ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 858 นึกเสียใจภายหลัง
ตอนที่ 858 นึกเสียใจภายหลัง
เซียวเหวินอวี๋พลันคิดถึงเรื่องหนึ่ง ท่านปู่เขาหรือก็คืออาจารย์เฉินรับเงินตระกูลเซี่ยสอนท่านพ่อ ปรากฏกลับบอกว่าไม่รับเงิน จึงได้ชื่อเสียงเป็นที่ยกย่อง
ตระกูลเฉินช่างบิดเบี้ยวตั้งแต่เบื้องบนถึงเบื้องล่างจริงๆ
เซียวเหวินอวี๋โบกมือสั่งการเยียบเย็น ให้ลากเฉินหยวนออกไปตบปาก
โจวโย่วจิ่นเองก็รังเกียจเฉินหยวนอย่างที่สุด เจ้ามันตัวอันใดถึงกับกล้าหาเรื่องฮูหยินโจวกั๋ว
ควรรู้ว่าฮูหยินโจวกั๋วอบรมเลี้ยงดูฝ่าบาททุ่มเทไปมากเพียงใด ปรากฏนางแค่น้องสาวลูกพี่ลูกน้อง ถึงกับมาชี้หน้าตำหนิฮูหยินโจวกั๋ว แค่คิดก็รู้ว่าในพระทัยฝ่าบาทจะทรงกริ้วหนักเพียงใด
โจวโย่วจิ่นสั่งการอย่างโมโหมาก ให้ขันทีลากตัวเฉินหยวนออกไปตบปาก และตบปากอย่างแรงที่สุด
เฉินหยวนยังคิดกล่าว เพียงแต่น่าเสียดายถูกขันทีอุดปากลากตัวออกไป
สตรีที่มาคัดเลือกต่างไม่รู้สถานการณ์ในนั้น ตกใจสีหน้าซีดเผือด สตรีด้านในเองก็มีสีหน้าซีดเผือดไม่กล้ากล่าวอันใดแม้สักคำเช่น
แต่ทุกคนต่างรู้ได้เรื่องหนึ่ง ก็คือฝ่าบาทให้ความสำคัญกับฮูหยินโจวกั๋ว วันหน้าพวกนางควรให้ความเคารพฮูหยินโจวกั๋วท่านนี้สักหน่อย
เซียวเหวินอวี๋ลงอาญาเฉินหยวนเสร็จ ก็ยกมือให้บรรดาสาวงามที่มาคัดเลือกออกไป
สุดท้ายโถงคัดเลือกก็เหลือเพียงแค่เซียวเหวินอวี๋กับลู่เจียวและฮองเฮา
เซียวเหวินอวี๋เงยหน้ามองไปยังฮองเฮาเผยอวี่
ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนเพราะฮองเฮาก่อขึ้น หากฮองเฮาไม่ให้หญิงตระกูลเฉินเข้าวังมาร่วมคัดเลือกพลการ ก็จะไม่เรื่องมากมายเช่นนี้
ฮองเฮามองแววตาเซียวเหวินอวี๋ก็รู้สึกทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาขออภัยโทษ “ฝ่าบาท ทั้งหมดเป็นความผิดของหม่อมฉันเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวไม่พอใจว่า “วันหน้าฮองเฮาอย่าได้ฝ่าฝืนราชโองการเราจะดีกว่า”
ลู่เจียวรีบไกล่เกลี่ย ประการแรก เซียวเหวินอวี๋เพิ่งจะขึ้นครองราชย์ ไม่ควรมีเรื่องกับฮองเฮา เบื้องหลังฮองเฮายังมีตระกูลเผย และฮองเฮายังทรงตั้งครรภ์แล้ว หากทั้งสองคนมีเรื่องกัน อาจส่งผลต่อครรภ์ได้
“ในเมื่อฝ่าบาทมาแล้ว ก็มาดูด้วยกันเถอะ”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็คิดได้ว่าวันนี้ท่านแม่ตนถูกลบหลู่ เขาก็รีบเดินไปตรงหน้าลู่เจียว เอ่ยขอโทษ “ท่านแม่ วันนี้ทำให้ท่านแม่ไม่สบายใจแล้ว”
เดิมลู่เจียวไม่พอใจจริงๆ แต่เห็นเซียวเหวินอวี๋ขอโทษ ก็รีบยิ้มกล่าวว่า “เอาละ เรื่องเล็ก รีบมานั่งดูการคัดเลือกหญิงเหล่านี้เข้าวังกันดีกว่า”
นางกล่าวจบก็ยิ้มเอ่ยเรียกฮองเฮาให้มานั่ง
ฮองเฮาก็โล่งอกนั่งลง
แต่เห็นเซียวเหวินอวี๋จูงมือลู่เจียว เห็นรายชื่อหญิงงามในมือลู่เจียวที่นางเลือกไว้
ในใจฮองเฮาก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก
