ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 751 เล่าประวัติศาสตร์
ตอนที่ 751 เล่าประวัติศาสตร์
ฉีเหล่ยได้ฟังลู่เจียวอบรม ก็รู้ว่าตระกูลเซี่ยมีธรรมเนียมเช่นเดียวกัน อาจารย์เห็นเขาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
ฉีเหล่ยรีบรับรองกล่าวว่า “อาจารย์ ท่านวางใจ ข้าทำได้”
แม้ว่าฉีเหล่ยกับลู่เจียวอายุใกล้กัน แต่ผ่านมาหลายปี ลู่เจียวได้กลายเป็นผู้อาวุโสของฉีเหล่ยไปแล้วพูดจาสั่งสอนเขาด้วยท่าทีดังผู้อาวุโส
“อีกเรื่องที่ข้าต้องบอกเจ้า ความจริงข้าไม่ได้สนใจตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงเท่าไร ข้าเพียงแค่คิดตั้งสำนักยาหลวงแห่งแคว้นต้าโจว ดังนั้นข้าดำรงตำแหน่งเจ้ากรมนี้ไปก่อน รอให้สำนักยาหลวงตั้งเสร็จ ข้าก็จะทูลฝ่าบาทให้เจ้ามารับตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงต่อ”
ฉีเหล่ยตกใจ รีบปฏิเสธ “อาจารย์ ท่านเป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวงเองจึงจะเหมาะสมที่สุด”
ลู่เจียวขมวดคิ้วทันที “เจ้าคิดว่าอาจารย์เจ้าเป็นคนชอบเป็นขุนนางหรือ”
ฉีเหล่ยเบื้อใบ้ก่อนจะหลุดหัวเราะขึ้น ลู่เจียวโบกมือกล่าวว่า “เอาละ เรื่องวันหน้าค่อยว่ากัน อีกอย่าง กรมคลังได้ประกาศรับผู้มีความรู้เรื่องการแพทย์แล้ว ไว้เจ้ากับข้าร่วมกันสอบคนเข้าประจำสำนักยาหลวง นี่คือการรับคนรอบแรก จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาการแพทย์ วันหน้ารับเพิ่มค่อยรองลงมาสักหน่อยได้”
“ขอรับอาจารย์”
คนที่มีความรู้เรื่องการแพทย์ เข้ามาประจำสำนักยาหลวงจะไม่ได้ตำแหน่งขุนนางอันใด เป็นเพียงบุคคลที่มีรายชื่อในสำนักยาหลวง นับแค่ว่าเป็นคนของทางการ สานสัมพันธ์กับทางการได้ เรื่องนี้สำหรับชาวบ้านยากจนแล้วนับว่าเป็นเส้นทางสายหนึ่ง
ดังนั้นพอประกาศจากกรมคลังออกไป ก็มีคนไม่น้อยมาสมัคร
ซานเป่าเองก็มาด้วย
ในจำนวนนี้มีคนไม่น้อยไม่รู้จักซานเป่า เห็นเขาอายุน้อยๆ มาอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ก็แปลกใจถามว่า “คุณชายน้อย เจ้ามาทำอันใดที่นี่หรือ”
ซานเป่ายิ้มตาหยีกล่าวว่า “มาสมัครสอบเข้าสำนักยาหลวง”
ชายชราอายุมากพลันขมวดคิ้วทันที “เด็กน้อยมาจากที่ไหนกัน ซุกซนจริง รีบไปๆ”
ซานเป่ามองเขาพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนว่า “ท่านปู่ ไม่แน่ว่าข้าอาจสอบได้ ท่านสอบไม่ได้นะ”
กล่าวจบก็วิ่งออกไปไกลอีกหน่อย ไม่เข้าใกล้ชายชราอีก
ชายชราสีหน้าพลันย่ำแย่ ใบหน้าบึ้งตึงบ่นไม่หยุด เด็กไร้การอบรม น่าเสียดายไม่มีผู้ใดสนใจเขา
ซานเป่าแอบหลบเข้าไปในสำนักยาหลวงหามารดาตน ด้านหลังเขามีซื่อเป่าตามมาด้วย
ตอนทั้งสองคนหาลู่เจียวพบ ลู่เจียวเพิ่งออกข้อสอบเสร็จ กำลังตรวจทานอยู่ พอเห็นบุตรชายมากัน นางก็หยิบข้อสอบส่งให้ฉีเหล่ยกล่าวว่า “เจ้าเอาไปทำข้อสอบ มีคนเท่าไรก็ทำเท่านั้น คัดออกสักหน่อยค่อยว่ากัน”
