ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 784 สะใภ้
ตอนที่ 784 สะใภ้
แต่วันนี้ตัวละครเอกไม่ใช่ต้าเป่ากับหูหลิงเสวี่ย หากเป็นเอ้อร์เป่ากับจ้าวอวี้หลัว
จ้าวอวี้หลัวอายุสิบหกผิวพรรณขาวผุดผ่องราวหิมะ วงคิ้วแววตาตาหวานล้ำอย่างไม่อาจบรรยาย วันนี้นางสวมชุดกระโปรงหลัวฉวินสีม่วงอ่อน ที่เอวคาดแถบผ้าไหมสีเดียวกัน เอวคอดอรชรราวกับกุมไว้ได้ด้วยฝ่ามือเดียว ความงามราวกับภาพวาดเช่นนี้ ยามนางยืนอยู่ในศาลาที่มีราวกั้นศิลาสีขาว เอ้อร์เป่ามองจนตาไม่กระพริบ
จนกระทั่งจ้าวอวี้หลัวถูกเขามองจนหน้าแดงก็เอ่ยถามอย่างเขินอายว่า “จ้องมองอันใดอยู่ ไม่รู้จักกันแล้วหรือ”
วาจานี้ทำเอาเอ้อร์เป่าย้อนรำลึกถึงความหลัง ความจริงเมื่อก่อนจ้าวอวี้หลัวก็เป็นสาวงามที่หลงใหลความงามอย่างมาก ยามโตขึ้นก็ยิ่งงามเด่น สองปีมานี้เอ้อร์เป่าอยู่แต่ค่ายทหาร ที่ได้เห็นมามากที่สุดก็พวกพลทหาร พอได้เห็นสาวงามเช่นนี้ก็อดตะลึงมองไม่ได้
จ้าวอวี้หลัวเอ่ยถามเขินอาย ทำเอาเอ้อร์เป่าเก้อเขินขึ้นมา ลูบศีรษะมองไปที่อื่น ใบหูสีเหลืองดังข้าวสาลีก็เริ่มกลายเป็นสีแดงระเรื่อ ดูเก้กังไม่อาจบรรยาย
จ้าวอวี้หลัวกลับใจกล้า เดินมาตรงหน้าเอ้อร์เป่า ยิ้มมองเขากล่าวว่า “เอ้อร์เป่า ไม่ได้เจอกันนาน”
เอ้อร์เป่านับว่าทำใจให้นิ่งสงบลงได้แล้ว หันหน้าส่งยิ้มมองจ้าวอวี้หลัว “ไม่ได้เจอกันนาน จ้าวอวี้หลัว”
ทั้งสองคนยิ้มให้กัน คิดถึงเรื่องตอนเด็ก พลันรู้สึกว่าเรื่องตอนเด็กน่าสนุกมากไม่น้อย
เอ้อร์เป่าเอ่ยขึ้นก่อนว่า “ได้ยินว่าเจ้าสอบเข้าสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อได้”
“ใช่ ข้าได้ยินท่านน้าลู่ว่าเจ้าได้เลื่อนเป็นหัวหน้ากอง อายุน้อยๆ ก็เก่งกาจเพียงนี้ ดูท่าเจ้าคงจะประสบความสำเร็จดั่งที่ตั้งใจหวังไว้ในวัยเด็กได้จริงๆ”
เอ้อร์เป่าพยักหน้า พบว่าตอนนี้ได้คุยกับจ้าวอวี้หลัวแล้วมีความสุขมาก
“อืม ข้าได้ยินท่านแม่ว่า ตอนนี้เจ้าร้ายกาจมาก เป็นนักเรียนสามอันดับแรกในสำนักศึกษาสตรีซุ่ยเต๋อ”
เอ้อร์เป่ากล่าวจบก็แอบเหลือบมองจ้าวอวี้หลัว ตอนนี้จ้าวอวี้หลัวยืนนิ่งเรียบร้อย เป็นความงามสง่าอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้ดูเสียสติเหมือนตอนเด็กแล้ว
จ้าวอวี้หลัวอมยิ้มกล่าวว่า “เทียบกับเจ้า ข้ายังห่างไกล ใช่แล้ว ครั้งนี้เจ้ากลับเมืองหลวงจะอยู่นานเท่าไร”
เอ้อร์เป่าไม่ได้เอ่ยเรื่องไปซีเป่ย “อย่างมากก็อยู่สองสามวัน เป็นทหารไม่อาจจากกองทัพไปนานได้”
จ้าวอวี้หลัวพยักหน้า “ครั้งนี้แยกจากกัน ไม่รู้ว่าเมื่อไรพวกเราจะได้พบกันอีก บางทีชีวิตนี้ก็คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว”
นางเอ่ยวาจานี้ก็เพื่อลองใจเขา แต่นางเองก็รู้สึกปวดใจ
เอ้อร์เป่าได้ฟังคำพูดนางก็พลันเข้าใจคำพูดนาง เขาคิดถึงว่าท่านแม่กำชับเขาว่า หากไม่ชอบก็ให้บอกกับจ้าวอวี้หลัวให้กระจ่าง ให้นางออกเรือนไป
เอ้อร์เป่าหันไปมองจ้าวอวี้หลัว พอคิดถึงว่าจะให้นางออกเรือนไป ในใจพลันอัดอั้นปวดร้าวจนพูดไม่ออกอยู่เป็นนาน
จ้าวอวี้หลัวไม่ได้ยินเขาเอ่ยอันใด ในใจก็หล่นตุบ ขอบตาเริ่มรื้น นางไม่อาจก้าวเข้าไปในใจเอ้อร์เป่าได้ แม้ว่านางพยายามมาโดยตลอดที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้น ในที่สุดนางก็ต้องปล่อยวางจากเขาแล้ว