ฝ่าบาทปฏิบัติต่อฮูหยินโจวกั๋วดีมากเกินไปหรือไม่ นางเป็นฮองเฮา ยังตั้งครรภ์บุตรของเขาอีกด้วย
ความจริงลู่เจียวเพียงแต่คิดแก้สถานการณ์ให้ฮองเฮา เห็นว่าเซียวเหวินอวี๋ไม่คิดตำหนิฮองเฮาแล้ว ก็ยัดรายชื่อสาวงามในมือใส่มือเซียวเหวินอวี๋
“เจ้าดูเองเถอะ”
เซียวเหวินอวี๋อ่านดูรอบหนึ่งก็พบว่าหญิงที่ลู่เจียวคัดเลือกนั้น ไม่เป็นบุตรีขุนนางในราชสำนัก ก็เป็นบุตรีจากกลุ่มขุนนางใหม่ในราชสำนัก กลุ่มแรกเพื่อทำให้เขาดำรงแผ่นดินแคว้นต้าโจวให้มั่นคง กลุ่มหลังเพื่อให้เขาได้ใจกลุ่มชนชั้นสูงกลุ่มใหม่ในราชสำนัก
เซียวเหวินอวี๋อ่านรอบหนึ่งก็ยิ้มเอ่ยว่า “ท่านแม่คัดเลือกได้ดีมาก”
เขาเพิ่งกล่าวจบ ฮองเฮาก็ได้สติ รีบส่งรายชื่อหญิงงามที่ตนเองเลือกให้เซียวเหวินอวี๋
“ฝ่าบาท นี่คือรายชื่อสาวงามที่หม่อมฉันคัดเลือกไว้ก่อนหน้านี้เพคะ ทรงทอดพระเนตรเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋ไม่ได้กล่าวอันใด ยื่นมือไปรับมาอ่านรอบหนึ่ง
หญิงที่ฮองเฮาเลือกกับที่ลู่เจียวเลือกเหมือนแตกต่างกันอยู่บ้าง เซียวเหวินอวี๋อ่านละเอียดแล้วก็อดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้
หญิงที่ฮองเฮาคัดเลือกมา ในนั้นมีหลายคนสนิทกับตระกูลเผย
ดังนั้นนางกำลังซื้อใจคนหรือ
ในใจเซียวเหวินอวี๋อดเกิดความรู้สึกไม่ดีกับนางขึ้นไม่ได้ ในฐานะฮองเฮา ไม่คิดเพื่อเขา ถึงกับเอาแต่สนใจตระกูลเผย ฮึ
แม้ว่าเซียวเหวินอวี๋ไม่พอใจ แต่กลับไม่แสดงอาการโมโห เพียงแค่รับคำเล็กน้อย
ลู่เจียวเอ่ยเตือนเซียวเหวินอวี๋ “ด้านนอกยังเหลือสาวงามอีกหลายคน ฝ่าบาททอดพระเนตรต่อเถอะ”
“ได้”
นอกพระที่นั่ง สาวงามที่เหลือเดินเข้ามา เพราะฝ่าบาทอยู่ด้วย ทำให้ทุกคนต่างระมัดระวังรอบคอบกันอย่างมาก ไม่อาจปล่อยให้เกิดเหตุผิดพลาดใด
เซียวเหวินอวี๋มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็เลือกๆ ไปอีกสองนาง จากนั้นให้พวกนางถอยออกไป แต่ต้นจนจบก็ไม่ได้เอ่ยอันใด ว่าให้อยู่ต่อหรือไม่
วันนี้สตรีที่เข้าวังร่วมการคัดเลือกถูกคนส่งออกนอกวังอย่างรวดเร็ว นอกจากเฉินหยวนที่ถูกตบหน้าบวมให้อยู่ในวังต่อชั่วคราวเพียงคนเดียว
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงเอินโหวถูกขันทีนำเข้าวังมาอย่างรวดเร็ว ตอนเห็นหลานสาวก็ถึงกับจำไม่ได้ แต่เพราะเฉินหยวนแผดเสียงร้องไห้ดังเรียกนาง นางจึงได้จำได้
“ฮือๆ ท่านย่า ช่วยข้าด้วย”
ยามนี้เฉินหยวนหวาดกลัวแล้ว แต่ไรมานางมีแต่ความรักเลื่อมใสในเซียวเหวินอวี๋ฮ่องเต้หนุ่ม แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกหวาดกลัวเซียวเหวินอวี๋ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
ตอนนี้นางไม่อยากเข้าวังแล้ว อยากกลับบ้าน
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินเห็นท่าทางเฉินหยวน ยังมีอันใดไม่เข้าใจ ย่อมเพราะเฉินหยวนทำเรื่องอันใดให้ฝ่าบาททรงกริ้วจึงได้โดนตบปาก
