ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 730 ปีศาจร้าย

ลู่เจียวยิ้ม หากตั้งครรภ์จริงก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นไปได้ แต่ชีวิตนี้นางคงไม่มีทางได้ตั้งครรภ์แล้ว

เพราะครั้งก่อนตอนคลอดแฝดชายหญิง ทำเอาเซี่ยอวิ๋นจิ่นตกใจ เซี่ยอวิ๋นจิ่นตัดสินใจไปหาหมอถามว่าจะป้องกันการตั้งครรภ์อย่างไร สุดท้ายตัดสินใจซื้อยาหยุดการให้กำเนิดมากินด้วยตนเองโดยไม่บอกนาง ดังนั้นหลังจากแฝดชายหญิง นางก็ไม่ได้ตั้งครรภ์อีก

แต่ที่บ้านก็มีลูกหลายคนแล้ว นางเองก็ไม่อยากตั้งครรภ์แล้ว

ลู่เจียวคิดแล้วก็ถามชิวเยว่ว่า “ท่านแม่บุญธรรมเป็นอย่างไรบ้าง สุขภาพดีหรือไม่ อารมณ์ดีไม่เลวกระมัง”

“ขอบคุณฮูหยินที่ยังนึกถึง ท่านหญิงสบายดีมาก กินยาที่ฮูหยินส่งมาตลอดทำให้จิตใจปลอดโปร่งอย่างมาก และยังอ่อนเยาว์ลงไม่น้อย คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับท่านหญิงยังดูแก่กว่านางมาก”

กล่าวถึงตรงนี้ ชิวเยว่ก็รู้สึกซาบซึ้งใจลู่เจียว ไม่เพียงแต่ช่วยท่านหญิง ยังปรุงยาส่งมาให้ท่านหญิงตลอด ท่านหญิงกินยานางแล้ว จิตใจก็ประปรี้กระเปร่า

พูดถึงเรื่องนี้ ก็ต้องพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่ง

อู่กั๋วกงเห็นท่านหญิงกินยาที่ลู่เจียวปรุงมาให้ จิตใจก็ประปรี้กระเปร่ายิ่ง สุดท้ายก็ขอยาบ้าง บอกว่าเขาก็เป็นบิดาบุญธรรมของลู่เจียว เหตุใดลู่เจียวไม่ปรุงยาบำรุงให้เขาบ้าง

ลู่เจียวได้อ่านจดหมายท่านหญิง สุดท้ายก็ปรุงยาบำรุงสุขภาพให้อู่กั๋วกง

อู่กั๋วกงกินแล้วก็รู้สึกว่าอาการป่วยเดิมที่เป็นนานปีดีขึ้นมาก จิตใจก็กระปรี้กระเปร่ากว่าเมื่อก่อน

ดังนั้นตอนนี้สำหรับจวนอู่กั๋วกง ลู่เจียวย่อมเป็นแขกพิเศษ

ทุกคนเดินไปคุยไปก็มาถึงเรือนหลัก

ณ เรือนหลัก แขกมากันไม่น้อยแล้ว กำลังคุยอยู่กับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่

ลู่เจียวกวาดตามองไปก็เห็นคนคุ้นเคยหลายคน ในจำนวนนี้ก็มีฮูหยินตระกูลฉี ฮูหยินขุนพลหวังเองก็มา

พวกนางเห็นลู่เจียวมาก็รีบโบกมือยิ้มกล่าวว่า “ดูสิ ผ่านมาหลายปี พวกเราล้วนแก่แล้ว ส่วนนางราวกับกินยาเซียน ยังคงอ่อนเยาว์ดังเดิม นางกลับเข้าเมืองหลวงครั้งนี้ พวกเราว่างก็ไปรบกวนนางกัน ไปถามดูว่านางดูแลสุขภาพอย่างไร”

ลู่เจียวถือโอกาสประกาศว่า “ฮูหยินทุกท่านอย่าได้ร้อนใจไป อีกไม่นานข้ากับพี่อวี้เหยาจะเปิดร้านเสริมความงาม จะนำเคล็ดลับดูแลผิวพรรณปกติของข้ามาใช้ รับรองว่าวันหน้าฮูหยินทุกท่านจะเยาว์วัยลงอีกสิบปี”

