ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 724 ตัดสินใจแล้ว
ตอนที่ 724 ตัดสินใจแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นโล่งอก ลู่เจียวคิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “ข้ามีอีกเรื่องอยากบอกกับเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งลงข้างกายลู่เจียว ถามว่า “เรื่องอันใด”
“วันนี้พี่อวี้เหยามาเยี่ยมข้า บอกกับข้าว่า นางอยากให้หลิงเสวี่ยแต่งเข้าตระกูลเรา”
พอลู่เจียวกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ขมวดคิ้ว แม้ว่าเขากับตระกูลหูมีสายสัมพันธ์ไม่เลว แต่ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับบุตรสาวหูซ่าน หูซ่านหัวไม่ดี หากบุตรสาวเหมือนเขาก็คงได้แต่ปวดหัว
“เจ้าตอบนางแล้วหรือ”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้ว่าเขาไม่คิดอยากได้บุตรสาวตระกูลหูเป็นสะใภ้
ลู่เจียวเลิกคิ้วกล่าวว่า “ข้าว่าหลิงเสวี่ยก็ไม่เลว ไม่เพียงแต่เรียบร้อยสุขุม ยังรู้มารยาทธรรมเนียม ที่สำคัญที่สุดก็คือไม่เอาแต่ใจตนเอง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังคำพูดลู่เจียว เงยหน้ามองนาง “ความหมายของเจ้าก็คืออยากให้นางแต่งเข้าตระกูลเซี่ย”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ข้าเคยบอกแล้วว่าวันหน้าลูกๆ แต่งภรรยา ให้พวกเขาเลือกเอง ดังนั้นวันนี้ข้าถามลูกๆ แล้ว ซานเป่ากับซื่อเป่าต่างบอกว่าไม่ต้องการแต่งหูหลิงเสวี่ยเป็นภรรยา พวกเขาเห็นหูหลิงเสวี่ยเป็นพี่สาว แต่ต้าเป่าลังเล ขอคิดดูก่อน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็ยิ่งไม่พอใจ โดยเฉพาะบุตรชายคนนี้ เป็นถึงบุตรชายคนโตของเขา
“ต้าเป่าไม่ได้ เขาต้องแต่สตรีที่เหมาะสมกับเขาเท่านั้น”
วาจานี้แทบบอกกระจ่างว่าหูหลิงเสวี่ยไม่คู่ควรกับบุตรชายตน
ลู่เจียวอดค้อนขวับไม่ได้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปดึงมือลู่เจียวมากล่าวว่า “เจียวเจียว หากซานเป่า ซื่อเป่าพวกเขาคิดแต่งหูหลิงเสวี่ย ไม่แน่ข้าอาจเห็นด้วย แต่ต้าเป่าไม่ได้ เขาเป็นบุตรชายคนโตตระกูลเซี่ย วันหน้าต้องรับภาระบุตรชายคนโตตระกูลเซี่ย ภรรยาเขาก็จะเป็นสะใภ้คนโตตระกูลเซี่ย ถึงตอนนั้นนางต้องแบกรับหน้าที่สะใภ้คนโต ข้ารู้สึกว่าบุตรสาวตระกูลหูแบกรับภาระหนักนี้ไม่ไหว”
ลู่เจียวคิดแล้วก็เห็นว่าความสามารถหูหลิงเสวี่ยไม่พออยู่บ้างจริง “เอาละ พูดตอนนี้ยังเร็วไป ไม่แน่ต้าเป่าอาจไม่คิดแต่ง ลูกไม่คิดแต่ง ข้าก็จะปฏิเสธไป”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “อืม”
สองสามีภรรยาคุยกันต่ออีกครู่หนึ่ง ก็บ้วนปากล้างหน้าเข้านอน
ผู้ใดจะรู้ว่าวันรุ่งขึ้นพอฟ้าสาง ต้าเป่าก็มาหาพวกเขาสองสามีภรรยา “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าคิดดูแล้ว ข้าอยากแต่งพี่หลิงเสวี่ยเป็นภรรยา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นปฏิเสธหน้าบึ้งทันที “ไม่ได้ เรื่องนี้พ่อไม่เห็นด้วย”
