ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 863 โมโห
ตอนที่ 863 โมโห
เผยอวี่ได้ฟังคำพูดลู่เจียว ในใจเริ่มรู้สึกไม่ค่อยยินดีสักเท่าไร หมายความว่าอย่างไร ว่านางไม่คิดเพื่อฝ่าบาทหรือ นางไม่คิดเพื่อฝ่าบาทเมื่อใดกัน
“วาจาฮูหยินนี้หมายความเยี่ยงไร” เผยอวี่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ลู่เจียวเห็นท่าทางนางไม่ดีนักจึงไม่ได้เอ่ยต่อ ก่อนไปยังสำทับอีกประโยคว่า “ฮองเฮา ในฐานะฮองเฮา ทุกเรื่องต้องหารือกับฝ่าบาทจะดีกว่า”
เผยอวี่รีบคิดถึงเรื่องนางกำนัลอาวุโสข้างกายนาง นางหันไปมองนางกำนัลอาวุโสข้างกายทันที
นางให้ตระกูลเผยส่งเข้าวังมา เพราะนางไม่ไว้วางใจหมอหลวงในวัง กลัวพวกเขาถูกคนซื้อตัวไป ควรรู้ว่าในครรภ์นางตอนนี้สำคัญอย่างที่สุด
เผยอวี่คิดไปก็พลางมองลู่เจียวไป กล่าวว่า “ไม่กระมัง”
ลู่เจียวยิ้มแล้วก็ไม่คิดเอ่ยต่อ เอ่ยมากไปไม่แน่อาจทำให้ฮองเฮาโมโหนาง
เผยอวี่ยังจะเอ่ยต่อ แต่นอกพระที่นั่งพลันมีเสียงขันทีแหลมดังเข้ามา “ฝ่าบาทเสด็จ”
เผยอวี่กับลู่เจียวทั้งสองคนรีบลุกขึ้นไปต้อนรับ เซียวเหวินอวี๋พาคนเดินเข้ามาในตำหนักด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ฮองเฮาเห็นเขาอารมณ์ไม่ดีก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น
เซียวเหวินอวี๋ก้าวมาตรงหน้าฮองเฮา “ฮองเฮา ฮูหยินโจวกั๋วเป็นท่านแม่เรา นางไม่ใช่หมอ อย่าได้พอมีเรื่องเล็กน้อยก็เรียกตัวนางเข้าวัง”
เซียวเหวินอวี๋โมโหมากจริงๆ ตอนคัดเลือกพระสนม ฮองเฮาจัดการให้หญิงตระกูลเฉินเข้าวังมาร่วมการคัดเลือกด้วยตนเอง เรื่องนี้เพิ่งจะผ่านไป ฮองเฮาก็เจ้ากี้เจ้าการให้คนตระกูลเผยส่งคนเข้าวังมาอีก เซียวเหวิน อวี๋ไม่ได้เอ่ยคัดค้านเรื่องตระกูลเผยส่งคนเข้าวังก็ดีมากแล้ว อย่างไรเขาก็เป็นฮ่องเต้ ควรบอกเขาสักคำ ควรให้ความเคารพเขาสักหน่อยกระมัง
ปรากฏว่าฮองเฮาไม่บอกสักคำก็ให้คนตระกูลเผยส่งคนเข้าวัง
แต่เพราะรู้สึกครรภ์ไม่ค่อยดี ไม่เพียงแต่ให้นางกำนัลอาวุโสตรวจ ยังให้หมอหลวงมาตรวจอีก ไม่เพียงเท่านั้น ปรากฏถึงกับสั่งให้ท่านแม่ตนเข้าวังมาตรวจให้นาง หากเกิดเรื่องจริง เชิญท่านแม่เขาเข้าวังมาจะไม่เอ่ยสักคำ แต่หมอหลวงก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอันใด ยังต้องให้ท่านแม่เขาเข้าวังมาอีก นี่คิดทำอันใดกัน เห็นชัดว่ามองว่าครรภ์ตนเองเป็นดังทองคำล้ำค่าหรือ
เผยอวี่ได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นห่วงบุตรในครรภ์ จึงได้เรียกตัวฮูหยินโจวกั๋วเข้าวัง”
เซียวเหวินอวี๋มองเผยอวี่ทีหนึ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่ถึงสองเดือนก็เครียดเช่นนี้ ตั้งครรภ์ต้องสิบเดือน เจ้าจะเอาแต่เคร่งเครียดเช่นนี้ ต้องแน่ใจตลอดเวลาว่าครรภ์จะไม่เป็นอันใดอย่างนั้นหรือ”
