ว่านางเป็นน้องสาวตระกูลเราใช่หรือไม่ เซี่ยอู่เม่ย เซี่ยลิ่วเม่ย ไพเราะขนาดไหน”