ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 746 ความมั่นใจในตนเองกับความรู้สึกต้อยต่ำ
ตอนที่ 746 ความมั่นใจในตนเองกับความรู้สึกต้อยต่ำ
พ่อบ้านตระกูลฉีย่อมรู้จักเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวและยังรู้ว่านางเป็นอาจารย์ของคุณชาย จึงมีท่าทางกระตือรือร้นต้อนรับพวกเขาอย่างดี ผู้ดูแลแขกชายหญิงรีบเข้ามาเชิญเข้าด้านใน
“ใต้เท้าเซี่ย ฮูหยินเซี่ย เชิญ”
แขกชายและหญิงแยกกันอยู่ที่เรือนด้านหน้าและด้านหลัง เซี่ยอวิ๋นจิ่นตามพ่อบ้านชายไปเรือนด้านหน้า ลู่เจียวตามผู้ดูแลหญิงไปเรือนด้านหลัง
ฮูหยินฉีรู้ว่าครั้งนี้ลู่เจียวนับว่าได้ช่วยตระกูลฉีเอาไว้อีกครั้ง ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง คว้ามือลู่เจียวมาแต่เอ่ยอันใดไม่ออก ไม่ว่าวาจาใจใดล้วนไม่พอเอ่ยความรู้สึกในยามนี้ สุดท้ายนางได้แต่กล่าวเพียงว่า “เชิญเข้าไปนั่งด้านใน ครั้งนี้เหล่ยเอ๋อร์แต่งงานต้องให้ภรรยาเขามาโขกศีรษะคารวะท่านด้วยความเคารพยิ่ง”
ฉีเหล่ยมีวิชาการแพทย์เก่งกาจเช่นตอนนี้ได้ ล้วนเพราะอาจารย์ท่านนี้ทุ่มเทสอนสั่ง ในฐานะมารดาย่อมต้องซาบซึ้งใจ ยิ่งไปกว่านั้น ลู่เจียวได้ช่วยตระกูลฉีเอาไว้อีกด้วย
ลู่เจียวพอได้ฟังก็รู้สึกปวดหัว นางไม่คิดเอ่ยอ้างเรื่องธรรมเนียมมารยาทพวกนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าฮูหยินฉีไม่คิดเช่นนี้
ในห้องโถงเรือนด้านหลัง ฮูหยินทุกคนเห็นภาพนี้ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ เพราะพวกนางได้ยินใต้เท้าตนเล่าว่าลู่เจียวรักษาพระอาการปวดเศียรให้ฝ่าบาท ตอนนี้ลู่เจียวเดินเข้ามาอย่างปลอดภัย แสดงให้เห็นว่าพระอาการฝ่าบาทไม่เป็นอันใดแล้ว อาการที่แม้แต่หมอหลวงนางยังรักษาได้ เห็นได้ชัดว่าวิชาการแพทย์นางร้ายกาจเพียงใด
ฉีเหล่ยตระกูลฉีเรียนการแพทย์กับนางก็เป็นเรื่องปกติ
ฮูหยินไม่น้อยคิดสานสัมพันธ์ คนผู้นี้วันหน้าไม่อาจล่วงเกิน นับประสาอันใดกับนางจะเปิดร้านเสริมความงาม พวกนางก็ควรจะสนิทสนมกันสักหน่อย
แต่ละคนยกมือทักทายลู่เจียวด้วยน้ำเสียงสนิทสนมยิ่ง เช่นนี้ก็ให้บังเกิดภาพดังดาวล้อมเดือน
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนในที่นั้นต่างชื่นชมลู่เจียว
คนจวนเฉิงเต๋อโหวรู้สึกไม่ค่อยพอใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เจียวรักษาหลินหรูเยว่จวนเฉิงเต๋อโหวจนหาย แต่ต่อมาพวกเขาก็วางอุบายหลินหรูเยว่ ทำให้นางต้องแต่งเข้าจวนอ๋องฉิน ปรากฏบุตรสาวแต่งเข้าจวนอ๋องฉินแล้วมีชีวิตไม่ดีอย่างมาก นางไร้ชีวิตชีวาและยังผ่ายผอมจนเป็นเช่นนี้
ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวย่อมโทษเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว
