ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 749 ความคิดชั่ว
ตอนที่ 749 ความคิดชั่ว
ลู่เจียวได้ฟังราชโองการก็อึ้งไปทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนาง ไม่ได้ฟังผิดกระมัง นางได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงแห่งแคว้นต้าโจว แม้ว่าตำแหน่งเพียงแค่ขุนนางระดับเจ็ด แต่ประการแรก ในประวัติศาสตร์แคว้นต้าโจวไม่มีสตรีรับตำแหน่งขุนนาง ประการที่สอง ขุนนางระดับเจ็ดดูแล้วตำแหน่งไม่ใหญ่โต แต่ก็เทียบได้กับนายอำเภอ นายอำเภอต้องผ่านการสอบเคอจวี่หลายปี จึงจะเป็นได้ แต่ตอนนี้นางได้ตำแหน่งขุนนางระดับเจ็ด?
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มมองนางกล่าวว่า “ยังมัวตกตะลึงอันใด รีบรับราชโองการเร็ว”
ลู่เจียวรีบรับคำ โขกศีรษะขอบพระทัย ก้าวเข้าไปรับราชโองการ
กงกงที่ประกาศราชโองการแสดงความยินดี “ยินดีกับใต้เท้าลู่ ใต้เท้าลู่วันหน้าก็คือเจ้ากรมสำนักยาหลวงแห่งแคว้นต้าโจวแล้ว ขอใต้เท้าลู่โปรดทุ่มเทเพื่อราชสำนัก”
“ขอกงกงกราบทูลฝ่าบาท หม่อมฉันจะไม่ทำให้ทรงผิดหวัง”
“ดี ดี”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสั่งการพ่อบ้านเซียวไปส่งกงกง พ่อบ้านเซียวย่อมไม่ลืมมอบของขวัญแก่กงกง
พอกงกงไปแล้ว ทุกคนในตระกูลเซี่ยต่างดีใจรุมล้อมลู่เจียว
ลูกๆ ห้าคนมีสีหน้าภาคภูมิใจ มารดาพวกเขาถึงกับเป็นขุนนางหญิงคนแรกของแคว้นต้าโจว ท่านแม่ ร้ายกาจมากจริงๆ
ต้าเป่านำแสดงความยินดีก่อน “ขอแสดงความยินดีกับท่านแม่ที่ได้สมดังหวัง ได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงแห่งแคว้นต้าโจว”
เขารู้มารดาตนแต่ไรมาก็มีตั้งความหวังนี้มาตลอด ต้องการตั้งสำนักยาหลวงแคว้นต้าโจว หากตั้งได้มารดาก็จะทำงานได้อีกมากมาย
ต้าเป่ากล่าวจบ ซานเป่ารีบกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านแม่ร้ายกาจมาก ท่านแม่ข้าเก่งกาจกว่าท่านแม่ผู้ใด”
ซื่อเป่ายิ้มภาคภูมิใจ กล่าวว่า “ก็ไม่ดูเสียงบ้างว่าเป็นท่านแม่ผู้ใด นางเป็นท่านแม่พวกเรานะ”
อู่เป่าจ้องมองมารดาตนเองไม่กระพริบ ท่านแม่เป็นสตรี ถึงกับดำรงตำแหน่งขุนนางได้ พวกเขาเป็นบุตรชายย่อมต้องไม่ทำให้นางเสียหน้า
ดังนั้นวันหน้าเขาจะต้องยิ่งพยายามเรียนหนังสือ จะต้องนำตำแหน่งจ้วงหยวนกลับมาให้ท่านแม่ แม้ว่าพี่ใหญ่เองก็อาจสอบจ้วงหยวนได้ แต่เขาก็คือเขา ตนเองก็คือตนเอง
เซี่ยหลิงหลงน้อยเห็นมารดาตนถึงกับได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงแคว้นต้าโจว ในใจก็รู้สึกตื้นตัน ทุกคนในครอบครัวนางล้วนมีความสามารถ ดูท่ามีนางที่ธรรมดาที่สุด นางไม่อาจเป็นตัวถ่วงของทุกคนได้ นางจะต้องพยายามแล้ว
ตระกูลเซี่ยทั้งครอบครัวต่างดีใจมาก ลู่เจียวเองก็ย่อมดีใจ ความจริงนางไม่ได้ดีใจที่ตนเองได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงแห่งแคว้นต้าโจว แต่นางดีใจที่ตนเองดำรงตำแหน่งนี้แล้วก็จะได้ทำตามที่ตนเองตั้งใจไว้ได้
