ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 703 ชาและเกลือ
ตอนที่ 703 ชาและเกลือ
ลู่เจียวมองพวกเขาด้วยสีหน้าแทบอยากจะร้องไห้ กล่าวว่า “ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นน้องสาวหรือไม่ อย่าเพิ่งวุ่นวายกับการตั้งชื่อตอนนี้เลย”
ใบหน้าเล็กของซานเป่ามองลู่เจียวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านแม่ เตรียมชื่อไว้แต่เนิ่นๆ หากน้องสาวคลอดออกมาจะได้มีชื่อใช้พอดี ไม่ต้องวุ่นวาย พวกเราตั้งชื่อไว้ก่อนก็ไม่เห็นเป็นไร”
ซื่อเป่าพยักหน้าเต็มแรง “ใช่แล้ว ท่านแม่นี่คือชื่อที่ข้าตั้งให้น้องสาว ท่านแม่ฟังดูหน่อย หลิงหลง หลิงเยว่ เพราะมากใช่หรือไม่”
ลู่เจียวจนปัญญากับพวกลูกๆ ขณะกำลังอ่านชื่อที่พวกลูกๆ ตั้งกันมาอย่างละเอียด นอกประตูเฝิงจือก็เดินเข้ามารายงานว่า “ใต้เท้า ฮูหยิน พ่อบ้านเซียวส่งคนมารายงานว่าชาวบ้านปลูกชาเขาหวาอวิ๋นมาขอพบใต้เท้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสบตากัน ลู่เจียวเอ่ยถามว่า “พวกชาวบ้านปลูกชาต้องการพบเจ้าทำไมกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “น่าจะมาขอบคุณข้าที่ทำให้ใต้เท้าปู้เจิ้งสื่อตรวจสอบพบว่าหลินจือฝู่เอาเปรียบเงินค่าชาของชาวบ้านจำนวนมาก จึงได้มอบเงินชดเชยให้พวกเขาครอบครัวละสามสิบตำลึง พวกเขาคงดีใจมาก”
ลู่เจียวพยักหน้า พลันคิดถึงเรื่องชา ตอนนี้ใบชาแคว้นต้าโจวไม่ได้มีกรรมวิธหยุดกระบวนการทางเคมีของใบชา ตอนนี้กระบวนการผลิตใบชานั้นง่ายมาก เด็ดใบชากลับบ้านมาใช้เครื่องมือทำให้ร้อน จากนั้นตากแดดธรรมชาติ เมื่อแห้งก็นำมาชงดื่ม รสชาติชาลดทอนลงไปมาก
ลู่เจียวครุ่นคิดมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อวิ๋นจิ่น กระบวนการผลิตใบชาตอนนี้ง่ายเกินไป ดังนั้นรสชาติชาที่ชงออกมาจึงไม่ค่อยดีนัก พวกเราสอนกรรมวิธีหยุดกระบวนการไล่ความชื้นของใบชาให้ชาวบ้านได้ ใบชาที่ทำออกมาจะมีกลิ่นหอมเข้มข้น เพิ่มรสชาติเดิมขึ้นได้อย่างน้อยก็สองสามระดับ”
พอลู่เจียวกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้ว่าสมัยลู่เจียว กรรมวิธีผลิตใบชาดีกว่าตอนนี้มาก เขารีบมองไปยังลู่เจียว ถามขึ้นว่า “เจ้ามีหนังสือพวกนี้ไหม”
ลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “น่าจะมี แม้ไม่มี ข้าก็พอจำได้บ้าง ถึงตอนนั้นค่อยเล่าให้เจ้าฟัง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็พยักหน้าอย่างดีใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นไปเตรียมตัวให้ชาวบ้านปลูกชาเข้าพบ “พวกเจ้าแม่ลูกนั่งเล่นกันอยู่ตรงนี้ ข้าจะรีบกลับมา”
ลู่เจียวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่พยักหน้า ขณะที่รอบิดาไป พวกเขาก็จะได้มาไล่ต้อนลู่เจียวให้นางเห็นด้วยกับชื่อที่พวกเขาตั้ง
