ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 768 แต่งตั้ง
พอคิดถึงหญิงคนเดิมผู้นั้นกับท่านแม่ในตอนนี้ที่ผิวพรรณผ่องขาวใส รู้ธรรมเนียมมารยาท และยังมีความรู้หลากหลาย ซื่อเป่าพลันคิดเข้าใจเรื่องหนึ่ง ความจริงท่านแม่ในตอนนี้ไม่ใช่ท่านแม่คนเดิมของเขาในตอนนั้น นางเป็นอีกคนหนึ่ง
บางทีนางมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ดังนั้นนางจึงไม่เหมือนกับผู้อื่น และยังโดดเด่นเหนือผู้ใดเช่นนี้
เมื่อวานซื่อเป่ายังปวดใจที่ตนไม่ใช่บุตรชายท่านแม่ตน แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไป เพราะท่านแม่ผู้นี้ไม่ใช่คนเดิม นางไม่เพียงแต่ไม่ใช่ท่านแม่แท้ๆ ของเขา นางยังไม่ใช่ท่านแม่แท้ๆ ของพวกต้าเป่า
แต่ถึงนางไม่ใช่มารดาแท้ๆ แต่นางเป็นยิ่งกว่ามารดาแท้ๆ
ซื่อเป่าพลันยิ้มสดใจ สีหน้าแลดูงามสง่าดังเดิม
เขาไม่ได้มีกลิ่นอายหนุ่มน้อยไร้เดียงสาคนเดิม แต่เป็นเด็กหนุ่มสุขุมสงบนิ่ง
วันรุ่งขึ้น ซื่อเป่าตื่นมาก็ไปหาเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าคิดดีแล้ว ข้ายอมเข้าวัง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวแปลกใจมาก เดิมพวกเขาคิดว่าซื่อเป่าจะเสียใจอีกสักพักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเขาจะคิดได้เร็วเพียงนี้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวต่างโล่งอก ทั้งสองคนกวักมือให้เขาเข้ามาหา จูงมือเขาไว้ซ้ายและขวา กล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าเข้าไปอยู่ในวัง แต่เจ้ายังคงเป็นบุตรชายของพวกเรา ไม่ว่าเจ้ากลับมาตอนไหน ตระกูลเซี่ยก็มีเรือนของเจ้า ท่านพ่อกับท่านแม่จะรอเจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไป”
“อืม ข้าทราบแล้ว”
ซื่อเป่ากอดบิดา พอคิดถึงว่าบิดาในฝันแก้แค้นแทนพวกเขาจนถูกคนให้ร้ายต้องตายลง ภพนี้เขาจะไม่ให้ผู้ใดทำร้ายบิดาเขาอีก
ซื่อเป่ากอดท่านพ่อเสร็จก็กอดลู่เจียว เขามีทุกอย่างในวันนี้ได้ล้วนเพราะท่านแม่เขาผู้นี้ ดังนั้นเขาจะช่วงชิงใต้หล้านี้มาให้ท่านแม่ ไม่ให้ผู้ใดกล้าดูแคลนนาง
“ท่านแม่ ข้าเคยบอกไว้ว่าจะทำให้ท่านได้เสวยวาสนาสุข บุตรชายพูดได้ย่อมทำได้”
ลู่เจียวยิ้มลูบศีรษะเขา “เด็กโง่ แม่ไม่ต้องการเสวยวาสนาสุขอันใด ขอเพียงเจ้ามีชีวิตราบรื่นสงบสุข อยู่ในวังต้องระมัดระวังตัว รู้ไหม”
“อีกอย่างไม่ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ หรือบรรดาพี่ชายเจ้า พวกเราจะช่วยเจ้า หากเจ้าต้องการอันใดก็ส่งคนออกมาบอกพวกเรา”
“ขอบคุณท่านแม่”
ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งเป็นห่วงและดีใจ อารมณ์หลากหลายถาโถมเข้ามา
ซื่อเป่ายื่นมือออกไปกอดพวกเขา กล่าวด้วยความเคารพรักว่า “พวกท่านเลี้ยงดูข้ามาจนโต ข้าจะจดจำบุญคุณพวกท่านตลอดไป พวกท่านก็คือบิดามารดาข้า”
ภพนี้เขาต้องชิงตำแหน่งรัชทายาทมาครอง และเหยียบเซียวเจินกับหลินจิงไว้ใต้ฝ่าเท้า
