ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 779 ตัวเลือก
ตอนที่ 779 ตัวเลือก
ลู่เจียวรู้จักสตรีสูงศักดิ์ในที่นั้นไม่น้อย พอคิดถึงซื่อเป่า นางก็ลอบสังเกตทุกคนอย่างละเอียด สุดท้ายแอบตัดสินใจเลือกไว้ในใจสองสามคน
ไทเฮากับฮองเฮาเลือกพระสนมให้ฝ่าบาททั้งหมดห้าคน ในจำนวนนั้นนอกจากหญิงจากจวนจ้าวกั๋วกง ก็ยังมีอีกสี่คนที่สถานะชาติกำเนิดไม่โดดเด่น
ลู่เจียวมองไปทางไทเฮากับฮองเฮา ทั้งสองคนในเวลานี้กลับยืนจ้องตากัน
แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลู่เจียว นางหันหน้าไปชมการแสดงต่อ แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไทเฮาจ้องตากับฮองเฮา จนกระทั่งไทเฮารับสั่งเรียกนาง
“ฮูหยินเซี่ย เจ้าว่าผู้ใดเหมาะเป็นพระชายาเอกองค์ชายรอง ผู้ใดเหมาะเป็นพระชายารององค์ชายรอง?”
ลู่เจียวลุกขึ้นยิ้มทูลนอบน้อมว่า “หม่อมฉันถูกใจอยู่สองสามคนเพคะ เพียงแต่ไม่ทราบว่าไทเฮากับฮองเฮาจะทรงอนุญาตไหมเพคะ”
ไทเฮากับฮองเฮาสบตากันและกันอย่างแปลกใจ พวกนางคิดว่าวันนี้เลือกพระชายาให้องค์ชายรอง ฮูหยินเซี่ยผู้นี้น่าจะเกรงใจสักหน่อย ปรากฏนางเลือกพระชายาให้องค์ชายรองอย่างไม่เกรงใจ ถือว่าเป็นการไม่เห็นราชวงศ์อยู่ในสายตา
ลู่เจียวมองไทเฮากับฮองเฮาด้วยสายตาเย็นเยียบ พวกเจ้าล้วนไม่พอใจ แต่หากข้าปฏิเสธ พวกเจ้าก็ไม่ยอมรับไปทำ ในใจพวกเจ้าก็คงอึดอัด พวกราชวงศ์นี้เอาใจยากจริง
ในใจลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยทูลขึ้นว่า “ฝ่าบาทกับฮองเฮาได้ทรงให้หม่อมฉันเข้าวังมาเลือกพระชายาให้องค์ชายรอง หม่อมฉันมิกล้าปฏิเสธเพคะ”
ดูเอา พวกเจ้าผลักข้าออกมาเลือก ข้าไหนเลยจะกล้าปฏิเสธ
ไทเฮากับฮองเฮาสบตากันแล้วก็ไม่พูดอะไรต่ออีก เดิมพวกนางก็ไม่อยากทำเรื่องนี้ ในเมื่อลู่เจียวเลือกเสร็จแล้ว พวกนางก็อยากดูว่านางจะเลือกคนเช่นไรให้กับองค์ชายรอง
ไทเฮาแย้มสรวลตรัสถามว่า “ฮูหยินเซี่ยเลือกตระกูลใดให้องค์ชายรองหรือ”
ลู่เจียวทูลตอบว่า “หม่อมฉันไม่กล้าตัดสินใจเลือกพระชายาเอกกับพระชายารองให้องค์ชายรอง เลือกเพียงสองสามคน ขอไทเฮากับฮองเฮาทรงอนุญาตให้หม่อมฉันเขียนรายชื่อ จากนั้นเรื่องนี้ให้ไทเฮากับฮองเฮาตัดสินพระทัยดีไหมเพคะ”
ไทเฮาได้ฟังก็เห็นด้วย รีบรับสั่งให้ขันทีนำเครื่องเขียนพู่กันหมึกออกมาวางตรงหน้าลู่เจียว ลู่เจียวเขียนสามรายชื่อลงไปรวดเร็ว ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย
ขันทีนำรายชื่อที่ลู่เจียวเขียนไปทูลเกล้าฯ ถวายต่อไทเฮา ไทเฮาเห็นแล้วสีพระพักตร์พลันแปรเปลี่ยน ฮองเฮา เอนตัวไปมองรายชื่อที่ลู่เจียวเขียน ก็อดสีพระพักตร์แปรเปลี่ยนไม่ได้เช่นกัน
สตรีทั้งสองมองไปยังลู่เจียวด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร เห็นชัดว่า หญิงผู้นี้ช่างกล้าเขียน