เดิมเซียวเหวินอวี๋ก็เฝ้ารอบุตรคนนี้ อย่างไรก็เป็นบุตรคนแรกของเขา และเขาก็เตรียมจะรักใคร่ปรองดองกับฮองเฮาแล้ว แต่ฮองเฮากลับทำเรื่องเช่นนี้ ทำให้เซียวเหวินอวี๋ไม่พอใจขึ้นมา ยังรวมไปถึงบุตรในครรภ์นางด้วย เขาจึงไม่ได้เฝ้ารอดังเดิมอีกแล้ว
ในฐานะฮ่องเต้พระองค์ใหม่แคว้นต้าโจว ในห้วงความคิดเซียวเหวินอวี๋ไม่ได้มีความคิดว่ารัชทายาทจำเป็นต้องเป็นฮองเฮาให้กำเนิด เพราะเขาเองก็มิใช่ถือกำเนิดจากฮองเฮาเช่นกัน
เพียงแต่เขารู้สึกว่าฮองเฮาในฐานะภรรยาเอกเขา รักหรือไม่ยังไม่ต้องเอ่ยถึง แต่อย่างน้อยก็ต้องให้เกียรตินางอย่างเพียงพอ
แต่ตอนนี้เผยอวี่ทำให้เขาผิดหวัง แม้แต่บุตรที่ยังไม่เกิดมาก็พลอยถูกเขาไม่พอใจไปด้วย
เผยอวี่กลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เหตุใดฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ นี่เป็นบุตรคนแรกของพวกเขา นางมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้ชื่นชอบสักเท่าไร
เผยอวี่ครุ่นคิดแล้วก็ขอบตาแดง ลู่เจียวมองทั้งสองคน ไม่รู้ว่าควรเอ่ยอันใด ได้แต่รีบเอ่ยว่า “ฝ่าบาท เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ”
เซียวเหวินอวี๋มองความคิดลู่เจียวออก เขารู้ว่าท่านแม่ไม่อยากให้เขามีเรื่องกับฮองเฮา
เซียวเหวินอวี๋ก็รีบคลี่ยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “ได้ยินว่าท่านแม่มาจึงได้มาคุยกับท่านแม่สักหน่อย”
“ฝ่าบาทมีราชกิจก็ไปทำเถิดเพคะ หม่อมฉันจะออกจากวังหลวงแล้ว”
ลู่เจียวกล่าวจบก็ลุกขึ้นยืน มองฮองเฮาทีหนึ่ง แอบตัดสินใจว่าจะส่งเทียบไปเยือนตระกูลเผยให้ฮูหยินผู้เฒ่าเผยเตือนฮองเฮาสักคำ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ได้การ นางเองก็คงไร้หนทางแล้ว
ลู่เจียวคิดไปก็ทูลลาฮองเฮาไป “ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันทูลลา”
เผยอวี่เห็นเซียวเหวินอวี๋จ้องมองนางอยู่ ก็ไม่อาจรั้งลู่เจียวให้อยู่ต่อ เผยอวี่รู้สึกว่าลู่เจียวไม่ช่วยนางพูด ในใจนางไม่พอใจอย่างมาก เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ข้าให้ข้าหลวงหยวนไปส่งฮูหยิน”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังเผยอวี่ ในใจก็คิดขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ยังเรียกท่านแม่ ตอนนี้ถึงกับแม้แต่ท่านแม่ก็ไม่เรียกแล้ว
ลู่เจียวกลับไม่ได้คิดมากเช่นนั้น รับคำนอบน้อม “ขอบพระทัยฮองเฮา”
เผยอวี่ให้นางข้าหลวงหยวนไปส่งลู่เจียว เดิมนางคิดว่าฝ่าบาทจะอยู่เป็นเพื่อนตนเองต่อ ปรากฏเซียวเหวินอวี๋เพียงแค่มองนางทีหนึ่งแล้วก็หันหลังตามลู่เจียวออกไป เผยอวี่มองตามเซียวเหวินอวี๋ที่หันหลังเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ สุดท้ายขอบตาก็เริ่มแดงอย่างไม่รู้ตัว
ฝ่าบาททรงหมายความเยี่ยงไร เห็นอยู่ว่าตอนเพิ่งจะแต่งงานยังดีๆ ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ถึงกับทรงทำไม่สนพระทัยเช่นนี้แล้วหรือ
