ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 836 โดนแทง
ตอนที่ 836 โดนแทง
ลู่เถาไม่ทันได้พูดอะไร นอกประตู ลู่เจียวกับเถียนซื่อก็เดินเข้ามา
ลู่เถาเห็นท่านอาก็พลันหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าเงยหน้ามองลู่เจียว เสียงร้องไห้เริ่มเบาลง
สะใภ้รองลู่พลันตัวแข็งทื่อพูดไม่ออก
เถียนซื่อเข้าไปตวาดอย่างโมโหว่า “พวกเจ้าคิดทำอันใด หากรู้ว่าพวกเจ้าไม่เคยล้มเลิกความคิดเช่นนี้ ให้ตายก็ไม่ให้พวกเจ้ามาเมืองหลวง”
สะใภ้รองลู่ได้ฟังแม่สามี สีหน้าก็ไม่ดีนัก ริมฝีปากสั่นระริกคิดโต้ แต่พอเงยหน้าเห็นแววตาเยียบเย็นของลู่เจียว นางก็ไม่กล้าเอ่ยอันใด
ลู่เจียวไม่ไว้หน้าสะใภ้รองลู่กับลู่เถา เอ่ยขึ้นตรงๆ ว่า “วันนี้ข้าขอบอกตรงไว้นี้ว่า หากพวกเจ้ากล้าทำเรื่องเหลวไหลพวกนี้อีก ข้าก็จะตัดสัมพันธ์กับพวกเจ้า วันหน้าไม่ต้องนับญาติกันอีก”
วาจานี้ค่อนข้างหนักมาก สะใภ้รองลู่ตกใจ รีบกล่าวทันทีว่า “น้องเจียว ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด เถาจื่อนาง คือ นางคือ…”
พูดไม่ออก?
เถียนซื่อโมโห กล่าวว่า “เอาละ พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็กลับกันได้แล้ว”
ลู่เจียวได้ฟังเถียนซื่อก็ปวดใจ หันหน้าไปมองเถียนซื่อกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านยากจะมาเมืองหลวงสักครั้ง พักหลายวันหน่อย อย่าได้รีบร้อนกลับ”
กล่าวจบนางมองไปยังพี่สะใภ้รองลู่กับลู่เถากล่าวว่า “หากพวกเจ้ากล้าทำเรื่องเช่นนี้อีก ข้าจะทำให้ พวกเจ้าหมดสิ้นทุกอย่าง กลับบ้านนอกไปทำนา”
วาจานี้เอ่ยออกมา สะใภ้รองลู่สีหน้าซีดเผือด นางรู้ความสามารถน้องสามีดี คิดทำให้พวกนางหมดสิ้นทุกอย่างง่ายดังปอกกล้วยเข้าปาก ยามนี้สะใภ้รองลู่นึกหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว นางร้องไห้อย่างหวาดกลัว เอ่ยว่า “น้องเจียว พวกเราผิดไปแล้ว เจ้าอย่าได้โมโห วันหน้าพวกเราไม่กล้าอีกแล้ว ขอร้องเจ้าละ เห็นแก่ท่านแม่ อย่าได้เอาเรื่องพวกเราที่คิดเหลวไหลเลยนะ ”
ลู่เจียวคิดเอ่ยต่อ แต่นอกประตูติงเซียงรีบร้อนวิ่งเข้ามารายงานว่า“ฮูหยิน คุณชายใหญ่ คุณชายรองรับเจ้าสาวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินรีบไปที่ห้องโถงเป็นประธานงานแต่งงานได้แล้วเจ้าค่ะ”
ลู่เจียวรับคำเสียงหนึ่ง ก่อนหันหลังพาเถียนซื่อออกไป “ท่านแม่ ไปดูเจ้าสาวกัน”
เถียนซื่อถลึงตาจ้องใส่สะใภ้รองลู่กับเถาจื่อก่อนเดินออกไป
สะใภ้รองลู่กับเถาจื่อสองแม่ลูกสองคนสบตากัน สุดท้ายเถาจื่อเบะปากร้องไห้ปวดใจ กล่าวว่า “ท่านแม่ เหตุใดท่านอาไม่ให้ข้าเป็นลูกสะใภ้นาง ข้าเป็นลูกสะใภ้นางไม่ดีหรือ”
