ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 720 ร้านเสริมความงาม
ตอนที่ 720 ร้านเสริมความงาม
แม้ว่าผิงอันไม่มีความทรงจำตอนเด็กมากนัก แต่พอเห็นต้าเป่าก็นึกชอบทันที ภาพกระท่อนกระแท่น ในห้วงความทรงจำที่มี ก็คือคล้ายว่าพี่ต้าเป่าชอบเขามาก
“พี่ต้าเป่า”
หูหลิงเสวี่ยลุกขึ้นย่อตัวทักทายต้าเป่าอย่างเขินอาย “ต้าเป่า ซานเป่า ซื่อเป่า พวกเจ้ามาเมืองหลวงแล้วหรือ”
“ใช่แล้ว เจ้าอยู่เมืองหลวงเป็นอย่างไรบ้าง คุ้นชินหรือยัง”
ต้าเป่าถามอย่างห่วงใย หูหลิงเสวี่ยพยายามข่มความเขินอายพยักหน้าเล็กน้อย “ดีมาก”
เพราะพวกนางมีเซียงจวินอันเล่อ มีองค์หญิงใหญ่หนุนหลัง ดังนั้นแม้บิดาชาติกำเนิดไม่ดี แต่คนในเมืองหลวงก็ไม่ทำให้พวกนางลำบากใจนัก ทว่าหากมีใครแอบกล่าวอันใดลับหลัง นางก็ไม่ทราบเช่นกัน สรุปหูหลิงเสวี่ยไม่ชอบแวดวงสตรีสูงศักดิ์เมืองหลวง
แต่นางไม่บอกเรื่องเหล่านี้กับต้าเป่า
ในห้องโถง ลู่เจียวเห็นทุกคนยืนคุยกัน ก็เอ่ยขึ้นว่า “เซี่ยเหวินเหยา พวกเจ้าพาหลิงเสวี่ยไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้”
ลู่เจียวไม่ได้รู้สึกว่ามีอันใดไม่เหมาะ คนทั้งกลุ่มไปเดินเล่นในสวนก็ไม่เห็นเป็นอันใด พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน
เซี่ยเหวินเหยารับคำ พาหูหลิงเสวี่ยไปเดินเล่นในสวน เหตุเพราะพวกเขาเติบโตมาด้วยกัน เพิ่งจะพบหน้ากันก็ย่อมมีเรื่องคุยกัน ไม่เลวจริงๆ
เด็กๆ ตระกูลเซี่ยกับตระกูลหูพากันออกไป แม้แต่สองแฝดก็ตามหลังพวกเขาไป
ในห้องโถง ลู่เจียวมองเนี่ยอวี้เหยากล่าวว่า “พริบตาเด็กๆ ก็โตกันแล้ว พวกเราเองก็แก่แล้ว”
เนี่ยอวี้เหยามองลู่เจียว ถอนหายใจกล่าวว่า “เจียวเจียว พวกเราแก่แล้ว แต่เจ้ายังสาวอยู่ จริงๆ นะ เจ้ากับหลิงเสวี่ยบุตรสาวข้ายืนด้วยกัน คนอื่นต้องบอกว่าพวกเจ้าเป็นพี่น้องกัน”
เนี่ยอวี้เหยาไม่ได้พูดจาเหลวไหล เพราะลู่เจียวดื่มน้ำพุจิตวิญญาณ ผิวพรรณจึงดีมาก ไม่เหมือนคนใกล้สามสิบจริงๆ
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “แม้ใบหน้าอ่อนละมุน แต่ก็ไม่อาจปิดบังว่าอายุข้าใกล้สามสิบแล้ว”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ เนี่ยอวี้เหยาที่นั่งอยู่ก็พลันลุกขึ้นเดินมานั่งข้างลู่เจียว
“เจียวเจียว พี่อยากคุยกับเจ้าเรื่องหนึ่ง”
ลู่เจียวเห็นสีหน้าเป็นการเป็นงานของเนี่ยอวี้เหยา ก็คิดว่านางมีเรื่องสำคัญอันใด รีบมองนางอย่างตั้งใจทันที “พี่อวี้เหยามีอันใดหรือ”
เนี่ยอวี้เหยามองนางกล่าวว่า “เจียวเจียว เจ้ารู้สึกว่าบุตรสาวข้าหลิงเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้าง”
ลู่เจียวพยักหน้า “หลิงเสวี่ยดีมาก”
เนี่ยอวี้เหยารีบกล่าวว่า “หากให้นางเป็นสะใภ้เจ้า เจ้าว่าได้หรือไม่”
“หา?”
