ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 726 ตามติดแจ
ตอนที่ 726 ตามติดแจ
ซานเป่ากับซื่อเป่าคิดแล้วก็เห็นด้วย แม้ต้องเรียนอีกสองปี พวกเขาก็แค่สิบห้า ถึงตอนนั้นออกมาทำสิ่งที่ตนเองชอบก็น่าจะดีมาก
สองพี่น้องต่างเห็นด้วย “ท่านแม่ เช่นนั้นพวกเราก็จะไปสำนักศึกษาไป่ลู่เรียนหนังสือกับต้าเป่า”
“ดีมาก แม่ดีใจมากที่พวกเจ้าคิดได้เช่นนี้ ทั้งหมดนี้เพราะท่านพ่อกับท่านแม่หวังดีกับพวกเจ้า ไม่อยากให้วันหน้าพวกเจ้าเสียเปรียบผู้อื่น”
เด็กน้อยสองคนถูกมารดาล่อหลอกเป็นชุด ก็เบิกบานใจ ยิ้มรับคำ “ท่านแม่ พวกเราทราบแล้ว”
แต่กล่าวจบ พี่น้องสองคนคิดถึงว่าจะเข้าเรียนที่สำนักศึกษาไป่ลู่ ต้องสอบย่วนซื่อก่อน พอได้จดหมายแนะนำตัวแล้วจึงจะไปเรียนที่สำนักศึกษาไป่ลู่ได้
“แต่ว่าพวกเราไม่มีหนังสือแนะนำตัวตัว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้นว่า “ไม่เป็นไร พ่อได้ขอให้คนช่วยแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งจะกล่าวจบ นอกประตู ติงเซียงก็ถือของเดินเข้ามารายงานว่า “ใต้เท้า ฮูหยิน พ่อบ้านเซียวบอกว่ามีคนส่งมาให้ใต้เท้า”
หลินตงข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าไปรับมาส่งให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นเปิดออก ก็คือจดหมายแนะนำตัวต่อสำนักศึกษาไป่ลู่
“เรียบร้อย มีจดหมายแนะนำแล้ว วันนี้พ่อจะส่งพวกเจ้าสามคนไปสมัครสำนักศึกษาไป่ลู่”
“ขอรับ ท่านพ่อ”
พี่น้องสามคนลุกขึ้นยืนรับคำนอบน้อม ลู่เจียวกำชับเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เจ้าไปสำนักศึกษาไป่ลู่สอบถามดูหน่อยว่า พวกเขาต้องพักที่นั่นหรือไม่ หากต้องพัก เย็นนี้ก็กลับมาเก็บของ พรุ่งนี้จะได้ไปพักที่สำนักศึกษา”
สำนักศึกษาไป่ลู่อยู่ชานเมือง ห่างจากเมืองหลวงหลายสิบลี้ ทุกวันเช้าไปเย็นกลับจะยุ่งยากมาก หากพักที่สำนักศึกษาได้ ลู่เจียวก็อยากให้พวกเขาพักที่นั่น เช่นนี้ก็จะลดความยุ่งยากไปได้
ตอนนี้ลู่เจียวไม่ค่อยเป็นห่วงบุตรชายทั้งสามแล้ว ผ่านการอบรมสั่งสอนมาหลายปี พวกเขาไม่เพียงแต่อ่านสี่ตำราห้าคัมภีร์คล่อง แต่ยังรู้เรื่องยา พกยาที่นางปรุงเองหลายอย่างติดตัวไปตลอด และยังมีวิชายุทธ์ที่ทุ่มเทฝึกมาหลายปีที่ไม่เลวอย่างมาก แม้ว่าสู้เอ้อร์เป่าไม่ได้ แต่ฝีมือก็ร้ายกาจพอแล้ว หนึ่งต่อหลายคนย่อมไม่มีปัญหา
ดังนั้นลู่เจียวจึงไม่ค่อยเป็นห่วงพวกเขา พร้อมกันนั้นยังรู้สึกว่าให้พวกเขาไปอยู่สำนักศึกษาไป่ลู่ ก็ถือเป็นการฝึกฝนพวกเขา พวกเขาต้องเรียนรู้เผชิญชีวิตด้วยตนเอง