ครั้งนี้สะใภ้รองลู่ไม่กล้าคล้อยตามวาจาบุตรีอีกแล้ว นางถอนหายใจหนักหน่วง กล่าวว่า “เถาจื่อเอ๊ย คนเราต่างชะตาชีวิต เจ้ามีชะตาเช่นนี้ก็แล้วไปเถอะ”
เถาจื่อยังคิดเอ่ยต่อ สะใภ้รองลู่จึงถลึงตาใส่นางกล่าวว่า “เจ้าไม่ได้ยินท่านอาเจ้าว่าหรือ หากยังกล้าคิดทำอันใด นางก็จะทำให้พวกเราหมดสิ้นทุกอย่าง ต้องไสหัวกลับบ้านนอกไป เจ้าอย่าคิดว่านางกำลังขู่เจ้า นิสัยนางพูดจริงทำจริง หากพวกเราหมดสิ้นทุกอย่างจนต้องกลับบ้านนอก เจ้าคิดว่าตระกูลเฟิงจะยอมรับสะใภ้เช่นเจ้าหรือ หากต้องแต่งกับชายบ้านนอก เจ้ารับได้หรือ”
วาจานี้เอ่ยออกมา เถาจื่อก็มีสีหน้าซีดเผือด รีบกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้ารู้แล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว”
ห้องโถงกลาง เรือนด้านหน้าตระกูลเซี่ย พิธีแต่งงานเริ่มแล้ว ประธานดำเนินพิธีแต่งงานก็คือซิ่งอันโหวกล่าวอวยพรบ่าวสาว จากนั้นบิดามารดากล่าวอวยพรบ่าวสาว สุดท้ายก็เป็นพิธีแต่งงานของบ่าวสาว
งานแต่งบุตรชายตระกูลเซี่ยขั้นตอนเรียบง่ายกว่าพิธีอภิเษกในวังมาก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวนั่งอยู่ตรงกลางห้องรับการคุกเข่าคำนับของบ่าวสาว ทั้งสองยิ้มให้กับบ่าวสาว
เจ้าบ่าวรูปงาม เจ้าสาวเลอโฉม คู่สร้างคู่สม
ดูสองบ่าวสาวแต่งงานเรียบร้อยก็หันมามองซานเป่ากับซื่อเป่า ตอนนี้ซานเป่ายังไม่มีคู่หมาย ส่วนซื่อเป่าหมั้นหมายบุตรีตระกูลเผยกับบุตรีตระกูลหวังไว้แล้ว
งานแต่งงานเขากำหนดเดือนหกในปีนี้ ตามความเห็นฝ่าบาท พระชายารองแต่งเข้าไปจัดการงานการทุกอย่างในจวนอ๋องหมิงให้เรียบร้อยก่อน รอให้นางแต่งเข้าไปแล้ว ในจวนอ๋องหมิงก็จะมีคนจัดการดูแล ดังนั้นเดือนห้า พระชายารองก็แต่งเข้าก่อน เดือนหกก็ค่อยแต่งพระชายาเอก
ลู่เจียวถอนหายใจ เด็กๆ โตกันแล้ว นางก็แก่แล้ว แม้ว่านางยังดูสาว แต่จิตใจไม่สาวเหมือนเดิมแล้ว
ขณะลู่เจียวกำลังทอดถอนใจอยู่นั้น ก็พลันเห็นข้างๆ ซื่อเป่ามีคนค่อยๆ ย่องเข้าใกล้ซื่อเป่า คนผู้นี้สวมชุดบ่าวชายตระกูลเซี่ย แต่ลู่เจียวกลับรู้สึกว่าเขาไม่คุ้นตา แม้ว่าตระกูลเซี่ยใหญ่โต แต่บ่าวในจวน ลู่เจียวรู้จักหมดทุกคน
คนผู้นี้ไม่ใช่บ่าวตระกูลเซี่ย เขาคือผู้ใด
ในใจลู่เจียวพลันกระตุกแรง เห็นคนผู้นี้เข้าใกล้ซื่อเป่าขึ้นทุกที หน้าผากลู่เจียวพลันมีเหงื่อผุดออกมาอย่างไม่อาจระงับ ตอนนี้กำลังเป็นช่วงสุดท้ายของพิธีแต่งงานต้าเป่ากับเอ้อร์เป่า
“เสร็จพิธี ส่งเข้าห้องหอ”
ซิ่งอันโหวรับหน้าที่พิธีในวันนี้เพิ่งกล่าวจบ คนที่เข้าใกล้ซื่อเป่ายามนี้ก็เข้าใกล้มากขึ้น และขยับตัวแล้ว
ยามนี้คนในห้องโถงตระกูลเซี่ยกำลังมัวแต่สนใจบ่าวสาว ไม่ได้สนใจคนผู้นี้ แม้แต่ซื่อเป่าเองก็มัวแต่สนใจงานแต่งต้าเป่ากับเอ้อร์เป่า จนลืมระวังตัวดังเช่นปกติ
ผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาลอบสังหารอ๋องหมิงในวันแต่งงานของบุตรชายตระกูลเซี่ย ดังนั้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายลงมือ
ตอนนี้ลู่เจียวรู้แล้ว หากนางตะโกนย่อมไม่ทัน ดังนั้นนางไม่ทันได้คิดอันใดก็พุ่งตัวเข้าไปหาซื่อเป่า ผลักซื่อเป่าออก กระบี่ยาวของอีกฝ่ายแทงใส่ลู่เจียวทันที
หร่วนจู๋ด้านหลังลู่เจียวได้สติ ฟาดฝ่ามือใส่ชายร่างเล็กกระเด็นไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นและทุกคนในตระกูลเซี่ย แต่ละคนสีหน้าแปรเปลี่ยนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวโดนแทง โลหิตไหลออกมา ในใจก็ลนลานทำอันใดไม่ถูก เขารู้สึกเพียงแค่เลือดในกายสูญเสียความอุ่น หนาวยะเยือกไปทั่วสรรพางค์กาย
“เจียวเจียว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพุ่งเข้าไปหาลู่เจียวที่กำลังทรุดฮวบลงพื้น โอบกอดนางเอาไว้
แฝดสี่และแฝดชายหญิงต่างพุ่งเข้ามา ลู่เจียวรู้สึกเพียงแค่หน้าอกคล้ายฉีกขาด ปวดร้าวอย่างมาก นางดิ้นรนจะพูด แต่พูดไม่ออกแม้สักคำ นางเห็นซื่อเป่าตกใจมองนาง ก็คิดเอ่ยปลอบใจเขาว่าไม่เป็นอันใด ไม่เป็นอันใด แม่เพียงแค่เหนื่อยมาก
ความจริงลู่เจียวไม่ชอบทุกอย่างในเมืองหลวง ต้องคอยระวังการแก่งแย่งวางอุบายอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่นางไม่ชอบ นางอยากหนีไปให้ห่างไกลจากการแก่งแย่งชิงดี ไปรักษาผู้ป่วย แต่นางเป็นภรรยาเซี่ยอวิ๋นจิ่น เป็นมารดาของลูกๆ ดังนั้นนางได้แต่อดทนทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบ นางต้องอยู่เมืองหลวงต่อไป
ตอนนี้นางช่วยได้ซื่อเป่าก็รู้สึกว่าภารกิจนางจบลงแล้ว หลายปีมานี้นางเหนื่อยมากแล้ว นางอยากนอนพักเงียบๆ ทุกอย่างเช่นนี้ดีมาก ดีมากจริงๆ
ลู่เจียวหลับตาเข้าสู่ความมืด
ตระกูลเซี่ยกลับวุ่นวายกันไปหมด คนที่ลอบสังหารซื่อเป่าถูกหร่วนจู๋ฟาดสาหัส ก่อนจะฟาดกระหม่อมตนเองตายทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่คิดสนใจมือสังหาร เขาลนลานอุ้มลู่เจียวขึ้นตะโกนเรียก “ฉีเหล่ย ฉีเหล่ย รีบมาเร็ว”
คนตระกูลฉีวันนี้มากันครบ ไม่เพียงแต่ฉีเหล่ย หมอหลวงฉีก็อยู่ สองพ่อลูกรีบสั่งการเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้อุ้มลู่เจียวไปห้องนอนที่เรือนด้านหน้า ฉีเหล่ยดึงกระบี่ออกและรักษาบาดแผลให้ลู่เจียว
แม้ว่าแผลอยู่ตรงหน้าอก แต่ยามนี้ไม่อาจสนใจจารีตอันใดอีกแล้ว นับประสาอันใดกับฉีเหล่ยก็เป็นศิษย์ของลู่เจียว เขาผ่าตัดให้ลู่เจียวด้วยตนเองได้
ความจริงการผ่าตัดไม่อันตรายถึงชีวิต กระบี่อีกฝ่ายเอียงปักอยู่กลางหน้าอกลู่เจียว ไม่ได้ตรงจุดสำคัญ