ลู่เจียวหันไปมองเนี่ยอวี้เหยาอย่างตกใจ เห็นสีหน้าจริงจังของนาง ไม่ได้มีท่าทางล้อเล่นแม้สักนิด
ในที่สุดลู่เจียวก็รู้แล้วว่าที่เนี่ยอวี้เหยาร้อนใจส่งเทียบเยือนมา ก็เพราะกลัวลูกเขยที่นางหมายปองไว้ถูกคนอื่นจับจองไป ดังนั้นจึงรีบมาจองไว้ก่อน
ความจริงลู่เจียวไม่ค่อยอยากให้บุตรชายหมั้นหมายในตอนนี้ พวกเขาอายุแค่สิบสาม จะเข้าใจอันใด
แต่เนี่ยอวี้เหยาเอ่ยปากแล้ว หากนางปฏิเสธ ก็จะแสดงให้เห็นว่าไม่ให้เกียรติ และลู่เจียวคิดแล้วก็เห็นว่านิสัยหูหลิงเสวี่ยเป็นสะใภ้ตระกูลเซี่ยก็ไม่เลว แต่เรื่องของลูกๆ ต้องให้ลูกๆ ชอบเองจึงจะได้
ลู่เจียวมองเนี่ยอวี้เหยากล่าวอย่างจริงจังว่า “พี่อวี้เหยา ตามหลักข้าควรรับปากพี่ถึงจะถูก”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ ในใจเนี่ยอวี้เหยาก็เย็นวาบ เจียวเจียวไม่เห็นด้วยหรือ คิดแล้วก็จริง ครอบครัวพวกนางคิดต้องการสิ่งใดไม่มี อย่างไรตระกูลเซี่ย วันหน้าจะต้องก้าวขึ้นไปอีก
ในใจเนี่ยอวี้เหยารู้สึกเศร้า แต่ลู่เจียวไม่เห็นด้วย นางก็ไม่ฝืนใจและไม่ตำหนินาง ไม่อาจเพราะคนเขาช่วยนางไว้ สุดท้ายเพราะการแต่งงานไม่ได้ดังหวังก็จะหมางเมินต่อกัน
เนี่ยอวี้เหยากำลังคิดเอ่ย ลู่เจียวก็เอ่ยก่อนว่า “ก่อนหน้านี้ข้ารับปากลูกๆ ไว้ว่าวันหน้าพวกเขาจะแต่งภรรยา ต้องเป็นคนที่พวกเขาชอบจึงจะได้ ดังนั้นข้าช่วยพี่ถามลูก ๆ ได้ หากในบรรดาพวกเขามีผู้ใดชอบหลิงเสวี่ย อยากแต่งกับนาง พวกเราก็จะหมั้นหมายให้พวกเขา หากพวกเขาไม่เห็นด้วย เช่นนั้นพี่ก็อย่าได้ตำหนิข้า พี่อวี้เหยาเองก็ถามหลิงเสวี่ยสักหน่อย นี่เป็นเรื่องเกี่ยวพันทั้งชีวิตของนาง อย่างไรก็ต้องชอบกันจึงจะได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตนี้คงทุกข์ทรมานมาก”
เนี่ยอวี้เหยาได้ยินคำพูดลู่เจียวก็ดีใจมาก หากแฝดสี่ไม่ชอบบุตรสาวนาง นางก็ทำอันใดไม่ได้ ทว่าอย่างไรก็ได้พยายามลองดูแล้ว
“ได้ เช่นนั้นก็รบกวนเจียวเจียวแล้ว ส่วนหลิงเสวี่ย เย็นนี้กลับไป ข้าจะถามนางดู”
ความจริงนางรู้แล้วว่า บุตรสาวชอบต้าเป่า แต่ยังไม่รู้ความคิดทางตระกูลเซี่ย อย่างไรก็อย่าเพิ่งเอ่ยดีกว่า
“ได้ เช่นนั้นก็ตกลงกันเช่นนี้”
ทั้งสองคนตกลงกันเสร็จ ก็ไม่คุยเรื่องนี้อีก แต่หันไปคุยเรื่องการค้าผักแทน
เถียนฮวนรับผิดชอบดูแลการค้าผักเมืองหลวง ปกติเนี่ยอวี้เหยามาช่วยบ้าง ดังนั้นนางอยากให้ลู่เจียวเข้าเมืองหลวงมาตลอด พวกนางจะได้ร่วมกันทำกิจการอื่นบ้าง
“เจียวเจียว โรงปลูกผักเมืองหลวงเป็นรูปเป็นร่างแล้ว มีเถียนฮวนดูแล ไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลเพิ่มเติม พวกเรามาร่วมกันทำอย่างอื่นอีกสักหน่อยดีไหม”