สามแฝดไม่คัดค้าน พวกเขาชินเสียแล้ว เมื่อก่อนพวกเขาก็ไปอยู่กับอาจารย์และอาจารย์แม่ที่ซีเฟิงย่วน
พ่อลูกรับคำแล้วก็เดินออกไป ลู่เจียวกับสองแฝดคู่เล็กมองตามพวกเขาออกไป
พอพวกเขาไปแล้ว ลู่เจียวก็เรียกสองแฝดเข้ามาสอบถามว่า “อู่เป่า แม่จะให้พ่อบ้านเซียวไปสอบถามดูว่ารอบๆ มีสำนักศึกษาอันใดหรือไม่ จะได้ส่งเจ้าไปสำนักศึกษาเรียนหนังสือ เจ้าว่าดีหรือไม่”
ตอนเด็ก ลู่เจียวก็สร้างอนุบาลขนาดเล็กในจวนให้เซี่ยอู่เป่ากับเซี่ยหลิงหลง ดังนั้นพวกเขาสองคนก็เหมือนกับแฝดสี่ได้เรียนรู้อะไรไปไม่น้อย ตอนนี้พวกเขาโตแล้ว ลู่เจียวตัดสินใจส่งอู่เป่าไปสำนักศึกษาตระกูลส่วนตัว อู่เป่ามีนิสัยไม่ค่อยพูด ลู่เจียวว่าจะส่งเขาไปสำนักศึกษา จะได้สัมผัสกับเพื่อนนักเรียน นิสัยจะได้ร่าเริงขึ้นอีกหน่อย
เดิมเซี่ยอู่เป่ากำลังดีใจอยู่ที่บรรดาพี่ชายไปกันหมดแล้ว เขาก็จะได้ยึดครองท่านแม่คนเดียว
ปรากฏท่านแม่จะส่งเขาไปเรียนหนังสือ เขาย่อมไม่ยินดี
เซี่ยอู่เป่าเขยิบเข้าไปใกล้ลู่เจียวดึงแขนเสื้อนาง กล่าวว่า “ท่านแม่ พวกพี่ๆ ไปเรียนหนังสือแล้ว ข้าอยู่บ้านเป็นเพื่อนท่านแม่ดีหรือไม่ หากข้าไปเรียนหนังสือ ท่านไม่เหงาหรือ แม้แต่คนจะคุยด้วยก็ไม่มีนะ”
เซี่ยอู่เป่ากล่าวจบก็ยิ้มหวานให้ท่านแม่ตน พยายามทำหน้าตาน่ารักเต็มที่
ลู่เจียวแทบอยากจะร้องไห้ มองเขาพลางลูบศีรษะเขากล่อมว่า “แม่อยากให้เจ้ามีเพื่อนมากๆ จะได้มีเพื่อนสนิทไว้คบหา”
เซี่ยอู่เป่าอ้าปากคิดจะบอกว่าไม่อยากได้เพื่อน
ไม่คิดว่าเซี่ยหลิงหลงกลับดีใจมาก “ท่านแม่ เช่นนั้นข้าไปเรียนที่สำนักศึกษากับพี่อู่เป่าได้หรือไม่”
ลู่เจียวมองไปยังเซี่ยหลิงหลง เดิมนางไม่คิดส่งเซี่ยหลิงหลงไปสำนักศึกษา แต่เห็นเซี่ยอู่เป่าไม่ยอมไป หากเซี่ยหลิงหลงไป ไม่แน่ว่าเขาอาจยอมไป
ลู่เจียวคิดแล้วก็เห็นด้วย แต่กำชับเซี่ยหลิงหลงกล่าวว่า “สำนักศึกษาไม่รับนักเรียนหญิง หากเจ้าคิดเรียน ก็ต้องแต่งกายเป็นชายแบบพี่อู่เป่า และที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามให้คนรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิง หากพบเข้า อาจารย์ก็จะส่งเจ้ากลับมา”
ในเมืองหลวงมีสำนักศึกษาสตรีแต่ต้องสอบเข้า ลู่เจียวไม่เป็นห่วงว่าเซี่ยหลิงหลงสอบไม่ได้ แต่ประเด็นก็คือนักเรียนต้องสิบขวบขึ้นไป ตอนนี้เซี่ยหลิงหลงอายุยังน้อยเกินไป ดังนั้นให้นางไปเรียนที่สำนักศึกษาก่อนสามปี จากนั้นก็ค่อยสอบเข้าสำนักศึกษาสตรี
เซี่ยหลิงหลงพอได้ฟังก็ดีใจ “ท่านแม่ ข้ารู้แล้ว ข้ารับปากท่านแม่”