หลายปีมานี้ แม้ว่านางปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้รอเอ้อร์เป่า ความจริงนางกลับกำลังรอพบกับเขาอีกครั้ง เพื่อจัดการตัดสินใจตัดขาดจากอดีตให้เด็ดขาดแท้จริง ตอนนี้นับว่าได้ตัดขาดแล้ว
จ้าวอวี้หลัวสูดลมหายใจ พยายามระงับน้ำตาที่เอ่อคลอ อมยิ้มมองเอ้อร์เป่ากล่าวว่า “ข้าขอให้เจ้าประสบความสำเร็จในที่เจ้าปรารถนา ได้เป็นแม่ทัพเร็ววัน และขอให้เจ้าพบภรรยาที่ดี ชีวิตนี้มีแต่วาสนาสุข”
จ้าวอวี้หลัวกล่าวจบก็คิดเดินจากไป ด้านหลังพลันมีเสียงตวาดดังอย่างไม่พอใจ “เอ้อร์เป่า นางคือผู้ใด”
จ้าวอวี้หลัวหันไปมองพบว่าเป็นหญิงสาวร่างเล็กแต่งกายเป็นชาย สีหน้ากำลังโมโห ถลึงตาใส่นางกับเอ้อร์เป่า
จ้าวอวี้หลัวมองออกว่าเป็นหญิงสาวที่แต่งกายเป็นชาย ได้ยินน้ำเสียงตวาดถามเอ้อร์เป่าของนางเช่นนี้ ในใจก็พอคาดเดาได้ ทำให้นางยิ่งเศร้าใจ
เกิ่งอวิ๋นหญิงสาวตระกูลเกิ่งพุ่งเข้ามายืนตรงหน้าเอ้อร์เป่ากับจ้าวอวี้หลัว ตวาดถามเอ้อร์เป่าอย่างโมโห “นางคือผู้ใด”
จ้าวอวี้หลัวมองหญิงสาวตระกูลเกิ่ง แล้วก็มองเอ้อร์เป่า พลันเข้าใจกระจ่าง สีหน้านางเริ่มไม่ดี เอ่ยว่า “ที่แท้เจ้าพบคนหมายปองแล้ว”
มิน่าไม่ยอมรับนาง
จ้าวอวี้หลัวมองประเมินเกิ่งอวิ๋น หญิงสาวผู้นี้ตัวเตี้ยเล็ก เป็นหญิงสาวในแบบฉบับร่างเล็กน่ารัก และก็ดูเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเอ้อร์เป่าจึงได้ชอบหญิงสาวเช่นนี้ แต่ไม่ชอบนาง
แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนางแล้ว
จ้าวอวี้หลัวกำลังจะเดินจากไป เอ้อร์เป่ารีบมองนางอธิบายว่า “อวี้หลัวไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เจ้าฟังข้าก่อน?”
เขายังไม่ได้เอ่ยอันใด แต่เกิ่งอวิ๋นกลับยื่นมือมาคว้าแขนเสื้อเขา ตวาดอย่างวางอำนาจถามว่า “เอ้อร์เป่า นางคือผู้ใด”
จ้าวอวี้หลัวเดินออกมากำลังคิดแนะนำตนเอง ไม่คิดว่าด้านหลังมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ลู่เจียวเดินนำเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนและจู้เป่าจูมา ทั้งสามกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนตระกูลเซี่ย คิดจะคุยกับเนี่ยอวี้เหยาเรื่องหมั้นหมายของต้าเป่ากับหลิงเสวี่ย
ระยะนี้นางต้องรับมือกับคนที่มาเยี่ยมเยือนที่จวนทุกวันอย่างน่าปวดหัวมาก หากจัดการหมั้นหมายต้าเป่ากับหูหลิงเสวี่ยเรียบร้อย คนพวกนั้นก็จะได้ไม่กล้ามาอีก
เนี่ยอวี้เหยาเห็นด้วยทันที แสดงท่าทีว่าจะกลับไปหารือเรื่องนี้กับหูซ่าน
เถียนฮวนกับจู้เป่าจูรีบแสดงความยินดีกับเนี่ยอวี้เหยา ขณะคุยกันอย่างเบิกบานใจ ก็พลันได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากทางนี้
ลู่เจียวจึงได้พาคนเดินมา พอมาก็เห็นหญิงสาวตระกูลเกิ่งกำลังตวาดเอ้อร์เป่าอย่างวางอำนาจ ท่าทางเหมือนกำลังเอาเรื่องสามีตนเอง
ลู่เจียวเห็นแล้วไม่ชอบใจอย่างมาก หญิงสาวผู้นี้น่าจะถูกตระกูลเกิ่งตามใจจนโต ดังนั้นนิสัยจึงเอาแต่ใจ ตระกูลเซี่ยนางไม่ต้องการสะใภ้เช่นนี้
ลู่เจียวพาเนี่ยอวี้เหยากับเถียนฮวนเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
เกิ่งอวิ๋นเห็นลู่เจียวปรากฏตัวก็รีบหันไปชี้จ้าวอวี้หลัว ถามว่า “หญิงผู้นี้คือผู้ใด ถึงกับลอบพบกับเอ้อร์เป่า?”
