ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 767 ฝัน
ตอนที่ 767 ฝัน
เซียวอวี้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ชีวิตไม่มีอันใดขาดแคลน ยกเว้นความรักความผูกพันระหว่างสายเลือด
หากซื่อเป่าเข้าวังแล้วเห็นเซียวอวี้เป็นดังบิดาแท้ๆ คิดว่าต้องได้รับความรักจากฝ่าบาทอย่างมาก
ซื่อเป่าอยู่ในวังแม้ไม่มีมารดาปกป้อง แต่มีบิดาปกป้องก็เหมือนกัน
แต่หากได้รับการปกป้องจากบิดาผู้เป็นฮ่องเต้ ก็ต้องเสียสละบางอย่าง นั่นก็คือฮองเฮาอาจเห็นซื่อเป่าเป็นดังหนามทิ่มตำนัยน์ตา
ฮองเฮาย่อมไม่ปล่อยซื่อเป่าไป ดังนั้นซื่อเป่าอยู่ในวังย่อมอันตราย
“ซื่อเป่า หลายปีมานี้ท่านพ่อกับท่านแม่สอนเจ้าได้ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นพอเจ้าเข้าวังย่อมทำให้ฮองเฮากับองค์ชายใหญ่เซียวเจินหวาดระแวงเจ้า พวกเขาจะต้องหาทางจัดการเจ้า ท่านพ่อกับท่านแม่ขอมอบผู้คุ้มกันที่ตั้งใจอบรมมาให้เจ้านำเข้าวังไปด้วย เจ้าอยู่ในวังทำอันใดก็ต้องระมัดระวัง”
ซื่อเป่าได้ยินมารดาตนสั่งสอนทุกย่างก้าว ในใจเขารู้สึกอบอุ่นมาก แต่ก็ยังรู้สึกเศร้า
“ท่านแม่ ข้าไม่เข้าวัง ข้าอยู่ตระกูลเซี่ยต่อได้หรือไม่”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเรารับปากแล้วจะได้ ต้องดูว่าฝ่าบาททรงเห็นเช่นไร และหากฝ่าบาทประกาศสถานะเจ้า เจ้าอยู่ตระกูลเซี่ยต่อจะทำให้พวกขุนนางกรมตรวจการยื่นฎีกาเอาเรื่องพวกเรา หากว่าพวกเราไปขอให้ฮ่องเต้ทรงให้เจ้าอยู่ตระกูลเซี่ยต่อ จากนี้ไปเจ้าไม่ใช่โอรสฮ่องเต้ นี่เป็นเรื่องยุติธรรมต่อเจ้าหรือ เจ้ายินยอมหรือ”
พอกล่าวเช่นนี้ ซื่อเป่าก็เงียบงันลง
เขาคิดถึงหลายเรื่อง คิดถึงความลำบากของมารดาตนเอง คิดถึงความพยายามของตนเองที่จะเป็นคหบดีแห่งแคว้นต้าโจว ความจริงเรื่องสำคัญหลักที่สุดก็คือเขาไม่อยากให้ท่านแม่ลำบาก ตอนนี้มีโอกาสเช่นนี้ หากเขาเป็นองค์ชาย ถึงกับอาจได้เป็นผู้ปกครองแห่งแคว้นต้าโจวในวันหน้า เช่นนั้นมารดาที่เลี้ยงดูเขามาก็จะเป็นคนเหนือคน
ชีวิตเขาเท่ากับได้ตอบแทนคุณท่านแม่แล้ว
ซื่อเป่าคิดถึงสุดท้ายก็เอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ข้ายอมเข้าวัง”
“แม่รู้เจ้าเสียใจ แต่แม้เจ้าเข้าวัง ก็ยังเป็นบุตรชายท่านพ่อกับท่านแม่ ดังนั้นก็ไม่ได้มีอันใดเปลี่ยนแปลง เพียงแค่เจ้ามีสถานะเพิ่มขึ้นเท่านั้น”
ซื่อเป่าคิดแล้วก็คล้ายจริงตามนั้น เพียงแต่พอคิดถึงว่าท่านแม่ไม่ใช่ท่านแม่แท้ๆ ของเขา ในใจเขาก็คล้ายร่วงหล่นจากที่สูง พอคิดถึงว่าท่านแม่เป็นท่านแม่ของต้าเป่า เอ้อร์เป่าและซานเป่า แต่กลับไม่ใช่ของเขา เขาก็รู้สึกว่าตนเองปวดใจอย่างมาก