ลู่เจียวยิ้มพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองอู่เป่า อู่เป่ามองน้องสาวแล้วก็มองท่านแม่ตน สุดท้ายได้แต่ทำหน้าบึ้งกล่าวว่า “ก็ได้”
ลู่เจียวมองสองแฝดตรงหน้าแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ มองจากบางมุม แฝดคู่นี้จึงจะเป็นบุตรชายหญิงแท้จริงของนาง นางจะไม่รักพวกเขาได้อย่างไร
ลู่เจียวยื่นมือไปโอบกอดสองแฝด เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “แม่อยากให้พวกเจ้ามีชีวิตที่ราบรื่น เบิก บาน ดังนั้นอู่เป่าต้องคบหาสหายเยอะๆ ได้หรือไม่”
เซี่ยอู่เป่าได้ยินคำพูดลู่เจียว ในใจก็หวานล้ำปานน้ำผึ้ง พยักหน้าเห็นด้วยทันที “ท่านแม่ ข้าทำได้ ท่านแม่วางใจ”
เซี่ยหลิงหลงเองก็เบิกบานใจ กล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าเองก็จะคบหาสหายให้มากๆ”
ลู่เจียวรีบปล่อยลูกลง มองเซี่ยหลิงหลง กำชับว่า “พี่ชายคบหาสหายมากได้ แต่เจ้าคบหาสหายน้อยหน่อย เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง หากคนพบสถานะเจ้า เจ้าก็จะถูกไล่ออก ดังนั้นยามปกติก็ให้ระวังหน่อย อย่าให้ผู้ใดรู้สถานะเจ้า”
แม้ว่าเซี่ยหลิงหลงถูกบิดาและพี่ชายในตระกูลเซี่ยตามใจ แต่เพราะมีลู่เจียวคอยกำราบ กอปรกับแต่เล็กนางก็เรียนมาพร้อมกับเซี่ยอู่เป่า ดังนั้นจึงฉลาดไม่น้อย พอลู่เจียวกล่าว นางก็เข้าใจทันที รีบพยักหน้าแสดงท่าทีกล่าวว่า “ท่านแม่ วางใจ ข้าทำได้”
สองแม่ลูกคุยกันได้ครู่หนึ่ง นอกประตูติงเซียงก็เดินเข้ามารายงานว่า “ฮูหยิน อันเล่อเซียงจวินพาฮูหยินหลายท่านมาขอพบ”
ลู่เจียวพอได้ฟังก็แทบอยากจะร้องไห้ หากไม่เหนือความคาดหมาย พี่เนี่ยมาเช้าเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เพราะการค้า แต่ร้อนใจท่าทีตระกูลเซี่ยว่าเห็นด้วยที่จะแต่งบุตรสาวพวกเขาเข้าตระกูลหรือไม่
ลู่เจียวโตมาขนาดนี้ ไม่เคยเห็นคนร้อนใจออกเรือนเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นฝ่ายหญิงควรสงบเสงี่ยมสักหน่อยหรือ
แต่คนเขาก็มาแล้ว นางจะทำอย่างไรได้
“ไปเชิญเข้ามา”
ลู่เจียวบอกให้คนพาเซี่ยอู่เป่ากับเซี่ยหลิงหลงไปเล่นด้านนอก นางจะต้อนรับแขก
เซี่ยอู่ป่าเกาะมารดาแจอีกแล้ว อาลัยอาวรณ์ไม่อยากออกไป
ลู่เจียวตัดสินใจแล้วว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปจะอบรมให้เซี่ยอู่เป่าอยู่ด้วยตนเองให้ได้ แม้ว่าบุตรชายเกาะนางแจเป็นเรื่องดี แต่นางไม่อยากให้บุตรชายที่ตนให้กำเนิดแท้จริงเป็นชายติดมารดา โชคดีที่ตอนนี้เซี่ยอู่เป่าเพิ่งเจ็ดขวบ ถือว่าอายุยังน้อย นางค่อยๆ อบรมเขาให้เขาอยู่ด้วยตนเองได้ ให้เขาเป็นชายชาตรีที่แบกรับภาระได้