ลู่เจียวมองไปยังจ้าวอวี้หลัวกับเอ้อร์เป่า นางพบว่าสายตาเอ้อร์เป่าจับจ้องแต่จ้าวอวี้หลัว คล้ายคิดอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเกิ่งอวิ๋น
ลู่เจียวเห็นเขาเช่นนี้ก็พลันเข้าใจ เขาแอบส่งสัญญาณท่าทีเช่นนี้ ทำให้นางอดยิ้มไม่ได้ เช่นนี้ดีมาก
นางมองไปยังเกิ่งอวิ๋นกล่าวว่า “หญิงสาวผู้นี้คือคู่หมั้นที่ข้ากับบิดาเซี่ยเหวินเจียหมั้นหมายให้เขา พวดเราหมั้นหมายให้เขามาแต่เล็กแล้ว”
พอลู่เจียวกล่าว ทุกคนในที่นั้นต่างมีสีหน้าแปรเปลี่ยน คนที่ตั้งสติได้คนแรกสุดก็คือเอ้อร์เป่า ในใจแอบรู้สึกยินดี เขาลอบมองจ้าวอวี้หลัว จ้าวอวี้หลัวกำลังมองลู่เจียวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เกิ่งอวิ๋นได้สติทันที ส่งเสียงแหลมแหวดังขึ้น “เป็นไปได้อย่างไร ท่านตาบอกว่าเซี่ยเหวินเจียเป็นคู่หมายที่เขาดูไว้ให้ข้า เขาจะหมั้นหมายได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร”
ลู่เจียวเดินเข้ามากล่าวว่า “ขอโทษคุณหนูเกิ่งด้วย ก่อนหน้านี้เซี่ยเหวินเจียเขียนจดหมายกลับมาเมืองหลวงบอกข้ากับท่านพ่อเขา ข้ากับท่านพ่อเขารีบให้เขากลับเมืองหลวง เพื่อบอกเขาเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับตามเขากลับมา”
ลู่เจียวมองเกิ่งอวิ๋น กล่าวว่า “ขออภัยจริงๆ ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับค่ายซีหนาน”
เกิ่งอวิ๋นมองลู่เจียว แล้วก็มองไปยังเอ้อร์เป่า โมโหร้องไห้กระทืบเท้าตะโกนดังว่า “พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว”
นางกล่าวจบก็หันหลังวิ่งออกไปทันที ลู่เจียวรีบสั่งโจวฉางอาน “ให้พ่อบ้านเซียวจัดคนคุ้มกันนางกลับไปซีหนาน”
ไม่อาจปล่อยให้หญิงสาวผู้นี้เกิดเรื่องได้ หากเกิดเรื่อง พวกนางกับตระกูลเกิ่งก็คงผูกปมความแค้นยิ่งใหญ่แล้ว
เกิ่งอวิ๋นวิ่งออกไปแล้ว จ้าวอวี้หลัวก็เดินไปตรงหน้าลู่เจียว “ท่านน้าลู่ ท่านไม่ชอบหญิงสาวผู้นั้นหรือ”
นางไม่ได้คิดจริงจังกับวาจาลู่เจียว เพราะนางรู้ว่าเรื่องแต่งงานของคนตระกูลลู่ ต้องให้เจ้าตัวเห็นด้วย เอ้อร์เป่าไม่ชอบนาง ย่อมไม่ยอมแต่งกับนาง ดังนั้นนางตัดสินใจจะตัดใจแล้ว
ลู่เจียวอมยิ้มกล่าวว่า “ใช่ ไม่ชอบ ข้าชอบแต่อวี้หลัว อยากให้เจ้าเป็นสะใภ้รองของตระกูลเซี่ยเรา”
ยามนี้จ้าวอวี้หลัวกำลังหน้าแดงก่ำ มือไม้ไม่รู้วางที่ใด ก้มหน้าลงกล่าวว่า “ข้าชอบท่านน้าลู่ แต่เรื่องนี้แล้วไปเถอะ”