แต่ซื่อเป่าไม่อยากให้ลู่เจียวรู้ พยายามทำใจให้สงบนิ่งลง “ท่านแม่ ข้าทราบแล้ว”
สองแม่ลูกคุยกันอีกสักครู่ก็แยกจากกัน
ในห้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนรอให้พวกเขาไปกันแล้ว จึงได้ขอบตาแดงเศร้าเสียใจ ก่อนหน้านี้ลูกๆ อยู่ต่อหน้า เพราะไม่อยากให้ลูกเสียใจยิ่งขึ้น พวกเขาจึงต้องรักษาท่าทีให้สงบ ความจริงจะไม่เสียใจได้อย่างไร
ซื่อเป่าเองก็เสียใจมาก คืนนี้นอนไม่ค่อยหลับ พอคิดถึงว่าท่านแม่ไม่ใช่ท่านแม่เขาแล้ว เขาไม่มีท่านแม่แล้ว น้ำตาก็อดไหลรินออกมาไม่ได้ ผู้ใดจะรู้ว่าคืนนี้เขาถึงกับฝัน
ในความฝัน ท่านแม่ตนเองตายจากไป จากนั้นพวกเขาพ่อลูกก็ใช้ชีวิตพึ่งพาอาศัยกันและกัน ต่อมาแม้ว่าขาท่านพ่อรักษาหาย แต่กลับขาเป๋ ยามเดินหากมองให้ดีก็จะดูออกว่าผิดปกติ ทุกครั้งที่ฝนตกหรือว่ายืนนานก็จะเจ็บปวดยากทนรับไหว
ต่อมาท่านพ่อสอบจ้วงหยวนได้ ติดตามรับใช้อ๋องเยียนอย่างภักดี ตอนนั้นท่านพ่อโหดเหี้ยมร้ายกาจมาก พวกเขาติดตามท่านพ่อเข้าเมืองหลวง เพราะแต่เล็กไม่ได้กินอาหารครบสมบูรณ์ทำให้สุขภาพไม่ดี ทั้งสี่คนแม้ว่าหน้าตาดี แต่กลับผอมแกร็น ร่างเล็กเตี้ยราวอิสตรี
เพราะในใจพวกเขาน้อยเนื้อต่ำใจ จึงไม่อยากออกจากบ้าน มักจะเอาแต่ขลุกอยู่ในจวนตระกูลเซี่ยไม่ออกไปข้างนอก แต่แม้เป็นเช่นนี้ วันหนึ่งเขาก็ยังชนกับรถม้าเซียวเจินที่ตอนนั้นเป็นซื่อจื่อจวนอ๋องเยียน โดนซื่อจื่อเยาะต่อหน้าผู้คน ว่าเขาเป็นผู้ชายแต่ราวกับอิสตรี เป็นตัวประหลาด
เพราะซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ต่อมายามเขาออกไปที่ใดก็จะถูกผู้อื่นรุมล้อมหัวเราะเยาะ ทำให้เขายิ่งเก็บตัวและรู้สึกแปลกแยก พอพี่ชายทั้งสามรู้เรื่องนี้ต่างก็โมโหมาก ร่วมมือกันจัดการเซียวเจินซื่อจื่อจวนอ๋องเยียน แต่เซียวเจินเป็นซื่อจื่อจวนอ๋องเยียนแคว้นต้าโจว ไม่เพียงแต่ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดีมาแต่เล็ก ข้างกายยังมีองครักษ์ฝีมือสูงส่งคุ้มกัน พวกเขาจะจัดการอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน
ต่อมาหลินจิงหลานสาวหลินหรูเยว่มารดาเลี้ยงของเขาช่วยพวกเขาไว้หลายครั้ง แสดงความเป็นมิตรต่อพวกเขา ตอนนั้นพวกเขาคิดไปเองจริงๆ ว่าหญิงผู้นี้ไม่เหมือนกับหญิงอื่น นางเป็นหญิงสาวจิตใจดีมีเมตตา ผู้ใดจะรู้ว่าพอพวกเขาแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อนาง หลินจิงก็พลันประกาศต่อหน้าผู้คน หัวเราะเยาะพวกเขาว่าเป็นคางคกคิดกินเนื้อหงส์ ถึงกับคิดหมายปองนาง
