ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 773 ทดสอบ
ตอนที่ 773 ทดสอบ
ฮองเฮาทรงหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม กริ้วหนักจนหายใจแทบไม่ทัน บุตรชายของนางเซียวเจินได้รับการอบรมจากนางมาแต่เล็ก แต่ไรมาได้รับชมจากขุนนางในราชสำนัก แต่เซียวเจินดำรงตนอยู่ในขนบธรรมเนียมมาก แต่ไรมาไม่เคยทำเรื่องที่ผิดแผกไปจากเส้นทางตามธรรมเนียมปฏิบัติ เก้าขวบตั้งร้านเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับหนีฉาง อายุสิบสามสอบซิ่วไฉ คนเป็นรัชทายาทต้องทำเรื่องเช่นนี้หรือ
แต่ผู้อื่นไม่คิดเช่นนี้ ฮองเฮาหันไปทางฮูหยินตราตั้ง พบว่าหลายคนต่างสนอกสนใจองค์ชายรอง โดยเฉพาะร้านเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับหนีฉางที่พวกนางชอบ ถึงกับเป็นร้านขององค์ชายรอง
ในจำนวนนี้มีฮูหยินไม่น้อยอดถามลู่เจียวไม่ได้ วันหน้าองค์ชายรองเป็นองค์ชายรองแคว้นต้าโจวแล้ว ร้านเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับหนีฉางจะยังเปิดหรือไม่
แต่แม้เปิด องค์ชายรองก็คงจะไม่ได้ลงมือออกแบบเครื่องประดับเอง สตรีเหล่านี้คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้เสื้อผ้าที่พวกนางสวมใส่ องค์ชายรองเป็นคนออกแบบ วันหน้าหากองค์ชายรองขึ้นครองราชย์ พวกนางก็มีเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยฮ่องเต้
สวรรค์ ไม่ใส่แล้ว วันหน้าไม่ใส่แล้ว รีบเอาไปเก็บ
ในพระตำหนัก ลู่เจียวค่อยๆ ลุกขึ้นยืนกำลังจะไปทูลขอราชโองการจากฝ่าบาท
ฮองเฮาไหนเลยจะยอมให้นางไปขอราชโองการจริงๆ รีบเอ่ยว่า “ในเมื่อฮูหยินเซี่ยไม่เห็นด้วยที่จะให้ใต้เท้าเซี่ยรับอนุก็แล้วไปเถอะ อย่างไรฮูหยินเซี่ยก็ช่วยฝ่าบาทไว้หลายครั้ง”
นับได้ว่าฮองเฮาได้ตบหน้าตนเองแล้ว ลู่เจียวก็ขี้เกียจจะสนใจนาง หันไปมองฮองเฮา ทูลขอบพระทัยฮองเฮา
“ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเมตตา ความจริงใต้เท้าเซี่ยเห็นใจข้า กลัวว่าสตรีอื่นจะทำให้ข้าวุ่นวายใจ ดังนั้นตอนพวกเราเพิ่งจะแต่งงานกัน เขาก็บอกกับข้าว่าชีวิตนี้จะไม่รับอนุ”
ฮองเฮาได้ยินวาจานาง ก็กริ้วหนักจนพูดไม่ออก
ในพระตำหนัก บรรดาฮูหยินได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็พากันเอ่ยชื่นชมลู่เจียววาสนาดี พร้อมกับเอ่ยชมเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่า ใต้เท้าเซี่ยรักฮูหยิน ใต้เท้าเซี่ยดีอย่างไรบ้าง
แม้ว่าในนั้นมีคนไม่น้อยไม่คิดเช่นนี้ แอบคิดว่าเพราะเป็นใต้เท้าเซี่ยเมื่อก่อน วันหน้าก็ไม่แน่ว่าจะไม่รับอนุ
ตอนนี้เขาเป็นขุนนางระดับสองในราชสำนักแล้ว ยังเป็นมหาบัณฑิตในสำนักมนตรี ขุนนางบุ๋นพวกนี้แต่ไรมาก็เป็นพวกมีสาวงามไว้ประดับบารมีคุยอวดกัน เขาจะไม่รับอนุได้อย่างไร แม้วันนี้ไม่รับ อีกสักพักก็ต้องรับ เป็นแค่เรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น
