ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 732 ยอดเยี่ยม
ตอนที่ 732 ยอดเยี่ยม
แต่ไรมาลู่เจียวคิดว่าหูหลิงเสวี่ยเป็นคนเงียบๆ ไม่แสดงออก กิริยาท่าทางก็ไม่ได้ดูมีสง่าราศีพอ แต่นางคิดไม่ถึงว่านางถึงกับมีความคิดเช่นนี้ เรื่องนี้นับว่าไม่เลวอย่างมาก แสดงให้เห็นว่านางโตขึ้นไม่น้อย
“ดังนั้นเจ้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องหมั้นหมายกับต้าเป่าหรือ” ลู่เจียวถาม
หูหลิงเสวี่ยยิ้มกล่าวว่า “น้าลู่ ให้เวลาข้าสามปี อีกสามปีข้าจะเติบโตเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ถึงตอนนั้นค่อยมาคุยเรื่องข้ากับต้าเป่า ดีหรือไม่”
ลู่เจียวได้ฟังคำพูดนางก็หวั่นไหวทันที กล่าวตามตรงก่อนหน้านี้ที่รับปากการหมั้นหมายของต้าเป่ากับหูหลิงเสวี่ย นอกจากรู้สึกว่าหูหลิงเสวี่ยเหมาะสมกับต้าเป่าแล้ว ก็เพราะความสัมพันธ์ของเนี่ยอวี้เหยากับนาง ยังมีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่และองค์หญิงใหญ่
ตอนนี้หูหลิงเสวี่ยเสนอว่าอีกสามปี ลู่เจียวรู้สึกว่าดีมาก เพราะอีกสามปี พวกเขาก็โตแล้ว คนหนึ่งสิบหก คนหนึ่งสิบเจ็ด อายุในตอนนั้น พวกเขาก็จะรู้ความคิดตนเองแน่ชัด ว่าจะแต่งกับอีกฝ่ายหรือไม่
เพียงแต่เรื่องนี้สำหรับหูหลิงเสวี่ยแล้วไม่ยุติธรรม อีกสามปีหูหลิงเสวี่ยก็สิบเจ็ดแล้ว ถึงตอนนั้นหากต้าเป่าไม่แต่งกับนาง นางจะหมั้นหมายก็ยากอยู่สักหน่อย
ยามนี้เด็กหญิงสิบสามสิบสี่ เดิมก็ได้วัยหมั้นหมายแล้ว
“แต่เช่นนั้นไม่ยุติธรรมกับเจ้า”
หูหลิงเสวี่ยยิ้มบาง กล่าวว่า “น้าลู่ ขอเพียงข้ายอดเยี่ยม ไม่ต้องกลัวไม่มีคนแต่งกับข้า เหมือนเช่นน้าลู่ อย่าว่าแต่สิบเจ็ด แม้ว่ายี่สิบ ข้าก็เชื่อว่ามีผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอยากแต่งด้วย”
ลู่เจียวได้ฟังหูหลิงเสวี่ยก็หลุดหัวเราะขำ มองหูหลิงเสวี่ยกล่าวว่า “ตอนนี้เจ้าไม่เหมือนเจ้าคนเดิม”
เดิมหูหลิงเสวี่ยเป็นคนเงียบๆ ไม่พูด
พอลู่เจียวกล่าว หูหลิงเสวี่ยก็หน้าแดงขึ้นมาทันที นางเอ่ยด้วยท่าทางเขินอายว่า “ความจริงวาจาเหล่านี้ข้าต้องเสริมกำลังใจให้ฮึกเหิมอยู่ทั้งคืน จึงจะมีความกล้ามาเอ่ยได้”
หูหลิงเสวี่ยครุ่นคิดแล้วก็รีบไปนั่งลงข้างกายลู่เจียว กล่าวว่า “น้าลู่ ท่านช่วยชี้แนะข้าให้มากๆ หน่อย ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนมีความสามารถมาก หากได้รับคำชี้แนะจากท่าน ข้าเชื่อว่าตัวข้าเองจะเปลี่ยนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมได้”
ลู่เจียวมองหูหลิงเสวี่ย เห็นแววตาหนักแน่นและเด็ดเดี่ยวของนาง ก็รู้ว่านางกำลังคิดพยายามทำตัวให้คู่ควรกับต้าเป่า
