ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 721 ชาติกำเนิด
ตอนที่ 721 ชาติกำเนิด
เนี่ยอวี้เหยาแม่ลูกอยู่ตระกูลเซี่ยเป็นนานจึงได้กลับไป
พอพวกนางแม่ลูกไป ลู่เจียวก็ให้ติงเซียงไปตามเด็กหนุ่มทั้งสามมา ส่วนสองแฝดน้อยให้พาไปกินขนม
ลู่เจียวยิ้มตาหยีมองบุตรชายทั้งสาม
หน้าตาดีจริง ประเด็นก็คือสง่าราศีดีอีกด้วย
ทั้งสามคนถูกมารดาตนมองจนหน้าแดง “ท่านแม่ ท่านเป็นอันใดหรือ”
ลู่เจียวนั่งตัวตรงกระแอมไอ เอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึมขึ้นว่า “พวกเจ้ารู้สึกว่าพี่หูเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
พอลู่เจียวเอ่ย ทั้งสามคนก็เข้าใจ
ตลอดเวลาที่พวกเขาเติบโตขึ้น มีคนไม่น้อยพากันมาสอบถามเรื่องหมั้นหมายของพวกเขา
ลู่เจียวไม่รอให้บุตรชายเอ่ย ก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “ความจริงเดิมแม่คิดว่ารออีกสองสามปี รอให้พวกเจ้าโตอีกหน่อยค่อยคุยเรื่องนี้ แต่วันนี้น้าเนี่ยเจ้ามาสอบถามเรื่องนี้ แม่ไม่ได้รับปากนาง ขอมาถามพวกเจ้าก่อน พวกเจ้าอยากแต่งกับพี่หูหรือไม่ หากชอบนางและอยากแต่ง แม่ก็จะหมั้นหมายให้พวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่ชอบไม่อยากแต่ง พวกเราก็ไม่แต่ง”
ลู่เจียวกล่าวจบมองไปยังบุตรชายทั้งสาม ซานเป่ากับซื่อเป่าก้าวออกมาร้อนใจเอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ข้าเห็นพี่หูเป็นดังพี่สาว แต่ไรมาไม่เคยคิดแต่งกับนาง”
“ข้าเองก็ไม่เคยคิดแต่งกับพี่หู นางเป็นพี่สาวข้า”
ลู่เจียวพยักหน้ารับรู้ จากนั้นก็มองไปยังต้าเป่า ต้าเป่าลังเลครู่หนึ่ง เห็นลู่เจียวมองเขา เขาก็ลังเล็กน้อย กล่าวว่า “ท่านแม่ แต่ไรมาข้าไม่เคยคิดเรื่องนี้”
เขาไม่ได้ปฏิเสธ ลู่เจียวค่อยๆ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เจ้าค่อยๆ คิด ไม่ต้องรีบ อย่างไรก็เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเจ้า หากยังคิดไม่เข้าใจ พวกเราก็ปฏิเสธไปก่อน”
“อืม”
“เอาละ พวกเจ้าสามคนออกไปได้แล้ว”
เดิมลู่เจียวตัดสินใจรอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมาค่อยบอกเรื่องนี้กับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ผู้ใดจะรู้ว่าตกค่ำเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังไม่ทันกลับมา ก็ให้คนนำสารกลับมาบอกลู่เจียวว่า รัชทายาทเชิญเขาไปกินข้าว
ลู่เจียวได้ยินถงอี้นำสารกลับมาบอกด้วยวาจา ก็พลันคิดถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตนเองหารือกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น หากเข้าเมืองหลวง จะบอกชาติกำเนิดซื่อเป่ากับรัชทายาท
วันนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นคงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับรัชทายาทไปแล้วกระมัง เช่นนั้นซื่อเป่าบุตรชายของนางก็จะไม่เป็นของนางแล้ว
ลู่เจียวอารมณ์ไม่ดีนัก อาหารเย็นก็กินได้น้อย