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเซี่ยอวิ๋นจิ่น มองต้าเป่ากล่าวว่า “แม่จำได้ว่าเมื่อวานเจ้ายังลังเล เหตุใดวันนี้จึงอยากแต่งกับนางแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอยากจะเอ่ย แต่ถูกลู่เจียวจ้องใส่เขาทีหนึ่ง กล่าวว่า “ให้ลูกบอกความในใจให้จบก่อน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พูดอะไรอีก ต้าเป่ามองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกล่าวว่า “ข้ายินดีแต่งพี่หลิงเสวี่ยเป็นภรรยา สาเหตุก็เพราะ หนึ่งข้าชอบนาง ตอนเด็กๆ ข้าเป็นพี่ชายคนโตในบรรดาแฝดสี่ที่ต้องคอยดูแลน้องๆ ไม่ว่าเรื่องอันใดล้วนคิดเพื่อพวกเขา ตอนนั้นนางสงสารข้ามาก นางมักคอยดูแลข้า ตอนนี้ข้านึกถึงการดูแลของนางแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจ”
ต้าเป่าเล่าถึงเรื่องนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวต่างรู้สึกสงสารเห็นใจเขา โดยเฉพาะเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่รู้สึกผิดมาก เพราะแฝดสามของพวกเขาความจริงอายุน้อยกว่าซื่อเป่า ซื่อเป่าควรเป็นคนที่อายุมากที่สุดในหมู่พวกเขา แม้ว่าเพียงแค่สิบกว่าวันก็ตาม
แต่กลับเพราะเขาจัดการเช่นนี้ ทำให้ต้าเป่าต้องแบกรับหน้าที่พี่ชายคนโต
ต้าเป่าเห็นท่านพ่อกับท่านแม่ปวดใจก็อดยิ้มไม่ได้ “ความจริงก็เป็นความเต็มใจของข้าเอง ในฐานะพี่ชาย ดูแลน้องๆ ก็เป็นเรื่องสมควร”
เขากล่าวจบก็ไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเอ่ย ก็เอ่ยต่อว่า “ในฐานะบุตรชายคนโตตระกูลเซี่ย ไม่เพียงแต่ข้า ยังมีภรรยาข้า ล้วนต้องดูแลน้องๆ ให้ดี สะใภ้คนโตไม่เพียงแต่ต้องฉลาด ยังต้องมีคุณธรรมจารีตสตรี แม้ว่าพี่หลิงเสวี่ยไม่นับว่าฉลาด แต่นางมีความโดดเด่นที่คุณธรรมและความเมตตาอารี ยังเติบโตมากับพวกเรา หากข้าแต่งกับนาง นางก็จะดีต่อน้องชายและน้องสาว และนางเช่นนี้ก็ทำด้วยใจจริง ไม่ใช่ดีแค่ภายนอก”
ลู่เจียวเข้าใจความหมายของเขา บางคนดีกับเจ้าด้วยใจจริง บางคนดีกับเจ้าแค่ภายนอก
ต้าเป่าเป็นห่วงว่าตนเองแต่งสตรีสูงศักดิ์มา วันหน้าภรรยาตนเองแม้ว่าดีกับน้องๆ แต่ก็เพียงแค่ภายนอก ไม่ได้ทำไปด้วยใจแท้จริง
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจทนรับได้ แต่หากแต่งกับหูหลิงเสวี่ยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้ เพราะนางย่อมดีกับน้องชายและน้องสาวเขาอย่างแน่นอน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวคิดไม่ถึงว่าต้าเป่าอายุน้อยแค่นี้ ถึงกับคิดมากเพียงนี้
ทั้งสองคนต่างสงสารเขามาก ยื่นมือไปลูบศีรษะต้าเป่า กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “เจ้าไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้บนบ่า ท่านพ่อกับท่านแม่อายุยังน้อย ไม่ต้องให้เจ้าคอยเป็นกังวลเช่นนี้ เจ้าสนใจแค่ทำตัวเองให้เบิกบานใจ หาหญิงสาวที่ชอบเป็นภรรยาก็พอ เจ้าคิดแต่งกับหูหลิงเสวี่ย พวกเราไม่คัดค้าน แต่ต้องเป็นเพราะเจ้าชอบนาง ไม่ใช่เพราะนางดีกับน้องชายน้องสาวเจ้า”
ต้าเป่ายิ้มมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกล่าวว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่ ความจริงข้าชอบพี่หลิงเสวี่ย เทียบกับต้องแต่งกับหญิงที่เคยเจอกันแค่ครั้งสองครั้ง สู้แต่งกับหญิงที่ตนเองชอบและรู้จักจะดีกว่า พี่หลิงเสวี่ยดีมาก”
ลู่เจียวได้ฟังต้าเป่าก็เลิกคิ้วกล่าวว่า “เจ้าแน่ใจหรือ ลูกแม่?”