ข้างกายฮูหยินเฉิงเต๋อโหวยังมีฮูหยินซื่อจื่อกับหลินจิงหลานสาวติดตามมาด้วย ฮูหยินซื่อจื่อยังดี แต่หลินจิงไม่ชอบลู่เจียวอย่างเห็นได้ชัด ต่างมองลู่เจียวด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเช่นเดียวกับฮูหยินเฉิงเต๋อโหว
แม้ว่าแขกทั้งจวนล้วนทักทายเป็นมิตร แต่พระชายาจวนเฉิงเต๋อโหวและหลานสาวกลับมองลู่เจียวด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ลู่เจียวรู้สึกได้จึงหันไปมองทันที ก็เห็นฮูหยินเฉิงเต๋อโหวกำลังจ้องมองนางอย่างไม่เป็นมิตร ข้างกายนางยังมีเด็กสาวหน้าตางดงามประณีตกำลังส่งสายตามองนางอย่างไม่พอใจเช่นกัน
ลู่เจียวเห็นเด็กสาวผู้นี้แล้วก็อดหรี่ตาลงคิดไม่ได้ หากไม่เหนือความคาดหมายหญิงสาวผู้นี้ก็คือหลิน จิงนางเอกในนิยาย
ในนิยาย หลินจิงก็มาเกิดใหม่ ก่อนเกิดใหม่เคยมีชีวิตที่ไม่สมหวัง หลังเกิดใหม่จึงไร้จิตใจไร้ความรัก ไม่เชื่อในความรักอีก คิดหาทางแต่งกับเซียวเจินพระนัดดาฮ่องเต้ พยายามส่งเสริมให้เซียวเจินขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ ต่อมาเซียวเจินก็ได้เป็นฮ่องเต้ และยังให้ความเคารพนางผู้เป็นฮองเฮาอย่างมาก
ตอนนี้หญิงผู้นี้มาเกิดใหม่แล้วหรือ ลู่เจียวครุ่นคิด แล้วก็ประเมินมองหลินจิงอย่างละเอียด พอมองประเมินไปก็พบว่าหลินจิงหน้าตาไม่ได้โดดเด่นอันใด นางหน้าตาคล้ายกับหลินหรูเยว่ผู้เป็นอาหญิงของนางอยู่บ้าง เพียงแต่ดูแล้วอ่อนโยนกว่า แต่หลังจากนางบรรจงแต่งหน้าแต่งตัวก็ทำให้ดูแล้วงามประณีตขึ้นมาก
ความสามารถนี้ไม่อาจเป็นความสามารถของหญิงสาวอายุแค่สิบกว่าปีจะทำได้ ดังนั้นหลินจิงตอนนี้มาเกิดใหม่แล้วหรือ
แม้ลู่เจียวรู้ว่าหลินจิงมาเกิดใหม่ แต่ก็ไม่เป็นห่วงแม้สักนิด เรื่องราวในนิยายผิดเพี้ยนไปจากเดิมหมดแล้ว ดังนั้นหลินจิงจึงไม่ใช่นางเอก ส่วนนางกับพระเอกจะเกิดเรื่องอันใดก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกนาง
ยามนี้หลินจิงจ้องมองนางอย่างไม่พอใจ น่าจะรู้ว่าอาหญิงตนเองเดิมจะได้แต่งกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ปรากฏว่าไม่ได้แต่ง จึงเกิดความคับแค้นใจ
หลินจิงมาเกิดใหม่ ย่อมต้องรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือโส่วฝู่แคว้นต้าโจว หากอาหญิงนางได้แต่งกับเซี่ยโส่วฝู่สำเร็จ วันหน้าก็จะได้ช่วยพระนัดดาอีกแรง ส่งเขาขึ้นสู่บัลลังก์ ตอนนี้คนผู้นี้กลับถูกลู่เจียวขโมยไปแล้ว หลิน จิงย่อมโมโห แต่ลู่เจียวไม่ได้สนใจนาง หันไปคุยกับคนข้างกาย
ฮูหยินซิ่งอันโหวกับฮูหยินขุนพลหวังดึงนางมานั่งคุยข้างกาย ประเด็นหลักก็ถามลู่เจียวเรื่องเข้าวัง ถามถึงพระอาการปวดพระเศียรของฝ่าบาทว่าหายดีแล้วหรือยัง
คนรอบๆ พาากันเข้ามารุมล้อมฟัง สุดท้ายก็กลายเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง
ลู่เจียวเล่าเรื่องในวังคร่าวๆ รอบหนึ่ง แต่ละคนฟังกันอย่างตื่นเต้น
