ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 786 หมาก
ตอนที่ 786 หมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “ข้ารู้สึกว่าเขาคิดเช่นนี้ ตอนนี้ฝ่าบาทยังหนุ่ม องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองยังเยาว์วัย เขาไม่คิดเลือกข้างเร็วเกินไป หากผูกสัมพันธ์กับตระกูลเรา ก็เท่ากับยืนข้างองค์ชายรองแล้ว ดังนั้นงานแต่งงานของเอ้อร์เป่าเกรงว่าจะไม่ง่าย”
ลู่เจียวถอนหายใจกล่าวว่า “ข้ารู้สึกว่าหากเขาคิดเช่นนี้ก็ไม่ค่อยถูกต้อง พวกเราสองตระกูลทำการค้าร่วมกัน แม้ยามนี้เขาคิดยืนตรงกลาง ก็ไม่อาจเป็นกลางได้แล้ว วันหน้าองค์ชายใหญ่ขึ้น ก็คงไม่ใช้งานเขา ไม่แน่ว่ายังอาจหาเรื่อง ส่งเขาออกไปไกลๆ ก็เป็นได้”
วาจาลู่เจียวเป็นดังที่จ้าวหลิงเฟิงกำลังคิดอยู่ในยามนี้
เดิมเขาเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จ้าวอวี้หลัวจะแต่งเข้าตระกูลเซี่ย เขาชอบเอ้อร์เป่า เขาอยากปล่อยตามใจอวี้หลัว และเขาเห็นเอ้อร์เป่าเป็นเด็กนิสัยดีมาก ไม่เจ้าชู้และรู้จักก่อร่างสร้างตัว ชายเช่นนี้ดีมาก
ผู้ใดจะรู้ว่าตระกูลเซี่ยถึงกับมีองค์ชายรองปรากฏขึ้น เขาต้องคิดให้มากอีกหน่อย
หากยามนี้พวกเขาเกี่ยวดองกับตระกูลเซี่ย ใช่ว่าเป็นการเลือกข้างองค์ชายรองไปแล้วหรือ
หากวันหน้าองค์ชายรองไม่ได้ขึ้นครองราชย์ แต่องค์ชายใหญ่ขึ้น ตระกูลพวกเขาย่อมต้องโดนคิดบัญชี
ไม่เห็นหรือว่าพอฝ่าบาทครองรราชย์ คนฝั่งอ๋องจิ้นก็ถูกสังหารไปบ้าง กวาดล้างยึดทรัพย์ไปบ้าง จัดการไปบ้าง
จ้าวหลิงเฟิงครุ่นคิดไปมา อย่างไรเอ้อร์เป่าก็ไม่ได้ชอบอวี้หลัว พวกเขาสองตระกูลก็ไม่เกี่ยวข้องกัน ผู้ใดจะรู้ว่าเอ้อร์เป่าถึงกับชอบอวี้หลัว คิดแต่งกับอวี้หลัว เช่นนี้ก็ยุ่งยากแล้ว
ในห้อง เถียนฮวนมองจ้าวหลิงเฟิงกล่าวว่า “เจ้าคิดอย่างไร”
นางเทน้ำชาให้จ้าวหลิงเฟิงไปพลางถามความคิดเห็นเขา
เถียนฮวนนิสัยเปิดเผย เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อย นางเองไม่อาจมองถึงเรื่องเล็กๆ น้อยต่างๆ ในราชสำนักนั้นได้มากนักจริงๆ
ดังนั้นนางก็แล้วแต่ความต้องการของจ้าวหลิงเฟิง อย่างไรเขาก็คงไม่ทำร้ายพวกนางแม่ลูก และเถียนฮวนก็รู้สึกว่าในท้องนางมีอีกคนแล้ว
จ้าวหลิงเฟิงขมวดคิ้วครุ่นคิดกล่าวว่า “ความจริง จะว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ จะว่าได้ก็ได้”
วาจาเขาทำเอาเถียนฮวนไร้วาจาจะกล่าว ไม่ได้ก็ไม่ได้ ได้ก็ได้ อย่างไรก็ควรต้องกล่าวให้ชัดว่าอันใดเรียกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ ได้ก็ได้
“ว่าไม่ได้ เพราะหากพวกเราเกี่ยวดองกับตระกูลเซี่ยตอนนี้ก็ยืนข้างองค์ชายรอง ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลจ้าวเรา ว่าได้ เพราะฝ่าบาททรงเห็นความสำคัญขององค์ชายรอง ทรงพระราชทานพระชายาจากสองตระกูลขุนนางใหญ่ให้องค์ชายรอง ไม่ใช่เพราะให้ความสำคัญกับองค์ชายรอง คิดเพิ่มหมากให้หรือ”