ลู่เจียวคิดแล้วก็กล่าวว่า “เอาเช่นนี้ ในท้องแม่มีน้องสองคนไม่ใช่หรือ น้องต้องมีชื่อจริงสองชื่อ ชื่อเล่นสองชื่อ พวกเจ้าสี่คนพอดี แต่ละคนก็ตั้งชื่อให้น้องหนึ่งชื่อ ส่วนตั้งชื่อจริงหรือชื่อเล่น พวกเราจับฉลากตัดสิน พวกเจ้าว่าดีหรือไม่”
วิธีนี้ของลู่เจียวยุติธรรมที่สุด เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นด้วย แต่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ตั้งสติได้ทันที “เช่นนั้น ท่านพ่อก็ไม่ได้ตั้งชื่อหรือ”
ลู่เจียวยิ้มตาหยีกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ชื่อของพวกเจ้าสี่คนท่านพ่อเป็นคนตั้ง ดังนั้นครั้งนี้ให้พวกเจ้าตั้ง”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจอย่างมาก ต่างเห็นด้วยกับการตัดสินใจของลู่เจียว สุดท้ายลู่เจียวให้คนทำกระดาษชิ้นเล็กๆ มาให้พวกเขาสี่คนจับ
สุดท้ายเอ้อร์เป่ากับซานเป่าจับได้ชื่อเล่น ต้าเป่ากับซื่อเป่าจับได้ชื่อจริง
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่คิดตั้งชื่อน้องสาวอย่างคร่ำเคร่งขึ้นมาทันที มักรู้สึกว่าชื่อที่ตนตั้งก่อนหน้านี้ไม่ถูกใจนัก
ลู่เจียวเห็นพวกเขาเช่นนี้ก็กล่าวอย่างนึกขำว่า “พวกเจ้าก็ไม่ต้องร้อนใจไป ค่อยๆ คิด น้องสาวยังไม่คลอดตอนนี้”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จึงไม่ร้อนใจแล้ว
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมารู้ว่าเขาไม่มีส่วนในการตั้งชื่อลูกทั้งสอง ก็หน้าบึ้งทันที
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หนีหายไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรท่านแม่ก็ตกลงแล้ว และไม่มีทางเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน
ในห้อง เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียว กล่าวอย่างไม่ยอมว่า “ลูกข้า เหตุใดให้เจ้าเด็กหน้าเหม็นสี่คนนั่นตั้ง”
ลู่เจียวมองเขาอย่างนึกขำ “เช่นนั้นเจ้าว่าทำเยี่ยงไรดี ไม่ให้พวกเขาตั้ง พวกเขาก็ไม่พอใจ โชคดีมีสองคน สี่คนแบ่งกันตั้งชื่อจริงสอง ชื่อเล่นสอง ก็ไม่เกิดเรื่องให้ต้องหมองใจกัน เจ้าก็คงไม่อยากให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่เบิกบานใจกระมัง”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้แล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พูดไม่ออก แต่อารมณ์ยังคงไม่ดีนัก
ลู่เจียวรีบถามเขาเรื่องชาวบ้านปลูกชา “เป็นอย่างไรบ้าง พวกเขามาขอบคุณเจ้าหรือ”
“ใช่ ยังมอบของให้อีกกองโต”
ลู่เจียวกล่าวอย่างไม่เห็นด้วยทันที “พวกเขาลำบากพอแล้ว เจ้าอย่าได้รับของพวกเขาไว้”
“ล้วนเป็นพวกพืชผักผลไม้ ข้าไม่รับ แต่พวกเขาวางของแล้วก็หนีไป เอาเถอะ ไว้ข้าสอนกรรมวิธีผัดใบชาให้พวกเขา เช่นนี้วันหน้าใบชาพวกเขาก็จะขายได้ราคาสูงขึ้นแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ลู่เจียวก็คิดถึงบ่อเกลือขึ้นมา ตอนนี้เกลือในแคว้นต้าโจวเป็นเกลือหยาบสีเหลืองเม็ดใหญ่ หากทำให้เป็นเกลือที่มีไอโอดีนและขาวราวหิมะ ก็คงทำให้ทั้งแคว้นต้าโจวต้องตื่นตะลึง ลู่เจียวคิดถึงเรื่องนี้ แววตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
