ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 738 จุดจบ
ตอนที่ 738 จุดจบ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดิมได้ยินเซียวอวี้กล่าวเช่นนี้ก็ดีใจมาก แต่ในใจพลันสะอึกทันที แอบตัดสินใจว่าวันหน้าจะไม่เอ่ยถึงเจียวเจียวต่อหน้ารัชทายาทมากนัก ในประวัติศาสตร์ใช่ว่ามีเรื่องราวฮ่องเต้แย่งชิงภรรยาขุนนางหรือ วันหน้าเขาทำงานกับรัชทายาท อย่าได้เอ่ยถึงภรรยาตนเองจะดีกว่า
เซียวอวี้ไม่ทันได้รู้สึกถึงความคิดของเซี่ยอวิ๋นจิ่น หันไปถามถึงเรื่องซื่อเป่าต่อ สุดท้ายเห็นว่าค่ำแล้ว จึงบอกให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไปพักผ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวจื่อเหยียนก็มาตีกลองหน้าประตูที่ทำการศาลจิงจ้าวฝู่ จากนั้นก็นำคำร้องมอบถึงมือเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบสั่งให้จ้าวเหิงนำคนไปจับตัวอู่ซูที่จวนตระกูลหลิว
ส่วนเขาไม่ทันรอให้จ้าวเหิงนำตัวคนกลับมาก็นำคำร้องหลิวจื่อเหยียนและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปมอบให้รัชทายาท รัชทายาทรีบนำเข้าวังกราบทูลต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้
ฮ่องเต้ทรงกริ้วดังอสุนีบาตฟาดใส่ รับสั่งเรียกตัวหลิวโส่วฝู่เข้าวัง ตำหนิเขาอย่างหนักที่ให้ท้ายภรรยาทำร้ายภรรยาแต่งจนเสียชีวิต
หลิวโส่วฝู่ตกใจไม่น้อย ในปีนั้นเขารู้ว่าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ต้องการทำร้ายภรรยาเขา เพียงแต่ภรรยากับอนาคตที่ต้องเลือกทำให้เขาลำบากใจ สุดท้ายเขาเลือกอนาคต เพราะเขารู้ว่าหากเขาเสียโอกาสนี้ไป วันหน้าก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ตอนนั้นเขาคิดไม่ถึงว่าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่จะมาต้องตาต้องใจเขา เขาเห็นโอกาสนี้แล้วก็ต้องคว้าไว้ให้มั่น
แต่เขาแต่งภรรยาแล้ว ไม่อาจแต่งกับท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ได้อีก ไม่อาจให้ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เป็นภรรยาเอกคนที่สอง
สุดท้ายเขาได้แต่แสดงความเศร้าใจต่อหน้าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ บอกว่าตนแต่งภรรยาเพราะบิดามารดาและวาจาแม่สื่อ ไม่ได้มีความผูกพันอันใดกับเขา เขาทุกข์ทรมานมาก แต่ไม่อาจทำอันใดได้
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เป็นถึงบุตรีอ๋องผิงหลิง และยังอยู่กับไทเฮามาแต่เล็ก แต่ไรมาก็เป็นคนหยิ่งยโส ไม่มีทางเห็นชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ
นางได้ฟังหลิวโส่วฝู่ก็ย่อมสงสารหลิวโส่วฝู่ คิดหาทางใส่หญ้าฝรั่นที่มีสรรพคุณทำให้เลือดไหลเวียนดีลงไปตอนภรรยาหลิวโส่วฝู่คลอดบุตร ทำให้ภรรยาแต่งของหลิวโส่วฝู่ตกเลือดตาย
ต่อมาเขาได้แต่งกับท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ และค่อยๆ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งโส่วฝู่