จากนี้ยังต้องสอบอีกสองรอบสามรอบ สำนักยาหลวงไม่ใช่สถานที่ที่ผู้ใดก็จะเข้ามาได้
ลู่เจียวจัดการเสร็จ ฉีเหล่ยรับไปทำต่อแล้ว นางก็หันไปพาซานเป่ากับซื่อเป่าไปห้องด้านข้าง
“ซื่อเป่ามาได้อย่างไร”
ซื่อเป่ามองลู่เจียวกล่าวว่า “ท่านแม่ ซานเป่าจะมาสอบสำนักยาหลวง ไม่ไปเรียนหนังสือแล้ว ข้าเองก็ไม่อยากเรียนแล้ว ข้าอยากทำการค้า หากไม่เริ่มตอนนี้ เมื่อใดจึงจะประสบความสำเร็จ ได้เป็นคหบดีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจวกัน”
ลู่เจียวมองไปยังซานเป่ากล่าวว่า “เจ้าออกไปรอสอบ ศิษย์พี่เจ้าจะเป็นประธานการสอบในวันนี้”
“ขอรับ ท่านแม่ ข้าออกไปก่อน”
ซานเป่าวิ่งออกไปอย่างเบิกบานใจ ซื่อเป่ามองเขาวิ่งออกไปอย่างอิจฉา เขาหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าไม่เรียนแล้วได้หรือไม่”
ลู่เจียวมองไปยังซื่อเป่า คิดถึงว่าอีกสองปี ซื่อเป่าก็จะต้องกลับไปที่จวนรัชทายาท
จวนรัชทายาทอันตรายรอบด้าน คลื่นใต้น้ำโหมกระหน่ำ หากเขาเรียนไม่มากพอ ความสามารถไม่พอ จะรับมือได้อย่างไร อีกอย่างรัชทายาทก็คือฮ่องเต้ในวันหน้า วันหน้าซื่อเป่าเกรงว่าไม่อาจขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ได้ เช่นนั้นก็จะเป็นอ๋อง หากได้ขึ้นสูงตำแหน่ง ก็จะเป็นฮ่องเต้ พ่อค้าย่อมเทียบไม่ได้ เขาจะเป็นผู้ปกครองแห่งแคว้นต้าโจว
ลู่เจียวคิดไปพลางมองซื่อเป่า กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ซื่อเป่า แม่รู้ว่าเจ้าไม่อยากเรียนหนังสือ แต่แม่เป็นห่วงเจ้า”
ลู่เจียวพูดเช่นนี้ ซื่อเป่าก็รู้สึกหวานล้ำในใจ จะทำให้มารดาเป็นห่วงเขาไม่ได้
“ท่านแม่ ท่านอย่าได้เป็นห่วงข้า”
“จะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร ซื่อเป่า เป็นคหบดีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าโจวก็เหมือนขึ้นสู่ตำแหน่ง เจ้ารู้ไหมว่าในที่มืดมีคมดาบมากมายเท่าไร อุบายชั่วร้ายซ่อนเร้นเท่าไร พอแม่คิดถึงว่าวันหน้าเจ้าจะถูกคนวางอุบาย แม่ก็ราวกับโดนคมมีดกรีดใจ”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ขมวดคิ้วท่าทางเจ็บปวด
ซื่อเป่าเห็นก็ปวดใจ เขารักลู่เจียวมากจริงๆ
“ท่านแม่ ท่านอย่าได้เป็นห่วง ข้าจะไม่เกิดเรื่องอันใด ข้าคิดแล้ว ข้าเรียนต่อที่สำนักศึกษากับพี่ใหญ่ก็ได้”
“เจ้าคิดได้เช่นนี้แม่ก็ดีใจมาก เราอย่าเพิ่งรีบทำการค้าตอนนี้ ต้องเรียนรู้จากอาจารย์ใหญ่อย่างจริงจังก่อน นำความสามารถทั้งหมดมาเรียนรู้ให้ดี ไว้พวกเราค่อยไปทำการค้า ชีวิตนี้ของเจ้ายังอีกยาวไกล ทำการค้าไม่ต้องรีบร้อน แต่สองปีมานี้เรานำความสามารถไปทุ่มเทกับการเรียนก่อน”
“ใช่แล้ว แม่ตัดสินใจแล้วว่าวันหน้าจะให้เจ้าเรียนเพิ่มอีกสองแขนง”
ซื่อเป่าพอได้ฟังว่าลู่เจียวจะให้เขาเรียนเพิ่ม ก็นึกสนใจขึ้นมาทันที