ขณะทุกคนกำลังคุยกันอย่างครึกครื้น ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก็เดินนำเข้ามา ฮูหยินฉีรีบเข้าไปทักทาย
ครั้งนี้ภรรยาที่ฉีเหล่ยแต่งก็คือคนที่ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เป็นแม่สื่อ ดังนั้นวันนี้นางผู้เป็นแม่สื่อย่อมต้องมา
ด้านหลังท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ มีเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนและจู้เป่าจู ถัดจากพวกนางก็ยังมีบุตรสาวตนเอง ทั้งกลุ่มล้วนสวมชุดแพรไหมปักหรูหรา ปักปิ่นเครื่องประดับหยกและไข่มุกงาม ยามเดินก็ส่งเสียงเสนาะหู มากันอย่างอลังการยิ่งใหญ่ยากบรรยาย
ในห้องโถงทุกคนลุกขึ้นไปต้อนรับ และรีบเอ่ยทักทาย “ท่านหญิงมาแล้ว”
“อืม”
วันนี้ตระกูลฉีจัดงานแต่งงาน ไม่มีเชื้อพระวงศ์ปปรากฏตัวร่วมงาน บิดาฉีเหล่ยเพิ่งจะถูกฝ่าบาทสั่งโบย ยามนี้พวกเขาจะมาได้อย่างไร อีกอย่างแม้ตระกูลฉีเป็นตระกูลหมอหลวง แต่ก็ไม่ให้ความช่วยเหลือเชื้อพระวงศ์ใด ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาร่วมงาน คนที่ตำแหน่งสูงสุดตอนนี้ก็คือท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่
ฮูหยินฉีนำคนออกมาคำนับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่อย่างนอบน้อม ท่านหญิงรั้งฮูหยินฉีลุกขึ้น เงยหน้าเห็นลู่เจียวด้านหลัง
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่อดยิ้มสัพยอกไม่ได้ว่า “เจ้าก็มาเร็วจริง เหตุใดไม่มาพร้อมกับพวกเรา”
ลู่เจียวยิ้มเข้าไปประคองแขนท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ กล่าวว่า “หม่อมฉันเพิ่งจะออกมาจากในวัง คิดได้ว่าฉีเหล่ยแต่งงาน ยังไม่ได้กลับบ้าน ก็รีบมาที่นี่ก่อน ท่านแม่บุญธรรมอย่าได้ตำหนิ”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ยิ้มกล่าวว่า “ตำหนิอันใด ข้าก็แค่หยอกเจ้าเล่น”
ทั้งสองคนพูดไปยิ้มไป พลางเดินเข้าไปด้านใน ด้านหลังมีรุ่นเยาว์ตามมาหลายคน ลู่เจียวมองไปก็ พบว่าหูหลิงเสวี่ยกับเหวินเมี่ยวสองคนที่ดูไม่สง่างามสักเท่าไร แม้หูหลิงเสวี่ยมีมารดาเป็นเซียงจวิน แต่บิดาตำแหน่งเล็ก ดังนั้นหลายครั้งนางมักจะรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย เหวินเมี่ยวเองก็ใช่ เดิมนางชื่อเจิ้งเมี่ยว ติดตามมารดาที่แต่งเข้าตระกูลเหวิน แม้ว่าบิดาเลี้ยงตำแหน่งรองเจ้ากรมตรวจการระดับสาม แต่อย่างไรก็ไม่อาจเอ่ยว่าเป็นบุตรีได้เต็มปากเต็มคำ จึงแสดงออกมาทางกิริยาท่าทาง
มองไปด้านหลังพวกนางสองคน จ้าวอวี้หลัวเดิมก็งดงามมาก ยามนี้ยังมั่นใจและเปิดเผย เปล่งรัศมีเจิดจ้างดงามดึงดูดสายตา
ลู่เจียวมองแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้กล่าวอันใดมา ยื่นมือไปดึงหูหลิงเสวี่ยให้ตามนางไป ทุกคนเดินเข้าไปด้านใน
หูหลิงเสวี่ยถูกลู่เจียวดึงมาก็ดีใจอย่างมาก ในใจรู้สึกนิ่งสงบลงมาก แลดูงามสง่าขึ้นมาไม่น้อย