ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 837 ไม่ฟื้น
ตอนที่ 837 ไม่ฟื้น
แต่ลู่เจียวยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา สุดท้ายหมอหลวงฉีกับฉีเหล่ยตรวจชีพจรแล้วก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ความจริงบาดแผลไม่ฉกรรจ์ถึงชีวิต แต่คล้ายว่าอาจารย์ไม่อยากฟื้นขึ้นมาเอง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับแฝดสี่และแฝดชายหญิงได้ฟังก็นิ่งงัน เหตุใดนางไม่อยากฟื้นขึ้นมา เหตุใดกัน
ซื่อเป่าได้ยินรายงานของฉีเหล่ยกับหมอหลวงฉี ก็ทนไม่ไหว พุ่งเข้าไปข้างเตียงลู่เจียวร่ำไห้ “ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่อยากฟื้นขึ้นมา ท่านแม่ ท่านรีบลืมตามาดูพวกเราสิ ท่านแม่ไม่ต้องการพวกเราแล้วหรือ”
ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่าเองก็ร้องไห้ดัง
แฝดชายหญิง เซี่ยอู่เป่าแทบสติแตกสลาย พุ่งเข้าไปกอดลู่เจียวไม่ยอมปล่อย
“ท่านแม่ ท่านแม่รีบมาดูข้าเร็ว ท่านแม่ไม่ต้องการอู่เป่าแล้วหรือ ท่านแม่ไม่ต้องการ…ท่านแม่ไม่ต้องการอู่เป่า อู่เป่ายังอยากสอบตำแหน่งจ้วงหยวนมาให้ท่านแม่ อู่เป่าบอกว่าจะอยู่กับท่านแม่ชั่วชีวิต ท่านแม่ ท่านแม่รีบฟื้นมาดูอู่เป่าได้หรือไม่”
เซี่ยหลิงหลงเองก็ร้องไห้ พุ่งเข้าไปข้างเตียงร้องไห้กับอู่เป่า
ตระกูลเซี่ย ในห้องมีแต่ความเศร้าสลด
เซียวอวี้ในวังได้ข่าวก็มีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง หากไม่ใช่ลู่เจียว วันนี้เซียวเหวินอวี๋เกือบถูกอีกฝ่ายสังหาร พอคิดถึงคนบงการเบื้องหลัง ในใจเซียวอวี้ก็โมโหสุดขีด
หากไม่เหนือความคาดหมาย คนบงการก็คือฮองเฮาหรือไม่ก็คนตระกูลจ้าว พวกเขาทนเห็นแคว้นต้า โจวได้ดีไม่ได้หรือ
เซียวอวี้ทนโมโหไม่ไหว สุดท้ายพาคนไปตระกูลเซี่ย
คนตระกูลเซี่ยไม่คิดสนใจเซียวอวี้ ตอนนี้พวกเขาต่างหมดสิ้นกำลังใจกับเรื่องที่ลู่เจียวไม่ยอมฟื้นขึ้นมา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันแก่ชราลงไปมาก เขายื่นมือไปกุมมือลู่เจียวเอ่ยว่า “เจียวเจียว ข้ารู้ว่าเหตุใดเจ้าไม่อยากฟื้น เพราะเจ้าเหนื่อยมาก ความจริงข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบชีวิตเมืองหลวง ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ไม่ชอบอุบายไม่รู้จบ ล้วนเพราะข้าเห็นแก่ตัว ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบ แต่ก็ไม่เคยตั้งใจมองดูเรื่องพวกนี้จริงจัง”
“ขอเพียงเจ้ายอมฟื้นขึ้นมา ข้าจะพาเจ้าออกจากเมืองหลวง พวกเราไปจากเมืองหลวง ไปทำสิ่งที่เจ้าอยากทำ ดีหรือไม่”
แฝดสี่ได้ฟังคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงได้รู้ว่าความจริงมารดาพวกเขาไม่ชอบชีวิตเมืองหลวง ทั้งสี่รีบเอ่ยว่า “ท่านแม่ พวกเราไปจากเมืองหลวงกัน ไปเมืองหนิงโจว พวกเราไปเมืองหนิงโจวกัน”
