ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 758 ความสามารถ
ตอนที่ 758 ความสามารถ
ลู่เจียวพยักหน้า หูหลิงเสวี่ยกับจ้าวอวี้หลัวก็ยิ้มดีใจ เนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนเองก็ดีใจมาก มองหูหลิงเสวี่ยกับจ้าวอวี้หลัวกล่าวว่า “ยามนี้พวกเจ้าสองคนไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว น้าลู่เจ้านั่งดูอยู่ ขอเพียงพวกเจ้าแสดงความสามารถดังปกติ ก็ย่อมสอบเข้าสำนักศึกษาซุ่ยเต๋อได้”
หูหลิงเสวี่ยกับจ้าวอวี้หลัวผ่อนคลายลงไม่น้อย เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น พากันพยักหน้า “พวกเราทราบแล้ว”
ลู่เจียวไม่เห็นจู้เป่าจูกับเหวินเมี่ยวบุตรสาวนางก็อดถามไม่ได้ “เป่าจูไม่พาเมี่ยวเมี่ยวมาสอบหรือ”
เนี่ยอวี้เหยาเอ่ยขึ้นว่า “การสอบเข้าสำนักศึกษาซุ่ยเต๋อเข้มงวดมาก ไม่เพียงแต่พิณ หมาก อักษร ภาพและบทกลอนพร้อมทั้งจารีตต้องดี ทุกคนยังต้องแสดงความสามารถของตนเอง แม้เหวินเมี่ยวมีความสามารถไม่อ่อนด้อย แต่จะสอบเข้าสำนักศึกษาซุ่ยเต๋อก็ยากมาก หลิงเสวี่ยกับอวี้หลัวตระกูลเรา หกปีก่อนก็เชิญอาจารย์มาสอนเรื่องเหล่านี้แล้ว ยังต้องเป็นห่วงว่าจะสอบไม่ได้อีกหรือ เหวินเมี่ยวเลยยิ่งไม่มีความมั่นใจ จู้เป่าจูบอกว่าตามใจนาง ไม่อยากบังคับนาง”
ลู่เจียวเองรู้นิสัยเหวินเมี่ยว ตอนเหวินเมี่ยวยังเด็ก มารดาถูกบิดาทำร้าย ในใจมีเงามืดดำอยู่ นิสัยนางจึงค่อนข้างเก็บตัวเงียบ ความเงียบของนางต่างจากหูหลิงเสวี่ย หูหลิงเสวี่ยเดิมเป็นคนร่าเริง ถูกท่านยายนางหล่อหลอมจนเป็นคนเงียบไม่แสดงออก
แต่เหวินเมี่ยวเพราะมีเงามืดดำในใจจึงได้เป็นคนเงียบ ไม่กล้าเข้าใกล้คนแปลกหน้า ชอบอยู่เงียบๆ อ่านหนังสือทำงานคนเดียว
ชีวิตในสำนักศึกษาไม่เหมาะกับนางจริงๆ
ลู่เจียวไม่ได้กล่าวอันใดอีก เดินเข้าไปกับพวกเนี่ยอวี้เหยา พอทุกคนเพิ่งจะก้าวเข้ามาในสำนักศึกษา ก็เห็นหัวหน้าสาวใช้ข้างกายพระชายารัชทายาทเดินเข้ามาคำนับลู่เจียวนอบน้อม “คารวะ ใต้เท้าลู่ พระชายาให้บ่าวมาพาใต้เท้าลู่ไปเรือนด้านหลัง”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย บอกกับเนี่ยอวี้เหยาและเถียนฮวน “ข้าเข้าไปก่อน”
ลู่เจียวเป็นกรรมการพิเศษรับเชิญของสำนักศึกษาในวันนี้ สถานที่ต้อนรับนางย่อมต่างจากพวกนางที่มาในฐานะผู้ปกครองของบุตรีที่มาสอบ
“เจ้ารีบไปเถอะ พวกเราพาลูกๆ เข้าไปเอง”
“ได้”
มีบ่าวในสำนักศึกษามานำพวกนางไปยังสถานที่สอบของสำนักศึกษาซุ่ยเต๋อ
ลู่เจียวเดินตามบ่าวรับใช้ข้างกายพระชายารัชทายาทไปเรือนด้านหลัง
ตลอดทางมา ลู่เจียวถามสาวใช้อย่างห่วงใยว่า “พระชายารัชทายาทสุขภาพดีหรือไม่”
