ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 782 ไม่พอใจ
ตอนที่ 782 ไม่พอใจ
ลู่เจียวเห็นฮูหยินขุนพลหวังกับหวังเมิ่งเหยาไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจ ในที่สุดก็รู้สึกโล่งอก
ตกค่ำเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมา ลู่เจียวก็เล่าเรื่องตระกูลหวังให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟัง เซี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่งเงียบไปนาน โครงหน้าสง่างามเต็มไปด้วยประกายเย็นเยียบ ลู่เจียวเห็นท่าทางเขาเช่นนี้ก็คิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น จึงถามอย่างห่วงใยว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้น สีหน้าเจ้าจึงไม่ดีเช่นนี้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปดึงลู่เจียวมานั่งข้างเขา เขาถอนหายใจกล่าวว่า “เจียวเจียว ข้านึกเสียใจภายหลังแล้วที่บอกสถานะซื่อเป่าออกไป”
ลู่เจียวพอได้ฟังเขาเอ่ยถึงซื่อเป่าก็รีบถามอย่างห่วงใยว่า “ซื่อเป่าเป็นอันใดหรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า “วันนี้ข้าพลันมองกระจ่างแล้วว่าฝ่าบาทพระราชทานพระชายาเอกและพระชายารองพร้อมกัน ฝ่าบาทคิดเสริมกำลังให้กับซื่อเป่าเพื่อให้เขาต่อสู้กับองค์ชายใหญ่เซียวเจิน ผู้ใดรอดมาได้สุดท้าย ก็จะได้เป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจว ฝ่าบาทกำลังดำเนินรอยตามอดีตฮ่องเต้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจนสุดท้าย ก็อดเป็นห่วงซื่อเป่าขึ้นมาไม่ได้ นั่นเป็นบุตรชายที่เขาเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม พอคิดถึงว่าเขาอาจต้องเข้าไปเผชิญกับการแก่งแย่งชิงดีอันใด ในใจก็พลันปวดปลาบ หากรู้เช่นนี้ก็จะไม่บอกชาติกำเนิดซื่อเป่า ให้เขาเป็นพ่อค้าธรรมดาไม่ดีกว่าหรือ
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คิดถึงการกระทำของเซียวอวี้อย่างละเอียด ช่างดำเนินรอยตามอดีตฮ่องเต้จริงๆ
ลู่เจียวคิดกระจ่างเรื่องนี้แล้วก็อดแค่นหัวเราะไม่ได้ “เขาน่าจะลืมความทรมานลำบากที่ตนเองเคยประสบมาไปหมดสิ้นแล้ว”
เซียวอวี้อายุสามสิบสอง สุขภาพไม่ดีอย่างมาก จะว่าไปก็เป็นเพราะอดีตฮ่องเต้นั่งมองดูพวกเขาพี่น้องฟาดฟันกันเอง
ตอนนี้มาถึงคราของเขา เขาถึงกับดำเนินรอยตามอดีตฮ่องเต้ นั่งมองดูบุตรชายสองคนของตนเองแก่งแย่งฟาดฟันกัน เขาพระราชทานพระชายาเอกและพระชายารองที่เป็นบุตรีขุนนางใหญ่ให้ซื่อเป่าพร้อมกัน ก็เท่ากับเพิ่มเสริมกำลังให้ซื่อเป่า เช่นนี้เขาก็จะมีหนทางทุ่มสรรพกำลังต่อสู้กับองค์ชายใหญ่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปกอดลู่เจียว กล่าวน้ำเสียงเข้มว่า “วันหน้าข้าจะช่วยซื่อเป่า”
ลู่เจียวเองก็พยักหน้า “ข้าก็จะช่วยซื่อเป่า พวกเราลงเรือลำเดียวกับเขาแล้ว หากองค์ชายใหญ่ได้เป็นผู้ปกครองแคว้นต้าโจว ตระกูลเซี่ยพวกเราก็คงไม่มีจุดจบที่ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ต้องทุ่มเทช่วยซื่อเป่า ให้ขึ้นสู่ตำแหน่ง”