“อวิ๋นจิ่น เจ้าเคยเห็นเกลือขาวละเอียดราวหิมะหรือไม่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นคนใต้ ย่อมไม่เคยเห็นหิมะ แต่ครั้งก่อนเข้าไปสอบเมืองหลวง เมืองหลวงหิมะกำลังตกพอดี ตอนนั้นเขาเห็นหิมะก็พลันตกตะลึงไปทันที
ตอนนี้ได้ยินลู่เจียวถามถึงเกลือขาวราวหิมะ เซี่ยอวิ๋นจิ่นแค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว เขาหันไปมองลู่เจียวอย่างตื่นเต้น “เจ้าบอกว่าผลิตเกลือที่ทั้งขาวและละเอียดราวหิมะได้จริงหรือ”
“ใช่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ก็ตื่นเต้นมาก เดินไปมาในห้องไม่หยุด สุดท้ายจึงค่อยๆ สงบลง
“แม้พวกเรามีกรรมวิธีผลิตเกลือ แต่พวกเราไม่อาจนำวิธีนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย บางสิ่งมากเกินไปย่อมนำภัยสู่ความตกต่ำ สถานะพวกเราต่ำต้อยเช่นนี้ หากทำเรื่องเกินหน้าเกินตามากเกินไป ย่อมทำให้ฝ่าบาทเกิดความระแวง ไม่แน่อาจนำภัยมาถึงตัวได้ ดังนั้นกรรมวิธีผลิตเกลือนี้มอบให้อ๋องเยียนไปดีกว่า ให้อ๋องเยียนนำทูลเกล้าฯ ถวาย เช่นนี้ชื่อเสียงบารมีอ๋องเยียนก็จะยิ่งเกรียงไกร สุดท้ายเขาก็จะได้รับเลือกเป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจวอย่างแน่นอน”
ลู่เจียวพยักหน้าเห็นด้วย แต่นางหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “แม้ว่าพวกเราตั้งใจผลักดันอ๋องเยียนขึ้นสู่บัลลังก์ แต่วันหน้าอ๋องเยียนได้เป็นฮ่องเต้แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ระแวงพวกเรา ดังนั้นต่อหน้าอ๋องเยียน พวกเราก็อย่าได้ออกหน้าออกตาเกินไปจะดีกว่า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบพยักหน้า “เจ้าวางใจ วันหน้าข้าจะสงบเสงี่ยม แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่ข้าต้องสร้างผลงานต่อหน้าอ๋องเยียน ดังนั้นตอนนี้พวกเรายังปลอดภัยอยู่”
ลู่เจียวพยักหน้าไม่ได้กล่าวอันใดอีก นางเชื่อว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นวางแผนการของตนเองแล้ว
ก่อนนอน ลู่เจียวแอบเข้าไปในห้วงอากาศค้นหาอยู่เป็นนาน ได้หนังสือเกี่ยวกับใบชาออกมาเล่มหนึ่ง ความจริงก็ไม่ได้เขียนเรื่องกรรมวิธีผลิตใบชา แต่ในหนังสือเอ่ยถึงเรื่องหลาย แต่เพียงเท่านี้ก็พอนำมาใช้ได้แล้ว
นอกจากนี้ยังหากรรมวิธีผลิตเกลือมาได้เล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนี้เขียนเรื่องการผลิตเกลือแบบต่างๆ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นหนังสือสองเล่มนี้ก็ชอบใจจนไม่ยอมวาง ลู่เจียวเห็นเขาเช่นนี้ ก็เดาได้ว่าคืนนี้ก็คงไม่นอนอีกแล้ว แต่ก็ไม่กล่าวอันใด เขาดื่มน้ำพุจิตวิญญาณของนางไปมากมาย ไม่นอนคืนสองคืนย่อมไม่เป็นอันใด
ลู่เจียวเข้านอนอย่างเบิกบานใจ