“ท่านแม่ ท่านต้องการให้ข้าเรียนเพิ่มอีกสองแขนงหรือ”
“อุบายสามสิบหกกับเรื่องราวของประวัติผู้ปกครองปรีชาสามารถ”
อุบายสามสิบหกก็เพื่อให้เขาได้รู้จักความคิดผู้อื่นและอันตรายในจวน เรื่องราวของประวัติผู้ปกครองปรีชาสามารถก็เพื่อให้เขาไว้ป้องกัน วันหน้าซื่อเป่าขึ้นบัลลังก์ได้ก็จะได้เป็นผู้ปกครองที่ทรงธรรมได้มาตรฐาน นางต้องนำเรื่องราวของประวัติผู้ปกครองปรีชาสามารถกับผู้ปกครองทำลายแผ่นดินมาเล่าให้ซื่อเป่าฟัง
ซื่อเป่าเข้าใจที่ลู่เจียวจะสอนเขาเรื่องอุบายสามสิบหก แต่ไม่เข้าใจว่าลู่เจียวจะเล่าเรื่องผู้ปกครองปรีชาให้เขาฟังทำไมกัน
“ท่านแม่อยู่ดีๆ จะมาเล่าเรื่องราวของประวัติผู้ปกครองปรีชาสามารถให้ข้าฟังทำไมกัน”
“แม่ไม่มีประวัติคหบดีแคว้นต้าโจว แต่คิดดูแล้วคหบดีแคว้นต้าโจวก็คงเหมือนๆ กันไม่ใช่หรือ แม่เลยจะเล่าเรื่องนี้ เพื่อให้เจ้าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งที่มีไหวพริบ อย่าได้ถึงตอนนั้นกลายเป็นคหบดีแคว้นต้าโจวที่ลอยไปมา ถึงตอนนั้นถูกคนหลอกเอาสมบัติไปหมด กว่าเจ้าจะสร้างตนขึ้นมาได้ก็ไม่ง่าย แม่ย่อมต้องคิดหาทางให้เจ้ารักษาเอาไว้ให้ได้”
พอลู่เจียวกล่าว ซื่อเป่าก็หวานล้ำในใจ มารดาคิดเพื่อเขาอย่างแท้จริง
เขาดีใจจนเรียวตาดอกท้อหยียิ้มขึ้นมา หางตายกขึ้นเล็กน้อย มองดูแล้วงามกระจ่างยากบรรยาย
“ท่านแม่ ท่านแม่ดีกับข้าจริงๆ ข้าจะเชื่อฟังท่านแม่”
“ได้ วันหน้าเจ้าปิดเรียนกลับมา แม่ก็จะสอนสองวิชานี้ให้เจ้า”
“ขอรับท่านแม่ ข้าไปเรียนที่สำนักศึกษาแล้ว”
“ดี เรียนให้ดีๆ ซื่อเป่า คหบดีแคว้นต้าโจวไม่ได้เป็นกันง่ายๆ”
“ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว”
เขากล่าวจบก็วิ่งเข้าไปกอดลู่เจียวทีหนึ่ง จากนั้นก็กระซิบข้างใบหูนางเบาๆ ว่า “ข้ารู้ว่าท่านแม่รักข้าที่สุด”
กล่าวจบก็เบิกบานใจ วิ่งยิ้มออกไป ลืมวัตถุประสงค์ที่มาในวันนี้ไปหมดสิ้น
ซานเป่าไปรอสอบอยู่หน้าประตูสำนักยาหลวง เห็นน้องสี่ตนเองยิ้มราวกับคนโง่งม ก็เลิกคิ้วแปลกใจ ดูท่าน้องสี่ถูกท่านแม่ล่อหลอกอีกแล้ว ความจริงในครอบครัวพวกเขา คนที่ถูกท่านแม่ล่อหลอกง่ายสุดก็คือซื่อเป่ากับอู่เป่าน้อย
แต่ท่านแม่ก็ล้วนหวังดีต่อพวกเขา
ซานเป่าเองก็ยิ้มขึ้นมา คิดถึงว่าอีกไม่นานตนเองก็จะได้เข้าสู่สำนักยาหลวงแล้ว แววตาก็เปล่งประกายวาววับ
การสอบเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ซานเป่าผ่านรอบแรกไปได้ดังหวัง ชายชราที่หัวเราะเยาะซานเป่าก่อนหน้านี้สอบไม่ได้ แต่ชายชราได้รู้ข่าวจากคนรอบข้างว่าการสอบก่อนหน้านี้เป็นรอบแรก หนุ่มน้อยอายุไม่มากนักก็คือบุตรชายเจ้ากรมสำนักยาหลวง เขาอายุเพียงแค่นี้จะสอบผ่านรอบแรกได้อย่างไร เห็นชัดว่าเจ้ากรมแอบเปิดทาง ไม่ยุติธรรม ชายชราตะโกนดังขึ้น
“ไม่ยุติธรรม มีคนแอบเปิดทาง”