ลู่เจียวยิ้มมองเนี่ยอวี้เหยา “ได้สิ ความจริงก่อนข้าเข้าเมืองหลวงก็คิดถึงเรื่องนี้ พอเข้าเมืองหลวงมาแล้ว พวกเราจะเปิดร้านเสริมความงามก็ดี ประการแรก พวกเราจะได้มาเที่ยวเล่นกันบ่อยๆ ประการที่สอง สตรีเมืองหลวงเงินทองมาก พอดีได้หาเงินกับบรรดาสตรีสูงศักดิ์บ้าง”
เนี่ยอวี้เหยาได้ยินว่าร้านเสริมความงาม ก็มีสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจ ดังนั้นลู่เจียวจึงลุกขึ้นหมุนตัว “เจ้าว่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง พวกผู้หญิงคิดอยากเป็นเช่นนี้หรือไม่”
เนี่ยอวี้เหยาได้ฟังก็พลันตื่นเต้น พยักหน้าเอ่ยว่า “ย่อมคิด ไม่พูดถึงผู้อื่น ข้าเองก็อยากเป็นแบบเจียวเจียว”
“ร้านเสริมความงามก็คือสถานที่ที่ทำให้สตรีงามขึ้น ถึงตอนนั้นผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างข้าผลิต นำเข้ามาขายในร้าน สตรีใช้แล้วงดงาม เจ้าว่าเงินก้อนนี้หาง่ายหรือไม่”
“ตกลง จัดการตามนี้”
เนี่ยอวี้เหยาเอ่ยอย่างตื่นเต้น
ลู่เจียวเอ่ยขึ้นว่า “ร้านเสริมความงามนี้ ข้ารับหน้าที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ ส่วนพี่ก็รับหน้าที่ดูแลหน้าร้าน เถียนฮวนรับหน้าที่สอนคนงาน และข้าก็อยากจะดึงเป่าจูมาร่วมด้วย ให้นางดูแลบัญชี”
พวกนางล้วนมาจากเมืองหนิงโจว ไม่อาจทอดทิ้งเป่าจูไว้คนเดียว ดังนั้นครั้งนี้นำขบวนพวกนางทำงานด้วยกัน ทุกคนก็จะได้เที่ยวเล่นด้วยกัน เป็นเรื่องดีอย่างมาก
ความจริงครั้งนี้ลู่เจียวเข้าเมืองหลวงยังมีความปรารถนาอีกอย่าง ก็คือตั้งสำนักยาหลวง ในแคว้นต้าโจวไม่มีสำนักยาหลวง ผลิตยาใช้ไม่สะดวก ยาหลายอย่างต้องผ่านคนจากสำนักหมอหลวงทดลองใช้ ครึ่งปีก็ยังไม่อนุมัติลงมา ยุ่งยากมากจริงๆ หากมีสำนักยาหลวงก็ทำให้ยาออกสู่ท้องตลาดได้เร็วขึ้น อีกอย่างยังอบรมหมอของสำนักยาหลวงเอง จัดตั้งสำนักยาหลวงประจำแต่ละพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระบาดและโรคภัยต่างๆ
แต่ลู่เจียวไม่ได้บอกเรื่องเหล่านี้กับเนี่ยอวี้เหยา เพราะยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่
เนี่ยอวี้เหยาได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็เห็นด้วย ประการแรก จู้เป่าจูกับพวกนางมาจากเมืองหนิงโจวเหมือนกัน ประการที่สอง ตอนนี้จู้เป่าจูเป็นฮูหยินใต้เท้ารองเจ้ากรมตรวจการ พวกนางสนิทกัน ส่งผลดีต่อสามีนาง
ตอนนี้หูซ่านท่านพี่ของเนี่ยอวี้เหยาได้ผ่านการสอบของสำนักศึกษาฮั่นหลินแล้ว เลื่อนเป็นขุนนางสำนักฮั่นหลินระดับห้าแล้ว
แม้ว่าระดับห้าไม่ใช่ตำแหน่งขุนนางใหญ่ แต่ก็เป็นขุนนางแท้จริง และหากทำอันใดบกพร่องย่อมถูกกรมตรวจสอบยื่นฎีกาฟ้องร้องได้ ดังนั้นกับสนิทกับคนของรองเจ้ากรมเหวินย่อมดีอย่างมาก
“ได้ จัดการตามนี้ พรุ่งนี้ข้าจะไปเชิญฮวนฮวนกับเป่าจูมาหารือเรื่องนี้ที่ตระกูลเซี่ย หารือเสร็จก็จะได้รีบลงมือดำเนินการเรื่องนี้”
“อืม ได้”