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินแทบไม่กล้าก้าวเข้าไป ยังคงมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวังก่อนจะก้าวเข้าไป
“ฮูหยินเฉิงเอินโหว เชิญ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินฝืนเดินเข้าไปในพระที่นั่ง ฮองเฮาไม่อยู่แล้ว เพราะนางตั้งครรภ์ เซียวเหวินอวี๋ให้คนส่งฮองเฮากลับไปตำหนักคุนหนิงกง
ในพระที่นั่ง ยามนี้เหลือเพียงฮ่องเต้กับลู่เจียวสองคน
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินรีบถวายบังคม “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋ไม่เอ่ยเรียกนางลุกขึ้น เพียงแต่จ้องมองนางนิ่ง ยังคงเป็นลู่เจียวที่เอ่ยให้นางลุกขึ้น
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินอายุมากแล้วอย่าได้เกิดเรื่องอันใดในวัง ถึงตอนนั้นฝ่าบาทย่อมแบกรับชื่อเสียงไม่ดีนี้ไม่ไหว
“ฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นได้”
ในใจฮูหยินผู้เฒ่าเฉินเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ นางไม่กล้าขยับ ลู่เจียวมองเซียวเหวินอวี๋ทีหนึ่ง เซียวเหวินอวี๋จึงเอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ลุกขึ้นได้”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินได้ฟังเซียวเหวินอวี๋จึงได้กล้าทูลขอบพระทัย
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋พระราชทานที่นั่ง จากนั้นก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “เราจำได้ว่าก่อนหน้านี้เรามีราชโองการ ครั้งนี้สตรีที่เหมาะแก่การเข้าคัดเลือกเข้าวังต้องเป็นบุตรีขุนนางระดับสามขึ้นไป ไม่ทราบว่าตระกูลเฉินส่งบุตรีเข้าวังมานี้หมายความเยี่ยงไร คิดขัดราชโองการเราหรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินโดนสวมความผิดให้เช่นนี้ สีหน้าก็ซีดเผือด ลงคุกเข่าทันที เอ่ยขึ้นไม่หยุดว่า “หม่อมฉันมีความผิดๆ”
เซียวเหวินอวี๋กล่าวเนิบนาบว่า “หญิงตระกูลเฉินพฤติกรรมไม่ดี วาจาเหิมเกริม บุตรีขุนนางระดับสี่ ถึงกับโต้คารมกับฮูหยินเหนืออันดับหนึ่ง ผู้ใดให้ความกล้านี้แก่นางกัน ตระกูลเฉินหรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินหลั่งเหงื่อเย็นโทรมกาย ในใจแอบด่าทอเฉินหยวน บอกกับนางแล้วไม่ใช่หรือ ให้นางเคารพฮูหยินโจวกั๋ว ต้องเคารพไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงโต้คารมล่วงเกินฮูหยินโจวกั๋วได้
แต่ยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินฟังออกว่าในพระทัยฝ่าบาทไม่ได้มีตระกูลเฉินแม้สักนิด ก่อนหน้านี้ที่ทรงพระราชทานให้แก่ตระกูลเฉินล้วนเพราะทำเพื่อภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
พวกเขาสำคัญตนผิดไปเสียแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินนึกเสียใจภายหลังอย่างมาก
เซียวเหวินอวี๋เอ่ยขึ้นอีกว่า “ฮูหยินผู้เฒ่ารู้นิสัยเรากระมัง”