ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 871 ยุแยง
ตอนที่ 871 ยุแยง
เพียงแต่ตอนนี้เซียวเหวินอวี๋กำลังโมโห
แม้ว่าเขาวางยาหญิงตระกูลจ้าวได้ แต่ก็ต้องหาทางทำให้นางสูญเสียพรหมจรรย์
เรื่องเช่นนี้มอบให้ผู้อื่นทำไม่ได้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไปก็จะทำลายงานเขา
ตอนนี้ที่เขาต้องการคือเวลาในการรับมือตระกูลจ้าว
เซียวเหวินอวี๋ยืนอยู่ข้างเตียง กำลังกลัดกลุ้มคิดหาวิธี ไม่นานเขาก็ตะโกนออกไปด้านนอก “โย่วจิ่น เข้ามา”
โจวโย่วจิ่นก้าวเท้าเข้ามา
คนที่เขาเชื่อใจที่สุดในวังนี้ก็คือโจวโย่วจิ่น “เจ้ามาช่วยทำลายพรหมจรรย์หญิงผู้นี้”
โจวโย่วจิ่นตกใจมองเซียวเหวินอวี๋ “ทำลายพรหมจรรย์อันใด หมายความเยี่ยงไรพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดกระมัง
เซียวเหวินอวี๋มองโจวโย่วจิ่นเย็นชา โจวโย่วจิ่นมองเซียวเหวินอวี๋ แล้วก็มองหญิงบนเตียง สุดท้ายคอตกจนใจ กล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมไร้หนทางพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเหวินอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวว่า “ใช้ของอันใดก็ได้ เราไปรอเจ้าด้านนอก”
เขากล่าวจบก็หันหลังก้าวออกไปด้านนอกทันที โจวโย่วจิ่นด้านหลังมีสีหน้าลำบากใจ มองหารอบกายเป็นนาน สุดท้ายคลำเจอของสิ่งหนึ่งก็เดินเข้าไป ไม่นานก็มีเสียงร้องดังออกมา จากนั้นโจวโย่วจิ่นก็เดินออกมา มือเท้าอ่อนยวบ ท่าทางยืนไม่ติด
เซียวเหวินอวี๋เห็นโจวโย่วจิ่นเช่นนี้ก็เดินเข้าไปประคองเขาลงนั่ง
“ขอโทษ โย่วจิ่น เราไร้หนทาง ได้แต่ให้เจ้าทำเรื่องเช่นนี้ เราไม่อยากแตะต้องหญิงตระกูลจ้าว แต่ตระกูลจ้าวกุมอำนาจการทหาร เราได้แต่แสดงท่าทีโปรดปรานนางไปก่อน หากนางยังคงพรหมจรรย์ไว้ ก็จะทำให้คนมองอุบายนี้ออก”
“โย่วจิ่น รอให้เรากุมอำนาจแคว้นต้าโจวแท้จริงก่อน จะไม่ให้เจ้าต้องทำเรื่องลำบากใจเช่นนี้อีก”
โจวโย่วจิ่นได้ฟังเซียวเหวินอวี๋ ก็รีบคุกเข่าลง “ฝ่าบาท กระหม่อมได้แบ่งเบาภาระฝ่าบาท ก็ถือเป็นวาสนากระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
แสดงให้เห็นว่าในพระทัยฝ่าบาททรงเชื่อพระทัยเขาเพียงคนเดียว นี่นับเป็นเกียรติของเขา
“ไม่ว่าเรื่องใด กระหม่อมจะทำเพื่อฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเหวินอวี๋ประคองเขาขึ้นมา “เราเชื่อใจเจ้า”
เช้าวันรุ่งขึ้น พระสนมจ้าวตื่นมาก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัว เมื่อคืนนี้เกิดเรื่องใดขึ้น คล้ายว่าฝ่าบาทโปรดปรานนางอย่างมากจริงๆ พระสนมจ้าวคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกเขินอายยิ้มออกมา ในใจแอบรู้สึกได้ใจ แม้ฝ่าบาทจะร้ายกาจเพียงใด ก็ยังต้องไว้หน้าตระกูลจ้าว
