ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 752 ประลอง
ตอนที่ 752 ประลอง
เสียงตะโกนเอะอะดังด้านนอกทำให้ลู่เจียวกับฉีเหล่ยต่างตกใจ ทั้งสองคนพาเดินออกมาดู
เห็นหน้าประตูสำนักยาหลวงมีชายชราหนวดเคราขาว กำลังยืนตะโกนว่าไม่ยุติธรรมอย่างเดือดดาล
“เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มอายุน้อย จะสอบผ่านรอบแรกไปได้อย่างไร ไม่ใช่เพราะเขาเป็นบุตรชายเจ้ากรมหรือ ไม่ยุติธรรมกับพวกเราที่เดินทางมาทดสอบ”
ลู่เจียวออกมาได้ยินคำพูดชายชราพอดี สีหน้าก็เย็นเยียบ พอได้ฟังก็ฟังออกว่าชายชรามุ่งหมายถึงผู้ใด ไม่ใช่บุตรชายของนางหรือ
ซานเป่าเองก็ย่อมได้ยินว่าคำพูดชายชราหมายถึงตนเอง สีหน้าก็เย็นเยียบทันที เขาก้าวออกมามองชายชรากล่าวว่า “ท่านหมายถึงข้าหรือ”
ชายชราไม่เกรงกลัว เสียงดังกล่าวว่า “มิผิด ข้าว่าเจ้า หรือว่าเจ้ากรมไม่ใช่มารดาเจ้า”
ซานเป่ายิ้มด้วยท่าทีไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ถูกต้อง เจ้ากรมก็คือมารดาข้าเอง หรือว่าเพราะนางเป็นมารดาข้า ข้าก็ไม่มีความสามารถแท้จริง ทำไมข้าไม่อาจเรียนรู้การแพทย์กับมารดาข้าจนเก่งเช่นนี้ได้”
ชายชราหัวเราะเยาะใส่ มองไปรอบด้านกล่าวกับทุกคนว่า “พวกเจ้าฟังดู ฟังวาจาเขา เขาติดตามมารดาเขาเรียนการแพทย์ เขาอายุเท่าไร ยังรู้จักตัวอักษรไม่ครบ ถึงกับติดตามมารดาเรียนวิชาแพทย์ ยังผ่านการสอบรอบแรกด้วย”
ลู่เจียวทนฟังต่อไปไม่ไหว เดินออกมากล่าวกับชายชราอย่างไม่พอใจ “ท่านผู้เฒ่า ข้าเคารพท่านที่อายุมาก ดังนั้นจึงไม่ขอกล่าววาจายากรับฟัง ตนเองไร้ความสามารถ หรือว่าไม่ยอมให้ผู้อื่นเป็นเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์ ท่านควรรู้ว่าบุตรชายข้าอายุสิบสาม ก็สอบซิ่วไฉได้แล้ว พวกท่านในที่นี่มีผู้ใดสอบซิ่วไฉได้บ้าง”
ลู่เจียวกล่าวจบ รอบด้านทุกคนก็สบตากัน คนโดยรอบต่างซุบซิบกันขึ้นมา
ซิ่วไฉอายุสิบสาม? หากเรื่องนี้เป็นความจริง ก็เป็นเด็กหนุ่มมีพรสวรรค์จริง
หากพวกเขามีตำแหน่งซิ่วไฉ ผู้ใดจะมาเรียนแพทย์ ซิ่วไฉไปเข้าร่วมการสอบเคอจวี่เป็นขุนนางได้
แต่ละคนคิดเรื่องนี้แล้วก็ไม่เข้าใจ
ลู่เจียวไม่ได้กล่าวอันใดต่ออีก แต่หันไปมองบุตรชายตนเอง
นางต้องให้บุตรชายเรียนรู้จัดการปัญหาด้วยตนเอง
ซานเป่าเห็นท่านแม่ส่งสายตามา ก็รีบก้าวออกมาก้าวหนึ่ง มองชายชรากล่าวว่า “ในเมื่อท่านสงสัยความสามารถของข้า เช่นนั้นพวกเราก็มาประลองกันสักหน่อย”
พอชายชราได้ฟัง ก็สมดังใจคิดพอดี หากตนเองเอาชนะเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้ากรมเปิดทางให้เข้ามาไม่ใช่หรือ หากเขาเอาชนะเจ้าหนุ่มนี้ได้ ก็เข้าสู้สำนักยาหลวงแทนที่เขาได้