“อืม”
สองสามีภรรยาไม่พูดอันใดอีก กอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานของพวกต้าเป่า
“ตอนนี้พวกเขาสิบห้าแล้ว คนไม่น้อยพากันมาถามว่าตระกูลเรามีเงื่อนไขอันใด หากเป็นเช่นนี้ต่อไปย่อมไม่ใช่หนทางที่ดี ไว้รอต้าเป่ากลับมา เจ้าถามเขาหน่อย เรื่องเขากับหลิงเสวี่ยเป็นอย่างไรบ้างแล้ว จะต้องหมั้นหมายแล้วหรือยัง จะได้ไม่มีคนมาจับจ้องต้าเป่าอีก”
สองปีมานี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นความพยายามของหูหลิงเสวี่ย พบว่าหญิงสาวดูมีสง่าราศีขึ้นมาก อยู่ร่วมกันกับต้าเป่าก็เข้ากันได้ดีมาก และเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังสังเกตเห็นว่าหูหลิงเสวี่ยก็อยู่ร่วมกันกับน้องๆ ต้าเป่าในตระกูลเซี่ยได้ดีมากด้วย
ตอนนี้เขาไม่คัดค้านเรื่องต้าเป่ากับหูหลิงเสวี่ยแล้ว พอได้ยินลู่เจียว เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “ไว้ข้าบอกกับต้าเป่า ให้เขาไปถามหูหลิงเสวี่ยว่าคิดเช่นไร จะหมั้นหมายเลยหรือไม่”
แม้ว่าสองตระกูลไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ แต่เด็กสองคนมักจะมอบของขวัญให้กันเสมอ นับว่าแอบมีใจตรงกัน แต่คนในเมืองหลวงไม่รู้ มักจะส่งคนมาลองทาบทามเงื่อนไขของตระกูลเซี่ย ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปย่อมไม่ดี
ลู่เจียวพยักหน้า เอ่ยถึงเรื่องแต่งงานของเอ้อร์เป่า “ยังมีเรื่องแต่งงานของเอ้อร์เป่า ก่อนหน้านี้เขาเอ่ยมาในจดหมายว่า แม่ทัพเกิ่งคิดยกหลานสาวให้แต่งกับเขา เขาถามความเห็นพวกเรา หญิงสาวผู้นั้นพวกเราไม่เคยเห็น จะให้ความเห็นได้อย่างไร”
ลู่เจียวเอ่ยถึงสุดท้ายก็กลัดกลุ้ม กล่าวตามตรง หากเอ้อร์เป่าแต่งกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่จ้าวอวี้หลัว นางก็นึกเสียดายแทนเขา สาเหตุเพราะนางเห็นจ้าวอวี้หลัวมาแต่เล็ก แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีนิสัยเอาแต่ใจ แต่สองปีมานี้ก็เปลี่ยนไปมาก
หลายวันก่อนเถียนฮวนยังมองหาคู่หมายให้จ้าวอวี้หลัว แต่จ้าวอวี้หลัวเอาแต่ไม่ยอมเห็นด้วย
ลู่เจียวไม่รู้ว่าจ้าวอวี้หลัวยังรอเอ้อร์เป่าอยู่หรือไม่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวกลัดกลุ้มก็ยื่นมือไปลูบหว่างคิ้วให้นาง ค่อยๆ เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเขียนจดหมายไปหาเขาแล้วไม่ใช่หรือ ให้เขากลับมาสักครั้ง”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นหนักใจเล็กน้อย ลู่เจียวเลิกคิ้วกล่าวว่า “เป็นอันใดไปหรือ มีอันใดไม่เหมาะสมหรือ”
“ข้าสืบได้ข่าวมาว่า ตระกูลเกิ่งใกล้ชิดกับพรรคพวกองค์ชายใหญ่ องค์ชายใหญ่แต่งบุตรีหนานหยางโหว หนานหยางโหวกุมอำนาจการทหารซีหนานทางตะวันตกเฉียงใต้ แม่ทัพเกิ่งกับหนานหยางโหวมีสายสัมพันธ์เครือญาติกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวถูกกำหนดให้ต้องยืนข้างฝั่งองค์ชายรองแล้ว หากเอ้อร์เป่าแต่งกับหลานสาวแม่ทัพเกิ่ง เขาก็ต้องก้าวขาข้างหนึ่งไปอยู่ฝั่งองค์ชายใหญ่ นี่เป็นเรื่องที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นยินยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียวกล่าวว่า “ข้าวางแผนส่งเอ้อร์เป่าไปค่ายทหารที่ซีเป่ยทางตะวันตกเฉียงเหนือของขุนพลหวัง เจ้าไม่มีความคิดเห็นกระมัง”