“ฝ่าบาททำเช่นนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าในพระทัยทรงให้ความสำคัญกับองค์ชายรองหรือ ฝ่าบาทคิดเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าองค์ชายรองมีโอกาสเป็นว่าที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าโจว หากตอนนี้พวกเราเลือกข้างเขา วันหน้าเขาขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ ย่อมต้องให้ความสำคัญกับตระกูลจ้าวเรา วันหน้าตระกูลจ้าวเราก็จะรุ่งเรืองไปสามชั่วอายุคน”
“แต่หากสุดท้ายองค์ชายใหญ่ขึ้นครองราชย์ เช่นนั้นตระกูลจ้าวเราก็จะจบสิ้น องค์ชายใหญ่ย่อมคิดบัญชีพวกเราแน่”
เถียนฮวนฟังเข้าใจแล้ว คิดแล้วก็กล่าวว่า “ข้าดูว่าซื่อเป่าน่าจะได้ขึ้นครองราชย์ เด็กคนนี้ฉลาดอยู่ แต่เล็กก็เปิดร้านเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับหนีฉางที่มีชื่อเสียง อายุสิบสามก็สอบซิ่วไฉได้ และเจียวเจียวก็เริ่มสอนเขาเรื่องประวัติศาสตร์มาแล้ว บางครั้งได้ยินนางเล่าประวัติศาสตร์ให้ซื่อเป่าฟัง มีเรื่องผู้ปกครองปรีชาด้วย ข้ายังแปลกใจ ตอนนี้คิดดูแล้ว เจียวเจียวก็หวังว่าวันหน้าเขาจะขึ้นสู่บัลลังก์เป็นฮ่องเต้ปรีชาแห่งประวัติศาสตร์แคว้นต้าโจว”
เถียนฮวนมีความมั่นใจในตัวลู่เจียวอย่างมาก นางมองจ้าวหลิงเฟิงกล่าวว่า “แต่โบราณกาลมา อำนาจวาสนาได้มาจากความเสี่ยงอันตราย ไม่สู้ว่าพวกเราสู้กันสักครั้ง หากสำเร็จ ตระกูลจ้าวเราก็จะรุ่งเรืองไปสามชั่วอายุคนเลยนะ”
ตอนนั้นนางก็เป็นฮูหยินผู้เฒ่าแห่งตระกูลจ้าวแล้ว ทว่าเถียนฮวนมีความสามารถอันใดจึงได้ขึ้นถึงเป็นฮูหยินผู้เฒ่าทรงอำนาจเช่นนี้
เถียนฮวนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าได้ ท่าทางนางทำเอาจ้าวหลิงเฟิงรู้สึกขำ
“เจ้าเชื่อในตัวลู่เจียวเพียงนี้เชียวหรือ”
เถียนฮวนรีบหันไปมองเขา “เจ้าไม่เชื่อมั่นนางหรือ เจ้าไม่รู้สึกว่ารอบตัวนางมีพลังวิเศษที่ทำให้เรื่องไม่ดีกลายเป็นดีได้หรือ ข้ารู้สึกว่าซื่อเป่าต้องได้ขึ้นครองราชย์ ดังนั้นเจ้ายอมให้อวี้หลัวแต่งกับเอ้อร์เป่าเถอะนะ”
เถียนฮวนกล่าวจบก็กล่าวต่อว่า “แม้เจ้าไม่อยากเลือกข้าง เกรงว่าก็คงไม่ได้ เจ้าอย่าลืมว่าเจ้าทำการค้ากับเจียวเจียวมานานแล้ว นี่ไม่ใช่ความลับอันใด เกรงว่าองค์ชายใหญ่ก็คงสืบเรื่องนี้ได้นานแล้ว”
“ดังนั้นเจ้าเลือกฝ่ายใดหรือไม่ ก็ประทับตราฝ่ายองค์ชายรองไว้แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่สู้ปล่อยไปให้เต็มที่เล่า”
จ้าวหลิงเฟิงได้ฟังเถียนฮวน ก็อดยื่นมือขึ้นกอดนางไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าข้าเป็นห่วงเพราะจะเกี่ยวโยงไปถึงพวกเจ้าแม่ลูกหรอกหรือ”