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมองซื่อเป่าอย่างจริงจัง พบว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้วจริงๆ ทั้งสองคนก็โล่งอก พร้อมกับยิ้มเอ่ยว่า “ซื่อเป่า พวกเราเลี้ยงดูเจ้ามา ไม่ต้องการให้เจ้าตอบแทน เจ้าอย่าได้เอ่ยบุญคุณไม่บุญคุณอันใด ท่านพ่อกับท่านแม่หวังเพียงอย่างเดียวว่า เจ้าอยู่ในวังรักษาตนเองให้รอดปลอดภัยก็พอ”
“อืม”
ซื่อเป่ารู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ดีต่อเขาด้วยใจแท้จริง
เรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลเซี่ย คนนอกย่อมไม่รู้
หลังฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ทรงประคองป้ายวิญญาณอดีตฮ่องเต้สู่สุสานหลวงด้วยพระองค์เอง
ส่วนเซียวเฉินกับพระสนมเอกลี่กุ้ยเฟยสองแม่ลูกถูกอดีตฮ่องเต้ส่งไปเฝ้าสุสานหลวง เฝ้าพระศพอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้มีราชโองการให้พระสนมเอกลี่กุ้ยเฟยแม่ลูกไม่อาจไปจากสุสานหลวงได้ตลอดชีวิต หากฝ่าฝืนมีโทษประหาร
พอนำพระศพอดีตฮ่องเต้เข้าสู่สุสานหลวงแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็มีเวลามาแต่งตั้งวังหลังและพระราชทานรางวัลให้กับขุนนางมีความชอบ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวย่อมอยู่ในรายชื่อ โดยเฉพาะการที่ฮ่องเต้ทรงขึ้นครองราชย์ได้ราบรื่นเพราะในตอนสุดท้ายลู่เจียวลงมือกู้สถานการณ์คืนมาได้
หากกล่าวถึงความดีความชอบ คนที่ควรได้ความชอบที่สุดก็คือลู่เจียว
ฮ่องเต้พระองค์ใหม่รับสั่งให้ขันทีข้างพระวรกายนำลู่เจียวเข้าเฝ้าในวังเพื่อสอบถาม
“ครั้งนี้เราขึ้นครองราชย์ได้อย่างราบรื่น ใต้เท้าลู่มีความชอบที่สุด เราอยากถามว่าเจ้ามีเรื่องอันใดต้องการหรือไม่ ขอเรามาได้”
เซียวอวี้มองสตรีตรงหน้า หญิงผู้นี้ไม่แก่ลงเลยสักนิด แต่กลับยิ่งดูมีสง่าราศี ไม่เหมือนเขาที่จอนผมเริ่มขาวแล้ว
เซียวอวี้คิดไปพลางมองลู่เจียว
ลู่เจียวคุกเข่าลงทูลว่า “ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่งอยากทูลขอต่อฝ่าบาท”
“ว่ามา”
“ขอฝ่าบาททรงอนุญาตให้หม่อมฉันลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวง ตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงมอบแด่ฉีเหล่ยศิษย์หม่อมฉันก็ได้”
เซียวอวี้เลิกคิ้วแปลกใจ เขายังคิดว่านางจะขออันใด คิดไม่ถึงว่ากลับเป็นเรื่องนี้
เซียวอวี้แววตาลุ่มลึก เอ่ยขึ้นว่า “เดิมเราคิดจะเลื่อนตำแหน่งให้เจ้า เจ้ากลับขอลาออกจากตำแหน่งหรือ”
เดิมเขาคิดจะเลื่อนตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวงขึ้นไปเป็นเจ้ากรมระดับหก เช่นนี้ลู่เจียวก็จะกลายเป็นเจ้ากรมระดับหกแห่งแคว้นต้าโจว เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าหญิงผู้นี้ถึงกับต้องการลาออกจากตำแหน่ง