เอ้อร์เป่าสองปีมานี้อยู่ค่ายทหารซีหนานได้มั่นคงแล้ว เพราะเป็นคนฉลาดหัวไว และมีปัญญาไหวพริบ เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ช่วยแม่ทัพเกิ่งกวาดล้างโจรสลัดไปได้ไม่น้อย ยังได้เลื่อนเป็นหัวหน้ากอง หากเขาไปซีเป่ยก็เท่ากับต้องเริ่มต้นใหม่ อีกอย่างค่ายทหารที่ซีเป่ยก็หนาวเหน็บกว่าค่ายทหารที่ซีหนานมาก ลำบากกว่ามาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลัวลู่เจียวทำใจไม่ได้ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “แม้ว่าซีเป่ยหนาวเหน็บ แต่โอกาสสร้างความชอบก็มีมาก เลื่อนขั้นไว เอ้อร์เป่าไม่ได้อยากเป็นแม่ทัพมาตลอดหรือ ไม่แน่ว่าเขาเองก็อยากไปซีเป่ยอยู่”
ผ่านการฝึกฝนมาสองปี ตอนนี้ให้เขาไปซีเป่ย พวกเขาผู้เป็นบิดามารดาก็วางใจ
อายุสิบสามก่อนหน้านี้ยังเล็กไป จึงได้ไหว้วานฝากไว้กับแม่ทัพเกิ่ง ตอนนี้ส่งเขาไปซีเป่ย ก็เป็นโอกาสอันดี
แม้ว่าลู่เจียวรักและสงสารเอ้อร์เป่า แต่ก็รู้ว่าครอบครัวพวกนางต้องยืนข้างองค์ชายรอง ตระกูลเกิ่งเกี่ยวข้องกับองค์ชายใหญ่ พวกนางย่อมต้องรักษาระยะห่างจากพวกเขา
พวกเขาส่งซื่อเป่าเข้าวัง ต้องทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อช่วยเขา
“ได้ รอให้เขากลับมา จะบอกกับเขาว่าให้เขาไปซีเป่ย”
วันที่ยี่สิบ เดือนเก้า เอ้อร์เป่าเดินทางจากค่ายทหารซีหนานเข้าเมืองหลวง เขาพาคนมาด้วยหลายคน นอกจากโจวฉางอานที่โตมาพร้อมกับเขา ยังมีเหวินอีอีกคนที่ลู่เจียวส่งไปคอยอารักขาเขา นอกจากนี้ยังมีคนติดตามเขามาอีกหลายคน
ในจำนวนนี้มีคนหนึ่งถึงกับเป็นหญิงสาวแต่งกายเป็นชาย ลู่เจียวแค่มองก็มองออก แต่หญิงสาวผู้นี้ยังคิดว่าตนเองปิดบังได้ดีมาก คุยเล่นหัวเราะเฮฮากับบรรดาทหารหลายคน
สีหน้าลู่เจียวไม่ดีนักขึ้นมาทันที หากไม่เหนือความคาดหมายหญิงสาวผู้นี้ก็คือคุณหนูตระกูลเกิ่ง พวกเขาให้เอ้อร์เป่ากลับเมืองหลวงเพื่อตัดสัมพันธ์เอ้อร์เป่ากับตระกูลเกิ่ง คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับพาหญิงสาวกลับมา
เอ้อร์เป่าไม่ได้เจอมารดามาสองปี คิดถึงมารดามาก พอเห็นลู่เจียวก็คุกเข่าคำนับ “ท่านแม่ บุตรชายคารวะท่านแม่”
ลู่เจียวพยายามระงับความโมโหในใจ ยิ้มโบกมือให้เขาลุก
เอ้อร์เป่าไม่ได้ดูเป็นหนุ่มน้อยสำอางดังเมื่อสองปีก่อนแล้ว ตอนนี้เขาดูสุขุมขึ้นมาก ราวกับกระบี่วิเศษที่ออกจากฝัก คมปลาบส่องประกาย
ลู่เจียวกวักมือให้เขามานั่งข้างนาง นางเงยหน้าสั่งการโจวฉางอาน “พาพี่น้องที่ติดตามเอ้อร์เป่ามาไปอาบน้ำกันก่อน”
โจวฉางอานมองไปยังทุกคน โดยเฉพาะคุณหนูเกิ่งที่แต่งกายเป็นชาย รับคำเสียงหนึ่งก่อนจะพาทุกคนออกไป
คุณหนูเกิ่งแต่งกายเป็นชายคิดจะเอ่ย แต่ถูกเอ้อร์เป่าส่งสายตาจ้องใส่ ได้แต่ตามโจวฉางอานออกไป