ความจริงเขามองออกว่าในพระทัยฝ่าบาท ก็คิดอยากให้องค์ชายรองขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว แต่เขาไม่แน่ใจ ดังนั้นจึงใช้องค์ชายใหญ่มาเป็นฐานรองให้องค์ชายรองก้าวขึ้นไป ให้องค์ชายรองฝึกฝนตนเอง ดูว่าเขาจะขึ้นสู่บัลลังก์นี้ได้หรือไม่
เถียนฮวนยิ้มกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าพวกเราจะสำเร็จ จะไม่เกิดเรื่องอันใด”
นางกล่าวจบยื่นมือไปคว้ามือจ้าวหลิงเฟิงมาลูบท้องตนเอง “ตรงนี้ยังมีอีกหนึ่ง”
จ้าวหลิงเฟิงดีใจขึ้นมาทันที “เจ้ามีอีกแล้วหรือ”
พวกเขาแต่งงานกันมาหลายปี เถียนฮวนคลอดเพียงหนึ่งคน จ้าวหลิงเฟิงก็ไม่ได้ว่าอันใด ตอนนี้เขามีบุตรชายหนึ่งคนก็หนึ่งคน
คิดไม่ถึงว่าเถียนฮวนตั้งครรภ์อีกแล้ว จ้าวหลิงเฟิงดีใจอย่างบอกไม่ถูก
นอกห้อง จ้าวอวี้หลัวถอยหลังกลับเงียบๆ พาคนกลับไปยังเรือนตนเอง
ตั้งแต่บิดาแต่งกับน้าเถียน นางก็รู้สึกว่าไม่ได้สนิทกับบิดาเหมือนเมื่อก่อน นางรู้ว่านี่มิใช่ความผิดบิดา แต่เป็นความผิดนาง ระยะห่างระหว่างกันถูกแยกออกจากกันไม่น้อยจริงๆ
แต่จ้าวอวี้หลัวไม่ได้ตำหนิบิดา ก็เป็นดังที่น้าลู่ว่า วันหน้านางก็ต้องเติบโต ก็ต้องแยกจากไป ไม่อาจให้บิดาอยู่ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวได้ ดังนั้นเป็นเช่นนี้จึงดีมาก อย่างน้อยบิดาก็มีคนเป็นเพื่อน วันหน้ายังมีน้องชายคอยดูแล
นางออกเรือนไปก็วางใจ
เดิมนางเป็นห่วงว่าบิดาจะไม่เห็นด้วย ตอนนี้ดูท่าน้าเถียนกล่อมบิดาได้แล้ว
ตระกูลเซี่ย ตระกูลหูและตระกูลจ้าวหมั้นหมายเชื่อมสัมพันธ์กันไม่ได้เอิกเกริกมาก เพียงแต่ส่งมอบของหมั้นหมายกันง่าย ๆ และปล่อยข่าวออกไปเท่านั้น
มีคนไม่น้อยในเมืองหลวงรู้เรื่องนี้ ข่าวนี้แพร่ออกไปก็ทำให้เป็นที่ฮือฮากันไม่น้อย
แม้ว่าตระกูลหูไม่ใช่ตระกูลโดดเด่น แต่เบื้องหลังตระกูลหูก็มีจวนอู่กั๋วกง ส่วนตระกูลจ้าว จ้าวหลิงเฟิงเป็นขุนนางกรมคลังระดับสองชั้นต้น
ตระกูลเซี่ยหมั้นหมายเช่นนี้ หมากฝั่งองค์ชายรองก็หนักขึ้นมาอีกขั้น
แรกสุดตระกูลเซี่ย ตระกูลเผย ตระกูลหวัง ตอนนี้ยังมีตระกูลหูกับตระกูลจ้าว
หมากข้างองค์ชายรองหนักแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พวกขุนนางที่เดิมไม่ได้ให้ค่าองค์ชายรอง ต่างก็คิดไตร่ตรองชั่งน้ำหนักเรื่องพวกนี้กันขึ้นมา
พวกองค์ชายใหญ่พากันโมโหอย่างมาก โดยเฉพาะฮองเฮากับองค์ชายใหญ่ยิ่งโมโห ขว้างปาสิ่งของแตกกระจาย
“นังชั้นต่ำ ล้วนเป็นนังชั้นต่ำ คิดแก่งแย่งกับบุตรชายข้า ถือสิทธิ์อันใด ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาทำสำเร็จ”
ฮองเฮากริ้วจนตวาดเรียกขันทีเข้ามา ให้เขาแอบนำจดหมายนางส่งออกไปนอกวัง คิดหาทางกำจัดตระกูลเซี่ย
กำจัดตระกูลเซี่ยก็คือการกำจัดแขนขาทรงอำนาจขององค์ชายรอง เพราะตระกูลเซี่ยเป็นแขนขาที่ใหญ่ที่สุดขององค์ชายรองที่แท้จริง