ลู่เจียวกอดลูกๆ ทีละคน ถือโอกาสให้กำลังใจลูกๆ ว่า “ลูกแม่ทุกคน พวกเจ้าเองก็ต้องพยายาม พวกเจ้าดูครอบครัวเรา ท่านพ่อเจ้าอาศัยความสามารถตนเองดำรงตำแหน่งขุนนางระดับสี่ แม่เป็นสตรี ก็เป็นเจ้ากรมระดับเจ็ด พวกเจ้าไม่พยายามจะได้หรือ”
สามแฝดกับสองแฝดชายหญิงต่างรับคำพร้อมเพรียง “ท่านแม่วางใจ พวกเราจะพยายาม มีท่านพ่อกับท่านแม่เป็นแบบอย่าง จะมุ่งมั่นเป็นคนที่เก่งกาจ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้า บางครั้งการมีบิดามารดาเป็นแบบอย่างนั้นดีที่สุด
ทั้งครอบครัวดีใจมาก นำราชโองการไปขึ้นแท่นบูชา
ข่าวลู่เจียวได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงระดับเจ็ดแพร่ออกไปราวกับลมพัดกระพือ คนในเมืองหลวงต่างได้รู้ว่าแคว้นต้าโจวมีขุนนางหญิง แม้ว่าเป็นแค่ขุนนางระดับเจ็ด แต่ก็เป็นขุนนางหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์แคว้นต้าโจว ดังนั้นจึงเป็นที่จับตาดูอย่างมาก คนตามท้องถนนและตามตรอกซอกซอยต่างกำลังคุยเรื่องนี้
มีคนรู้สึกว่าเรื่องนี้ดีมาก ได้ยินว่าฮูหยินเซี่ยวิชาการแพทย์ร้ายกาจมาก รักษาหายไปหลายคน นางได้เป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงแคว้นต้าโจวเป็นเรื่องที่ดีมาก
แต่กลุ่มหนึ่งที่หัวโบราณคร่ำครึ พวกเขาย่อมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีสตรีเป็นขุนนาง จึงร่วมกันหารือจะยื่นฎีกายับยั้งเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท
“ไม่เหมาะๆ ประวัติศาสตร์แคว้นต้าโจวไม่มีสตรีดำรงตำแหน่งขุนนาง นี่มันแม่ไก่ขันแทนพ่อไก่หรือ แผ่นดินใกล้วุ่นวายแล้ว”
“ใช่ แคว้นต้าโจวไม่ขาดแคลนหมอเก่งกาจ เหตุใดต้องให้สตรีดำรงตำแหน่งขุนนางอันใด พวกเราควรทูลยับยั้งเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท”
“ใช่ พวกเราร่วมลงชื่อกราบทูลฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทเรียกคืนราชโองการ นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน”
หลายคนกำลังหารือกันอยู่ ที่ประตูก็มีเสียงดังโครม มีคนถีบประตูกรูเข้ามากันหลายคน คนที่นำมาเป็นสตรีท่าทางองอาจ สีหน้านางไม่พอใจอย่างมาก มองบรรดาตาแก่คร่ำครึในห้องรับรองแล้วก็แค่นยิ้มกล่าวว่า “พวกเจ้าวางแผนทูลฝ่าบาทให้ยกเลิกตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงของฮูหยินเซี่ยหรือ”
เถียนฮวนกล่าวจบก็ไม่รอให้พวกตาแก่กล่าวอันใด เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “พวกตาแก่คร่ำครึ พวกเจ้ามีความสามารถเช่นนนี้ เหตุใดไม่ไปรักษาพระอาการปวดพระเศียรให้ฝ่าบาทตอนที่ทรงมีอาการกำเริบเล่า พวกเจ้ามีความสามารถเช่นนี้ เหตุใดไม่ไปช่วยรักษาให้ราษฎรแคว้นต้าโจว ให้ราษฎรพ้นจากทุกข์แห่งความเจ็บป่วยเล่า”
“เห็นอยู่ว่าฮูหยินเซี่ยทำเพื่อราษฎรแคว้นต้าโจวจึงได้ก่อตั้งสำนักยาหลวง จะได้อำนวยความสะดวกให้ราษฎร พวกเจ้าช่างไร้ยางอาย ถึงกับกล้ามาวิจารณ์นางเสียหาย เห็นว่านางรังแกง่ายหรือ”