ดังนั้นวาจาฮูหยินเซี่ยวันนี้ วันหน้าอาจจะโดนฉีกหน้าก็เป็นได้
เห็นได้ชัดว่าฮองเฮาเองก็คิดเช่นนี้ สีหน้านางค่อย ๆ มีรอยยิ้ม มองลู่เจียวกล่าวว่า “ก็ขอให้ใต้เท้าเซี่ยเป็นดังที่ฮูหยินเซี่ยต้องการ”
ลู่เจียวพยักหน้าขอบพระทัยฮองเฮา “ขอบพระทัยรับสั่งมงคลของฮองเฮาเพคะ”
วันนี้ทำฮองเฮากริ้วหนักแล้ว นางอย่าไปยั่วยุอีกฝ่ายอีกจะดีกว่า จะได้ไม่ทำให้นางเกิดโทสะจนส่งผลเสียต่อสุขภาพนางเอง เช่นนั้นก็คงถือว่านางไม่ให้ความเคารพฮองเฮาแล้ว
ฮองเฮาไม่คิดสนใจลู่เจียวอีก หันหน้าไปกับคุยกับบรรดาฮูหยิน ขณะที่เห็นว่าสายแล้ว ขันทีด้านนอกก็เดินเข้ามารายงานว่า “ทูลฮองเฮา ใกล้จะได้เวลาเริ่มงานเลี้ยงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาพยักหน้า ลุกขึ้นพาบรรดาสนมนางในและฮูหยินทั้งหลายตรงออกไปยังพระที่นั่งจัดงานเลี้ยงในวังคืนนี้
ในกลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากบรรดาฮูหยินแล้ว ก็ยังมีบุตรีขุนนางในราชสำนักไม่น้อย ตอนนี้องค์ชายรองสิบห้าชันษาแล้ว ตามหลักควรเลือกพระชายาได้แล้ว ใต้เท้าไม่น้อยต่างคิดเรื่องนี้ แม้แต่คุณหนูแต่ละตระกูลก็แอบหวั่นไหวเริ่มคิดการกัน
ตอนที่องค์ชายรองยังเป็นบุตรชายตระกูลเซี่ย พวกนางเห็นเขาก็เดินไม่ตรงทางกันแล้ว นับประสาอันใดกับตอนนี้เขาเป็นองค์ชายรองแคว้นต้าโจว
คุณหนูมีตระกูลเหล่านี้ต่างยิ่งหวั่นไหว ดังนั้นคืนนี้เข้าวังมาร่วมงานเลี้ยง นอกจากใต้เท้าและฮูหยิน ยังมีคุณหนูแต่ละตระกูล
มีบางคนรู้ว่าลู่เจียวเลี้ยงดูองค์ชายรองมา งานแต่งงานนี้ ลู่เจียวย่อมเอ่ยปากได้ ดังนั้นคนไม่น้อยก็พากันมาแสดงไมตรีต่อลู่เจียว พยายามสานสัมพันธ์ต่างๆ นานา
ในจำนวนนี้ยังมีคนรู้สึกว่าหากแต่งกับองค์ชายรองไม่ได้ แต่งกับบุตรชายตระกูลเซี่ยก็ไม่เลว
บุตรชายตระกูลเซี่ยแต่ละคนหน้าตาโดดเด่นและฉลาด ยังมีปัญญาความคิด
ได้ยินว่าบุตรชายคนโตตระกูลเซี่ย ตอนอายุสิบสามก็เข้าร่วมการสอบฝู่ซื่อ ได้เป็นซิ่วไฉอันดับหนึ่ง บุตรชายรองตระกูลเซี่ยเข้าไปประจำที่ค่ายทหารนานแล้ว บุตรชายสามตระกูลเซี่ย อายุน้อยๆ ก็ไปตั้งสำนักยาหลวงประจำเมืองหนิงโจว ดูท่าตระกูลเซี่ยไม่มีผู้ใดด้อยสามารถ
ตระกูลเช่นนี้วันหน้าย่อมต้องรุ่งเรือง ดังนั้นพวกเขาแต่งบุตรสาวเข้าตระกูลเซี่ยก็ไม่เลว คนไม่น้อยต่างคิดเช่นนี้
ฮองเฮารับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเหล่านี้ นางเปล่งรัศมีเย็นเยียบรอบกาย แววพระเนตรเย็นเยียบไม่อาจบรรยาย
นางต้องรีบให้บิดานางหาโอกาสให้ขุนนางยื่นฎีกาต่อฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทมีราชโองการแต่งตั้งบุตรชายของนางเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว ขอเพียงบุตรชายดำรงตำแหน่งรัชทายาทได้ นางก็ไม่กลัวแล้ว
ฮองเฮาแอบวางแผนในใจ ขณะที่ทุกคนกำลังเข้าสู่พระที่นั่งจัดงานเลี้ยง
ในและนอกพระที่นั่ง ขุนนางระดับสามจับกลุ่มกันห้าคนคุยกันอยู่
รอบกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นรายล้อมไปด้วยผู้คนไม่น้อย องค์ชายรองเติบโตมาในตระกูลเซี่ย ไม่ว่าอย่างไรความสัมพันธ์กับใต้เท้าเซี่ยก็ย่อมดี วันหน้าหากองค์ชายรองขึ้นสู่ตำแหน่ง สถานะใต้เท้าเซี่ยย่อมไม่เหมือนเดิม
แน่นอนว่ามีคนไม่น้อยคิดว่าสายตระกูลมารดาองค์ชายรองต่ำต้อย แม้ว่าเป็นคนยอดเยี่ยมมาก แต่เหนือเขาขึ้นไปยังมีองค์ชายใหญ่ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร รัชทายาทแคว้นต้าโจวย่อมเป็นขององค์ชายใหญ่ ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับองค์ชายรอง
คนพวกนั้นมองเช่นนี้ก็แค่นเยาะพวกที่สานไมตรีกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ในพระที่นั่งแอบแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
พอฮองเฮาเสด็จมาถึง ขันทีก็ตะโกนดังว่า “ฮองเฮาเสด็จ”
บรรดาขุนนางพากันคำนับนอบน้อม อีกครู่หนึ่งถัดมา ฮ่องเต้ก็ประคองไทเฮามาถึง
ด้านหลังพวกเขามีองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองตามมาด้วย ยังมีขุนนางที่ฮ่องเต้ไว้วางพระทัย นอกจากขุนนางคนสำคัญแล้วก็ยังมีหัวหน้าสำนักกั๋วจื่อเจี้ยนตามมาด้วย
สีพระพักตร์องค์ชายใหญ่ไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัด สีพระพักตร์องค์ชายรองเซียวเหวินอวี๋กลับดีมาก สีหน้ามีความสุข คิดถึงว่าจะได้พบท่านพ่อกับท่านแม่แล้ว อารมณ์เขาก็ดีอย่างมาก แต่เขาพยายามระงับเอาไว้
พอเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวในพระที่นั่ง แววตาลุ่มลึกของเซียวเหวินอวี๋ก็มีความอ่อนโยนผุดขึ้นมา มุมปากกระตุกยิ้มอย่างไม่เป็นที่สังเกต
องค์ชายใหญ่เซียวเจินเห็นเขาเช่นนี้ ยังคิดว่าเขาดีใจผลการทดสอบก่อนหน้านี้ที่ห้องทรงอักษร แววพระเนตรองค์ชายใหญ่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เดิมเขารู้ว่าน้องรองที่ตระกูลเซี่ยอบรมสั่งสอนมาฉลาดมาก แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเขาจะฉลาดถึงเพียงนี้
ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อคิดส่งน้องรองไปเรียนหนังสือที่สำนักกั๋วจื่อเจี้ยน จากนั้นก็เรียกตัวหัวหน้าสำนักกั๋วจื่อเจี้ยนมาทดสอบวิชาการของน้องรองสักหน่อย
แม้ว่าทุกคนรู้เขาฉลาด แต่คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับโดดเด่นเช่นนี้ หัวหน้าสำนักกั๋วจื่อเจี้ยนไม่ว่าออกข้อสอบอันใด เขาล้วนตอบถูกต้องและคล่องแคล่ว สติปัญญาของเขาไม่เพียงแต่อยู่ในตำรา แต่ยังรวมไปถึงด้านต่างๆ ทั้งเกษตรกรรม การก่อสร้าง ประวัติศาสตร์ ทุกอย่างล้วนรู้หมด และยังยอดเยี่ยมอย่างมากอีกด้วย
ตอนอยู่ในห้องทรงอักษร หัวหน้าสำนักกั๋วจื่อเจี้ยนชื่นชมเขาไม่ขาด เขายินดีสอนหนังสือองค์ชายรอง เด็กคนนี้คือหยกงาม ต้องเจียระไนให้ดี จะเป็นหยกงามอันดับหนึ่ง หัวหน้าสำนักกั๋วจื่อเจี้ยนตื่นเต้นยากบรรยาย เขายินดีเจียระไนหยกงามชิ้นนี้ด้วยตนเอง