ซื่อเป่าขอบตาแดงก่ำ มองลู่เจียวเอ่ยว่า “ท่านแม่ ข้านึกเสียใจภายหลังแล้ว นึกเสียใจภายหลังที่เข้าวังแล้ว หากท่านแม่ฟื้นขึ้นมา พวกเรากลับเมืองหนิงโจวกัน ข้าไม่เป็นท่านอ๋องอันใดแล้ว ไม่สนใจแผ่นดินแคว้นต้าโจวอีกแล้ว เรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ขอเพียงครอบครัวพวกเราอยู่กันพร้อมหน้าก็พอแล้ว”
เซียวอวี้ได้ยินวาจาคนตระกูลเซี่ย แววตาก็พลันหมองหม่นลงไม่อาจบรรยาย แต่ไรมาเขาระแวงคนตระกูลเซี่ยมาตลอด ตอนนี้ดูท่าทางพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้สักนิด โดยเฉพาะลู่เจียวที่ไม่ชอบทุกอย่างในเมืองหลวง
เซียวอวี้คิดถึงตอนที่ได้พบลู่เจียวครั้งแรก ท่าทางเย่อหยิ่งของนาง แม้ตอนนั้นนางเป็นแค่หญิงบ้านนา แต่ยังคงมีท่าทางเย่อหยิ่งไม่ยอมคน แต่หลายปีมานี้นางกลายมาเป็นฮูหยินขุนนางระดับสูง ก็สงบเสงี่ยมลงไปมาก ไม่ค่อยได้แสดงท่าทีเย่อหยิ่งดังเดิม
เซียวอวี้อารมณ์ไม่ดี ไม่เอ่ยอันใดออกมาสักคำ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นเซียวอวี้ ก็กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นกล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมขอให้ทรงมีราชโองการ ขอฝ่าบาทปลดกระหม่อมออกจากตำแหน่งด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ซื่อเป่าหันไปมองเซียวอวี้กล่าวว่า “เสด็จพ่อ หม่อมฉันก็อยากไปเมืองหนิงโจวอยู่กับท่านแม่ หม่อมฉันไม่ต้องการแผ่นดินแคว้นต้าโจวนี้แล้ว หม่อมฉันขอทิ้งทุกอย่างในแคว้นต้าโจว ยกให้เสด็จพี่ไปพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอวี้ได้ฟังเขาก็โมโหตวาดว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน”
ซื่อเป่าขอบตาแดงก่ำ กล่าวว่า “หากไม่ใช่ท่านแม่ ตอนนี้หม่อมฉันก็ตายไปแล้ว เช่นนั้นแผ่นดินแคว้นต้าโจวก็จะเป็นของเสด็จพี่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบแผ่นดินแคว้นต้าโจวให้เขาไป หม่อมฉันไม่เสียดาย”
ซื่อเป่ากล่าวจบพลันคำรามดัง “หม่อมฉันกลับเข้าวังเป็นองค์ชายไม่ใช่เพื่อทำให้ท่านแม่ต้องตาย หม่อมฉันคิดอยากให้นางได้ดำรงอยู่เหนือคนนับหมื่นพัน จึงได้กลับเข้าวัง หากรู้ว่าหม่อมฉันเข้าวังจะทำร้ายนางเช่นนี้ หม่อมฉันไม่มีทางยอมเข้าวังอย่างเด็ดขาด”
แววตาเขาพลันนิ่งลึกจนแลดูน่ากลัว
ในยามนี้เซียวอวี้จึงได้รู้ความคิดบุตรชาย ที่แท้เขายอมเข้าวังก็เพื่อให้ลู่เจียวได้เป็นคนสูงศักดิ์ที่ไม่มีผู้ใดกล้ารังแก คล้ายว่ามีเพียงเรื่องนี้ที่จะตอบแทนมารดาเลี้ยงตนเองที่ทุ่มเทเพื่อเขาได้
แต่ลู่เจียวก็มอบให้เขาไม่แพ้มารดาแท้ๆ เช่นกัน มีมารดาสักกี่คนที่จะยอมเสียสละชีวิตตนเองเพื่อช่วยบุตรชายไว้
เซียวอวี้คิดถึงไทเฮาในวัง เขาแน่ใจได้อย่างเต็มที่ว่า มารดาเขาไม่มีทางสละตนเองเพื่อเขาอย่างแน่นอน