จ้าวหลันคิดไปก็ถามนางข้าหลวงใหญ่ปรนนิบัติข้างเตียงไปว่า “ฝ่าบาทเสด็จไปยามใดหรือ”
“ทูลพระสนม ฝ่าบาทเสด็จไปประชุมท้องพระโรงยามเช้า พระสนมจะลุกขึ้นเลยไหมเพคะ ควรไปถวายพระพรฮองเฮาแล้ว”
“ลุก”
พระสนมจ้าวร่างกายอ่อนยวบ ลุกขึ้นอย่างหมดแรง นางข้าหลวงใหญ่ไม่กล้ามอง รีบเข้าไปประคองนางลุกขึ้น
ตำหนักคุนหนิงกง ฮองเฮากำลังสนทนากับพระสนมซูเฟยและพระสนมอื่นๆ
“ได้ยินว่าเมื่อคืนวานนี้ ฝ่าบาทอยู่ตำหนักบรรทมพระสนมจ้าวทั้งคืน คล้ายว่าฝ่าบาทโปรดปรานพระสนมจ้าวอย่างมาก แต่พระสนมจ้าวเองก็รูปโฉมงดงามจริง ดังบุปผาแย้มบาน ฝ่าบาทจะไม่โปรดปรานได้อย่างไร หากเป็นข้า ข้าก็ชอบ”
ในใจเผยอวี่ปวดปลาบ แต่นางปวดใจเช่นนี้ ก็ไม่อยากให้พระสนมซูเฟยสบายใจ
พระสนมซูเฟยหวังเมิ่งเหยาสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ยิ้มเอ่ยว่า “ล้วนเป็นพระสนมฝ่าบาท ฝ่าบาทโปรดปรานก็สมควรแล้ว”
ฮองเฮามองไปยังหวังเมิ่งเหยา เห็นตอนนี้หวังเมิ่งเหยาขอบตาดำเล็กน้อย ฮองเฮาอดยิ้มไม่ได้ ยังคิดว่าพระสนมซูเฟยใจกว้างดังสายน้ำ ที่แท้ก็ปวดใจเช่นกัน เชอะ
ฮองเฮามองไปยังพระสนมเนี่ยผินกับพระสนมหวาผิน กล่าวอย่างใจกว้างว่า “พวกเจ้าสองคนอย่าได้ร้อนใจไป วันหน้าฝ่าบาทก็จะเสด็จไปโปรดปรานพวกเจ้า”
พระสนมเนี่ยผินกับพระสนมหวาผินลุกขึ้นขอบพระทัย “เพคะ ฮองเฮา”
ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่ นอกพระที่นั่งก็มีเสียงรายงานขันทีดังขึ้น “ฮองเฮา พระสนมจ้าวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาได้ฟังขันทีรายงานก็คิดปล่อยให้พระสนมจ้าวรอไปก่อน แต่พอคิดถึงว่าตระกูลจ้าวหนุนหลังพระสนมจ้าว นางก็ไม่อาจล่วงเกินตระกูลจ้าวได้ ไม่เพียงแต่ไม่อาจล่วงเกิน ยังต้องเอาใจนาง หากนางให้กำเนิดองค์หญิง นางก็เอาใจตระกูลพวกเขาไว้ พวกเขาไม่แน่ว่าอาจช่วยโอรสของนาง
ฮองเฮารีบยิ้มกล่าวว่า “เชิญพระสนมจ้าวเข้ามา”
จ้าวหลันก้าวเข้ามารวดเร็ว แต่งกายงดงามอ่อนหวานดูเอิบอิ่มราวกับเพิ่งจะได้รับการโปรดปรานมา
ฮองเฮามองแล้วในใจก็นึกอิจฉา แต่สีหน้ายังคงมีรอยยิ้ม “พระสนมจ้าวเพิ่งจะได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมา ร่างกายยังไม่ค่อยดีนัก รีบจัดเก้าอี้มา”
พระสนมจ้าวพึงพอใจกับวาจาฮองเฮามาก ยิ้มกล่าวว่า “ขอบพระทัยฮองเฮา”
พระสนมจ้าวลงนั่งแล้วก็หันไปมองสตรีหลายคนในพระที่นั่ง
กล่าวตามตรง สตรีวังหลังฮ่องเต้ไม่มากจริงๆ ก็แค่สตรีเหล่านี้ไม่กี่คน และแต่ละคนก็ไม่นับว่างดงาม ตนเองถือได้ว่าอยู่สูงสุด ตระกูลจ้าวกุมอำนาจการทหาร ดังนั้นวังหลังฝ่าบาท นางย่อมได้รับการคาดหวังว่าจะได้รับความโปรดปราน
พระสนมจ้าวครุ่นคิดวาดฝันงดงาม