ยามนี้ ณ หอว่านซ่านโหลวในเมืองหลวง รัชทายาทเซียวอวี้กำลังต้อนรับเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เดิมคิดให้เจ้ามาอยู่กรมปกครอง ปรากฏถูกอ๋องจิ้นเล่นอุบายส่งไปดำรงตำแหน่งจิงจ้าวฝูอิ่น ตำแหน่งนี้เป็นไม่ง่าย ทำอันใดก็ต้องระวังให้มาก แต่หากเป็นได้ดี สร้างผลงานได้ วันหน้าก็จะยิ่งเติบโตเร็ว”
เซียวอวี้กล่าวจบ ก็สำทับอีกประโยคว่า “อย่าได้เป็นห่วง มีข้าอยู่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้ายกจอกสุราคำนับเซียวอวี้ “ขอบพระทัยองค์รัชทายาท”
เซียวอวี้ไม่ได้ปฏิเสธ ดื่มกับเขาจอกหนึ่ง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดถึงชาติกำเนิดซื่อเป่าแล้วก็ลังเลอยู่นาน อยากพูดแต่ก็ไม่อยากพูด ในใจก็ลังเลอย่างมาก หากพูดไปแล้วก็ย่อมอยากเรียกกลับคืน หากไม่พูด ก็ไม่เป็นธรรมต่อซื่อเป่า หากวันหน้าเขารู้ว่าตนเองปิดบังชาติกำเนิดเขา จะตำหนิกันหรือไม่
เซียวอวี้เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นท่าทางลำบากใจ ก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “มีเรื่องอันใดหรือ พูดมาเถอะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินเซียวอวี้ ก็กัดฟันลุกขึ้นยืนขออภัยก่อน “กระหม่อมขออภัยโทษต่อองค์รัชทายาทก่อน ขอให้องค์รัชทายาทอย่าได้ตำหนิที่กระหม่อมปิดบังความจริง”
เซียวอวี้หรี่ตามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เห็นท่าทางจริงจังของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็รู้ว่าเขามีเรื่องอันใดปิดบังเขาอยู่
“ว่ามา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบกล่าวว่า “กระหม่อมขอรายงานต่อองค์รัชทายาทเรื่องหนึ่ง เซี่ยเหวินอวีบุตรชายสี่ของกระหม่อมไม่ใช่บุตรชายกระหม่อม แต่เป็นบุตรชายรัชทายาท”
เซียวอวี้ได้ฟังก็นิ่งไปนาน ยังตั้งสติไม่ได้ วาจานี้ความหมายเยี่ยงไร
แต่เขาคิดถึงเฉินอิงขึ้นมาทันที
ความหมายของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือซื่อเป่าไม่ใช่บุตรชายเขา แต่เป็นบุตรชายเฉินอิง บุตรชายเฉินอิงก็คือบุตรชายเขา
เซียวอวี้รู้สึกเพียงแค่ในใจอัดแน่น ตอนนั้นที่ไปจากเฉินอิง เขาลืมความทรงจำตอนนั้นไปจริงๆ ต่อมาได้พบกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงได้นึกความทรงจำช่วงนั้นขึ้นมาได้ การตายของเฉินอิงทำให้เขาเสียใจมาก เพียงแต่เขาไม่เคยคิดว่าเฉินอิงจะมีบุตรชายให้เขาคนหนึ่ง
เซียวอวี้แววตาเลื่อนลอย เงยหน้าจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้าแน่ใจหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ในปีนั้นศิษย์พี่คลอดบุตรยากและจากไป ก่อนนางจากไป ให้กระหม่อมช่วยนาง อย่าได้บอกเรื่องนี้กับตระกูลเฉิน ไม่เช่นนั้นบิดามารดานางจะเสียหน้า นางไม่อยากให้บุตรชายตนเองถูกคนหัวเราะเยาะ ความตั้งใจเดิมของนางก็คือคิดให้กระหม่อมหาครอบครัวให้ซื่อเป่า”