“ตกลง”
ซานเป่ามองไปยังชายชรากล่าวว่า “พวกเราไม่ต้องให้ผู้ใดออกข้อสอบ พวกเราออกข้อสอบให้กันเอง จะได้ไม่ให้ท่านอ้างว่ามีคนเปิดทาง”
ชายชราพอได้ฟังก็ดีใจมาก ”ตกลง”
เขาแสดงความยุติธรรมขึ้น มองซานเป่ากล่าวว่า “ข้าเห็นว่าเจ้าอายุยังน้อย ให้เจ้าเริ่มก่อน”
“ข้าถามท่านว่า ยาบำรุงกำลังมีแบบใดบ้าง”
ชายชราคิดอยู่ครู่หนึ่งกล่าวว่า “เขากวาง โสมคน ตู้จ้ง ซานจูอวี๋ โก่วฉี ตั่งเซิน เฉ่าไป๋ซู่”
ซานเป่าถามอีกว่า “ยังมีอีกไหม”
ชายชราคิดจริงจังอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวว่า “หวงฉี ตังกุย สูตี้หวง”
ซานเป่ายิ้มละไม กล่าวว่า “ความจริงบำรุงธาตุอ่อนมีมากมาย ไม่เพียงแต่ยาเหล่านี้ ยังมีจื่อเหอหนิว จือหมา กันเฉ่า ม่ายตง ต้าเจ่า เฉ่าไป๋เสา เป่ยซาเซิน ซานเย่า ไป๋ซู่ ล้วนเป็นยาบำรุงธาตุก่อน”
พอซานเป่าเอ่ยขึ้น ชายชราก็มองออกว่าเด็กหนุ่มผู้นี้อ่านหนังสือมามากกว่าเขา คนโดยรอบพบเห็นแล้วก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
ชายชราพบว่าสถานการณ์ไม่ส่งผลดีต่อเขาก็รีบชี้ไปที่กลุ่มคนบอกซานเป่าว่า “เจ้ามาดูคนผู้นี้ ร่างกายเขามีตรงไหนไม่ดีบ้าง”
ชายชราชี้ไปที่หมอที่มาสอบในวันนี้ แม้หมอเป็นวิชาแพทย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ป่วย ชายชราเห็นสีหน้าคนผู้นี้ไม่ดีนัก ก็มองออกว่าเขาอาจมีอาการป่วย จึงชี้ให้ซานเป่าดู
ซานเป่ามองไปยังคนผู้นี้แล้วก็กวักมือเชิญเขาเข้า พอคนผู้นั้นเดินเข้ามา เขาก็ยื่นมือไปตรวจชีพจรให้คนผู้นี้ครู่หนึ่ง เขาให้ผู้ป่วยอ้าปากให้เขาดูลิ้น สุดท้ายเขาบอกผู้ป่วยว่า “ท่านมักจะเจ็บตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่”
ซานเป่าชี้ไปที่ตำแหน่งถุงน้ำดี
หมอรีบพยักหน้า “ใช่ ข้าสงสัยว่าถุงน้ำดีมีปัญหา แต่กินยาแล้วก็ไม่หาย”
ซานเป่าเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ยามหิวก็จะปวดบริเวณถุงน้ำดี”
ผู้ป่วยได้ฟังก็แปลกใจไม่น้อย “ท่านหมอน้อย ท่านหมายถึงในถุงน้ำดีมีก้อนนิ่วหรือ”
“ใช่แล้ว ดังนั้นกินยายากจะรักษาได้ ต้องดื่มยาขับออกมา”
ซานเป่ากล่าวจบ รอบด้านมีคนไม่น้อยพากันซุบซิบ พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าในถุงน้ำดีมีก้อนนิ่ว หรือว่ามีโรคนี้จริง
ชายชราโต้กลับอย่างไม่เชื่อ “ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีอาการของโรคเช่นนี้”