ความจริงหลิวโส่วฝู่รู้ดีว่าหลายปีมานี้ฝ่าบาทนับวันก็ยิ่งไม่ชอบเขา เพราะว่าเขามีชื่อเสียงอิทธิพลมากเกินไป เกรงว่าเป็นภัยคุกคามต่อแผ่นดินตระกูลเซียว ดังนั้นคิดหาทางกำจัดเขามาตลอด แต่เขาก็ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ฝ่าบาทหาเหตุลงโทษและจัดการเขาไม่ได้
คิดไม่ถึงว่าวันนี้เรื่องของหลันหยางถึงกับถูกเปิดโปงออกมา ย่อมส่งผลเสียต่อเขาด้วย
หลิวโส่วฝู่คุกเข่าลงโขกศีรษะต่อหน้าพระพักตร์ทันที “ฝ่าบาท ในปีนั้นภรรยากระหม่อมตายเพราะตกเลือดหลังคลอด ไม่ได้มีคนทำร้ายนางแน่นอน เป็นผู้ใดจงใจให้ร้ายกระหม่อมว่าทำร้ายฮูหยินจนตาย ขอฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หรี่พระเนตรแย้มสรวล ตรัสสุรเสียงเยาะว่า “หลิวโส่วฝู่ เจ้าคงไม่รู้ว่าผู้ใดฟ้องร้องภรรยาคนปัจจุบันของเจ้ากระมัง ก็คือหลิวจื่อเหยียนบุตรชายเจ้า”
ฮ่องเต้ตรัสจบก็โยนคำร้องลงตรงหน้าหลิวโส่วฝู่ หลิวโส่วฝู่สีหน้าซีดเผือด โผเข้าไปคว้าคำร้องมาอ่านอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ แม้ไม่ได้เห็นชื่อลงท้าย เขาก็มองออกว่าเป็นลายมือบุตรชายคนโตของเขา ดังนั้นบุตรชายคนโตของเขาฟ้องภรรยาของเขา และยังฟ้องร้องมาถึงเบื้องพระพักตร์
หลิวโส่วฝู่คลั่งแค้นในใจราวกับโลหิตไหลหยด แววตาค่อยๆ แดงก่ำ หอบหายใจรุนแรง
เขาอยากจะกระชากคอเสื้อบุตรชายตนมาถามว่า เขาต้องการทำอันใดกันแน่
รังพลิกคว่ำจะยังมีไข่สมบูรณ์หลงเหลือหรือ เขาทำเช่นนี้ ตระกูลหลิวเขาจะมีผู้ใดมีจุดจบที่ดีได้บ้าง
เขาฟ้องท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ หากบิดาเขาไม่อาจปกป้องท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ ท่านหญิง หลันหยางจวิ้นจู่ก็จะหันมาแว้งกัดบิดาเขาผู้นี้
หากเขาจัดการผู้เป็นบิดาล้มลง เขาก็จะได้ชื่อว่าคนอกตัญญูแห่งใต้หล้า
เขาเองก็ต้องตกต่ำลงเช่นกัน
หลิวโส่วฝู่ยิ่งคิดก็ยิ่งสิ้นหวัง ไม่อาจบังคับร่างกายไม่ให้สั่นเทาได้
ฮ่องเต้เห็นเขาเช่นนี้ ในพระทัยก็รู้สึกยินดียิ่ง แต่สีพระพักตร์ก็ยังคงแสดงออกถึงความสงสารและเห็นใจ
“ขุนนางหลิวเป็นโส่วฝู่ ในจวนเจ้าไม่สงบเช่นนี้ เรารู้สึกว่าเจ้าไปจัดการเรื่องในจวนให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า งานในมือเจ้าก็พักไว้ชั่วคราวก่อน มอบให้รองโส่วฝู่ไปจัดการแทนชั่วคราว”
หลิวโส่วฝู่สมองอึงอลไปหมด เป็นนานก่อนจะยืนตรงนิ่งได้ ขอบพระทัยฝ่าบาท “ขอบพระทัยฝ่าบาท กระหม่อมขอกลับไปจัดการเรื่องในครอบครัวก่อน”
การปล่อยมือครั้งนี้ เกรงว่าเขาคงไม่ได้กลับมารับตำแหน่งโส่วฝู่อีกแล้ว ตอนนี้รักษาชีวิตเขาไว้ได้ก็ไม่เลวแล้ว
หลิวโส่วฝู่ก้าวเดินสั่นเทาราวกับแก่ชราลงไปสิบปี เขาเดินโซเซออกจากวัง คนที่เห็นเขาต่างพากันมีสีหน้าตกใจ ใต้เท้าโส่วฝู่เป็นอันใดไปหรือ สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง
หลิวโส่วฝู่กลับถึงจวนตระกูลหลิว รู้ว่าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ถูกเจ้าหน้าที่ศาลจิงจ้าวฝู่นำตัวไปแล้ว ก็กระอักโลหิตออกมาราดรดพื้นทันที