ลู่เจียวรับรู้ได้ นางยื่นมือไปลูบศีรษะหูหลิงเสวี่ย “เจ้าเป็นหญิงสาวที่ดี แม้วันหน้าไม่อาจเดินร่วมทางกับต้าเป่าได้ ท่านน้าลู่เชื่อว่าเจ้าก็คู่ควรกับชายที่ยอดเยี่ยม”
หูหลิงเสวี่ยยิ้มแล้วก็กล่าวว่า “ความจริงข้าอยากแต่งกับต้าเป่า หากแต่งกับต้าเป่า คนและเรื่องรอบกายล้วนคุ้นเคย ไม่ใช่แต่งกับชายแปลกหน้าที่ต้องพยายามปรับตัว และเพราะเช่นนี้ ข้าจึงได้พยายามศึกษาเรียนรู้ พยายามให้คู่ควรกับต้าเป่า”
หูหลิงเสวี่ยกล่าวจบก็เอ่ยขึ้นว่า “น้าลู่ ข้าตัดสินใจแล้วว่าเดือนแปดจะไปสอบสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อ ข้าจะเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมในสำนักศึกษาสตรี ใช่แล้ว น้าลู่ ข้ามีความคิดหนึ่ง ข้าอยากช่วยสตรีใต้หล้า ไม่ให้โดนผู้ชายรังแก”
ลู่เจียวคิดไม่ถึงว่าในใจหูหลิงเสวี่ยมีความคิดมากมายเช่นนี้ รู้สึกว่าไม่เลว นางยิ้มสนับสนุน “เจ้ามีความคิดเช่นนี้เป็นเรื่องดีมาก มุ่งมั่นพยายามไปตามทางนี้ ผู้หญิงเราต้องเข้มแข็ง จะต้องพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็ง แม้ว่าวันหน้าสามีจะเจ้าชู้ พวกเราก็ยังคงไม่ถูกพวกเขาชนล้ม”
หูหลิงเสวี่ยพยักหน้าเต็มแรง “ข้าต้องเป็นคนเช่นท่านน้าลู่ให้ได้”
นางกล่าวจบ ก็กล่าวอย่างกลัดกลุ้มว่า “แต่แม้ว่าข้ามีความคิดเช่นนี้ แต่ข้าก็หาวิธีช่วยเหลือผู้อื่นไม่พบ ข้าไม่มีวิชาแพทย์ และไม่มีความสามารถทำการค้า”
ลู่เจียวคิดถึงว่าหูหลิงเสวี่ยมีความสามารถในการแต่งหนังสือ ตอนเด็กนางแต่งนิทานเก่งมาก
นางเสนอหูหลิงเสวี่ยว่า “เจ้าเขียนความคิดของเจ้าเป็นหนังสือ เผยแพร่ออกไป คนที่ได้อ่านหนังสือก็จะได้รับรู้ ค่อยๆ เปลี่ยนความคิดตนเอง รู้จักต่อต้าน รู้จักแสวงหาเพื่อตนเอง สถานะผู้หญิงก็จะยิ่งสูงขึ้น”
ลู่เจียวกล่าวจบ หูหลิงเสวี่ยก็ดีใจมาก ยื่นมือออกไปกอดลู่เจียวอย่างตื่นเต้น “น้าลู่ ขอบคุณ ขอบคุณท่านมาก ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไรแล้ว”
นางกอดเสร็จก็ปล่อยลู่เจียวด้วยท่าทางเขินอาย กล่าวว่า “ข้าตื่นเต้นไปหน่อย ท่านน้าลู่อย่าได้ตำหนิข้า”
ลู่เจียวยื่นมือไปลูบศีรษะนาง กล่าวว่า “น้าลู่ไม่ตำหนิเจ้า เจ้าพยายามเช่นนี้ก็เพื่อให้คู่ควรเหมาะสมกับต้าเป่า หากน้าลู่ได้ลูกสะใภ้เช่นเจ้า ถือเป็นวาสนาของน้าลู่”
ลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ หูหลิงเสวี่ยก็ยิ่งเขิน วงหน้างดงามก็ยิ่งแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศ
นางลุกขึ้นย่อกายคำนับลู่เจียวทีหนึ่ง “น้าลู่ ข้ารู้ว่าตนเองวันหน้าควรทำอันใดแล้ว ข้าจะต้องเป็นนักเรียนหญิงที่ยอดเยี่ยมแห่งสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อให้ได้ ข้าต้องเขียนหนังสือช่วยให้สตรีดำรงสถานะในบ้านให้ได้ วันหน้าข้าก็จะเดินไปบนเส้นทางนี้”
หูหลิงเสวี่ยพูดจนสุดท้ายก็ยิ่งมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ยังคงเขินอายอยู่บ้าง อย่างไรก็เป็นไปได้มาก ว่านางจะเป็นว่าที่แม่สามีนาง จึงอดหน้าแดงวิ่งออกไปไม่ได้
ลู่เจียวเห็นนางวิ่งออกไปก็อดยิ้มไม่ได้
แม้ว่าตระกูลหูของหูซ่านจะธรรมดา แต่บุตรชายและบุตรสาวเขาไม่เลว หูหลิงเสวี่ยฉลาดและมีความคิดเป็นของตนเอง ผิงอันอายุน้อยๆ ก็สดใสเฉลียวฉลาด บุตรชายหญิงคู่นี้ไม่เหมือนหูซ่าน
ลู่เจียวคิดแล้วก็เตรียมจะเดินออกไป ไม่คิดว่านางเพิ่งจะดึงประตูออกเตรียมเดินออกไป นอกประตูก็มีคนเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
ลู่เจียวเงยหน้าเห็นคนที่มาถึงกับเป็นจ้าวอวี้หลัว
ไม่ได้เจอกันหกปี จ้าวอวี้หลัวเปลี่ยนจากสาวน้อยคนงามในตอนนั้น เป็นสาวงามฉูดฉาด ความงามของนางร้อนแรงคล้ายดอกไห่ถังที่บานฉูดฉาดแสบตา
ลู่เจียวมองนาง ยิ้มเอ่ยทักว่า “อวี้หลัวโตแล้ว”
จ้าวอวี้หลัวไม่ได้มีท่าทางเอะอะโวยวายเหมือนเมื่อก่อน แต่ดูสุขุมขึ้นไม่น้อย นางเดินไปตรงหน้าลู่เจียวก้มกายคำนับนอบน้อม “คารวะน้าลู่”
ลู่เจียวยื่นมือไปดึงนางขึ้น ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้อง
“อวี้หลัวมาหาน้าโดยเฉพาะหรือ”
จ้าวอวี้หลัวพยักหน้า ประคองลู่เจียว ทั้งสองคนเดินไปนั่งในห้อง
“ข้ามาหาน้าลู่ อยากถามน้าลู่เรื่องหนึ่ง เอ้อร์เป่าเขาไปเป็นทหารหรือ”
ในใจลู่เจียวพลันรู้สึกเคร่งเครียด จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่แล้ว เขาไปเป็นทหาร ไปครั้งนี้เกรงว่าอีกหลายปีกว่าจะกลับมา”
‘ดังนั้นเจ้าอย่ารอเขาเลย’ วาจานี้ลู่เจียวไม่ได้เอ่ยออกมา ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จ้าวอวี้หลัวลืมเอ้อร์เป่าแล้วหรือยัง
จ้าวอวี้หลัวได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็หันหน้าไปมองลู่เจียว แววตารื้นน้ำตาเล็กน้อย “ข้าเข้าใจความหมายของน้าลู่ ความจริงกล่าวกับน้าลู่ตามตรง ไม่ได้เจอเอ้อร์เป่ามาหกปี ข้าไม่ได้คิดถึงเขาเพียงนั้นอีกแล้ว เพียงแต่จะบอกว่าไม่สนใจ ไม่ชอบก็ไม่ใช่ความจริง ในใจข้ายังคงคอยแต่จะคิดถึงเขา”
“ดังนั้นน้าลู่อย่าได้เป็นห่วงข้า แม้ว่าตอนนี้ข้ายังไม่ลืมเขา แต่บางทีอีกสองปี ข้าก็จะลืมเขาได้”
ลู่เจียวคิดไม่ถึงว่าไม่ได้พบกันหกปี จ้าวอวี้หลัวถึงกับกลายเป็นคนรู้เหตุรู้ผลเช่นนี้ เห็นนางเช่นนี้ ลู่เจียวก็เริ่มเสียดายแทนเอ้อร์เป่าแล้ว