“ฝ่าบาทมีราชโองการออกไปแล้ว ข้าอยากดูว่าพวกเจ้าถือสิทธิ์อันใดให้ฝ่าบาทยกเลิกตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงของฮูหยินเซี่ย”
“เจ้าพวกคิดว่าตนเองเก่งกาจ แต่ไม่เคยสร้างคุณูปการอันใดแม้สักนิด พอเอ่ยถึงสตรีเป็นขุนนางก็เดือดร้อนกันขึ้นมา”
“พวกเจ้าสู้สตรีคนหนึ่งยังไม่ได้ สตรีอย่างไรก็ได้สร้างคุณูปการให้กับแคว้นต้าโจวมากมาย คิดเพื่อประโยชน์สุขของราษฎรทุกเรื่อง แล้วพวกเจ้าเล่า มาร่วมหัวกันอยู่ที่นี่ คิดแต่อาศัยเรื่องของฮูหยินเซี่ยให้ฝ่าบาทรับรู้การมีอยู่ของพวกเจ้า ถุย เจ้าพวกไร้ยางอาย”
เถียนฮวนด่าจบ ไม่สนใจบรรดาตาแก่ในห้องรับรอง หันหลังพาคนเดินจากไปทันที
บรรดาตาแก่คร่ำครึที่โดนด่าสีหน้าแดงก่ำ พูดไม่ออกอยู่เป็นนาน ความจริงพวกเขาถูกเถียนฮวนพูดแทงใจดำพอดี พวกเขาไม่ได้รับความสำคัญ คิดว่าตนเองเป็นผู้ศึกษาความรู้ในลัทธิขงจื๊อทรงภูมิความรู้สูงส่ง คิดอาศัยเรื่องลู่เจียวทำให้ฝ่าบาทได้ทอดพระเนตรเห็นตนเองบ้าง ไม่แน่ว่าอาจได้รับความไว้วางพระทัยจากฝ่าบาท ตอนนี้ถูกเถียนฮวนด่า ผู้ใดก็พูดไม่ออก แต่ละคนต่างมีสีหน้าละอายใจ
สตรีผู้หนึ่งมองทะลุความในใจพวกเขา หากพวกเขาไปทูลต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ ฝ่าบาทจะทรงมองไม่ออกหรือ อย่าได้ทำไปแล้วโดนตัดหัวแทนจะดีกว่า
ตอนบ่าย พวกเถียนฮวนมาแสดงความยินดีกับลู่เจียวที่ตระกูลเซี่ย
เถียนฮวนหยิบยกเรื่องนี้มาคุยด้วย นางเล่าอย่างเดือดดาลว่า
“ข้าด่าพวกเขาไปอย่างรุนแรงมากๆ ผู้ใดไม่รู้แผนการพวกเขา ก็แค่อยากให้ฝ่าบาทเห็นความสำคัญ คิดอาศัยเรื่องนี้ให้ฝ่าบาทได้เหลียวมองตนเองบ้าง คู่ควรหรือ”
เนี่ยอวี้เหยาเอ่ยว่า “ไปสนใจพวกเขาทำไมกัน ไม่ต้องไปสนใจ มีขุนนางไม่น้อยคัดค้านตอนประชุมท้องพระโรงเช้านี้แล้ว แต่ทรงไม่สนใจพระทัย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงตาแก่พวกนี้ พวกเจ้าไม่รู้ ความจริงฝ่าบาทเดิมคิดพระราชทานเจ้ากรมตำแหน่งขุนนางระดับหกให้เจียวเจียว”
“เพราะแคว้นต้าโจวไม่มีตำแหน่งนี้มาก่อน ฝ่าบาทไม่มีต้นแบบ ดังนั้นจึงคิดให้เจียวเจียวเป็นเจ้ากรมตำแหน่งขุนนางระดับหก แต่บรรดาขุนนางคัดค้านเรื่องนี้ เพราะมีแต่ผู้ที่สอบได้สามอันดับแรกเท่านั้นจึงจะได้ดำรงตำแหน่งขุนนางระดับหก หากสตรีที่อาศัยวิชาการแพทย์ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งระดับหก ขุนนางราชสำนักต่างคิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมต่อเหล่าบัณฑิต”
“สุดท้ายฝ่าบาทก็ไม่รู้จะทำเยี่ยงไร ได้แต่พระราชทานเจ้ากรมตำแหน่งขุนนางระดับเจ็ดให้เจียวเจียว”
พวกเถียนฮวนไม่คิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้ ก็อดตกใจไม่ได้ “เจียวเจียวเกือบได้เป็นเจ้ากรมตำแหน่งขุนนางระดับหกแล้ว เจ้าพวกขุนนางราชสำนักพวกนั้นช่างน่ารังเกียจจริง”