ลู่เจียวทูลอย่างนอบน้อมว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงคิดส่งเสริมหม่อมฉัน แต่บุตรชายหม่อมฉันล้วนโตกันแล้ว หม่อมฉันต้องหันมาใส่ใจเรื่องการแต่งงานของพวกเขา ยังมีแฝดชายหญิงที่อายุยังน้อย ต้องการหม่อมฉันคอยดูแล ดังนั้นไม่อาจดำรงตำแหน่งเจ้ากรมสำนักยาหลวง ขอฝ่าบาทโปรดอนุญาตให้หม่อมฉันลาออกจากตำแหน่งด้วยเพคะ”
เซียวอวี้มองนางครู่หนึ่งก็เข้าใจว่าเหตุใดลู่เจียวต้องลาออก นางลาออก เซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงจะก้าวขึ้นต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ไม่อาจก้าวต่อไป บุตรชายของพวกนางล้วนยอดเยี่ยมมาก ย่อมต้องสอบเคอจวี่ หลังสอบเคอจวี่ก็จะเข้าเป็นขุนนาง นับประสาอันใดกับซื่อเป่าที่นางเลี้ยงดูมายังเป็นองค์ชาย จะต้องกลับเข้าวังในอีกไม่นานนี้
หากนางก้าวขึ้นตำแหน่งเจ้ากรมระดับหก ย่อมต้องเป็นที่จับจ้อง นางกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสามีนาง บุตรชายนาง ดังนั้นนางจึงลาออกจากตำแหน่ง
เซียวอวี้อดนึกชื่นชมไม่ได้ นางไม่เพียงแต่ยอดเยี่ยม ยังฉลาดมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นทำความดีความชอบอันใดมา จึงได้สตรียอดเยี่ยมและชาญฉลาดเช่นนี้ไปครองกัน
เซียวอวี้คิดไปก็เอ่ยไปว่า “ได้ เราอนุญาต”
กล่าวจบเขาก็ถามลู่เจียวว่า “เจ้าบอกกับเขาหรือยัง”
ลู่เจียวพอได้ฟังเซียวอวี้ก็รู้ว่าทรงถามถึงซื่อเป่า
ลู่เจียวรีบกราบทูลว่า “ทูลฝ่าบาท พวกหม่อมฉันบอกกับซื่อเป่าแล้ว แม้ว่าเขาไม่อาจยอมรับได้ แต่ก็ยังคงยอมรับเรื่องนี้ ฝ่าบาทอย่าได้ทรงเป็นห่วงเขา”
เซียวอวี้คิดถึงเด็กคนนั้นแล้วสายพระเนตรก็อดเปล่งประกายอ่อนโยนขึ้นมาไม่ได้ ย่อมเป็นเพราะเฉินอิงเสี่ยงชีวิตคลอดบุตรชายคนนี้เพื่อเขา และเฉินอิงยังช่วยชีวิตเขาไว้อีก
หากไม่มีนาง เขาก็คงตายไปนานแล้ว
“บอกแล้วก็ดี อีกสักครู่เราจะประกาศสถานะเขา วันหน้าเขาก็ต้องกลับมาอยู่ในวัง”
ลู่เจียวคุกเข่าลงคำนับนอบน้อม “เพคะ ฝ่าบาท”
กล่าวจบก็ขอบพระทัยในพระเมตตา
เซียวอวี้เริ่มพระราชทานรางวัลความดีความชอบรวดเร็ว เริ่มจากพระมารดาตนเอง พระสนมเอกจิ่นกุ้ยเฟยได้รับการแต่งตั้งเป็นไทเฮา ย้ายมาประทับตำหนักฉือหนิงกง ส่วนพระญาติฝ่ายมารดา จ้าวกั๋วกงก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮู่กั๋วกง ตำแหน่งบรรดาศักดิ์กงอันดับหนึ่ง
จากนั้นก็เป็นพระชายารัชทายาทได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา จงหย่งป๋อตระกูลททางฝ่ายนางได้รับ แต่งตั้งเป็นจงหย่งโหว ลำดับถัดมาก็คือพระสนมซูเฟยที่เป็นบุตรีซิ่นหยางโหว ซิ่นหยางโหวยืนอยู่ข้างอ๋องเยียนมาตลอด ครั้งนี้ฝ่าบาทขึ้นครองราชย์ ก็ย่อมแต่งตั้งบุตรีซิ่นหยางโหวเป็นพระสนมซูเฟย หนึ่งในสี่พระสนมชั้นเฟย พระสนมซูเฟยยังให้กำเนิดองค์ชายรอง รองลงไปยังมีพระสนมฟางเจาอี๋ บิดาฟางเจาอี๋เป็นขุนนางท้องถิ่น นางมีความชอบให้กำเนิดโอรส ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจาอี๋ ตำแหน่งที่เหลือก็แต่งตั้งไปตามระเบียบ แต่พวกนางไม่ได้มีโอรสใด ดังนั้นสถานะจึงไม่สูงนัก