ยามนี้ในใจเซียวอวี้อดอิจฉาซื่อเป่าไม่ได้ แม้ว่าซื่อเป่าไม่มีเขาอยู่ข้างกาย แต่กลับได้รับความรักจากบิดามารดาเลี้ยงเช่นนี้ เรื่องเหล่านี้จะเป็นความทรงจำงดงามที่สุดในชีวิตวันหน้าของเขา
เซียวอวี้คิดไปก็เอ่ยไปว่า “ฮูหยินเซี่ยจะไม่เป็นอันใด”
พอเขาเอ่ยขึ้น ทุกคนหันไปสนใจลู่เจียวที่นอนอยู่อีกครั้ง
ลู่เจียวสีหน้าปกติ แม้ว่าลมหายใจแผ่วเบา แต่ร่างกายไม่ได้มีร่องรอยความเจ็บปวดใด
เพียงแต่เห็นนางเช่นนี้ ทุกคนในตระกูลเซี่ยราวกับถูกมีดกรีดกลางใจ
ท่านแม่ไม่อยากฟื้นขึ้นมา นางไม่รักพวกเขาแล้วหรือ
ซื่อเป่าถึงกับครุ่นคิด หรือท่านแม่จะกลับไปที่เดิม นางจะไม่กลับมาแล้วหรือ
ในนาทีนี้ซื่อเป่ารู้สึกว่าตนเองเริ่มลนลานทำอันใดไม่ถูก หากเป็นเช่นนี้ แม้เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้วจะมีความหมายอันใด แรกสุดที่เขากลับเข้าวังก็คิดเพียงแค่ต้องการให้ท่านแม่ได้เป็นไทเฮาอยู่เหนือคนนับหมื่น ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกนางอีก ไม่มีผู้ใดกล้าทำให้นางลำบากใจอีก
นางจะมีชีวิตดังที่นางต้องการได้ แต่ตอนนี้นางกลับมาจากไปแล้ว เช่นนั้นที่เขาทำมาทุกอย่างเพื่ออันใดกัน
น้ำตาซื่อเป่าไหลรินออกมา ย่อลงนั่งกล่าวว่า “ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ฟื้น ข้าก็ไม่เป็นอ๋องนี่แล้ว ข้าจะออกเดินทางท่องเที่ยว”
วาจาซื่อเป่าทำเอาเซียวอวี้อารมณ์ไม่ดีอย่างที่สุด
แต่ซื่อเป่าไม่ได้สนใจเขา กล่าวต่อว่า “ข้าไม่แต่งภรรยาแล้วด้วย”
ซื่อเป่าเพิ่งกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาเรียกนางอย่างดีใจทันที “นางขมวดคิ้วแล้ว ดูท่านางยังมีปฏิกิริยาตอบรับวาจาพวกเรา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ในห้องทุกคนต่างดีใจ จ้องมองลู่เจียว เห็นสีหน้านางยังคงเดิม
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นแน่ใจว่าตนเองมองไม่ผิด
เขามองต้าเป่ากล่าวว่า “ต้าเป่า เจ้าบอกกับท่านแม่เจ้า หากท่านแม่ตาย เจ้าจะเป็นอย่างไร อย่าลืมพูดให้อนาถหน่อย ท่านแม่เจ้าได้ฟังย่อมไม่วางใจพวกเจ้า นางก็จะฟื้นขึ้นมา”
ลูกๆ ในห้องพอได้ฟังก็รีบเขยิบเข้าไปใกล้เตียงลู่เจียว
ต้าเป่ารีบกล่าวว่า “ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ฟื้น ข้าก็ต้องไปไว้ทุกข์ ท่านแม่ไม่ชอบเมืองหลวง ข้านำโลงศพท่านแม่กลับหมู่บ้านตระกูลเซี่ย วันหน้าข้าก็จะอยู่หมู่บ้านตระกูลเซี่ยเฝ้าท่านแม่”
ต้าเป่ากล่าวจบ คนที่ล้อมรอบเตียงก็เห็นลู่เจียวบนเตียงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครั้งนี้ทุกคนต่างดีใจร้องเสียงดัง กล่าวว่า “ท่านแม่ได้ยินพวกเราด้วย”
เอ้อร์เป่ารีบเขยิบเข้าไปใกล้เตียง ตะโกนดังว่า “ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ฟื้นขึ้นมา ข้าก็จะไม่ไปเป็นทหารชายแดนแล้ว ข้าจะกลับบ้านนอกไปทำนา ข้าไม่เป็นแม่ทัพแล้ว”