อวิ๋นเซียงหัวหน้าสาวใช้ของพระชายารัชทายาทรู้ว่าพระชายาให้ความสำคัญกับใต้เท้าลู่ผู้นี้มาก จึงเอ่ยวาจานอบน้อมยิ่ง “ดีมากเจ้าค่ะ ขอบคุณใต้เท้าลู่ที่ห่วงใยพระชายา พระชายาเอ่ยถึงใต้เท้าลู่เสมอ อยากเชิญใต้เท้าลู่ไปเป็นแขกที่ตำหนักตงกง เพียงแต่ระยะนี้พระชายายุ่งมาก ไม่มีเวลาเชิญใต้เท้าลู่มาเป็นแขกที่ตำหนักตงกง”
ลู่เจียวเองก็รู้ว่าพระชายารัชทายาทระยะนี้กำลังยุ่งเรื่องใด คล้ายว่ากำลังเลือกพระชายาเอกกับพระชายารองให้พระราชนัดดา
พระราชนัดดาเซียวเจินเป็นพระเอกตัวจริงในนิยาย ความเดิมในนิยาย รัชทายาทยังไม่ได้มีสถานะรัชทายาท เขาได้เป็นรัชทายาทในตอนที่ฝ่าบาทใกล้สวรรคต จากนั้นก็ฝ่าบาทก็สิ้นพระชนม์ไปในเวลาไม่ถึงสามเดือน รัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นต้าโจวได้อย่างราบรื่น
แต่ตอนนี้เพราะความดีความชอบที่พวกเขานำทูลเกล้าฯ ถวาย เขาจึงได้เป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจวก่อนเวลา
สถานะพระราชนัดดาก็ย่อมดังเรือลอยขึ้นตามน้ำ คิดว่าพระชายารัชทายาทคงไม่มองหญิงสถานะเช่นหลินจิง
หลายปีมานี้จวนเฉิงเต๋อโหวตกต่ำลงไปมาก พระชายารัชทายาทไม่มีทางยอมให้หลินจิงเป็นพระชายาพระนัดดา เหมือนดังภพก่อนที่หลินจิงก็ไม่ได้เป็นพระชายาเอก แต่เป็นพระชายารอง
ภพนี้อย่างมากนางก็คงเป็นได้แค่พระชายารองพระราชนัดดา
ลู่เจียวคิดแล้วก็อมยิ้มกล่าวว่า “พระชายารัชทายาทยุ่งก็ส่วนยุ่ง พวกเจ้าเป็นบ่าวก็ต้องคอยเตือนให้ระวังสุขภาพ ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องอย่าลืมบำรุงสุขภาพร่างกายตนเอง หากสุขภาพไม่ดี ทุกอย่างก็เท่ากับสูญเปล่า”
อวิ๋นเซียงได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็พยักหน้ารับคำ “ใต้เท้าลู่กล่าวได้มีเหตุผล หากใต้เท้าลู่มีเวลาก็คอยเตือนพระชายาเราด้วย อย่าให้นางเหน็ดเหนื่อยเกินไป”
มากกว่านี้ อวิ๋นเซียงก็ไม่อาจกล่าวอันใดได้อีก อย่าเห็นว่าพระชายารัชทายาทสถานะสูงส่ง เรื่องที่ต้องรับมือนั้นมีมาก เช่นการสอบของสำนักศึกษาซุ่ยเต๋อในครั้งนี้ เดิมควรเป็นฮองเฮารับหน้าที่ แต่เพราะในวังไม่มีฮองเฮา จึงตกเป็นหน้าที่ของพระชายารัชทายาท
นอกจากการสอบครั้งนี้ ในวังแต่ยังมีภาระหนักหน่วงอีกมากมายที่ต้องการให้ฝ่ายหญิงออกหน้า ล้วนต้องให้พระชายารัชทายาทมารับหน้าที่
แต่ไรมาพระชายารัชทายาทก็เป็นคนที่ทำอะไรต้องการเป็นหนึ่ง ทุกเรื่องต้องทำให้ดีที่สุด สุดท้ายก็ทำตนเองจนเป็นทุกข์
ลู่เจียวพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย ทั้งสองคนคุยกันไปก็เดินเข้ามาในเรือนหลักด้านหลังของสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อ ในห้องโถงยามนี้มีคนนั่งอยู่ไม่น้อย นอกจากพระชายารัชทายาทที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานกลางห้องแล้ว ถัดลงไปก็มีคนนั่งอยู่อีกไม่น้อย ล้วนเป็นฮูหยินขุนนางบุ๋น เช่น ฮูหยินโส่วฝู่คนใหม่ ฮูหยินอาจารย์ใหญ่สำนักกั๋วจื่อเจียน ยังมีฮูหยินอาจารย์ใหญ่กับอาจารย์ในสำนักศึกษาอีกหลายท่าน