รายชื่อสามคนที่ลู่เจียวเขียนออกมา มีเผยอวี่หลานสาวเผยโส่วฝู่ เนี่ยจือหลานสาวจวนอู่กั๋วกง หวังเมิ่งเหยาบุตรีขุนพลหวัง
ตัวเลือกทั้งสามล้วนเป็นบุตรีขุนนางคนสำคัญในราชสำนัก เผยอวี่เป็นหลานสาวเผยโส่วฝู่ เผยโส่วฝู่เป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักที่มีชื่อเสียงมาก ได้รับความเคารพจากบัณฑิตใต้หล้า
ส่วนหลานสาวอู่กั๋วกง อู่กั๋วกงกุมอำนาจการทหาร และบุตรีขุนพลหวัง ขุนพลหวังเป็นขุนพลที่ฝ่าบาทแต่งตั้งให้กุมอำนาจการทหารครึ่งหนึ่งในแถบตะวันตกเฉียงเหนือในตอนนี้ หากไม่เหนือความคาดหมาย วันหน้ากองกำลังในแถบตะวันตกเฉียงเหนือเกรงว่าก็คงตกอยู่ในมือเขา
ทั้งสามตัวเลือก ลู่เจียวถึงกับกล้าเขียนออกมา
นางช่างกล้าคิดเสียจริง
ไทเฮากับฮองเฮาเห็นแล้วก็หรี่ตาลง
ลู่เจียวกลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มละไม ท่าทางพึงพอใจ
พวกเจ้าไม่ใช่ให้ข้าเลือกหรือ ข้าก็เลือกเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าบุตรชายข้าคู่ควรกับคนเหล่านี้
อีกอย่างลู่เจียวรู้นิสัยของสามตัวเลือกนี้ หลานสาวเผยโส่วฝู่เป็นหญิงอุปนิสัยใสซื่อบริสุทธิ์และมีเมตตา มองโลกแง่ดีเปิดเผย มีกิริยามารยาทงดงาม เป็นตัวเลือกพระชายาองค์ชายรองที่ไม่เลวอย่างมาก
เนี่ยจือเป็นหลานสาวอู่กั๋วกง อุปนิสัยไม่ค่อยเรียบร้อย ไม่ถือสาธรรมเนียมเล็กน้อย แต่นางฉลาดมาก ลู่เจียวเลือกนางก็เพราะรู้ว่าซื่อเป่าชอบหญิงมองโลกแง่ดีและฉลาด ไม่ชอบหญิงที่มีชอบวางตัวสูงส่ง
เลือกหวังเมิ่งเหยาบุตรีขุนพลหวัง ลู่เจียวมักไปมาหาสู่กับฮูหยินขุนพลหวัง ฮูหยินขุนพลหวังมักกลัดกลุ้มที่บุตรสาวนิสัยเฉยชา ไม่สนใจเรื่องผู้ชาย ไม่ได้สนใจเรื่องออกเรือนแม้สักนิด นางสนใจเพียงเรื่องเดียวก็คือชอบหาเงิน ทุกวันมักใช้เวลาไปกับการคิดหาทางว่าจะหาเงินอย่างไร
ลู่เจียวรู้สึกว่าหวังเมิ่งเหยาเป็นคนเช่นนี้นั้นดีมาก นางเหมาะแต่งงานกับซื่อเป่ามาก หากวันใดซื่อเป่าได้ขึ้นสู่ตำแหน่งจริง ย่อมจะต้องเลือกพระสนม บางครั้งฮ่องเต้เลือกพระสนมก็เพื่อสมดุลราชสำนัก ตระกูลมารดาซื่อเป่าไม่โดดเด่น เขาอาศัยเพียงแค่ตนเอง ดังนั้นการเลือกพระสนมเพื่อสมดุลราชสำนักจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง
หวังเมิ่งเหยาเป็นหญิงสาวเช่นนี้ หากได้เป็นฮองเฮาก็จะไม่สนใจอันใดมากนัก ย่อมช่วยเหลือซื่อเป่าดูแลทุกอย่างในวังได้
กล่าวตามตรง ตระกูลเซี่ยไม่นับว่าด้อย แต่ตระกูลมารดาซื่อเป่าแท้จริงก็คือตระกูลเฉิน วันหน้าฝ่าบาทย่อมต้องให้ตระกูลเฉินเข้าเมืองหลวง
ส่วนตระกูลเซี่ยก็ต้องค่อยๆ ถอยห่างจากซื่อเป่า ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทก็คงเกิดความสงสัยว่าซื่อเป่าจะดำรงตำแหน่งผู้ปกครองแคว้นต้าโจวได้หรือไม่ ในฐานะฮ่องเต้ต้องคิดไตร่ตรองเรื่องทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นต้าโจว