นางข้าหลวงหยวนไปส่งลู่เจียวแล้วก็กลับมา เห็นฮองเฮาขอบตาแดง นางข้าหลวงหยวนอดถอนหายใจไม่ได้ กล่าวว่า “ฮองเฮา ทรงเป็นอันใดหรือเพคะ”
“ข้าตั้งครรภ์ ฝ่าบาทถึงกับไม่อยู่เป็นเพื่อนคุยกับข้า”
นางข้าหลวงหยวนไม่รู้ควรเอ่ยอันใดแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนฮองเฮายังไม่ตั้งครรภ์ก็ปกติดีทุกอย่าง เหตุใดพอตั้งครรภ์ก็เปลี่ยนเป็นคนเอาแต่ใจเช่นนี้ไปได้ คล้ายว่าในครรภ์นางยิ่งใหญ่อย่างมาก อย่าว่าแต่ยังไม่รู้ว่าครรภ์นี้ชายหรือหญิง แม้เป็นองค์ชายแล้วอย่างไร ไม่เห็นหรือว่าไท่ซั่งหวงทอดทิ้งองค์ชายใหญ่ หันไปเลือกองค์ชายรองเป็นรัชทายาท
ไม่ใช่ว่าโอรสที่ฮองเฮาให้กำเนิดก็จะได้เป็นรัชทายาท ทุกอย่างล้วนขึ้นกับการตัดสินพระทัยของฝ่าบาท หากอยากให้โอรสตนได้เป็นรัชทายาทก็ควรโอนอ่อนตามฝ่าบาทสักหน่อย เหตุใดจึงเอาแต่ใจขึ้นมาเช่นนี้ ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ จะมาเอาใจเจ้าหรือ
นางข้าหลวงหยวนคิดไปก็เอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยนไปว่า “ฮองเฮา ฝ่าบาทเพิ่งจะขึ้นครองราชย์ ราชกิจมากมาย ไหนเลยมีเวลามาเป็นเพื่อนคุยกับฮองเฮา หากฮองเฮาทรงเบื่อ พวกเราเป็นเพื่อนคุยกับฮองเฮานะเพคะ”
เผยอวี่ได้ฟังก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ทรงราชกิจยุ่งเพียงนั้นหรือ เหตุใดทุกครั้งที่ฮูหยินโจวกั๋วเข้าวัง เขาก็มีเวลามาได้”
ใบหน้านางข้าหลวงหยวนราวกับมีแสงสีดำพาดผ่าน มองฮองเฮากล่าวว่า “ฮองเฮา ฮูหยินโจวกั๋วเป็นพระมารดาเลี้ยงฝ่าบาท ดีกับฝ่าบาทมาก นางเข้าวัง ฝ่าบาทในฐานะผู้น้อยก็ย่อมต้องมาต้อนรับ หากฮูหยินโจวกั๋วเข้ามาพำนักในวัง ฝ่าบาทก็คงทรงไปถวายพระพรทุกวัน ท่านเทียบกับฮูหยินโจวกั๋วได้อย่างไรกัน อีกอย่าง วันหน้าฮองเฮาพูดกับฮูหยินโจวกั๋วก็ควรเสียงอ่อนหวานสักหน่อย แม้นางเป็นแค่พระมารดาเลี้ยงฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทรักและเคารพนางมาก แม้ว่านางไม่ได้ชื่อว่าเป็นแม่สามีของฮองเฮา แต่…”
เผยอวี่ทนฟังต่อไปไม่ไหว เดิมนางกำลังน้อยเนื้อต่ำใจ นางข้าหลวงหยวนยังมากล่าวเช่นนี้
“เอาละ ข้ารู้แล้ว”
กล่าวจบก็กล่าวอย่างไม่พอใจต่อว่า “เช่นนั้นเหตุใดเขาว่างไปอยู่เป็นเพื่อนพระสนมซูเฟยได้ แต่เหตุใดไม่รู้จักมาเป็นเพื่อนข้า”
นางข้าหลวงหยวนอยากโต้ใส่เผยอวี่สักคำ เช่นนั้นก็ถามตัวท่านเอง เหตุใดอยู่ดีๆ ทำให้ฝ่าบาทไม่อยากเสด็จมาอยู่กับท่าน
แต่เห็นฮองเฮาเสียพระทัย นางข้าหลวงหยวนก็ไม่ได้เอ่ยอันใดอีก กล่าวตามตรง ฮองเฮาก็ยังอายุน้อยเพียงแค่สิบหกเท่านั้น ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน
หน้าประตูตำหนักคุนหนิงกง เซียวเหวินอวี๋สั่งให้ขันทีนำเกี้ยวมาส่งลู่เจียวออกจากวังหลวง
“ท่านแม่ เรื่องงานแต่งงานพี่สามเตรียมการไปถึงไหนแล้ว”