ทุกคนเห็นลู่เจียวเข้ามา ก็พากันหันมามอง
คนในที่นั้นไม่น้อยต่างแปลกใจมาก ลู่เจียวอายุยังน้อย เห็นอยู่ว่าลูกๆ อายุมากแล้ว แต่ใต้เท้าลู่ยังคงผิวพรรณกระจ่างใสงดงาม เคลื่อนไหวกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วว่องไวก็ยิ่งเสริมให้โดดเด่น ทำให้นางแลดูสูงศักดิ์
พระชายารัชทายาทส่งยิ้มทักทายขึ้นก่อน “ใต้เท้าลู่มาแล้ว รีบนั่ง”
ลู่เจียวเข้ามาคำนับพระชายารัชทายาท พระนางรีบยกมือโบกให้ลู่เจียวลุกขึ้น “ในที่ส่วนตัวไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นมานั่งคุยกัน เจ้าเองก็นับว่าเป็นวีรสตรี เสด็จพ่อแต่งตั้งเป็นเจ้ากรมสำนักยาหลวง ในสถานะสตรี นับว่าได้เป็นตัวแทนสร้างเกียรติให้สตรีเช่นพวกเราไปด้วย”
ลู่เจียวยิ้มตอบว่า “เจ้ากรมระดับเจ็ดเล็กๆ มิกล้าเอ่ยต่อหน้าพระชายารัชทายาทเพคะ ล้อหม่อมฉันเล่นแล้ว”
ในเมื่อพระชายารัชทายาทเอ่ยสถานะนาง ลู่เจียวก็ย่อมยอมรับสถานะตนเอง
พระชายารัชทายาทแย้มยิ้มบาง กล่าวว่า “เจ้าแสวงหามาได้ด้วยตนเอง แต่พวกเราได้มาจากตระกูล จึงได้ดำรงตำแหน่งเช่นนี้ เจ้าจึงนับได้ว่ามีความสามารถแท้จริง ทำให้สตรีเช่นพวกเราพลอยได้หน้าไปด้วย”
พระชายารัชทายาทกล่าวจบ กลุ่มสตรีข้างกายต่างพยักหน้า แต่ละคนเอ่ยชมว่า “ใต้เท้าลู่ร้ายกาจจริง เป็นสตรีมีความสามารถหาได้ยาก ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เอาแค่เรื่องที่เปิดร้านเสริมความงามในระยะนี้ สินค้าในร้านใช้แล้วได้ผลจริง”
“แน่นอน ได้ยินว่าตอนนี้ไปร้านก็ต้องจองล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นไม่ได้ทำ ก่อนหน้านี้ข้าอยากไปทำหน้า ก็ต้องต่อคิวสัปดาห์ถัดไป”
ผู้ที่เอ่ยก็คือฮูหยินเผย ฮูหยินมหาบัณฑิตในสำนักมนตรี ฮูหยินเผยเดิมไม่เชื่อว่าร้านเสริมความงามเสริมความงามได้จริง
นางเองเป็นสตรีที่ต้องดูแลการงานในตระกูล ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการงานมากมาย ยังไม่ทันถึงวัยกลางคน นางไม่เพียงแต่อ้วน ใบหน้ายังมีฝ้ากระ ตอนนี้อายุมากแล้ว บนใบหน้ามีทั้งฝ้ากระและริ้วรอยย่น เดิมนางไม่สนใจสักเท่าไร แต่สะใภ้นางทำบัตรสมาชิกให้นางไปลองดู
พอนางไปลองดู ก็พบว่าใบหน้าขาวนุ่มขึ้นไม่น้อย น่าเสียดายคนมาก ทุกครั้งที่ไปก็ต้องจองล่วงหน้าก่อน
ฮูหยินเผยกล่าวจบก็ยิ้มเอ่ยว่า “เจียวเจียว วันหน้าพวกเราไปอีก เจ้าต้องให้สิทธิพิเศษผู้สูงวัยอย่างพวกเราก่อนนะ”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ได้ ครั้งหน้าให้สิทธิพิเศษพวกท่านก่อน”
ความจริงนางไม่ค่อยได้ยุ่งกับเรื่องพวกนี้ เรื่องพวกนี้ล้วนให้เนี่ยอวี้เหยาดูแล
เนี่ยอวี้เหยาเป็นเซียงจวิน เบื้องหลังมีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับองค์หญิงใหญ่ ดังนั้นคนทั่วไปคิดแทรกคิวก็ย่อมไม่กล้าเอ่ยกับนาง