ต้าเป่าพยักหน้า เซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พ่อรู้สึกว่านางไม่เหมาะกับบุตรชายพ่อ”
ต้าเป่ายิ้ม กล่าวตามตรง ในบรรดาลูกๆ ทั้งหมด ต้าเป่าเป็นคนที่ได้ดังใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่สุด เขามองบุตรชายคนนี้อย่างไรก็รู้สึกว่าดีที่สุด ดังนั้นคิดว่าหูหลิงเสวี่ยไม่คู่ควรกับบุตรชายตนเอง
ความจริงต้าเป่าเองก็รู้ว่าความสำคัญของตนเองในใจบิดา ได้ยินบิดากล่าวเช่นนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
เขามองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยิ้มกล่าวว่า “ท่านพ่อรักต้าเป่า ต้าเป่าเข้าใจ แต่ต้าเป่าคิดว่านางดีมาก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองต้าเป่าเอ่ยเตือนว่า “ด้วยสติปัญญาของเจ้า วันหน้าต้องเดินไปบนเส้นทางขุนนางทรงอำนาจ ภรรยาเจ้าไม่เพียงแต่ต้องเป็นผู้มีคุณธรรมดำรงจารีตดีงาม ยังต้องคล่องแคล่วเฉลียวฉลาด เจ้าคิดว่าหูหลิงเสวี่ยมีความสามารถนี้หรือ”
ภรรยาขุนนางทรงอำนาจไม่ได้เป็นกันง่ายๆ
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยเช่นนี้ ต้าเป่าก็ยิ้มดีใจ “นี่ไม่ใช่ว่ามีท่านแม่หรือ ท่านแม่อบรมพวกเราได้ดี ยังต้องกังวลว่าจะอบรมสะใภ้คนโตไม่ดีได้หรือ พี่หลิงเสวี่ยอย่างอื่นไม่เท่าไร แต่ดีที่เชื่อฟัง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินบุตรชายเอ่ยด้วยท่าทางเคร่งขรึม ก็มองเขากล่าวว่า “ตอนนี้เจ้าอายุแค่สิบสาม เจ้าแน่ใจว่าวันหน้าจะไม่นึกเสียใจภายหลังหรือ หากเจ้าแน่ใจเรื่องนี้แล้ว ท่านแม่ก็จะตอบรับการหมั้นหมายนี้ให้เจ้า วันหน้าหูหลิงเสวี่ยก็จะเป็นภรรยาเจ้า หากนางให้กำเนิดลูกชายได้ เจ้าก็ไม่อาจรับอนุ ไม่อาจไปมีหญิงนอกบ้านได้ หญิงผู้นี้จะอยู่กับเจ้าไปชั่วชีวิต หากเจ้าไม่ชอบนาง จะรู้สึกว่าชีวิตนี้ยากลำบากมาก เข้าใจหรือไม่”
ต้าเป่าคิดถึงภาพนี้แล้ว ก็ถึงกับรู้สึกว่าในใจมีความยินดี เพราะหูหลิงเสวี่ยจะรักเขา ดูแลเขา มีคนคนหนึ่งที่รู้ใจข้างกาย จะยากลำบากได้อย่างไร
ลู่เจียวเห็นท่าทางเขาก็รู้ว่าเขาตัดสินใจแล้ว แม้ว่าต้าเป่าอายุแค่สิบสาม แต่คนในยุคสมัยนี้ก็ล้วนโตเร็ว และยุคสมัยนี้ก็หมั้นหมายกันเร็ว ต้าเป่ากับหูหลิงเสวี่ยโตมาด้วยกัน ความผูกพันไม่ใช่สิ่งที่ผู้อื่นจะมาเทียบได้ ขอเพียงวันหน้าต้าเป่าไม่เกิดความรู้สึกความรักนำพาให้ลุ่มหลง การแต่งงานของเขากับหูหลิงเสวี่ยก็จะไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันอันใด
ลู่เจียวดูท่าทางบุตรชายตน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่จะถูกความรักนำพาให้ลุ่มหลง
“เขาตัดสินใจแล้ว ก็ตามใจเขา”