เขาก็ว่าเหตุใดกรมอาญาจึงกล้ารับคำร้องลูกทรพีหลิวจื่อเหยียน ที่แท้เขานำคำร้องส่งไปถึงมือเซี่ยอวิ๋นจิ่นแห่งศาลจิงจ้าว
เบื้องหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือรัชทายาท ย่อมต้องนำคำร้องนี้ส่งถึงมือรัชทายาท ให้รัชทายาทนำขึ้นกราบทูลต่อฝ่าบาท
หลิวโส่วฝู่รู้สึกหน้ามืดก้าวเดินโซเซไปยังศาลจิงจ้าว ตอนได้พบหลิวจื่อเหยียนก็ตวาดว่า “เจ้าลูกทรพี เจ้าคิดฆ่าบิดาหรือ คิดทำร้ายคนตระกูลหลิวทั้งหมดหรือ”
หลิวโส่วฝู่เห็นหลิวจื่อเหยียน ก็ทุ่มเทกำลังทั้งหมดตบหน้าหลิวจื่อเหยียนทีหนึ่ง
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กำลังถูกคุมตัวตัวอยู่ เพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปพบรัชทายาท ตอนนี้ศาลจิงจ้าวไม่มีคนกล้าจัดการอันใดในตอนนี้ ดังนั้นตระกูลหลิวทั้งครอบครัวถูกนำตัวมายังห้องโถงศาลจิงจ้าว
อู่ซูเห็นหลิวจื่อเหยียนโดนตบก็รู้สึกสะใจ ยามนี้นางรู้แล้วว่าลูกเลี้ยงตนเองฟ้องนางว่าสังหารมารดาแท้ๆ ของเขาตาย
อู่ซูไม่กลัว นางเชื่อว่าหลิวโส่วฝู่จะปกป้องนางได้ หากเขาไม่ปกป้องนาง นางก็จะหันมาแว้งกัดเขา บอกว่าเขาบงการให้นางทำเช่นนี้
อู่ซูคิดได้แล้วก็ตะโกนเสียงดังรุนแรงว่า “ตีเขาให้ตาย ตีเจ้าเดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่องนี่ให้ตาย”
หลิวโส่วฝู่ได้ฟังอู่ซูด่าคนก็โมโหเลือดขึ้นหน้า ว่าบุตรชายเขาเป็นเดรัจฉาน แล้วเขาคืออันใด
หลิวโส่วฝู่หันหน้าไปมองอู่ซู แววตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาแค้นใจบุตรชาย แต่ก็แค้นใจอู่ซูเช่นกัน หากอู่ซูดีต่อบุตรชายคนโต เขาจะต้องเกิดเหตุลูกทรพีเช่นนี้หรือ อู่ซูไม่ดีกับเขา คิดสังหารเขาหลายครั้ง ถึงกับทำให้เขาตกทะเลสาบจนสุขภาพย่ำแย่ หลิวโส่วฝู่ทนดูต่อไปไม่ไหว ได้แต่ส่งบุตรชายคนโตไปให้บิดามารดาเลี้ยงดูที่บ้านเกิด
ต่อมาสองผู้เฒ่าพาบุตรชายคนโตลงใต้ เขาคิดว่าชีวิตนี้พวกเขาต่างคนต่างอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกันอีก
แต่คิดไม่ถึงว่าบุตรชายคนโตไม่เพียงแต่รักษาหาย ยังสุขภาพดีขึ้น มีความสามารถสอบกลับเข้าเมืองหลวงได้
ตอนนั้นเขาดีใจมาก แต่เขาคิดไม่ถึงว่าบุตรชายคนโตมาเพื่อแว้งกัดเขา
หลิวโส่วฝู่ครุ่นคิดหันหน้าไปมองหลิวจื่อเหยียนด้วยแววตาราวกับหมาป่าบาดเจ็บ เขามองหลิวจื่อ เหยียน เอ่ยเสียงเข้มว่า “หลิวจื่อเหยียน เจ้าคิดทำร้ายคนตระกูลหลิวทั้งตระกูลใช่หรือไม่ หากไม่ใช่ เจ้ารีบยกเลิกคำร้อง บอกกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่าเพราะเจ้าขัดแย้งกับท่านหญิง ด้วยความโมโหจึงเขียนคำร้องฟ้องนาง เรื่องทั้งหมดเป็นความเท็จ ไม่มีอยู่จริง”
แม้ว่าเช่นนี้หลิวจื่อเหยียนจะประสบเคราะห์แทน แต่มีเขาผู้เป็นบิดาเป็นโส่วฝู่ สุดท้ายเขาก็จะไม่เป็นอันใด วันหน้าเขารู้ความผิดตนเองแล้ว เขาก็ยังคิดหาทางพาเขากลับมาใหม่ได้