ลู่เจียวเปิดร้านเสริมความงามย่อมต้องนำน้ำพุจิตวิญญาณมาใช้ไม่น้อย นำน้ำพุจิตวิญญาณนางมาบำรุงผิวพรรณสตรี ย่อมทำให้สวยขึ้น การจะเยาว์วัยขึ้นอีกสิบปีไม่ใช่เรื่องยาก

ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ คนในที่นั้นไม่น้อยไม่เข้าใจว่าร้านเสริมความงามคืออันใด แต่ละคนรีบพากันถามว่าคือร้านอันใด

ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “เรื่องนี้ไว้เราค่อยคุยรายละเอียดกัน”

นางกล่าวจบก็พาลูกสองคนเดินไปตรงหน้าท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เอ่ยทักทายมารดาบุญธรรมอย่างนอบน้อม

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่รีบดึงนางมานั่งข้างๆ อีกข้างหนึ่งมีเนี่ยอวี้เหยานั่งอยู่

เนี่ยอวี้เหยาเห็นลู่เจียวมาก็ดีใจยิ้มพยักหน้าให้นาง

ในห้องโถง ทุกคนได้ฟังคำทักทายลู่เจียวก็ถามอย่างแปลกใจทันที

“เหตุใดท่านหญิงเป็นมารดาบุญธรรมฮูหยินเซี่ย”

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่จูงลู่เจียวเดินเข้าไปห้องโถงกล่าวกับฮูหยินทุกท่านว่า “นางก็คือบุตรีข้า ยังเป็นน้องร่วมสาบานกับบุตรีข้า ที่ข้าตามหาบุตรีเจอได้อย่างราบรื่น ก็เพราะนางส่งจดหมายมาหาข้า เพราะก่อนหน้านี้ที่นางรักษาให้ข้า รู้ว่าบุตรสาวข้าหายตัวไป นางคิดถึงพี่สาวบุญธรรมของตนเองขึ้นมา เห็นว่าหน้าตาคล้ายกับข้า ดังนั้นจึงตั้งใจสืบเรื่องนี้ สุดท้ายพบว่ามีความเป็นไปได้ว่าเหยาเอ๋อร์เป็นบุตรีข้า จึงเขียนจดหมายหาข้า ให้ข้าไปตรวจสอบดู ปรากฏว่าเหยาเอ๋อร์ก็คือบุตรีจวนอู่กั๋วกงเรา”

“ดังนั้นพวกเราสองแม่ลูกจึงได้พบกันอีกครั้ง ล้วนต้องขอบคุณเจียวเจียว ข้ารับเจียวเจียวเป็นบุตรสาวบุญธรรมข้า วันหน้านางกับเหยาเอ๋อร์ก็เป็นบุตรสาวของข้า”

“วันนี้ข้าจัดงานเลี้ยงก็เพื่อประกาศให้รู้กัน ให้ทุกคนได้รู้ว่าเจียวเจียวเป็นบุตรสาวบุญธรรมข้า วันหน้าก็เป็นบุตรสาวบุญธรรมข้ากับกั๋วกง ขอให้ทุกคนวันหน้าอย่าได้ทำให้บุตรสาวข้าคนนี้ลำบากใจ”

ในคราแรกก็องค์หญิงใหญ่รับสั่งไว้แล้ว ต่อมาวันนี้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก็เอ่ยปากอีก ที่สำคัญที่สุดก็คือฟังจากคำพูดท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ กั๋วเกงเองก็เหมือนให้การยอมรับ เรื่องนี้สำคัญมาก กั๋วกงเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนัก ได้รับความไว้พระทัยจากฝ่าบาท เขายังยอมรับลู่เจียวเป็นบุตรสาวบุญธรรม วันหน้าพวกนางอย่าได้มีเรื่องกับลู่เจียวจะดีกว่า

ทุกคนครุ่นคิดแล้วก็ยิ้มทักทายลู่เจียว “ฮูหยินเซี่ย”

“รอฮูหยินเซี่ยเปิดร้านเสริมความงาม จะต้องแจ้งพวกเรานะ ถึงตอนนั้นพวกเราจะต้องไปเป็นลูกค้า”

ลู่เจียวยิ้มรับคำ “ถึงตอนนั้นข้ารับรองจะทำให้ฮูหยินทุกท่านยิ่งงดงาม ให้ทุกคนสาวขึ้นสวยขึ้น”

ทุกคนได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ก็พลันหัวเราะดัง

ในห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความยินดี ในตอนนั้นเอง ชิวเยว่ก็เดินเข้ามารายงาน