ส่วนผู้ที่ลู่เจียวเลือกทั้งสามคนล้วนไม่เพียงแต่เพราะตระกูลเบื้องหลังพวกนางทรงอำนาจ แต่มากไปกว่านั้นก็คือหญิงทั้งสามเหมาะกับซื่อเป่า และลู่เจียวรู้ว่าฝ่าบาทจะไม่มีทางยอมให้หญิงสถานะตระกูลทรงอำนาจทั้งสามแต่งกับซื่อเป่า เป็นพระชายาองค์ชายรองพร้อมกันทีเดียว ดังนั้นเป็นไปได้มากสุดก็เพียงแค่พระชายาเอกคนเดียว
นี่ก็คือจุดประสงค์ของลู่เจียว ในสามคนนี้ ไม่ว่าคนใดได้เป็นพระชายาเอกซื่อเป่า ย่อมไม่มีปัญหากับเขามากนัก
ในฐานะมารดาที่เลี้ยงดูเขามา ก็หวังว่าเขาจะได้อยู่ร่วมกันกับพระชายาตนเองได้อย่างมีความสุข
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็ยิ้มมองไทเฮากับฮองเฮากล่าวว่า “ไม่รู้ว่าไทเฮากับฮองเฮา คิดว่าทั้งสามคนที่หม่อมฉันเลือกมานี้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ”
ไทเฮากับฮองเฮาต่างสบตาเม้มริมฝีปากแน่น สีพระพักตร์ฮองเฮาดำคล้ำลงทันที
ลู่เจียวกล้าทำเรื่องเช่นนี้จริง
นางยังไม่กล้าทำ
ก่อนหน้านี้องค์ชายใหญ่เลือกพระชายา นางวางแผนหลายทางก็ยังไม่กล้าเลือกคู่หมายหลายคนจากตระกูลใหญ่ทรงอำนาจพร้อมกันให้องค์ชายใหญ่
ตอนนี้ลู่เจียวถึงกับกล้าเลือกเช่นนี้
สายพระเนตรฮองเฮาลอบมองไปยังไทเฮากล่าวว่า “เสด็จแม่ คนที่ฮูหยินเซี่ยเลือกมา พวกเราเองก็ไม่อาจตัดสินใจได้ หรือว่ามอบให้ฝ่าบาททรงเลือกไหมเพคะ”
นางอยากดูว่าฝ่าบาทได้เห็นรายชื่อทั้งสามที่ลู่เจียวเลือกให้องค์ชายรอง จะทรงคิดเช่นไร
ไทเฮาคิดแล้วก็เห็นควรเป็นเช่นนี้ จึงรีบสั่งการให้ขันทีนำรายชื่อไปทูลเกล้าฯ ถวายต่อฮ่องเต้
แม้ว่าฮ่องเต้กำลังอนุมัติฎีกาอยู่ในห้องทรงอักษร แต่ก็ใส่พระทัยเรื่องราวทางนี้อยู่ เขาไม่ได้สนใจเรื่องเลือกพระชายาของเขาเอง เขาไม่ต้องคิดมาก เพราะเขารู้ว่าไทเฮากับฮองเฮาจะไม่เลือกพระสนมที่มาจากตระกูลทรงอำนาจนัก นอกจากบุตรีจากจวนจ้าวกั๋วกง
ฮ่องเต้ไม่ได้สนพระทัยเรื่องเหล่านี้ ที่เขาสนใจมีเพียงเรื่องลู่เจียวเลือกพระชายาให้องค์ชายรอง
เซียวอวี้กำลังคิดถึงเรื่องนี้ ขันทีก็นำรายชื่อที่ลู่เจียวเขียนมาถวายรายงาน
“ฝ่าบาท ไทเฮาให้คนนำรายชื่อที่ฮูหยินเซี่ยเลือกพระชายาให้องค์ชายรองมากราบทูลให้ทรงตัดสินพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอวี้เลิกคิ้วให้ขันทีนำขึ้นมา
ขันทีนำรายชื่อมาวางตรงหน้า เซียวอวี้เห็นแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาลุ่มลึก นิ้วมือดีดโต๊ะเบาๆ ท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจนัก
ขันทีไม่กล้าส่งเสียงอันใด อย่าเห็นว่าฮ่องเต้ทรงดูอ่อนโยน ความจริงวิธีการจัดการของเขาเทียบกับอดีตฮ่องเต้แล้วเด็ดขาดและเฉียบคมกว่ามาก อดีตฮ่องเต้มีอันใดก็จะแสดงออกทางสีพระพักตร์ แต่ฮ่องเต้พระองค์นี้กลับเก็บไว้ในใจ ทำให้คนคาดเดาไม่ได้ว่าทรงคิดอันใดอยู่