ปรากฏพวกเขาสี่คนได้กลายเป็นตัวประหลาดเมืองหลวงอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาสี่คนก็จิตใจมืดบอดแท้จริง ทุกวันลืมตาตื่นขึ้นมาก็คิดแต่จะจัดการเซียวเจินกับหลินจิง แต่เซียวเจินเป็นซื่อจื่อจวนอ๋อง หลินจิงยังฉลาดมาก พวกเขาจัดการไม่ได้ สุดท้ายไม่อาจทำร้ายพวกเขาสองคน แต่กลับทำให้ตนเองต้องจบชีวิตลง
ซื่อเป่าฝันถึงตรงนี้ก็รู้สึกโกรธแค้นไม่พอใจอย่างที่สุด แม้ในความฝันก็ไม่อาจหยุดดิ้นรนจะตื่นจากฝันให้ได้ แต่เขากลับไม่อาจตื่นจากฝันได้ เขาเห็นเรื่องราวต่อมา บิดาเขาแก้แค้นให้พวกเขา ลงมือจัดการเซียวเจินกับหลินจิง ตอนนั้นเซียวเจินได้เป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว หลินจิงก็คือพระชายาองรัชทายาท
แม้ว่าสุดท้ายท่านพ่อเขาทำให้รัชทายาทเซียวเจินบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ฮ่องเต้รู้เรื่องเข้าและมีราชโองการให้ประหารชีวิต
สุดท้ายเซียวเจินหายดี เขาได้เป็นแห่งฮ่องเต้แคว้นต้าโจว
ซื่อเป่าฝันถึงตรงนี้ก็อดโมโหไม่ได้ คำรามร้องดังพร้อมกับตื่นขึ้นมา
โจวโย่วฉินที่เฝ้าอยู่นอกห้องพอได้ยินเสียงร้องตะโกนของเขาก็อดวิ่งเข้ามาดูไม่ได้
“คุณชาย เป็นอันใดหรือ”
ซื่อเป่าส่ายหน้าตื่นตกใจไปหมด เขาโบกมือให้โจวโย่วฉินออกไป เขาอยากคิดเงียบๆ คนเดียว
พอโจวโย่วฉินออกไป ซื่อเป่าก็นิ่งเงียบลง แม้ว่าตื่นขึ้นมา แต่เขากลับจำเรื่องทุกอย่างในความฝันได้อย่างกระจ่างชัด
เขาถึงกับรู้สึกว่า ชะตาชีวิตเดิมของเขาควรเหมือนกับในความฝัน แต่ตอนนี้เขาไม่เหมือนกับภพก่อนแล้ว
ตอนนี้เขาไม่ได้ตัวเล็กและน้อยเนื้อต่ำใจในตนเองแบบภพก่อนอีกแล้ว ตอนนี้เขามองโลกอย่างสดใสและมีความมั่นใจ หน้าตาก็หล่อเหลารูปงาม ทั้งยังเฉลียวฉลาด บรรดาสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงเห็นเขา ต่างก็ไม่อาจละสายตาจากไปได้ พวกนางไม่ได้หัวเราะเยาะเขาเหมือนในภพก่อน
แต่ทุกเรื่องที่เกิดในความฝันทำให้ซื่อเป่าหวาดกลัวและนึกแค้นใจ โกรธแค้นเซียวเจินซื่อจื่อจวนอ๋องเยียนอย่างมาก
หายนะในภพก่อนของพวกเขาทั้งหมดล้วนเกิดจากเซียวเจิน เพราะวาจาเดียวของเขาที่ว่า เป็นผู้ชายแต่ราวกับอิสตรี ตัวประหลาด
ซื่อเป่าครุ่นคิดไปมาแล้วก็พลันคิดถึงท่านแม่ตน
ท่านแม่ภพก่อนตายไปนานแล้ว แต่ภพนี้นางยังมีชีวิตอยู่ดีและเก่งกาจอย่างที่สุด
หากไม่ได้ฝันไปในครั้งนี้ ความทรงจำตอนเด็กของซื่อเป่าก็เลือนรางมาก เขาจดจำได้ว่าตอนเด็กท่านแม่ชอบทุบตีคน เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่เพราะฝันนี้ เขาจึงได้เห็นท่านแม่คนเดิมของเขาว่าความจริงเป็นหญิงหยาบช้าร้าย ไม่เพียงแต่หน้าตาน่าเกลียด แต่ยังโหดร้ายทารุณ มักทุบตีด่าทอพวกเขา โดยเฉพาะเขา ดังนั้นตอนเด็กเขาจึงขี้ขลาดที่สุดในบรรดาแฝดสี่