“ท่านหญิง พระชายาอ๋องฉินมาแล้ว”

ชิวเยว่กล่าวจบ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก็ขมวดคิ้ว นางไม่ได้ส่งเทียบเชิญพระชายาอ๋องฉิน นางมาทำไมกัน

อ๋องฉินก็คือคนฝั่งอ๋องจิ้น ตระกูลพวกเขาไม่ได้เป็นพวกอ๋องจิ้น

ตอนนี้แต่งตั้งรัชทายาทแล้ว นางไม่คิดจะเกี่ยวข้องกับท่านอ๋องอื่นอีก

แต่คนเขามาแล้ว ไม่สนใจก็ไม่ได้ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เอ่ยอย่างไม่พอใจ “ไป เชิญพวกนางเข้ามา”

ชิวเยว่พยักหน้าแล้วเดินออกไป

ทุกคนในห้องเงียบกันไปครู่หนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้ชิวเยว่พูดไม่ดังนัก แต่คนที่ควรได้ยินก็ได้ยินกันหมด ว่าพระชายาอ๋องฉินมา

ส่วนพระชายาอ๋องฉินท่านนี้ ทุกคนต่างมีวาจามากมายไม่อาจกล่าว ได้ยินว่าเดิมนางต้องตาต้องใจเซี่ยจ้วงหยวน คิดจะแต่งกับเซี่ยจ้วงหยวน จากนั้นก็วางยาพิษตนเอง ปฏิเสธการแต่งงานกับอ๋องฉิน ต่อมายังใช้อุบายกับเซี่ยจ้วงหยวน คิดแต่งกับเขา

น่าเสียดายสุดท้ายไม่สำเร็จ กลับขึ้นเตียงอ๋องฉิน เดิมความต้องการอ๋องฉินก็คือแต่งนางเป็นพระชายารอง

ต่อมาไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใด จึงเปลี่ยนความคิดแต่งนางเป็นพระชายาเอก

เพียงแต่หลายปีมานี้ นางแต่งเข้าจวนอ๋องฉินแล้วก็เหมือนมีชีวิตไม่ดีนัก นับวันยิ่งผ่ายผอมลง และยังดูเก็บตัวอย่างมาก ยามมองผู้อื่นก็ดูชั่วร้าย ทำเอาขนลุกไปหมด

ทุกคนต่างไม่อยากคบหากับนาง และนางก็ไม่ค่อยออกมาสมาคมกับผู้ใด

คิดไม่ถึงว่าวันนี้ถึงกับมาจวนอู่กั๋วกงได้ ทุกคนคิดกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็นึกได้ว่าเพราะลู่เจียวมา พลันเข้าใจแล้วว่าวันนี้เหตุใดพระชายาอ๋องฉินจึงมา คงคิดจะมาดูภรรยาใต้เท้าเซี่ย

ไยนางต้องทำเช่นนี้ด้วย ทุกคนไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระชายาอ๋องฉินจึงดึงดันจะแต่งกับใต้เท้าเซี่ย ตอนนั้นใต้เท้าเซี่ยเป็นแค่จ้วงหยวนเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้ ใต้เท้าเซี่ยก็ยังเป็นแค่จิงจ้าวฝูอิ่นขุนนางระดับสี่ อ๋องฉินเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือว่าสู้ใต้เท้าเซี่ยไม่ได้

ทุกคนคิดไม่เข้าใจ นอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังมา มีคนหลายคนเดินเข้ามา

หญิงที่เดินนำมาก็คือพระชายาอ๋องฉินหลินหรูเยว่ หลินหรูเยว่ร่างผอมโกรกคล้ายต้นหลิ่วอ่อนแอที่ต้องลมก็จะล้มลง นางสวมชุดสีขาวทั้งตัว มองไกลๆ ราวกับได้กลิ่นอายเทพเซียนลอยพลิ้วมา มองใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าใบหน้านางไม่เพียงแต่ไร้เนื้อหนัง แต่ยังซีดขาว แววตาดำทั้งสองราวกับถ้ำหลุมดำมืดมิดและเย็นเยียบ ยามมองคนคล้ายดังปีศาจร้าย

ทุกคนต่างไม่กล้าสบตานาง ตอนนางเข้ามาก็ไม่ได้มองผู้อื่น เอาแต่จ้องมองลู่เจียวผู้เดียว