ครั้งนี้ไม่รอให้ซานเป่าเอ่ย ฉีเหล่ยโมโหเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าไม่เคยได้ยิน ไม่ได้หมายความว่าไม่มี บนโลกใบนี้มีคนมากมายเท่าไรเป็นโรคที่ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เจ้ารู้ทั้งหมดหรือ อย่าว่าแต่เจ้า แม้แต่ข้าเองก็มีหลายโรคที่ไม่รู้”
ลู่เจียวสำทับอีกว่า “แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่รู้จักโรคทั้งหมด ในร่างกายคนเรามีโรคร้อยแปดพันเก้า ย่อมต้องมีโรคที่เราไม่รู้จัก พวกเราได้แต่ทุ่มเทรักษาอย่างเต็มความสามารถรักษาโรคที่พวกเรารู้จักเท่านั้น”
นางกล่าวจบก็มองไปยังผู้ป่วยที่ซานเป่าตรวจก่อนหน้านี้ เดินเข้าไปตรวจให้ผู้ป่วยอีกรอบ กล่าวว่า “พี่ชายท่านนี้ป่วยด้วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีจริง แต่ก้อนนิ่วนี้เป็นแบบเม็ดทราย ขับออกมาได้ ดังนั้นอย่าได้เป็นห่วง”
ลู่เจียวให้การรับรองการตรวจของซานเป่า ผู้อื่นไม่เคยได้ยินโรคนี้ เห็นได้ว่าวิชาการแพทย์ของซานเป่าเก่งกาจกว่าพวกเขา
ซานเป่าหันไปมองชายชรากล่าวว่า “ยังจะประลองอีกหรือไม่”
ชายชราหน้าตาแดงก่ำถึงใบหู คนเขาตรวจโรคออก แต่เขาไม่เคยได้ยินโรคนี้ ยังจะประลองอันใดอีก
ชายชราหันหลังเดินจากไป ลู่เจียวเห็นว่าเขาอายุมากแล้วก็ไม่ได้เรียกเขามาขอโทษซานเป่า แต่ให้ซานเป่าเขียนใบสั่งยาให้ผู้ป่วย
ทุกคนที่มุงดูกันอยู่หน้าประตูเดิมกำลังครึกครื้นก็เงียบลง ลู่เจียวมองไปยังทุกคนหน้าประตูสำนักยาหลวง กล่าวว่า “การทดสอบรอบแรกผ่านไปแล้ว พรุ่งนี้เช้ากับตอนบ่ายแยกกันสอบรอบสองกับรอบสาม จำไว้ อย่าได้หวังว่าจะอาศัยโชค สำนักยาหลวงพวกเรารับหมอครั้งนี้ล้วนต้องมีวิชาการแพทย์ดีเยี่ยม ไม่ใช่หมอสะเปะสะปะมาเติมจำนวนให้ครบ ดังนั้นทุกคนกลับไปก็อ่านตำรามากๆ ศึกษามาให้ดี ”
“ขอรับ”
คนไม่น้อยต่างส่งเสียงรับคำจากไป ลู่เจียวพาฉีเหล่ยกลับเข้าสำนักยาหลวง สั่งการให้เขาหาผู้ป่วยจากโรงหมอตระกูลฉีมาให้ทดสอบพรุ่งนี้
“หาผู้ป่วยมาห้าคน ดีที่สุดก็ควรมีอาการป่วยยากสักหน่อย พรุ่งนี้การสอบรอบสองให้พวกเขาตรวจอาการให้ผู้ป่วย รอบสามให้พวกเขาเขียนใบสั่งยา ผ่านทั้งสองรอบจึงจะรับไว้ได้”
“ขอรับ อาจารย์ เรื่องนี้ข้าจะไปจัดการเอง”
ลู่เจียวพยักหน้า เห็นว่าสายแล้ว จึงพาซานเป่ากลับจวนตระกูลเซี่ย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยังไม่กลับมา ระยะนี้ศาลจิงจ้าวมีงานให้เขาทำมากมาย ทุกวันยุ่งวุ่นวายอย่างยิ่ง บางครั้งก็กลับมาค่ำมาก
ลู่เจียวเองก็ไม่รอเขา ถามพ่อบ้านเซียว รู้ว่าสองแฝดกลับมาแล้ว ก็สั่งการให้ติงเซียงไปสั่งห้องครัวยกสำรับมา
ติงเซียงเดินออกไป เห็นแฝดชายหญิงเดินเข้ามารวดเร็ว เด็กน้อยสองคนท่าทางตื่นเต้นดีใจมาก ใบหน้าน้อยๆ น่ารักซุกซนอย่างที่สุด