หวังเมิ่งเหยามองดูบรรดาสตรีตรงหน้าเงียบๆ เริ่มครุ่นคิด นอกจากสตรีเหล่านี้ ไม่นานก็จะมีสตรีอื่นเข้าวังมาอีก แต่นางไม่ตำหนิฝ่าบาท นางรู้ว่าฝ่าบาทเพิ่งขึ้นครองราชย์ รับนางสนมก็เพื่อทำให้แผ่นดินมั่นคง
ขณะหวังเมิ่งเหยากำลังคิดอยู่ ฮองเฮาก็ยิ้มเอ่ยว่า “เมื่อก่อนพวกเจ้าสามคนยังไม่เข้าวัง ฝ่าบาททรงโปรดปรานพระสนมซูเฟยที่สุด ตอนนี้พวกเจ้าเข้าวังมา ก็จะแบ่งความโปรดปรานไปจากพระสนมซูเฟย ตอนนี้เกรงว่าในใจพระสนมซูเฟยคงไม่สบายใจนักกระมัง”
พอฮองเฮาเอ่ย สตรีทั้งสามก็มองพระสนมซูเฟย โดยเฉพาะจ้าวหลัน ยิ่งมองหวังเมิ่งเหยาเป็นคู่ต่อสู้
นางมองหวังเมิ่งเหยาอย่างละเอียด พบว่าหญิงผู้นี้รูปร่างสูง ใบหน้างามกระจ่าง แต่ไม่นับว่างามโดดเด่น เทียบกับนางแล้วยังห่างไกลนัก จ้าวหลันมองประเมินแล้วก็วางใจ
เมื่อก่อนพวกนางยังไม่ได้เข้าวังมา ฮองเฮาตั้งครรภ์ ฝ่าบาทจึงได้โปรดปรานแค่เพียงพระสนมซูเฟย ตอนนี้พวกนางเข้าวังมาแล้ว ย่อมไม่ตกถึงนาง
จ้าวหลันคิดไปก็ยิ้มไป มองพระสนมซูเฟยเอ่ยว่า “พระสนมซูเฟย อย่าได้ตำหนิหม่อมฉัน”
หวังเมิ่งเหยาพอได้ฟังก็รู้ว่าฮองเฮาคิดยุแยงให้พระสนมจ้าวสู้กับนาง ในใจนางสะอิดสะเอียนจนไม่อาจบรรยาย หันไปมองฮองเฮาทีหนึ่ง เอ่ยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ล้วนเป็นสตรีของฝ่าบาท มีอันใดตำหนิกัน ฝ่าบาทโปรดปรานผู้ใดก็โปรดปรานไป หรือว่าผู้อื่นจะข้องเกี่ยวได้”
วาจานี้เกือบบอกกระจ่างว่าฮองเฮาเองก็ข้องเกี่ยวมิได้
สีหน้าฮองเฮาพลันย่ำแย่ขึ้นมาทันที หวังเมิ่งเหยาเองก็ขี้เกียจจะสนใจละครวางหมายอุบายพวกนี้ จึงลุกขึ้นยืนทูลลา “หม่อมฉันทูลลาก่อนเพคะ”
กล่าวจบก็ไม่สนใจฮองเฮา หันหลังเดินออกไปทันที
ฮองเฮาโมโหมาก แต่หันมาเห็นสตรีทั้งสาม ก็เผยรอยยิ้มใจกว้าง ท่าทางไม่ถือสาพระสนมซูเฟย
“พระสนมซูเฟยอารมณ์ไม่ดี ข้าไม่ถือสานาง”
สตรีทั้งสามยิ้มมองฮองเฮา เริ่มสนทนากันขึ้นมา
เซียวเหวินอวี๋ไม่รู้เรื่องในวังหลัง ตอนนี้เขาสนใจเรื่องการสอบคัดเลือกขุนนาง ครั้งนี้เปิดสอบเพิ่ม ก็เพื่อคัดเลือกขุนนางเลือดใหม่ ในราชสำนักมีขุนนางอายุมากไม่น้อย อีกอย่างขุนนางในราชสำนักไม่น้อยก็สมคบคิดกับบรรดาตระกูลต่างๆ วันหน้าตอนเขากวาดล้างตระกูลเก่าแก่ครองอำนาจพวกนี้ทิ้ง จำเป็นต้องกระทบต่อขุนนางส่วนหนึ่ง อย่าได้ถึงตอนนั้นไม่มีขุนนางทำงาน
เดือนแปดเริ่มสอบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นดำเนินการคุมสอบครั้งนี้ด้วยตนเอง คัดเลือกก้งเซิงได้มาทั้งหมดร้อยยี่สิบหกคน ไปร่วมการสอบเตี้ยนซื่อ
การสอบเตี้ยนซื่อมีเซียวเหวินอวี๋เป็นประธานการสอบด้วยตนเอง สอบทั้งหมดสามหัวข้อ หัวข้อการสอบเตี้ยนซื่อก็จะเอ่ยถึงปัญหาการอบรมบุตรธิดา ปัญหาการดำรงชีพราษฎรและการพัฒนาเศรษฐกิจแคว้นต้าโจว