“แต่พอดีฮูหยินกระหม่อมตอนนั้นตั้งครรภ์ คลอดทีเดียวสามคน กระหม่อมจึงได้แอบพาซื่อเป่ามารวมไว้ด้วย แสร้งทำเป็นว่าฮูหยินกระหม่อมคลอดสี่คน”
เซียวอวี้ได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็คิดถึงว่าเฉินอิงถึงกับคลอดยากและจากไป คิดถึงเรื่องที่นางเคยช่วยตนเองไว้ ในใจเซียวอวี้ก็ปวดปลาบ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เอ่ยว่า “ข้าไปตระกูลเซี่ยดูเขาหน่อย”
ไม่ได้เอ่ยเรื่องอื่นใดอีก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็ไม่ได้กล่าวมากความอันใด ลุกขึ้นตามหลังเซียวอวี้ขึ้นรถม้า
ยามนี้ค่ำแล้ว ท้องถนนผู้คนไปมาครึกครื้นอย่างมาก แต่เซียวอวี้ไม่ได้สนใจ ตอนนี้ในสมองเขามีเพียงเรื่องเดียว เฉินอิงมีบุตรชายให้เขาคนหนึ่ง
เด็กคนนั้น เขาพอจำได้ว่าหน้าตาดีมาก ใช่แล้ว คล้ายว่าเขามีดวงตาละม้ายคล้ายกับเฉินอิงมาก มีครั้งหนึ่งที่เขาไปตระกูลเซี่ย เขาเคยได้เห็น
เพียงแต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจ
เซียวอวี้ครุ่นคิดแล้วก็พลันคิดถึงว่า ยามนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเปิดเผยชาติกำเนิดซื่อเป่าต้องการอันใด เพราะเขาได้เป็นรัชทายาทหรือ เขาจึงคิดให้ซื่อเป่ากลับมาหรือ
เซียวอวี้หรี่ตาลง หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแค่มองก็รู้ว่าเซียวอวี้สงสัยเจตนาเขา
แต่เขาเองก็ไม่อาจโทษเซียวอวี้ สถานะรัชทายาทแห่งตำหนักตงกง ทุกคนข้างกายล้วนมีความคิดในใจต่อเขา ดังนั้นเขาสงสัยเขาก็เป็นเรื่องปกติ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็เอ่ยขึ้นเหมือนไม่สนใจนักว่า “ที่ข้าน้อยบอกชาติกำเนิดซื่อเป่าในตอนนี้ก็เพราะซื่อเป่าชอบทำการค้า เขาเคยมีความตั้งใจจะเป็นคหบดีร่ำรวยอันดับหนึ่งในแคว้นต้าโจว อย่าเห็นว่าตอนนี้เขาอายุเพียงแค่สิบสาม แต่เขาได้เปิดร้านค้ามีชื่อเสียงไปทั่วแคว้นต้าโจวแล้ว ทรงรู้จักร้านเครื่องแต่งกายหนีฉางในเมืองหลวงหรือไม่ ร้านนั้นก็คือร้านของซื่อเป่า”
“กล่าวตามตรง กระหม่อมไม่อยากให้ซื่อเป่ากลับมาอยู่ตำหนักตงกง แต่กระหม่อมก็ไม่อาจเห็นแก่ตัว ได้แต่กัดฟันบอกชาติกำเนิดซื่อเป่ากับองค์รัชทายาท ความคิดของกระหม่อมก็คือหากไม่ทรงคิดรับเขากลับไป กระหม่อมก็จะวางแผนให้เขาได้ทำตามสิ่งที่เขาชอบ ปล่อยให้เขาเดินไปยังเส้นทางอนาคตที่เขาต้องการ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ เซียวอวี้ก็พลันเข้าใจทันที เขามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ถามว่า “เขารู้ชาติกำเนิดตนเองหรือไม่”
“ไม่รู้ ซื่อเป่าเป็นลูกที่รักมารดาอย่างที่สุด หากเขารู้ชาติกำเนิด เขาจะต้องเสียใจอย่างมาก”
“ฮูหยินเซี่ยดีกับเขามากหรือ”
“ในบรรดาลูกๆ คนที่นางรักที่สุดก็คือเขา แต่เมื่อก่อนเพราะฮูหยินข้าน้อยไม่ค่อยดีต่อลูกๆ มักตีพวกเขา ต่อมานางรู้สึกถึงความรักของลูกๆ ในที่สุดก็เปลี่ยนแปลงตนเอง ทุ่มเทให้ความรักลูกๆ ทุกคน”